เริ่มยังไงดี มึนมึนเหมือนกัน เคยเขียนกระทู้แต่เขียนเรื่องอื่น สักสิบปีที่แล้ว 5555
แต่คงต้องบอกก่อนนะ ว่าเราไม่ได้มาโฆษณา ใดใด ทั้งสิ้น คือแค่อยากจะบอกว่า งานอะไรก็ตามบนโลก ที่คิดว่า นั่งสบาย ชิวชิว เย็นเย็น แล้วเงินจะไหลมาเทมาอ่ะ ไม่มีในโลก หรอกนะคะ ทุกอย่างต้องใช้น้ำพักน้ำแรง อดทน ทนอด มุ่งมั่นทั้งนั้นแหละ
งั้นเริ่มจากเกริ่นนำประวัติ ตัวเราเองก่อน จบ computer science ค่ะ เพื่อนเพื่อนส่วนใหญ่ ทำงาน IT บ้าง เรียนต่อเพื่อไปเป็นอาจารย์บ้าง เขียนโปรแกรม ทำเว็บ ดูแลระบบ ฯลฯ ค่ะ ซึ่งก็ทำงานสายIT เป็นส่วนใหญ่ ตอนเราจบมาก็ทำงาน IT ทำอยู่ 5 ปีมั้ง อยู่บริษัทผลิตรถยนต์ก็โอเค เงินเดือนพอไปวัดไปวาได้ แต่ชีวิตคนเราก็ต้องมีจุดเปลียนอ่ะเนอะ วันนึงก็ไปสมัครอบรมคอร์ส นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ คำว่านายหน้า ใครฟังก็รู้สึกว่า น่าจะได้เงินไม่ยาก ขายเสร็จ โอนได้ก็จบ ได้ค่าคอมสบายกันไป พอจบคอร์สก็จะมีการสอบค่ะ ถ้าผ่านก็จะได้บัตรนายหน้ามาจากสมาคมนายหน้า ก็รู้สึกว่ามันไม่น่าจะยาก มองภาพรวม กะจินตนาการขั้นตอนการขาย นึกถึงค่าคอมที่จะได้ ฟินนนนน 5555!! ถามว่าลงคอร์สเรียนก็แล้ว ไปสอบจนได้บัตรนายหน้าก็ทำแล้ว แต่มันก็อึนอึน อ่ะแบบว่า รู้แต่ทฤษฎีอ่ะค่ะ วิธีการปฎิบัติมันทำยังไงล่ะ ก็เลยไปสมัครงานพนักงานขายบ้านมือสอง ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ก็โอเค ผลตอบรับดี เขารับเข้าทำงาน เริ่มงานได้เลย
วันแรกที่เริ่มงาน เริ่มจากงานsupport ที่ออฟฟิศก่อน บอกก่อนนะ ว่าทรัพย์ที่เราขายส่วนใหญ่ จะเป็นพวกบ้านมือสอง คอนโดมือสอง ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว อพาร์ทเม้นท์ แต่ส่วนใหญ่คือมือสองอ่ะค่ะ เมื่อแรกเริ่มงาน บริษัทก็ให้เริ่มเรียนรู้จากงานในออฟฟิศก่อน ก็เลยเริ่มเรียนรู้จากงานเอกสาร งานsupport ก่อน
เอกสารที่ต้องเรียนรู้ได้แก่
1.โฉนด >> เนื้อหามากมาย (แต่เล่าย่อๆ นะคะ ) เรื่องจัดสรร เรื่องกรรมสิทธิ์ ติดจำนองมั้ย ซื้อขายมาเมื่อไหร่ มีภาษีธุรกิจเฉพาะมั้ย ย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านหรือเปล่า กรณีคอนโด ไม่ใช้ตารางวา ใช้หน่วยเป็นตารางเมตร บลาบลา แค่เรื่องโฉนด ก็มึนตึ๊บแล้วค่ะ ต้องหัดไปคัดโฉนดที่สำนักงานที่ดิน เพื่อให้ได้โฉนดตัวที่ เป็นปัจจุบันที่สุด คือว่าบางครั้งสำเนาโฉนดที่เจ้าของบ้านให้มา อาจเป็นสำเนาโฉนด(เก่า) เราก็สามารถไปขอคัดสำเนาโฉนดที่สำนักงานที่ดินได้นะคะ
