มันคือความเจ็บปวดที่หนักหนาที่สุดในชีวิตฉัน...การถูกหักหลังเป็นครั้งที่สองมันเป็นเรื่องที่หยาบคายจริงๆ ฉันอยากถามเขาว่าทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง แต่ใครๆก็บอกให้ฉันนิ่งไว้ก่อน
23 พฤษภา (1 อาทิตย์ก่อนทีเดินทาง/ ครบรอบ 1 ปี 9 เดือน)
"ไม่ไปไม่ได้หรอ เราไม่อยากให้เธอไป เธอก็รูเว่าเราไม่อยากอยู่คนเดียว"
"มันแค่3เดือนเองลิน แฟนเพื่อนเราก็ไม่เห็นจะเป็นขนาดเธอเลย โตๆกันแล้วอะ แยกแยะหน่อยสิที่รัก เราไปแปบเดียวไม่ได้ไปเป็นปีนะ"
ในวันครบรอบที่ไร้ซึ่งความสุขของทั้งทีและลิน ทั้งสองนั่งเถียงกันอยู่บนรถที่ติดเป็นห่างว่าวบนถนนจกลางเมืองในช่วงหัวค่ำ บรรยากาศอึมครึมจนทั้งสองรู้สึกตรึงเครียดหนักกว่าเดิม
"เธออย่าเอาเราไปเปรียบเทียบกับแฟนเพื่อนเธอสิ ก็เพื่อนเธอไม่เคยนอกใจแฟนหนิ "
"เอ้า เห้ยไม่ไว้ใจกันหนิแบบนี้"
ทีเริ่มขึ้นเสียงเพื่อตอบโต้ให้ลินรู้ว่าเขาเองก็กำลังจะระเบิดลงเหมือนกันที่เธอกำลังขุดเรื่องในอดีตที่เขาเคยนอกใจเธอไปครังนึง
"เธอไม่เป็นเรา เธอไม่เข้าใจหรอก"
ลินตัดบทด้วยน้ำเสียงเศร้าๆก่อนที่ทั้งสองจะนั่งเงียบไปสักพักใหญ่ๆ เมื่อทัเงสองรับรู้ได้ว่าสถานการที่อึดอัดมันเริ่มผ่อนคลายลง ทีก็เอามือข้างซ้ายละจากพวกมาลัยรถมาจับมือลินก่อนที่จะพูดอย่างถนอมความรู้สึกเธอ
"เขาสัญญาว่าเขาจะไม่นอกใจ เขาเองก็ไม่อยากมีปัญหาอีกแล้ว เขาจะคุยกับเธอทุกวันเลยนะ เธอตื่นมาคุยกันทุหเช้า โอเคไหม เขาจะวิดิโอคอลหาเธอด้วย เขาสํญญา"
ลินน้ำตาไหล ... เธอไม่ได้รู้สึกกังวลว่าคนรักจะนอกใจ แต่จริงๆเธอแค่ไม่อยากห่างจากเขา เพราะตลอดเวลาที่คบกันทั้งลินและทัก็ไม่เคยห่างกันเกินสามวัน เธอคงคิดถึงเขามากและคงรู้สึกเคว้งเมิ่อไม่มีเขาอยู่ข้างๆ
"สํญญาได้ปะ ว่าไม่ว่ายังไงก็จะไม่เปลั่ยนไป เรารอเธออยู่นะ"
"เขาสัญญา"
ทีจับมือลินมาจูบและละสายตาจากถนนมามองที่ตาเธอเป็นระยะ ในขณะที่ลินก็มองฟน้าทีอยู่ตลอดทั้งน้ำตา....
นั้นคือประโยคส่งท้าย มันคือครั้งสุดท้ายที่เขาและเธอจับมือกันและมองตากันด้วยความจริงใจ.....
