สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิป นี่เป็นกระทู้แรกของเราเลย ไม่เคยโพสอะไรมาก่อน จริงๆ อันนี้ก็ยืมแอคเคาท์เพื่อนนะคะ ถ้าทำผิดพลาดอะไรด่าเรานะคะ อย่าไปด่าเพื่อน ฮ่าๆ
คืออย่างนี้ค่ะ เราได้มีโอกาสไปเป็นช่างแต่งหน้าให้กับหนังสือ KISS - a photo guide to dating in Tokyo ของน้องต่อ-ธนภพ ค่ะ (ซึ่งตอนนี้เค้ามี pre-order อยู่นะคะ อิอิ) เอาเข้าจริงเราไม่ได้แต่งหน้าเก่งอะไรมากมายนะคะ เราทำเป็นงานเสริมอะค่ะ ตอนแรกก็เกร็งๆ กลัวๆ มาก เพราะถือได้ว่าเป็นการแต่งหน้าดาราคนแรกและครั้งแรกในชีวิต แต่คิดว่าได้ไปกับทีมงานที่คุ้นเคย ได้ไปทำงานต่างประเทศครั้งแรกด้วย เอาสิคะ เป็นไงเป็นกันเนอะ ที่จะเล่าต่อไปก็เป็นประสบการณ์ทำงานกับน้องต่อค่ะ ซึ่งตอนแรกเราก็คิดว่าน้องต่อคงต้องมีความเป็นดารา อาจจะไม่หยิ่งมากมาย แต่ก็คงมีเรื่องเยอะบ้างอะไรบ้างตามประสา ตอนแต่งหน้าฝีแปรงเราคงสั่นน่าดู แต่พอได้ทำงานด้วย มันไม่เป็นเป็นอย่างนั้นเลยค่ะ อย่ามัวร่ำไร ไปอ่านกันเลยนะคะ
ความประทับใจแรกเริ่มจากวันที่นัดบรีฟงานกันที่นาดาว วันแรกที่เราจะได้พบหน้าน้องต่อครั้งแรก หลังจากที่รู้จักในนาม ไผ่-ฮอร์โมนมา 2 ปี ก็แอบคิดนะคะว่า เฮ้ย น้องเค้าจะเลท จะหยิ่ง จะถือตัวแบบดาราหรือเปล่านะ (พูดเหมือนเจอดารามาเยอะนะคะ ฮ่าๆๆ เปล่าหรอกค่ะ แหม ก็เราได้ยินมาบ่อยว่าดาราชอบถือตัวงี้) พวกเราทีมงานก็รีบมาเป็นเรื่องปกติสิคะ ปรากฏน้องต่อก็มาก่อนเวลาไล่เลี่ยกัน พวกเราก็พร้อมหน้าในห้องประชุม น้องต่อก็โผล่หน้ามาทักทายก่อนเลย อุ๊ต่ะ! ใสมาก คือหน้าน้องใสมากค่ะ ใบหน้าไร้เครื่องสำอาง ผมไม่เซท ใส่แว่นกลมขอบดำธรรมด๊าธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดาสิคะ กระจ่างออร่ามากมายค่ะ น้องมาในชุดเสื้อยืดเทากางเกงยีนส์ง่ายๆ ตามสไลต์ของนางค่ะ เอาว่าไม่ได้ฟังว่าน้องพูดว่าอะไรเท่าไหร่ มัวแต่ตะลึงอยู่นิดๆ ค่ะ จากนั้นเราก็เริ่มประชุม ก็นั่งฟังกันไปว่าต้องไปถ่ายที่ไหน วันไหนบ้าง แล้วก็เลิกรากันไปยกแรก