2.สัญญาแต่งตั้งนายหน้าหรือตัวแทน คนเซ็นต์เอกสารใช่ผู้มีกรรมสิทธิ์หลังโฉนดมั้ย ถ้าเป็นตัวแทนก็ต้องแนบใบมอบอำนาจด้วย เป็นต้น
3.เอกสารประกอบค่ะ ได้แก่ สำเนาบัตรผู้ขาย สำเนาทะเบียนบ้านผู้ขาย ดูวันที่หมดอายุในบัตรประชาชน ดูทะเบียนบ้านว่ามีการเปลี่ยนชื่อมั้ย เป็นต้น
ส่วนเอกสารอื่นๆ ที่ใช้ประกอบ มีมากมายค่ะ ตั้งแต่ เซลล์ต้องวาดแผนที่การเดินทาง บรรยายข้อดี ข้อเด่น ข้อด้อย ต่างๆ
- งานที่ต้องเรียนรู้ต่อมาก็คืองาน marketing ค่ะ รับเอกสารแล้ว ตรวจแล้วครบ ถูกต้อง ก็ต้องเอามาวาดแผนที่ค่ะ
- งานวาดแผนที่ ก็เหมือนจะไม่ยากนะคะ แต่ยากจริงไรจริงอ่ะ เช่นบ้านอยู่แจ้งวัฒนะ ต้องกำหนด จุดเด่น ต้องกำหนด เส้นทางหลัก ที่คาดว่าลูกค้าจะเดินทางมา เรียกว่า ไม่ใช่แค่สักแต่วาด ต้องวาดให้ดูรู้เรื่อง โปรแกรมที่ใช้วาดก็ใช้ visio ค่ะ บางทีก็เอามาแต่งใน photoshop เอา นี่แค่แผนที่T_T ปกติงานนี้จะใช้เจ้าหน้าที่กราฟฟิกวาดค่ะ ซึ่งเราก็ต้องเรียนรู้ด้วยระดับนึง จะได้สามารถสื่อสารบอกกราฟฟิกได้ ว่าบ้านหลังนี้เข้าออกได้กี่เส้นทาง จากถนนอะไรบ้าง ประมาณนี้ค่ะ
ต่อมาก็เตรียมรูปภาพค่ะ ส่วนใหญ่เซลล์จะไปถ่ายรูปมาให้ support ก็เอารูปมานั่งเลือกค่ะ เลือกรูปที่ดูดี เพื่อเอาไปขึ้นเว็บอ่ะทำโฆษณา โดยต้องเรียงรูปตามstep ค่ะ หน้าบ้าน ห้องรับแขก ห้องครัว (ชั้น 1 ) ก็อยู่ด้วยกัน จนรูปบันได ขึ้นไป ชั้น 2 ภาพชั้น 2 เสร็จ ค่อย ออกไปบริเวณบ้าน จบจากบ้าน ค่อยเป็นถนนในโครงการ ต่อด้วยสาธารณูปโภคในโครงการ ไปสระว่ายน้ำ นั่น โน่นนี่ ไรงี้ หรือบางโครงการ ถ้าติดรถไฟฟ้า ก็เอารถไฟฟ้าขึ้นก่อนประมาณนั้น สารพัดขั้นตอน กฎระเบียบ วิธีการ
เมื่อเตรียมข้อมูลเสร็จทุกอย่างพร้อมก็เอาไปใส่ในเว็บไซต์ของบริษัท แล้วก็รอเจ้าหน้าที่ internet marketing เอาไปโพสต์ต่อไปค่ะ ทีมโพสต์เขาก็จะมีหน้าที่เอาไปโพสต์ตามเว็บต่างต่าง ที่ซื้อตำแหน่งโฆษณาไว้ หรือไม่ก็เลือกโพสต์ตามช่วงเวลา พีค เช่นตอนเที่ยง ตอนเย็น ที่คาดว่าลูกค้าจะเข้ามาดู ขึ้นอยู่กับว่าเว็บไหน สถิติที่คนเข้าดูเยอะคือตอนไหนไรงี้ ขอไม่ลงdetail เพราะการวางกลยุทธทาง marketing ในแต่ละ quarter ก็จะแตกต่างกันไปนะค่ะ โดยงานพวกนี้ก็ไม่ใช่งานหลักของฝ่ายขายอีกเหมือนกัน แต่ฝ่ายขายก็ควรต้องเรียนรู้ไว้บ้างค่ะ
