ปัญหานี้เริ่มจาก เพื่อนสมัยเรียนมัธยมของผมคนหนึ่ง ก่อนหน้าเค้าทำงานใน กทม. เขามีปัญหาหรืออะไรไม่ทราบ มาบอกผมและกลุ่มเพื่อนว่าต้องการกลับมาทำงานแถวๆบ้าน ซึ่งตัวเพื่อนผมเองก็ไม่ได้กลับบ้านมาหลายปีแล้วเพราะมีปัญหากับทางบ้าน จึงมาขออาศัยอยู่กับผมก่อน และช่วยค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่บ้านผม ผมเองเห็นเพื่อนลำบากก็อยากช่วยเห็นบอกจะช่วยค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
พอมาอยู่จริงครับ
สัปดาห์ที่1 สิ่งที่ผมได้เห็นตั้งแต่เพื่อนมาอาศัยอยู่คือ ไม่มีความกระตือรือร้นในการหางานทำ เวลาส่วนใหญ่ เขาจะกดโทรศัพท์อยู่ในห้อง ตอนมาเงินไม่มีติดตัวมาสักบาท ผมก็เลี้ยงข้าวเขาทุกวันนะ ส่วนเพื่อนที่มาหาผมบางทีเค้าก็เอา กับข้าวที่บ้านมาให้เขากินบ้าง ผมก็ถามมันนะว่าจะไปทำงานพาสทามก่อนมั้ยจะได้มีเงินติดตัวไว้ใช้บ้าง มันตอบผมว่า ทำงานพาสทามก็ไม่ได้เงินเลยอยู่ดี รอทำงานประจำเลยละกัน ผมได้ยินถึงกับส่ายหัว
สัปดาห์ที่2 เพื่อนคนอื่นเริ่มพูดเกลี้ยกล่อมเรื่องหางานแล้ว เขาฟังนะครับตอนเพื่อนพูด พอต่างคนต่างกลับบ้านก็เป็นเหมือน ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการ นอน เล่นโทรศัพท์ กินข้าว แล้วสูบบุหรี่ ทั้งวันอยู่แค่นี้จริงๆ
สัปดาห์ที่3 ผมเริ่มออกตัวพาเค้าให้หางานครับ พาไปที่แรก เค้าก็บอกว่าไกลไป พาไปที่ที่สอง (Homepro) ซึ่งไม่ไกลจากที่อยู่นักพอไปถึงก็ไม่ยอมลงครับ เค้าจะจดเบอร์อย่างเดียวแล้วจะให้ผมพากลับเลย ผมเองก็เริ่มหมดความอดทนแล้ว ผมจึงลงไปถามสมัครงานแล้วก็ลากมันลงมาจากรถพามันไปสมัคร และก็พาไปที่อื่นอีกหลายที่ ที่เค้าขึ้นป้ายรับสมัครพนักงาน มันก็ไม่ลงไปถามครับอ่านป้ายจดเบอร์ มันบอกเดี๋ยวโทรไปถาม ผมก็บอกมันนะว่าทำไมไม่ไปคุยก่อนละ จะได้ยื่นโปรไฟล์เราให้เค้าเลย มันบอกไม่ๆกลับเลย (เพื่อนผมวุฒิม.6 ครับ) จะพาไปสมัครโรงงานแต่มันก็ตอบผมมาว่า อยากทำงาน sale มากกว่า ผมก็เริ่มรำคาญกลับก็กลับ หลังจากนั้นก็ นอน เล่นเกมโทรศัพท์ ดูหนังในโทรศัพท์ กินข้าว แล้วก็สูบหรี่ อยู่แบบนี้มาตลอดจนตอนนี้ผ่านมาแล้ว 1 เดือน 15 วัน
สิ่งที่ผมต้องรับภาระตั้งแต่เค้ามาอยุ่คือ
1.ค่าอาหารที่ต้องซื้อข้าวมาให้มันกินทุกวันทุกมื้อ (ค่าบุหรี่ผมไม่ให้มันก็ไปไถเพื่อนคนอื่น)