3 วันก่อนเดินทาง เรานัดน้องมาลองชุดทั้งหมดที่จะใช้ในการถ่ายทำ การจะได้คิวน้องแต่ละทีนี่ไม่ใช่ง่ายเลยนะคะ เพราะได้ยินว่าน้องมีงานเกือบทุกวัน ต้องแบ่งเวลาไปเรียนด้วย วันนี้น้องก็ไปถ่ายนิตยสารอะไรมาสักอย่างค่ะ แต่น้องก็รีบมาให้ทันเวลานัดจนได้ มาถึงเราก็สังเกตได้ถึงความเหนื่อยล้าจากการทำงาน แม้ว่าหน้าผมอันเต็มที่จากกองถ่ายจะช่วยกลบความรู้สึกไปได้บ้าง แต่ดูจากลูกนัยตาของน้อง เรารู้ได้เลยว่าน้องคงอยากบอกว่า “พี่ฮะ ผมของนั่งพักแพรบได้มั้ยฮะ” แต่ด้วยความที่หนึ่งในทีมงานของเราต้องรีบไปขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมืองในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว ทุกอย่างจึงต้องรีบให้เร็วที่สุด วันนี้น้องต้องลองชุดเกือบ 10 ชุดได้ น้องต่อก็ไม่รอช้าค่ะ ลอง 1 ชุดถ่ายรูป 1 แชะ ไม่เกิน 20 นาทีเห็นจะได้ ก็เสร็จสิ้น รูปทั้งหมดก็ถูกนำมาลงในกรุ๊ปไลน์เพื่อแจ้งให้ทุกคนทราบว่าวันไหนเวลาไหนน้องต้องใส่ชุดไหนบ้าง ต้องมีการใส่ชุดซ้ำกี่ชุดกี่ครั้ง ซึ่งถึงตอนนี้ทีมงานก็เป็นห่วงกันว่าน้องต่อจะใส่ชุดซ้ำได้หรือไม่ เพราะที่เราจะไปคือหน้าร้อนของญี่ปุ่นค่ะ ทีมงานที่ไปเซอร์เวย์มาก่อนบอกเลยว่าอากาศร้อนมาก เหงื่อแตกตลอดวันแน่นอน ซีนเอ้าท์ดอร์เยอะมากด้วย เราก็เป็นห่วงกันว่าชุดจะเหม็น น้องต่อจะใส่แล้วจะไม่สบายตัว ซึ่งพอเราแจ้งน้องว่าต้องมีใส่ชุดซ้ำนะคะ ซึ่งชุดอาจจะไม่หอมสะอาดเหมือนออกมาจากร้านซักแห้งชินไช่ฮั่วแน่นอน น้องคงต้องอดทนหน่อยนะ น้องตอบกลับทันทีว่า “สบายฮะพี่ ตอนถ่ายฮอร์โมน ผมใส่ชุดนักเรียนซ้ำแบบไม่นับรอบเลยฮะ” เราก็อ้าวหรอ งั้นโอเคเนอะ ถือว่าช่วยกันและกัน ฮ่าๆๆ #น่ารักจังตัวเอง
เอาล่ะคะ และแล้วการเดินทางอันแสนพิเศษก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ณ บัดนี้ สิบวันจากนี้ เราจะได้รู้จัก ได้ใกล้ชิดน้องต่อ-ฮอร์โมนมากขึ้น ไม่รู้ว่าจะเรื่องมาก กินยากอยู่ยาก ยกของหนักไม่ได้ เดินไกลจะบ่นเมื่อย อากาศร้อนแล้วจะหงุดหงิดหรือไม่ เดี๋ยวได้รู้กันค่ะ
ฝีแปรงแรกที่แตะลงบนใบหน้าน้องต่อคือที่สุดในชีวิตช่างแต่งหน้าโนเนมอย่างเราแล้วนะเราว่า นี่คือดารานักแสดงคนแรกที่เราได้แต่งหน้าให้ น้องต่อคือหนู เอ้ย ไม่ใช่ค่ะๆ ฮ่าๆๆ น้องต่อคือครูของเราคนนึงเลยกว่าได้นะ ทุกอณูบนผิวหน้าอันยองใยได้รูป ขนคิ้วที่เรียงตัวอย่างดีตั้งแต่รากยันปลายโดนไม่ต้องกันหรือตกแต่งแต่อย่างใด