ที่เล่ามาเหมือนจะยังไม่ค่อยได้เนื้อได้หนัง 55555555 ดูเป็นงานที่น่าเบื่อ แต่แค่ขั้นตอนพวกนี้ก็ฝึกกันเป็นเดือนค่ะ ที่ต้องเริ่มงานนี้ก่อนเพราะว่าเป็นพื้นฐานอ่ะค่ะ อาชีพของเราคือตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ค่ะ หัวใจหลักคือเราต้องบอกลูกค้าได้ ว่าเราจะทำอะไรให้บ้าง หากลูกค้าไว้วางใจ ในการเอาบ้านมาฝากขายกับเรา
เรียนรู้เรื่องเอกสาร ได้พอประมาณ ทีนี้ก็เริ่มติดต่อหาลูกค้า จะเป็นเซลล์ขายบ้านมือสองได้ ก็ต้องไปหาบ้านมาขายถูกมั้ยคะ ตอนแรกบริษัทจะให้เริ่มโทรหาลูกค้าจากลิสต์(ส่วนรายชื่อลูกค้าฝั่งผู้ขาย ในวงการเขาเรียกว่า listing ค่ะ หรือที่เรียกสั้นสั้น ว่าลิสต์ ที่แปลว่ารายการอ่ะค่ะ )เก่าๆก่อนค่ะ(ลิสต์นี้ก็คือ รายการที่ได้มาจากเซลล์รุ่นพี่ ออกไปสำรวจตามหมู่บ้านค่ะ เขาจะจดเบอร์โทรชื่อหมู่บ้าน รายละเอียด ฟังก์ชั่นบ้าน หลักๆค่ะ) การโทรนี้ก็เพื่อฝึกค่ะ ยอมรับว่าการโทรสายแรกๆ ใจเต้น ตูมตาม เลยค่ะ ลูกค้าบางคนก็พูดดีค่ะ บางคนพอรู้ว่าเป็นนายหน้าก็วางหูใส่ คละคละกันไปค่ะ ช่วงนั้นคือ นั่งโทรจากรายชื่อเก่าเก่าอยู่เป็นอาทิตย์เลยค่ะ ซึ่งตอนแรกก็คิดว่า จะเอารายชื่อเก่านี้มาให้โทรทำไม โทรไปเขาก็ไม่มาฝากอยู่ดี เพราะรายชื่อพวกนี้ ถ้าเขาอยากฝากบ้านให้เราขาย เขาก็คงฝากตั้งแต่ตอนที่ เซลล์คนก่อนหน้านี้โทรไปแล้วดิ แต่จริงจริงแล้วไม่ใช่ค่ะ ลูกค้าบางคนก็สนใจฝาก นะคะ แปลก 5555 ตอนหลังเพิ่งมารู้ว่า เซลล์แต่ละคน ก็สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าได้ไม่เหมือนกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องต่างกรรม ต่างวาระ บางคนเพิ่งย้ายไปต่างจังหวัดแล้ว ไม่มีเวลามาเปิดบ้าน ก็สนใจอยากฝากขาย เดือนนั้นทั้งเดือนก็นั่งโทรแบบนี้ทั้งเดือนอ่ะค่ะ
ยังจำวันที่ไปทำสัญญารับฝากขายบ้านหลังแรกได้ค่ะ เป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ค่ะ โครงการมีชื่อเสียง เจ้าของกรรมสิทธิ์เป็นพยาบาลค่ะ ก็เลยไม่สะดวก ถ้าเราจะแฟกซ์สัญญาไปให้อ่านก่อน ดังนั้น ลูกค้านัดให้ไปหาที่โรงพยาบาลไปอ่านสัญญาให้ฟังเลยค่ะ อธิบายเสร็จลูกค้าก็ตกลงเลยค่ะ ลูกค้าเล่าว่า ติดป้ายขายมาเป็นปีแล้ว แต่ไม่มีใครโทรมาเลย !! ก็เลยอยากลองฝากขายดูค่ะ คือเรานี่ ใจตุ๊มตุ๊ม ต่อมต่อม กลัวเขาไม่เซ็นต์ 55555