2.บ้านมีแต่ก้นบุหรี่เต็มเลย สกปรกมาก ทั้งขวดกระทิงแดง วางเต็มหน้าบ้าน อันนี้ผมบอกให้มันจัดการละ
3.มันเอาน้ำใส่ขวดอัดช่องฟิสจนฝาตู้เย็นปิดไม่สนิท (เอาน้ำแช่ช่องฟิสเพื่อจะเอามาใส่พัดลมไอเย็นครับ) ค่าไฟมาบานเบอะ เยอะกว่าที่ผมใช้ไฟคนเดียวปกติ เท่าตัว
4.ค่าใช้จ่ายของใช้จิปาถะในบ้านอื่นๆที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
พอมาถึงช่วงนี้เมื่อวานนี้มันเอาเศษเหรียญไปแลกเงินกับเพื่อนผม ผมก็แปลกใจว่ามันยังไม่ได้ทำงานแล้วเอาเงินมาจากไหน เอ๊ะใจเลยกลับไปดูกระปุกเงินในห้องนอนผมครับ เหรียญผมหายไปครึ่งกระปุก ผมไม่ได้หวงนะแต่มันคงหิวมากมันเลยมาเอาเงินผมตรงนี้ไป แต่วันนี้ก่อนออกไปทำงานผมก็เลยต้องล็อกห้อง เพราะช่วงหลังผมพยายามบีบให้มันรู้สึกตัวว่าต้องกระตือรือร้นในการหางานด้วยการไม่ซื้ออะไรเข้าบ้าน เลี้ยงบ้างไม่เลี้ยงบ้าง เพราะมันใช้ชีวิตเฉี่อยแฉะมากครับ นอน ดูหนัง เล่นเกมในโทรศัพท์ แล้วก็ลุกไปสูบบุหรี่ ชีวิตมีแค่นี้จริงๆครับ ผมควรจะพูดกับเพื่อนยังไงดีครับที่ไม่ให้เสียเพื่อนฝูง ผมก็บอกเค้านะครับว่าถ้าแฟนผมกลับมาจากต่างประเทศเค้าจะอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วนะ เค้าก็รับทราบแล้วครับ ใจผมเองตอนนี้ผมไม่อยากให้อยู่แล้วครับแต่ไม่รู้จะพูดยังไงกับมันยังไงดีไม่ให้เสียน้ำใจกัน (เห้อหนักใจ)
ภาระจากเพื่อนที่มาขออาศัย จะพูดเขาอย่างไรดี
พอมาอยู่จริงครับ
สัปดาห์ที่1 สิ่งที่ผมได้เห็นตั้งแต่เพื่อนมาอาศัยอยู่คือ ไม่มีความกระตือรือร้นในการหางานทำ เวลาส่วนใหญ่ เขาจะกดโทรศัพท์อยู่ในห้อง ตอนมาเงินไม่มีติดตัวมาสักบาท ผมก็เลี้ยงข้าวเขาทุกวันนะ ส่วนเพื่อนที่มาหาผมบางทีเค้าก็เอา กับข้าวที่บ้านมาให้เขากินบ้าง ผมก็ถามมันนะว่าจะไปทำงานพาสทามก่อนมั้ยจะได้มีเงินติดตัวไว้ใช้บ้าง มันตอบผมว่า ทำงานพาสทามก็ไม่ได้เงินเลยอยู่ดี รอทำงานประจำเลยละกัน ผมได้ยินถึงกับส่ายหัว
สัปดาห์ที่2 เพื่อนคนอื่นเริ่มพูดเกลี้ยกล่อมเรื่องหางานแล้ว เขาฟังนะครับตอนเพื่อนพูด พอต่างคนต่างกลับบ้านก็เป็นเหมือน ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการ นอน เล่นโทรศัพท์ กินข้าว แล้วสูบบุหรี่ ทั้งวันอยู่แค่นี้จริงๆ