สันจมูกที่ยาวได้ที่รับกับโครงหน้า ริมฝีปากอันชุ่มชื่นของน้องต่อ จรดไปถึงปลายคาง คือเรียกได้ว่า ดีย์ ดีย์มากๆ ดีที่สุด คือบอกตรงๆ นะคะ เครื่องหน้าน้องต่อดีมากจริงๆ ค่ะ แต่งหน้าทำผมเสร็จเราก็จะออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่ได้วางแผนและไม่ได้วางแผนไว้ ใช่ค่ะ เพราะบางทีฝนฟ้าอากาศก็ไม่ได้เป็นใจ เราจึงต้องมีการเปลี่ยนตารางถ่ายแบบกะทันหันบ้าง ทำให้การเดินทางที่เคยคิดว่าไม่เหนื่อยไม่ไกลมากก็ยาวนานขึ้น เราเดินและขึ้นรถไฟฟ้าในโตเกียวกันอุตลุดค่ะ อากาศก็ร้อนมาก การเปลี่ยนชุดระหว่างสถานีก็มีหลายครั้ง โชคดีที่น้องต่อเป็นคนไม่มีกลิ่นตัวเลยอะ เสื้อผ้าจึงไม่เหม็นเหงื่อเลย เราว่าเราแค่เดินตาม ซับหน้าก็ว่าเหนื่อยแล้ว แต่น้องต่อไม่มีหลุดอาการให้เห็นว่าเหนื่อยสักเท่าไหร่ หลายครั้งจะได้ยินน้องพูดว่า “ได้ภาพยังครับ ผมยังไหว ได้อีกนะฮะพี่ เอาที่พี่โอเคได้เลยฮะ” บางสถานที่ถ่ายยากมาก เนื่องด้วยเราควบคุมแสงและมุมกล้องได้ยาก บางครั้งก็ต้องเดินเท้าไปจากสถานีรถไฟไกลมาก คนก็เยอะมาก อากาศก็ร้อนมาก แสงก็น้อย เราได้ภาพที่ดียากมาก แต่น้องต่อก็ทุ่มเทสุดพลังจนได้ภาพที่เราพอใจ ทีมงานทุกคนเหนื่อยพีคจริงๆ ค่ะ แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ หรือมีบางวันน้องต่อเหมือนจะไม่สบาย กว่าจะถ่ายก็เลิกเที่ยงคืนกว่า วันรุ่งขึ้นก็นัดกองเช้ามาก น้องเราก็ยังไหวค่ะ สู้ไม่ถอยมาก เราว่าน้องต่อมืออาชีพมากเลยนะ ไม่มีวีนเหวี่ยงใดใด เรียกว่าเราโชคดีที่ได้ร่วมงานกับน้องต่อ เอาว่าจากที่เคยเฉยๆ กับน้อง ตอนนี้ขอสมัครเป็นแฟนคลับไปแล้วค่า ประทับใจมากที่สุดจริงๆ
ท้ายสุดเราก็มีภาพมาฝากกันค่ะ ระหว่างกล้องใหญ่ถ่ายภาพน้องต่อ กล้องมือถือของเราก็แอบถ่ายภาพน้องไว้เหมือนกันค่ะ ประมาณว่ามือนึงถือแป้งเตรียมซับหน้า อีกมือก็ถือไอโฟนไว้กดเก็บภาพไว้ด้วย เอาง่ายๆ ว่าเป็น KISS ฉบับ Makeup Artist Edition แล้วกันนะคะ ดูคนเดียวจนหนำใจแล้ว เราก็เลยถือโอกาสเอามาแชร์ให้ชมกันค่ะ อ๋อ เราใช้กล้องไอโฟนห้าเอสถ่ายนะคะ แต่งภาพนิดๆหน่อย อย่าให้เสียเวลา เชิญรับชมได้เลยนะคะ ยินดีรับคำชมและคำติฉินนินทาเต็มที่ค่า