พอเซ็นต์เสร็จ ก็นัดไปถ่ายรูปบ้าน ไปติดป้ายขายบ้านค่ะ แล้วก็ป้ายขายตามข้างทาง เนื้อหาของงาน ก็ ย้อนกลับไปที่งานเอกสารเหมือนเดิมค่ะ ไปที่หมู่บ้าน บ้านหลังนี้อยู่ซอยไหน ราคาเท่าไหร่ หลังจากนั้น ต้อง สำรวจให้ทั่วหมู่บ้านค่ะ ว่าหมู่บ้านมีขายอีกกี่หลัง ขายกันที่ราคาเท่าไหร่ สภาพต่างจากบ้านของลูกค้าเรามั้ย ถ้าต่าง จะต่างกันอย่างไร มากมาย ก่ายกอง อ่ะค่ะ ประวัติบ้านลูกค้าที่เราไปรับฝาก ต้องสอบถามจากข้างบ้าน จากยาม จากร้านค้าในหมู่บ้าน สภาพแวดล้อมซอยในหมู่บ้านเป็นอย่างไร เพื่อนบ้านโอเครมั้ย มีใครเสียชีวิตในบ้านหรือป่าว ยังแอบสงสัย นี่งานนายหน้าหรืองานนักสืบ แทบจะต้องรู้ทุกเรื่อง นี่ขนาดยังขายไม่ได้ บ้านหลังนี้ผ่านไปสัก 3 เดือน ก็ขายได้ค่ะ ดีใจปลื้มปริ่มมากค่ะ แต่เบื้องหลังงานขาย ไว้ค่อยมาเล่านะคะ เราขอเล่าแต่ส่วนของงานรับฝากก่อนนะคะ ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าเรื่องงานขายนะคะ โหด มันส์ ฮา ค่ะ อย่างที่บอกตอนแรก อ่ะค่ะ ไม่มีอะไรได้มาง่ายง่าย อ่ะค่ะ กว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้เจ้าของบ้านเอาบ้านเข้ามาฝากขายก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าโทรไปเสนอบริการรับฝากขายบ้าน 10 ราย จะตกลงทั้ง 10 ราย คงเป็นไปไม่ได้ รับฝากเข้ามา ก็ใช่ว่าจะขายได้ ทุกหลัง บางหลังเจ้าของบ้านเอาบ้านไปปล่อยเช่า เมื่อมีผู้เช่า เช่าอยู่ ก็เป็นธรรมดา ที่ผู้เช่าก็มักไม่สะดวกเปิดบ้านให้ ผู้สนใจจะซื้อได้ชมบ้าน บางทีนัดล่วงหน้ากันเป็นเดือน พอถึงเวลานัดจริง ผู้เช่าปิดบ้านเงียบไม่ยอมให้ดูบ้าน ปัญหามี 108 -1009 ค่ะ แต่ก็แก้ไขกันไปค่ะ ตามสัจธรรมของโลกใบนี้ คือไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ^^ สู้ต่อไปเถอะ นายหน้าทั้งหลาย
ตอนติดป้ายขายตามเสาไฟฟ้าข้างทางครั้งแรก ก็จะอายนิดนุงค่ะ เป็นสาวเป็นนาง ไม่เคยอ่ะค่ะ ก็มีประหม่าบ้าง 55555 ต้องเรียกแฟนมาปีนเสาไฟฟ้า ติดป้ายเป็นเพื่อนค่ะ และทุกครั้งที่มีลูกค้าผู้จะซื้อนัดบ้าน เราก็ต้องหมั่นดูตามเสาไฟฟ้าค่ะ ว่าป้ายเราหลุดไปบ้างหรือเปล่า หมึกที่เขียนจางลงบ้างมั้ย ถ้าหลุดก็ต้องเติมป้ายค่ะ ระหว่างเดือน ก็ต้องมีการโทรรายงานผู้ขาย ว่ามีลูกค้าโทรเข้ามาสอบถามบ้างมั้ย มีผู้สนใจมาดูบ้านบ้างมั้ย มาดูแล้ว สนใจหรือเปล่า
