>>เรามีเพื่อนชายเยอะมาก ตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว ด้วยบุคลิกที่ห้าว และคุยกับเพื่อนผู้ชาย ดูจะเข้าท่า รู้เรื่องกว่าผู้หญิง และเราชอบดูบอลด้วย ก็ยิ่งมีเรื่องคุยกับเพื่อนผู้ชายมากขึ้น เราไม่ชอบคุยกับผู้หญิงเท่าไร จับกลุ่มทีไร ชอบนินทา (สังคมตอนทำงานนะ แต่ตอนเรียนก็โอเค) พอสนิทกับเพื่อนชายมากๆ เข้า ก็มีเข้ามาชอบนะ บางคนบอกชอบแล้วเราก็ห่างๆ กันไป แล้วก็กลับมาเป็นเพื่อนกันได้
>>แต่มีอยู่คนหนึ่งที่สามารถชอบเราได้นานมาก เพราะชอบเราตั้งแต่ ม.3 ตอนมัธยมต้น อยู่คนละห้องกัน แต่พอมัธยมปลายอยู่ห้องเดียวกัน เขาสังเกตว่าเราชอบไปห้องสมุด ทำไรบ้าง (เขาชอบอ่านเพชรพระอุมา) เราสนิทกันมากๆ ส่งข้อความหากับบ่อยๆ พอเรียนจบเราก็เรียนต่อ เขาทำงาน เรายังคุยกันอยู่ (ตอนนั้นเรามีแฟนแล้ว) ช่วงเข้าปี 2 เราเลิกกับแฟน คุยกัน ปรึกษากัน จนได้รู้ว่าเขาชอบเรามาตั้งแต่เรายังไม่สนิทกับเขา (ชอบตั้งแต่ ม.3 มาบอกปี 2 เนี่ยนะ?) เขาค่อยให้คำปรึกษา ปลอบใจ วันเกิด ปีใหม่ เขาต้องโทรมาตลอด เคาร์ดาวน์ ด้วยทุกปี แต่ตอนที่เราเลิกกับแฟนใหม่ๆ เราก็ไม่สามารถคบใครใหม่ได้เลย คือมันยังไม่ใช่ เขาก็เคยบอกว่าอย่าไปสนิทกับใครมาก เพราะสมัยเรียนเพื่อนชายห้องเดียวกัน ในกลุ่มเดียวกัน ก็มีคนชอบเรา แต่เขาไม่ได้บอกในตอนนั้น สุดท้ายเราก็ไม่ได้ใส่ใจคำพูดที่เขาเตือน (ลืมไป) จนตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราก็เกือบจะกลายเป็นมือที่สามของเพื่อนห้องเดียวกันอีกนี่แหละ เพราะสนิทกัน
>>สุดท้ายผ่านไป 2 ปี เราก็มีแฟนใหม่ หลังจากเรามีแฟน เขาก็ไม่ติดต่อมา หายไปนานมากๆ วันเกิด เคาร์ดาวน์ปีนี้ เขาก็ไม่โทรมาเหมือนเก่า จนมีวันหนึ่ง เพื่อนผู้หญิงของเราอกหัก เราปลอบใจเพื่อน เราเลยนึกถึงเขา เลยส่งข้อความไปหา แบบไม่รู้ว่าเปลี่ยนเบอร์หรือยังนะ เช้าเขาตอบกลับมา เพราะตอนดึกเขาหลับไปแล้ว กลางวันเขาก็โทรหา วันต่อมาก็คุยกันจนดึก ตี1 อ่ะ ด้วยความที่เราไม่ได้คุยกันนาน ที่เขาหายไป เขาบอกว่า เขารู้สึกว่าเขากลายเป็นคนตัวเล็ก คือมันหมายความว่ายังไงนะ (เพราะช่วงหนึ่งเขาก็ไปมีแฟน แล้วเลิกกัน ก็โทรปรึกษาเราบ้าง เราเป็นที่ปรึกษาที่ดีต่อกันเสมอเลย) เขาสอนเราให้เป็นคนใจเย็น แคร์อีกฝ่ายให้มาก ฟังอีกฝ่ายให้เยอะ อย่าเอาแต่ใจตัวเองมาก ซึ่งพอเราเป็นแฟนกับใคร เราก็มีเส้นที่ว่าไม่มีเหตุผลกับคนๆ คนนั้นที เราเลยไม่อยากได้เพื่อน มาเป็นแฟน เราอยากเก็บคนดีๆ ไว้ มันไม่ใช่ความรู้สึกแบบแฟน มันคือความรู้สึกดีที่อยากมีเขาไว้ โดยที่อีกฝ่าย บอกว่าเลือกที่จะมีตัวตนยามที่อีกฝ่ายต้องการ เราถามทำไมต้องค่อยเป็นตัวเลือกของใคร เขาบอกทุกอย่างมีเวลาของมัน ก่อนวางสายเขาก็ย้ำกับเราตลอดนะว่าแคร์อีกฝ่ายให้มากๆ นะ แล้วเขาก็หายไปอีกครั้ง