อันนี้เราถ่ายในควาเรียมค่ะ ซึ่งต้องรอจังหวะให้ปลากระเบนมาอวดโฉมบนร่างน้องต่อ ก็ใช้เวลานานนึงนึงค่ะ
เราถ่ายตอนเช้าค่ะ ในห้องนอน เซทนี้เรายื่นกล้องกด 2 แชะ ก็ได้อารมรณ์นี้เลยค่ะ ฟินสิคะ
น้องต่อพาไปกินขนมที่จิยูกะโอกะค่ะ ดูแล้วอยากกินเนอะๆๆ
อันนี้พากันข้ามแยกชิบูย่าค่ะ ร้อน คนเยอะ กล้องเราเลยไม่โฟกัสน้องต่อ ฮ่าๆๆ แต่อยากเอามาอวดค่า
แถวๆ ซอกเหลือบของชิบูย่าค่ะ มุมนี้เห็นครบทุกคน ทั้งตากล้อง น้องต่อ และเราเองงงง ฮ่าๆๆๆ
ตากล้องตั้งใจจะถ่ายเฉพาะใบหน้าน้องค่ะ แต่ตากล้องตัวสูงน้อยกว่าน้องต่อไป 30 เซนติเมตร น้องต่อเลยต้องโพสเยี่ยงนี้ค่ะ #ขายาวคือดีย์
ขอกินบ้างงงงงงง แบ้วๆ ใสๆ บ้างโน๊ะ
เดินชมเมืองกันบ้างค่า จะแอบบอกว่าระหว่างที่เราเดินเปลี่ยนโลเคชั่นไปมา สาวๆ ญี่ปุ่นมีแอบเมียงมองและเม้าท์น้องต่อของเราด้วยนะคะพอดีมีไกด์ของเราฟังภาษาออก ฮ่าๆๆ ก็น้องเราสูงยาวเข่าดี เด่นมากๆ ค่ะ
รูปนี้ภูมิใจนำเสนอมากค่ะ ตอนนี้น้องต่อกำลังซ้อมๆ ตีแล้วก็มาพอดี กล้องไอโฟนเราได้ภาพนี้ทันใด แต่กล้องใหญ่ไม่ได้นะจ๊ะ หน้าน้องดีจริงๆ
รูปนี้เราก็ประทับใจน้องมาก เพราะตอนถ่ายซีนนี้คือเที่ยงคืนกว่าได้ น้องป่วยนิดๆ ด้วย แต่สู้สุดใจ มืออาชีพมั่กๆ
วงแขนกล้ามเป็นมัดๆ แหมน่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ #ฟินนนนนน
โอ๊ยยยย ดูสายตาน้องสิคะ สุดๆค่ะ
ไม่ใช่แค่แต่งหน้านะคะ แต่ยินดีทำให้ทุกอย่างเลยค่าาา #เอาหัวใจพี่ไป
เอาละคะ ดูจบแล้วอย่าลืมไปจับจองเป็นเจ้าของน้องต่อ เอ้ยโฟโต้บุคน้องต่อได้ที่ www.facebook.com/kissthanapob นะคะ และขอแอบขายของส่วนตัว เรามีเพจด้วยน้าาา ทางนี้เลยค่า www.facebook.com/nongmaimakeup ค่ะ
สุดท้ายก่อนจะลา ขอฝากหนังสือภาพ KISS ของน้องต่อไว้ในอ้อมใจของเพื่อนๆ ด้วยนะคะ เอาไว้ดูได้เรื่อยๆ ค่ะ ยามใดที่เราท้อแท้ เหนื่อยอ่อน ผิดหวังจากเรื่องงานหรือความรัก เครียดกับพิษเศรษฐกิจและการเมือง เพียงคุณเปิดดูหนังสือภาพเล่มนี้ ชีวิตคุณเปลี่ยนแน่นอนค่ะ ป้าในกองถ่ายอย่างอิชั้นรับประกันค่าาาา
กระทู้แรกของเรา ผิดถูกอย่างไรชี้แนะข้าน้อยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
แต่งหน้าให้ ต่อ-ธนภพ มันเลิศศศศศค่ะ!