หลังจากวันที่ทีเดินทางไป ลินเริ่มรู้สึกถึงสิ่งที่เปลี่ยนไปในตัวของที
มันเริ่มจากที่เขาเดินทางไปพร้อมกันผู้หญิงอีกคน ที่เขาบอกว่าเป็นพี่ที่ต้องไปทำงานด้วยกัน และตอนไปทำวีซ่า เขาและเธอก็ไปช้าพร้อมกัน จึงได้เป็นสองคนสุดท้ายที่ต้องเดินทางแยกจากคนอื่นๆ ...... พี่คนนั้นที่ทีพูดถึงชื่อ....นัท
เกือบสองวันที่ทีหายไปหลังจากที่เดินทาง เพราะต้องใช้เวลาข้ามทวีปกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางที่อเมริกา เขาติดต่อหาลินครั้งนึงตอนที่เปลี่ยนเครื่องที่ญี่ปุ่น ทำให้ใจลินที่ร้อนรนอยู่พอสมควร กลับผ่อนคลายลงได่บ้าง แม้จะยังไม่สบายใจกับการไปของทีครั้งนี้
ลินเริ่มเขียนจดหมายถึงทีฉบับแรกในวันแรกที่เขาเดินทาง เธอตั้งใจจะเขียนมันทุกวันวันละฉบับจนทีกลับมา......
ถึงที....
ที่รักวันนี้เป็นวันแรกที่เธอเดินทาง เรารู้สึกเหมือนจะต้องอยู่กับความคิดถึงแบบหนีจากมันไปไม่ได้ เราไม่มีความสุขเลยเมื่อเธอไม่อยู่ ทัเงเป็นห่วงเธอ อยากกอด อยากหอมอยากอยู่ด้วยย รีบกลับมานะ. เขารอเธออยู่นะ รักเธอเสมอ.
จดหมายฉบับแรกที่ลินเขียน แม้จะมีคราบของหยดน้ำตาอยู่บ้าง แต่เธอก้ยะงมีรอยยิ้มที่เปรี่ยมไปด้วยความเชื่อว่าคนรักของเธอจะคิดถึงกันมากขึ้นทุกวันโดยที่เธอไม่รู้เเลยว่า .... สิ่งที่เธอหวังนั้นมันกำลังเกิดขึ้นแบบตรงกันข้ามกัน....
...เคยมีคนบอกว่า ผู้หญิงมักจะมีเซนเกี่ยวกับคนที่ตัวเองคบอยู่เสมอ เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่ามีอะไรผิกปกติ เธอจะรับรู้ได้โดยไม่จำเป็นต้องถามอะไร...ก็แน่นอนหละ เพราะถึงถามไป ก็มักจะได้คำตอบแบบไม่ชัดเจน บางทีก็ไม่จริง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอก เมื่อเราต้องมารู้สึกกับสิ่งที่เราไม่อยากรู้สึก เพราะมันจะทำให้เราว้าวุ่นใจ ไม่เป็นอันทำอะไร และมันก็จะกระทบไปหมดกับทุกสิ่งในชีวิต.....
ลินเริ่มรู้สึกได้ว่า การติดต่อจากทีนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่เธอก็พยายามเข้าใจว่ามันเป็นเพราะเวลาที่ต่างกันถึง12 ชม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่น่ามีผลอะไรในยุคที้การสื่อสารมันมาถึงจุดที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกก้สามารถคุยกันได้ทันทีแบบไม่ต้องรอ ก็ไลน์นั่นแหละทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในยุคปัจจุบัน
.......
ลิน : ที เธอหายไปเลย ทำไมเธอไม่ติดต่อมา เธอควรจะถึงที่พักได้แล้ว ตอนนี้เธออยู่ไหน?