กว่าจะได้เงินค่าคอม บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อย !! ค่ะ ไม่ได้ นั่งเทียน อยู่เฉยเฉย เงินค่านายหน้าจะวิ่งมาเข้ากระเป๋า ซะเมื่อไหร่ เท่าที่เล่ามาทั้งหมด นี่แค่เริ่มต้นอ่ะค่ะ เรียกว่า สิวสิว ถ้ามีเวลา จะมาเล่า เป็นเคสบายเคสเลยค่ะ ประสบการณ์งานขาย บ้านมือสอง บอกได้คำเดียวว่า โหด มันส์ ฮา จริงๆ ค่ะ
ตีแผ่ประสบการณ์ งานนายหน้าขายบ้านมือสอง งานง่ายๆสบายๆ ที่ใครใครก็คิดว่าได้เงินง่าย และรวยเร็ว
แต่คงต้องบอกก่อนนะ ว่าเราไม่ได้มาโฆษณา ใดใด ทั้งสิ้น คือแค่อยากจะบอกว่า งานอะไรก็ตามบนโลก ที่คิดว่า นั่งสบาย ชิวชิว เย็นเย็น แล้วเงินจะไหลมาเทมาอ่ะ ไม่มีในโลก หรอกนะคะ ทุกอย่างต้องใช้น้ำพักน้ำแรง อดทน ทนอด มุ่งมั่นทั้งนั้นแหละ
งั้นเริ่มจากเกริ่นนำประวัติ ตัวเราเองก่อน จบ computer science ค่ะ เพื่อนเพื่อนส่วนใหญ่ ทำงาน IT บ้าง เรียนต่อเพื่อไปเป็นอาจารย์บ้าง เขียนโปรแกรม ทำเว็บ ดูแลระบบ ฯลฯ ค่ะ ซึ่งก็ทำงานสายIT เป็นส่วนใหญ่ ตอนเราจบมาก็ทำงาน IT ทำอยู่ 5 ปีมั้ง อยู่บริษัทผลิตรถยนต์ก็โอเค เงินเดือนพอไปวัดไปวาได้ แต่ชีวิตคนเราก็ต้องมีจุดเปลียนอ่ะเนอะ วันนึงก็ไปสมัครอบรมคอร์ส นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ คำว่านายหน้า ใครฟังก็รู้สึกว่า น่าจะได้เงินไม่ยาก ขายเสร็จ โอนได้ก็จบ ได้ค่าคอมสบายกันไป พอจบคอร์สก็จะมีการสอบค่ะ ถ้าผ่านก็จะได้บัตรนายหน้ามาจากสมาคมนายหน้า ก็รู้สึกว่ามันไม่น่าจะยาก มองภาพรวม กะจินตนาการขั้นตอนการขาย นึกถึงค่าคอมที่จะได้ ฟินนนนน 5555!! ถามว่าลงคอร์สเรียนก็แล้ว ไปสอบจนได้บัตรนายหน้าก็ทำแล้ว แต่มันก็อึนอึน อ่ะแบบว่า รู้แต่ทฤษฎีอ่ะค่ะ วิธีการปฎิบัติมันทำยังไงล่ะ ก็เลยไปสมัครงานพนักงานขายบ้านมือสอง ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ก็โอเค ผลตอบรับดี เขารับเข้าทำงาน เริ่มงานได้เลย
วันแรกที่เริ่มงาน เริ่มจากงานsupport ที่ออฟฟิศก่อน บอกก่อนนะ ว่าทรัพย์ที่เราขายส่วนใหญ่ จะเป็นพวกบ้านมือสอง คอนโดมือสอง ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว อพาร์ทเม้นท์ แต่ส่วนใหญ่คือมือสองอ่ะค่ะ เมื่อแรกเริ่มงาน บริษัทก็ให้เริ่มเรียนรู้จากงานในออฟฟิศก่อน ก็เลยเริ่มเรียนรู้จากงานเอกสาร งานsupport ก่อน