คืออย่างนี้ค่ะ เราได้มีโอกาสไปเป็นช่างแต่งหน้าให้กับหนังสือ KISS - a photo guide to dating in Tokyo ของน้องต่อ-ธนภพ ค่ะ (ซึ่งตอนนี้เค้ามี pre-order อยู่นะคะ อิอิ) เอาเข้าจริงเราไม่ได้แต่งหน้าเก่งอะไรมากมายนะคะ เราทำเป็นงานเสริมอะค่ะ ตอนแรกก็เกร็งๆ กลัวๆ มาก เพราะถือได้ว่าเป็นการแต่งหน้าดาราคนแรกและครั้งแรกในชีวิต แต่คิดว่าได้ไปกับทีมงานที่คุ้นเคย ได้ไปทำงานต่างประเทศครั้งแรกด้วย เอาสิคะ เป็นไงเป็นกันเนอะ ที่จะเล่าต่อไปก็เป็นประสบการณ์ทำงานกับน้องต่อค่ะ ซึ่งตอนแรกเราก็คิดว่าน้องต่อคงต้องมีความเป็นดารา อาจจะไม่หยิ่งมากมาย แต่ก็คงมีเรื่องเยอะบ้างอะไรบ้างตามประสา ตอนแต่งหน้าฝีแปรงเราคงสั่นน่าดู แต่พอได้ทำงานด้วย มันไม่เป็นเป็นอย่างนั้นเลยค่ะ อย่ามัวร่ำไร ไปอ่านกันเลยนะคะ
ความประทับใจแรกเริ่มจากวันที่นัดบรีฟงานกันที่นาดาว วันแรกที่เราจะได้พบหน้าน้องต่อครั้งแรก หลังจากที่รู้จักในนาม ไผ่-ฮอร์โมนมา 2 ปี ก็แอบคิดนะคะว่า เฮ้ย น้องเค้าจะเลท จะหยิ่ง จะถือตัวแบบดาราหรือเปล่านะ (พูดเหมือนเจอดารามาเยอะนะคะ ฮ่าๆๆ เปล่าหรอกค่ะ แหม ก็เราได้ยินมาบ่อยว่าดาราชอบถือตัวงี้) พวกเราทีมงานก็รีบมาเป็นเรื่องปกติสิคะ ปรากฏน้องต่อก็มาก่อนเวลาไล่เลี่ยกัน พวกเราก็พร้อมหน้าในห้องประชุม น้องต่อก็โผล่หน้ามาทักทายก่อนเลย อุ๊ต่ะ! ใสมาก คือหน้าน้องใสมากค่ะ ใบหน้าไร้เครื่องสำอาง ผมไม่เซท ใส่แว่นกลมขอบดำธรรมด๊าธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดาสิคะ กระจ่างออร่ามากมายค่ะ น้องมาในชุดเสื้อยืดเทากางเกงยีนส์ง่ายๆ ตามสไลต์ของนางค่ะ เอาว่าไม่ได้ฟังว่าน้องพูดว่าอะไรเท่าไหร่ มัวแต่ตะลึงอยู่นิดๆ ค่ะ จากนั้นเราก็เริ่มประชุม ก็นั่งฟังกันไปว่าต้องไปถ่ายที่ไหน วันไหนบ้าง แล้วก็เลิกรากันไปยกแรก
3 วันก่อนเดินทาง เรานัดน้องมาลองชุดทั้งหมดที่จะใช้ในการถ่ายทำ การจะได้คิวน้องแต่ละทีนี่ไม่ใช่ง่ายเลยนะคะ เพราะได้ยินว่าน้องมีงานเกือบทุกวัน ต้องแบ่งเวลาไปเรียนด้วย วันนี้น้องก็ไปถ่ายนิตยสารอะไรมาสักอย่างค่ะ แต่น้องก็รีบมาให้ทันเวลานัดจนได้ มาถึงเราก็สังเกตได้ถึงความเหนื่อยล้าจากการทำงาน