ไม่มีการตอบรับใดใดแม้แต่จะกดขึ้นมาอ่าน ทำให้ลินที่เป็นคนเฝ้ารอ รู้สึกอึดอัดใจมากไปกว่าเดิมหลายเท่า ซึ่งปกติแล้วเธอก็เปนคนที่คิดมากอยู่ประจำเรื่องคนรักของเธอ
การรอคอยของเธอได้รับการตอบรับกลับมาหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง
ที: เขาถึงแล้ว เหนื่อยมากเลย เดี๋ยวเขาขอเก็บของ ทำอะไรให้เสร็จก่อนนะเดี๋ยวทักไป
ลินที่รอการติดต่อของทีจึงรีบกดขึ้นมาอ่านและตอบกลับ
ลิน : โอเค ทักเขามานะเชารออยู่
แต่ทีก็ไม่ทันได้อ่านสิ่งที่เธอพิมไปแม้มันจะแค่ไม่กี่วินาทีหละงจากที่เขาพิมมาหาเธอ
ผ่านไปสองอาทิตย์แรก
การติดต่อที่ค่อยๆน้อยลงทีละนิด จากแรกๆที่มีโทรมาหาบ้าง ก็เริ่มไม่โทร ตอบไลน์ช้า บางครั้งก็ไม่ตอบ... ทั้งหมดทีให้เหตุผลว่า ทำงาน เหนื่อย ไม่ค่อยได้เล่นมือถือ
แต่เหตุผลเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ลินรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง เพราะปกติทีเป็นคนที่ติดเล่นเกมในมือถือมากก และเธอก็ยกเอาคำสัญญาของทีมาพูดเสมอเมื่อทีไม่สนใจ
มันจึงกลายเปนว่าเกือบทุกครั้งที่คุยกัน ลินต้องร้องไห้เพราะเธอทรมานมากกับการรอคอยการติดต่อมาของคนที่เธอรัก เธอรอที่จะคุย ที่จะเล่าเรื่องราวในแต่ละวันที่เกิดขึ้น และอยากฟังเรื่องราวของทีแต่เธอก็ไม่เคยได้รับรู้อะไรมากกไปกว่า ทีต้องทำงานและก็เหนื่อย
ความสับสน บวกกับความเสียใจและน้อยใจ ทำให้ลินรู้สึกเหมือนโดนทิ้งทั้งๆที่เธอก็ไม่ไดเทำอะไรผิด ในทุกวันที่เธอรอคอยที เธอมมักจะบอกตัวเองเสมอว่า อดทนไว้นะ อีกไม่นานเขาก้กลับมา อีกไม่นาน.....
จนเมื่อวันนึงที่เทอเหนความเคลื่อนไหวในโลกsocial network ของที instagram เขา ได้มีการอัพโหลดรูปที่ถ่ายที่หอพักที่เขาอยู่และมีการแทคชื่อของผู้หญิงคนนึง พร้อมกับแคบชั่นแปลกๆว่า .....
ลินจึงไม่รอช้าที่จะกดเข้าไปดูในigของผู้หญิงคนนั้นก็พบว่าคือนัท คนที่ทีเดินทางไปพร้อมกันกับที นัทเป็นผู้หญิงที่สวย ดูดี มีระดับ จากภาพที่ลินเห็น แต่ประเด็นที่ทำให้ลินต้องรู้สึกไม่ดีคือ นัทก้ได้อัพโหลดรูปที่ถ่ายบริเวนเดียวกับที่ทีอัพ และแคบชั่นว่า ... feel good with ...
หากให้คนอื่นมองสิ่งที่ลินกำลังเหนตอนนี้คงไม่มีใครคิดว่ามันแปลกหรือผิดปกติ แต่สันชาติญานในความเป็นแฟนของลินทำให้เธอรับรู้ได้ว่าระหว่างทีกับนัท มันมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดา
เธอจึงไม่ลังเลที่จะถามทีเมื่อมีโอกาสได้คุย