สัปดาห์ที่3 ผมเริ่มออกตัวพาเค้าให้หางานครับ พาไปที่แรก เค้าก็บอกว่าไกลไป พาไปที่ที่สอง (Homepro) ซึ่งไม่ไกลจากที่อยู่นักพอไปถึงก็ไม่ยอมลงครับ เค้าจะจดเบอร์อย่างเดียวแล้วจะให้ผมพากลับเลย ผมเองก็เริ่มหมดความอดทนแล้ว ผมจึงลงไปถามสมัครงานแล้วก็ลากมันลงมาจากรถพามันไปสมัคร และก็พาไปที่อื่นอีกหลายที่ ที่เค้าขึ้นป้ายรับสมัครพนักงาน มันก็ไม่ลงไปถามครับอ่านป้ายจดเบอร์ มันบอกเดี๋ยวโทรไปถาม ผมก็บอกมันนะว่าทำไมไม่ไปคุยก่อนละ จะได้ยื่นโปรไฟล์เราให้เค้าเลย มันบอกไม่ๆกลับเลย (เพื่อนผมวุฒิม.6 ครับ) จะพาไปสมัครโรงงานแต่มันก็ตอบผมมาว่า อยากทำงาน sale มากกว่า ผมก็เริ่มรำคาญกลับก็กลับ หลังจากนั้นก็ นอน เล่นเกมโทรศัพท์ ดูหนังในโทรศัพท์ กินข้าว แล้วก็สูบหรี่ อยู่แบบนี้มาตลอดจนตอนนี้ผ่านมาแล้ว 1 เดือน 15 วัน
สิ่งที่ผมต้องรับภาระตั้งแต่เค้ามาอยุ่คือ
1.ค่าอาหารที่ต้องซื้อข้าวมาให้มันกินทุกวันทุกมื้อ (ค่าบุหรี่ผมไม่ให้มันก็ไปไถเพื่อนคนอื่น)
2.บ้านมีแต่ก้นบุหรี่เต็มเลย สกปรกมาก ทั้งขวดกระทิงแดง วางเต็มหน้าบ้าน อันนี้ผมบอกให้มันจัดการละ
3.มันเอาน้ำใส่ขวดอัดช่องฟิสจนฝาตู้เย็นปิดไม่สนิท (เอาน้ำแช่ช่องฟิสเพื่อจะเอามาใส่พัดลมไอเย็นครับ) ค่าไฟมาบานเบอะ เยอะกว่าที่ผมใช้ไฟคนเดียวปกติ เท่าตัว
4.ค่าใช้จ่ายของใช้จิปาถะในบ้านอื่นๆที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
พอมาถึงช่วงนี้เมื่อวานนี้มันเอาเศษเหรียญไปแลกเงินกับเพื่อนผม ผมก็แปลกใจว่ามันยังไม่ได้ทำงานแล้วเอาเงินมาจากไหน เอ๊ะใจเลยกลับไปดูกระปุกเงินในห้องนอนผมครับ เหรียญผมหายไปครึ่งกระปุก ผมไม่ได้หวงนะแต่มันคงหิวมากมันเลยมาเอาเงินผมตรงนี้ไป แต่วันนี้ก่อนออกไปทำงานผมก็เลยต้องล็อกห้อง เพราะช่วงหลังผมพยายามบีบให้มันรู้สึกตัวว่าต้องกระตือรือร้นในการหางานด้วยการไม่ซื้ออะไรเข้าบ้าน เลี้ยงบ้างไม่เลี้ยงบ้าง เพราะมันใช้ชีวิตเฉี่อยแฉะมากครับ นอน ดูหนัง เล่นเกมในโทรศัพท์ แล้วก็ลุกไปสูบบุหรี่ ชีวิตมีแค่นี้จริงๆครับ ผมควรจะพูดกับเพื่อนยังไงดีครับที่ไม่ให้เสียเพื่อนฝูง ผมก็บอกเค้านะครับว่าถ้าแฟนผมกลับมาจากต่างประเทศเค้าจะอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วนะ เค้าก็รับทราบแล้วครับ ใจผมเองตอนนี้ผมไม่อยากให้อยู่แล้วครับแต่ไม่รู้จะพูดยังไงกับมันยังไงดีไม่ให้เสียน้ำใจกัน (เห้อหนักใจ)