แม้ว่าหน้าผมอันเต็มที่จากกองถ่ายจะช่วยกลบความรู้สึกไปได้บ้าง แต่ดูจากลูกนัยตาของน้อง เรารู้ได้เลยว่าน้องคงอยากบอกว่า “พี่ฮะ ผมของนั่งพักแพรบได้มั้ยฮะ” แต่ด้วยความที่หนึ่งในทีมงานของเราต้องรีบไปขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมืองในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว ทุกอย่างจึงต้องรีบให้เร็วที่สุด วันนี้น้องต้องลองชุดเกือบ 10 ชุดได้ น้องต่อก็ไม่รอช้าค่ะ ลอง 1 ชุดถ่ายรูป 1 แชะ ไม่เกิน 20 นาทีเห็นจะได้ ก็เสร็จสิ้น รูปทั้งหมดก็ถูกนำมาลงในกรุ๊ปไลน์เพื่อแจ้งให้ทุกคนทราบว่าวันไหนเวลาไหนน้องต้องใส่ชุดไหนบ้าง ต้องมีการใส่ชุดซ้ำกี่ชุดกี่ครั้ง ซึ่งถึงตอนนี้ทีมงานก็เป็นห่วงกันว่าน้องต่อจะใส่ชุดซ้ำได้หรือไม่ เพราะที่เราจะไปคือหน้าร้อนของญี่ปุ่นค่ะ ทีมงานที่ไปเซอร์เวย์มาก่อนบอกเลยว่าอากาศร้อนมาก เหงื่อแตกตลอดวันแน่นอน ซีนเอ้าท์ดอร์เยอะมากด้วย เราก็เป็นห่วงกันว่าชุดจะเหม็น น้องต่อจะใส่แล้วจะไม่สบายตัว ซึ่งพอเราแจ้งน้องว่าต้องมีใส่ชุดซ้ำนะคะ ซึ่งชุดอาจจะไม่หอมสะอาดเหมือนออกมาจากร้านซักแห้งชินไช่ฮั่วแน่นอน น้องคงต้องอดทนหน่อยนะ น้องตอบกลับทันทีว่า “สบายฮะพี่ ตอนถ่ายฮอร์โมน ผมใส่ชุดนักเรียนซ้ำแบบไม่นับรอบเลยฮะ” เราก็อ้าวหรอ งั้นโอเคเนอะ ถือว่าช่วยกันและกัน ฮ่าๆๆ #น่ารักจังตัวเอง
เอาล่ะคะ และแล้วการเดินทางอันแสนพิเศษก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ณ บัดนี้ สิบวันจากนี้ เราจะได้รู้จัก ได้ใกล้ชิดน้องต่อ-ฮอร์โมนมากขึ้น ไม่รู้ว่าจะเรื่องมาก กินยากอยู่ยาก ยกของหนักไม่ได้ เดินไกลจะบ่นเมื่อย อากาศร้อนแล้วจะหงุดหงิดหรือไม่ เดี๋ยวได้รู้กันค่ะ
ฝีแปรงแรกที่แตะลงบนใบหน้าน้องต่อคือที่สุดในชีวิตช่างแต่งหน้าโนเนมอย่างเราแล้วนะเราว่า นี่คือดารานักแสดงคนแรกที่เราได้แต่งหน้าให้ น้องต่อคือหนู เอ้ย ไม่ใช่ค่ะๆ ฮ่าๆๆ น้องต่อคือครูของเราคนนึงเลยกว่าได้นะ ทุกอณูบนผิวหน้าอันยองใยได้รูป ขนคิ้วที่เรียงตัวอย่างดีตั้งแต่รากยันปลายโดนไม่ต้องกันหรือตกแต่งแต่อย่างใด สันจมูกที่ยาวได้ที่รับกับโครงหน้า