แต่สิ่งที่ทีตอบกลับก้คือ ไม่มีอะไรรัหว่างเขากับนัท และใช้น้ำเสียงที่เหมือนไม่พอใจเพราะรู้สึกว่าลินกำลังจับผิดเขา แต่เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้ลินเขาก้ให้ลินได้คุยกับนัท
"ฮาโหล"
"สวัสดี นัทหรอ เราลินนะ"
"คะ พี่ลิน พี่ลินไม่ต้องคิดมากเรื่องนัทกับไอ้ทีนะ ไม่มีอะไรเลยพี่ นัทไม่มีทางคิดอะไรกับมัน ฮ่าๆๆพี่สบายใจได้ นัทมีคนที่คุยอยู่แล้ว"
"อ่ออจ่ะ"
มันเป็นเพียงบทสนทนาสั้นๆที่เหมือนจะทำให้บรรยากาศที่ดูอึดอัดได้คลี่คลายลง แต่สำหรับลิน เธอไม่ได้รู้สึกสบายใจขึ้นเลยแต่อย่างใด
Thanks suffering ความจริงของโชคชะตา
23 พฤษภา (1 อาทิตย์ก่อนทีเดินทาง/ ครบรอบ 1 ปี 9 เดือน)
"ไม่ไปไม่ได้หรอ เราไม่อยากให้เธอไป เธอก็รูเว่าเราไม่อยากอยู่คนเดียว"
"มันแค่3เดือนเองลิน แฟนเพื่อนเราก็ไม่เห็นจะเป็นขนาดเธอเลย โตๆกันแล้วอะ แยกแยะหน่อยสิที่รัก เราไปแปบเดียวไม่ได้ไปเป็นปีนะ"
ในวันครบรอบที่ไร้ซึ่งความสุขของทั้งทีและลิน ทั้งสองนั่งเถียงกันอยู่บนรถที่ติดเป็นห่างว่าวบนถนนจกลางเมืองในช่วงหัวค่ำ บรรยากาศอึมครึมจนทั้งสองรู้สึกตรึงเครียดหนักกว่าเดิม
"เธออย่าเอาเราไปเปรียบเทียบกับแฟนเพื่อนเธอสิ ก็เพื่อนเธอไม่เคยนอกใจแฟนหนิ "
"เอ้า เห้ยไม่ไว้ใจกันหนิแบบนี้"
ทีเริ่มขึ้นเสียงเพื่อตอบโต้ให้ลินรู้ว่าเขาเองก็กำลังจะระเบิดลงเหมือนกันที่เธอกำลังขุดเรื่องในอดีตที่เขาเคยนอกใจเธอไปครังนึง
"เธอไม่เป็นเรา เธอไม่เข้าใจหรอก"
ลินตัดบทด้วยน้ำเสียงเศร้าๆก่อนที่ทั้งสองจะนั่งเงียบไปสักพักใหญ่ๆ เมื่อทัเงสองรับรู้ได้ว่าสถานการที่อึดอัดมันเริ่มผ่อนคลายลง ทีก็เอามือข้างซ้ายละจากพวกมาลัยรถมาจับมือลินก่อนที่จะพูดอย่างถนอมความรู้สึกเธอ
"เขาสัญญาว่าเขาจะไม่นอกใจ เขาเองก็ไม่อยากมีปัญหาอีกแล้ว เขาจะคุยกับเธอทุกวันเลยนะ เธอตื่นมาคุยกันทุหเช้า โอเคไหม เขาจะวิดิโอคอลหาเธอด้วย เขาสํญญา"
ลินน้ำตาไหล ... เธอไม่ได้รู้สึกกังวลว่าคนรักจะนอกใจ แต่จริงๆเธอแค่ไม่อยากห่างจากเขา เพราะตลอดเวลาที่คบกันทั้งลินและทัก็ไม่เคยห่างกันเกินสามวัน เธอคงคิดถึงเขามากและคงรู้สึกเคว้งเมิ่อไม่มีเขาอยู่ข้างๆ
"สํญญาได้ปะ ว่าไม่ว่ายังไงก็จะไม่เปลั่ยนไป เรารอเธออยู่นะ"
"เขาสัญญา"
ทีจับมือลินมาจูบและละสายตาจากถนนมามองที่ตาเธอเป็นระยะ ในขณะที่ลินก็มองฟน้าทีอยู่ตลอดทั้งน้ำตา....
นั้นคือประโยคส่งท้าย มันคือครั้งสุดท้ายที่เขาและเธอจับมือกันและมองตากันด้วยความจริงใจ.....