ทำไมผู้ชายดีๆ ดีมาก มักเป็นได้แค่เพื่อน
>>แต่มีอยู่คนหนึ่งที่สามารถชอบเราได้นานมาก เพราะชอบเราตั้งแต่ ม.3 ตอนมัธยมต้น อยู่คนละห้องกัน แต่พอมัธยมปลายอยู่ห้องเดียวกัน เขาสังเกตว่าเราชอบไปห้องสมุด ทำไรบ้าง (เขาชอบอ่านเพชรพระอุมา) เราสนิทกันมากๆ ส่งข้อความหากับบ่อยๆ พอเรียนจบเราก็เรียนต่อ เขาทำงาน เรายังคุยกันอยู่ (ตอนนั้นเรามีแฟนแล้ว) ช่วงเข้าปี 2 เราเลิกกับแฟน คุยกัน ปรึกษากัน จนได้รู้ว่าเขาชอบเรามาตั้งแต่เรายังไม่สนิทกับเขา (ชอบตั้งแต่ ม.3 มาบอกปี 2 เนี่ยนะ?) เขาค่อยให้คำปรึกษา ปลอบใจ วันเกิด ปีใหม่ เขาต้องโทรมาตลอด เคาร์ดาวน์ ด้วยทุกปี แต่ตอนที่เราเลิกกับแฟนใหม่ๆ เราก็ไม่สามารถคบใครใหม่ได้เลย คือมันยังไม่ใช่ เขาก็เคยบอกว่าอย่าไปสนิทกับใครมาก เพราะสมัยเรียนเพื่อนชายห้องเดียวกัน ในกลุ่มเดียวกัน ก็มีคนชอบเรา แต่เขาไม่ได้บอกในตอนนั้น สุดท้ายเราก็ไม่ได้ใส่ใจคำพูดที่เขาเตือน (ลืมไป) จนตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราก็เกือบจะกลายเป็นมือที่สามของเพื่อนห้องเดียวกันอีกนี่แหละ เพราะสนิทกัน
>>สุดท้ายผ่านไป 2 ปี เราก็มีแฟนใหม่ หลังจากเรามีแฟน เขาก็ไม่ติดต่อมา หายไปนานมากๆ วันเกิด เคาร์ดาวน์ปีนี้ เขาก็ไม่โทรมาเหมือนเก่า จนมีวันหนึ่ง เพื่อนผู้หญิงของเราอกหัก เราปลอบใจเพื่อน เราเลยนึกถึงเขา เลยส่งข้อความไปหา แบบไม่รู้ว่าเปลี่ยนเบอร์หรือยังนะ เช้าเขาตอบกลับมา เพราะตอนดึกเขาหลับไปแล้ว กลางวันเขาก็โทรหา วันต่อมาก็คุยกันจนดึก ตี1 อ่ะ ด้วยความที่เราไม่ได้คุยกันนาน ที่เขาหายไป เขาบอกว่า เขารู้สึกว่าเขากลายเป็นคนตัวเล็ก คือมันหมายความว่ายังไงนะ (เพราะช่วงหนึ่งเขาก็ไปมีแฟน แล้วเลิกกัน ก็โทรปรึกษาเราบ้าง เราเป็นที่ปรึกษาที่ดีต่อกันเสมอเลย) เขาสอนเราให้เป็นคนใจเย็น แคร์อีกฝ่ายให้มาก ฟังอีกฝ่ายให้เยอะ อย่าเอาแต่ใจตัวเองมาก ซึ่งพอเราเป็นแฟนกับใคร เราก็มีเส้นที่ว่าไม่มีเหตุผลกับคนๆ คนนั้นที เราเลยไม่อยากได้เพื่อน มาเป็นแฟน เราอยากเก็บคนดีๆ ไว้ มันไม่ใช่ความรู้สึกแบบแฟน มันคือความรู้สึกดีที่อยากมีเขาไว้ โดยที่อีกฝ่าย บอกว่าเลือกที่จะมีตัวตนยามที่อีกฝ่ายต้องการ เราถามทำไมต้องค่อยเป็นตัวเลือกของใคร เขาบอกทุกอย่างมีเวลาของมัน ก่อนวางสายเขาก็ย้ำกับเราตลอดนะว่าแคร์อีกฝ่ายให้มากๆ นะ แล้วเขาก็หายไปอีกครั้ง