ริมฝีปากอันชุ่มชื่นของน้องต่อ จรดไปถึงปลายคาง คือเรียกได้ว่า ดีย์ ดีย์มากๆ ดีที่สุด คือบอกตรงๆ นะคะ เครื่องหน้าน้องต่อดีมากจริงๆ ค่ะ แต่งหน้าทำผมเสร็จเราก็จะออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่ได้วางแผนและไม่ได้วางแผนไว้ ใช่ค่ะ เพราะบางทีฝนฟ้าอากาศก็ไม่ได้เป็นใจ เราจึงต้องมีการเปลี่ยนตารางถ่ายแบบกะทันหันบ้าง ทำให้การเดินทางที่เคยคิดว่าไม่เหนื่อยไม่ไกลมากก็ยาวนานขึ้น เราเดินและขึ้นรถไฟฟ้าในโตเกียวกันอุตลุดค่ะ อากาศก็ร้อนมาก การเปลี่ยนชุดระหว่างสถานีก็มีหลายครั้ง โชคดีที่น้องต่อเป็นคนไม่มีกลิ่นตัวเลยอะ เสื้อผ้าจึงไม่เหม็นเหงื่อเลย เราว่าเราแค่เดินตาม ซับหน้าก็ว่าเหนื่อยแล้ว แต่น้องต่อไม่มีหลุดอาการให้เห็นว่าเหนื่อยสักเท่าไหร่ หลายครั้งจะได้ยินน้องพูดว่า “ได้ภาพยังครับ ผมยังไหว ได้อีกนะฮะพี่ เอาที่พี่โอเคได้เลยฮะ” บางสถานที่ถ่ายยากมาก เนื่องด้วยเราควบคุมแสงและมุมกล้องได้ยาก บางครั้งก็ต้องเดินเท้าไปจากสถานีรถไฟไกลมาก คนก็เยอะมาก อากาศก็ร้อนมาก แสงก็น้อย เราได้ภาพที่ดียากมาก แต่น้องต่อก็ทุ่มเทสุดพลังจนได้ภาพที่เราพอใจ ทีมงานทุกคนเหนื่อยพีคจริงๆ ค่ะ แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ หรือมีบางวันน้องต่อเหมือนจะไม่สบาย กว่าจะถ่ายก็เลิกเที่ยงคืนกว่า วันรุ่งขึ้นก็นัดกองเช้ามาก น้องเราก็ยังไหวค่ะ สู้ไม่ถอยมาก เราว่าน้องต่อมืออาชีพมากเลยนะ ไม่มีวีนเหวี่ยงใดใด เรียกว่าเราโชคดีที่ได้ร่วมงานกับน้องต่อ เอาว่าจากที่เคยเฉยๆ กับน้อง ตอนนี้ขอสมัครเป็นแฟนคลับไปแล้วค่า ประทับใจมากที่สุดจริงๆ
ท้ายสุดเราก็มีภาพมาฝากกันค่ะ ระหว่างกล้องใหญ่ถ่ายภาพน้องต่อ กล้องมือถือของเราก็แอบถ่ายภาพน้องไว้เหมือนกันค่ะ ประมาณว่ามือนึงถือแป้งเตรียมซับหน้า อีกมือก็ถือไอโฟนไว้กดเก็บภาพไว้ด้วย เอาง่ายๆ ว่าเป็น KISS ฉบับ Makeup Artist Edition แล้วกันนะคะ ดูคนเดียวจนหนำใจแล้ว เราก็เลยถือโอกาสเอามาแชร์ให้ชมกันค่ะ อ๋อ เราใช้กล้องไอโฟนห้าเอสถ่ายนะคะ แต่งภาพนิดๆหน่อย อย่าให้เสียเวลา เชิญรับชมได้เลยนะคะ ยินดีรับคำชมและคำติฉินนินทาเต็มที่ค่า