หลังจากวันที่ทีเดินทางไป ลินเริ่มรู้สึกถึงสิ่งที่เปลี่ยนไปในตัวของที
มันเริ่มจากที่เขาเดินทางไปพร้อมกันผู้หญิงอีกคน ที่เขาบอกว่าเป็นพี่ที่ต้องไปทำงานด้วยกัน และตอนไปทำวีซ่า เขาและเธอก็ไปช้าพร้อมกัน จึงได้เป็นสองคนสุดท้ายที่ต้องเดินทางแยกจากคนอื่นๆ ...... พี่คนนั้นที่ทีพูดถึงชื่อ....นัท
เกือบสองวันที่ทีหายไปหลังจากที่เดินทาง เพราะต้องใช้เวลาข้ามทวีปกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางที่อเมริกา เขาติดต่อหาลินครั้งนึงตอนที่เปลี่ยนเครื่องที่ญี่ปุ่น ทำให้ใจลินที่ร้อนรนอยู่พอสมควร กลับผ่อนคลายลงได่บ้าง แม้จะยังไม่สบายใจกับการไปของทีครั้งนี้
ลินเริ่มเขียนจดหมายถึงทีฉบับแรกในวันแรกที่เขาเดินทาง เธอตั้งใจจะเขียนมันทุกวันวันละฉบับจนทีกลับมา......
ถึงที....
ที่รักวันนี้เป็นวันแรกที่เธอเดินทาง เรารู้สึกเหมือนจะต้องอยู่กับความคิดถึงแบบหนีจากมันไปไม่ได้ เราไม่มีความสุขเลยเมื่อเธอไม่อยู่ ทัเงเป็นห่วงเธอ อยากกอด อยากหอมอยากอยู่ด้วยย รีบกลับมานะ. เขารอเธออยู่นะ รักเธอเสมอ.
จดหมายฉบับแรกที่ลินเขียน แม้จะมีคราบของหยดน้ำตาอยู่บ้าง แต่เธอก้ยะงมีรอยยิ้มที่เปรี่ยมไปด้วยความเชื่อว่าคนรักของเธอจะคิดถึงกันมากขึ้นทุกวันโดยที่เธอไม่รู้เเลยว่า .... สิ่งที่เธอหวังนั้นมันกำลังเกิดขึ้นแบบตรงกันข้ามกัน....
...เคยมีคนบอกว่า ผู้หญิงมักจะมีเซนเกี่ยวกับคนที่ตัวเองคบอยู่เสมอ เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่ามีอะไรผิกปกติ เธอจะรับรู้ได้โดยไม่จำเป็นต้องถามอะไร...ก็แน่นอนหละ เพราะถึงถามไป ก็มักจะได้คำตอบแบบไม่ชัดเจน บางทีก็ไม่จริง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอก เมื่อเราต้องมารู้สึกกับสิ่งที่เราไม่อยากรู้สึก เพราะมันจะทำให้เราว้าวุ่นใจ ไม่เป็นอันทำอะไร และมันก็จะกระทบไปหมดกับทุกสิ่งในชีวิต.....
ลินเริ่มรู้สึกได้ว่า การติดต่อจากทีนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่เธอก็พยายามเข้าใจว่ามันเป็นเพราะเวลาที่ต่างกันถึง12 ชม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่น่ามีผลอะไรในยุคที้การสื่อสารมันมาถึงจุดที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกก้สามารถคุยกันได้ทันทีแบบไม่ต้องรอ ก็ไลน์นั่นแหละทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในยุคปัจจุบัน
.......
ลิน : ที เธอหายไปเลย ทำไมเธอไม่ติดต่อมา เธอควรจะถึงที่พักได้แล้ว ตอนนี้เธออยู่ไหน?