อันนี้เราถ่ายในควาเรียมค่ะ ซึ่งต้องรอจังหวะให้ปลากระเบนมาอวดโฉมบนร่างน้องต่อ ก็ใช้เวลานานนึงนึงค่ะ
เราถ่ายตอนเช้าค่ะ ในห้องนอน เซทนี้เรายื่นกล้องกด 2 แชะ ก็ได้อารมรณ์นี้เลยค่ะ ฟินสิคะ
น้องต่อพาไปกินขนมที่จิยูกะโอกะค่ะ ดูแล้วอยากกินเนอะๆๆ
อันนี้พากันข้ามแยกชิบูย่าค่ะ ร้อน คนเยอะ กล้องเราเลยไม่โฟกัสน้องต่อ ฮ่าๆๆ แต่อยากเอามาอวดค่า
แถวๆ ซอกเหลือบของชิบูย่าค่ะ มุมนี้เห็นครบทุกคน ทั้งตากล้อง น้องต่อ และเราเองงงง ฮ่าๆๆๆ
ตากล้องตั้งใจจะถ่ายเฉพาะใบหน้าน้องค่ะ แต่ตากล้องตัวสูงน้อยกว่าน้องต่อไป 30 เซนติเมตร น้องต่อเลยต้องโพสเยี่ยงนี้ค่ะ #ขายาวคือดีย์
ขอกินบ้างงงงงงง แบ้วๆ ใสๆ บ้างโน๊ะ
เดินชมเมืองกันบ้างค่า จะแอบบอกว่าระหว่างที่เราเดินเปลี่ยนโลเคชั่นไปมา สาวๆ ญี่ปุ่นมีแอบเมียงมองและเม้าท์น้องต่อของเราด้วยนะคะพอดีมีไกด์ของเราฟังภาษาออก ฮ่าๆๆ ก็น้องเราสูงยาวเข่าดี เด่นมากๆ ค่ะ
รูปนี้ภูมิใจนำเสนอมากค่ะ ตอนนี้น้องต่อกำลังซ้อมๆ ตีแล้วก็มาพอดี กล้องไอโฟนเราได้ภาพนี้ทันใด แต่กล้องใหญ่ไม่ได้นะจ๊ะ หน้าน้องดีจริงๆ
รูปนี้เราก็ประทับใจน้องมาก เพราะตอนถ่ายซีนนี้คือเที่ยงคืนกว่าได้ น้องป่วยนิดๆ ด้วย แต่สู้สุดใจ มืออาชีพมั่กๆ
วงแขนกล้ามเป็นมัดๆ แหมน่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ #ฟินนนนนน
โอ๊ยยยย ดูสายตาน้องสิคะ สุดๆค่ะ
ไม่ใช่แค่แต่งหน้านะคะ แต่ยินดีทำให้ทุกอย่างเลยค่าาา #เอาหัวใจพี่ไป
เอาละคะ ดูจบแล้วอย่าลืมไปจับจองเป็นเจ้าของน้องต่อ เอ้ยโฟโต้บุคน้องต่อได้ที่ www.facebook.com/kissthanapob นะคะ และขอแอบขายของส่วนตัว เรามีเพจด้วยน้าาา ทางนี้เลยค่า www.facebook.com/nongmaimakeup ค่ะ
สุดท้ายก่อนจะลา ขอฝากหนังสือภาพ KISS ของน้องต่อไว้ในอ้อมใจของเพื่อนๆ ด้วยนะคะ เอาไว้ดูได้เรื่อยๆ ค่ะ ยามใดที่เราท้อแท้ เหนื่อยอ่อน ผิดหวังจากเรื่องงานหรือความรัก เครียดกับพิษเศรษฐกิจและการเมือง เพียงคุณเปิดดูหนังสือภาพเล่มนี้ ชีวิตคุณเปลี่ยนแน่นอนค่ะ ป้าในกองถ่ายอย่างอิชั้นรับประกันค่าาาา
กระทู้แรกของเรา ผิดถูกอย่างไรชี้แนะข้าน้อยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