ไม่มีการตอบรับใดใดแม้แต่จะกดขึ้นมาอ่าน ทำให้ลินที่เป็นคนเฝ้ารอ รู้สึกอึดอัดใจมากไปกว่าเดิมหลายเท่า ซึ่งปกติแล้วเธอก็เปนคนที่คิดมากอยู่ประจำเรื่องคนรักของเธอ
การรอคอยของเธอได้รับการตอบรับกลับมาหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง
ที: เขาถึงแล้ว เหนื่อยมากเลย เดี๋ยวเขาขอเก็บของ ทำอะไรให้เสร็จก่อนนะเดี๋ยวทักไป
ลินที่รอการติดต่อของทีจึงรีบกดขึ้นมาอ่านและตอบกลับ
ลิน : โอเค ทักเขามานะเชารออยู่
แต่ทีก็ไม่ทันได้อ่านสิ่งที่เธอพิมไปแม้มันจะแค่ไม่กี่วินาทีหละงจากที่เขาพิมมาหาเธอ
ผ่านไปสองอาทิตย์แรก
การติดต่อที่ค่อยๆน้อยลงทีละนิด จากแรกๆที่มีโทรมาหาบ้าง ก็เริ่มไม่โทร ตอบไลน์ช้า บางครั้งก็ไม่ตอบ... ทั้งหมดทีให้เหตุผลว่า ทำงาน เหนื่อย ไม่ค่อยได้เล่นมือถือ
แต่เหตุผลเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ลินรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง เพราะปกติทีเป็นคนที่ติดเล่นเกมในมือถือมากก และเธอก็ยกเอาคำสัญญาของทีมาพูดเสมอเมื่อทีไม่สนใจ
มันจึงกลายเปนว่าเกือบทุกครั้งที่คุยกัน ลินต้องร้องไห้เพราะเธอทรมานมากกับการรอคอยการติดต่อมาของคนที่เธอรัก เธอรอที่จะคุย ที่จะเล่าเรื่องราวในแต่ละวันที่เกิดขึ้น และอยากฟังเรื่องราวของทีแต่เธอก็ไม่เคยได้รับรู้อะไรมากกไปกว่า ทีต้องทำงานและก็เหนื่อย
ความสับสน บวกกับความเสียใจและน้อยใจ ทำให้ลินรู้สึกเหมือนโดนทิ้งทั้งๆที่เธอก็ไม่ไดเทำอะไรผิด ในทุกวันที่เธอรอคอยที เธอมมักจะบอกตัวเองเสมอว่า อดทนไว้นะ อีกไม่นานเขาก้กลับมา อีกไม่นาน.....
จนเมื่อวันนึงที่เทอเหนความเคลื่อนไหวในโลกsocial network ของที instagram เขา ได้มีการอัพโหลดรูปที่ถ่ายที่หอพักที่เขาอยู่และมีการแทคชื่อของผู้หญิงคนนึง พร้อมกับแคบชั่นแปลกๆว่า .....
ลินจึงไม่รอช้าที่จะกดเข้าไปดูในigของผู้หญิงคนนั้นก็พบว่าคือนัท คนที่ทีเดินทางไปพร้อมกันกับที นัทเป็นผู้หญิงที่สวย ดูดี มีระดับ จากภาพที่ลินเห็น แต่ประเด็นที่ทำให้ลินต้องรู้สึกไม่ดีคือ นัทก้ได้อัพโหลดรูปที่ถ่ายบริเวนเดียวกับที่ทีอัพ และแคบชั่นว่า ... feel good with ...
หากให้คนอื่นมองสิ่งที่ลินกำลังเหนตอนนี้คงไม่มีใครคิดว่ามันแปลกหรือผิดปกติ แต่สันชาติญานในความเป็นแฟนของลินทำให้เธอรับรู้ได้ว่าระหว่างทีกับนัท มันมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดา
เธอจึงไม่ลังเลที่จะถามทีเมื่อมีโอกาสได้คุย
แต่สิ่งที่ทีตอบกลับก้คือ ไม่มีอะไรรัหว่างเขากับนัท และใช้น้ำเสียงที่เหมือนไม่พอใจเพราะรู้สึกว่าลินกำลังจับผิดเขา แต่เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้ลินเขาก้ให้ลินได้คุยกับนัท
"ฮาโหล"
"สวัสดี นัทหรอ เราลินนะ"
"คะ พี่ลิน พี่ลินไม่ต้องคิดมากเรื่องนัทกับไอ้ทีนะ ไม่มีอะไรเลยพี่ นัทไม่มีทางคิดอะไรกับมัน ฮ่าๆๆพี่สบายใจได้ นัทมีคนที่คุยอยู่แล้ว"
"อ่ออจ่ะ"
มันเป็นเพียงบทสนทนาสั้นๆที่เหมือนจะทำให้บรรยากาศที่ดูอึดอัดได้คลี่คลายลง แต่สำหรับลิน เธอไม่ได้รู้สึกสบายใจขึ้นเลยแต่อย่างใด