เอกสารที่ต้องเรียนรู้ได้แก่
1.โฉนด >> เนื้อหามากมาย (แต่เล่าย่อๆ นะคะ ) เรื่องจัดสรร เรื่องกรรมสิทธิ์ ติดจำนองมั้ย ซื้อขายมาเมื่อไหร่ มีภาษีธุรกิจเฉพาะมั้ย ย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านหรือเปล่า กรณีคอนโด ไม่ใช้ตารางวา ใช้หน่วยเป็นตารางเมตร บลาบลา แค่เรื่องโฉนด ก็มึนตึ๊บแล้วค่ะ ต้องหัดไปคัดโฉนดที่สำนักงานที่ดิน เพื่อให้ได้โฉนดตัวที่ เป็นปัจจุบันที่สุด คือว่าบางครั้งสำเนาโฉนดที่เจ้าของบ้านให้มา อาจเป็นสำเนาโฉนด(เก่า) เราก็สามารถไปขอคัดสำเนาโฉนดที่สำนักงานที่ดินได้นะคะ
2.สัญญาแต่งตั้งนายหน้าหรือตัวแทน คนเซ็นต์เอกสารใช่ผู้มีกรรมสิทธิ์หลังโฉนดมั้ย ถ้าเป็นตัวแทนก็ต้องแนบใบมอบอำนาจด้วย เป็นต้น
3.เอกสารประกอบค่ะ ได้แก่ สำเนาบัตรผู้ขาย สำเนาทะเบียนบ้านผู้ขาย ดูวันที่หมดอายุในบัตรประชาชน ดูทะเบียนบ้านว่ามีการเปลี่ยนชื่อมั้ย เป็นต้น
ส่วนเอกสารอื่นๆ ที่ใช้ประกอบ มีมากมายค่ะ ตั้งแต่ เซลล์ต้องวาดแผนที่การเดินทาง บรรยายข้อดี ข้อเด่น ข้อด้อย ต่างๆ
- งานที่ต้องเรียนรู้ต่อมาก็คืองาน marketing ค่ะ รับเอกสารแล้ว ตรวจแล้วครบ ถูกต้อง ก็ต้องเอามาวาดแผนที่ค่ะ
- งานวาดแผนที่ ก็เหมือนจะไม่ยากนะคะ แต่ยากจริงไรจริงอ่ะ เช่นบ้านอยู่แจ้งวัฒนะ ต้องกำหนด จุดเด่น ต้องกำหนด เส้นทางหลัก ที่คาดว่าลูกค้าจะเดินทางมา เรียกว่า ไม่ใช่แค่สักแต่วาด ต้องวาดให้ดูรู้เรื่อง โปรแกรมที่ใช้วาดก็ใช้ visio ค่ะ บางทีก็เอามาแต่งใน photoshop เอา นี่แค่แผนที่T_T ปกติงานนี้จะใช้เจ้าหน้าที่กราฟฟิกวาดค่ะ ซึ่งเราก็ต้องเรียนรู้ด้วยระดับนึง จะได้สามารถสื่อสารบอกกราฟฟิกได้ ว่าบ้านหลังนี้เข้าออกได้กี่เส้นทาง จากถนนอะไรบ้าง ประมาณนี้ค่ะ
ต่อมาก็เตรียมรูปภาพค่ะ ส่วนใหญ่เซลล์จะไปถ่ายรูปมาให้ support ก็เอารูปมานั่งเลือกค่ะ เลือกรูปที่ดูดี เพื่อเอาไปขึ้นเว็บอ่ะทำโฆษณา โดยต้องเรียงรูปตามstep ค่ะ หน้าบ้าน ห้องรับแขก ห้องครัว (ชั้น 1 ) ก็อยู่ด้วยกัน จนรูปบันได ขึ้นไป ชั้น 2 ภาพชั้น 2 เสร็จ ค่อย ออกไปบริเวณบ้าน จบจากบ้าน ค่อยเป็นถนนในโครงการ ต่อด้วยสาธารณูปโภคในโครงการ ไปสระว่ายน้ำ นั่น โน่นนี่ ไรงี้ หรือบางโครงการ ถ้าติดรถไฟฟ้า ก็เอารถไฟฟ้าขึ้นก่อนประมาณนั้น สารพัดขั้นตอน กฎระเบียบ วิธีการ
เมื่อเตรียมข้อมูลเสร็จทุกอย่างพร้อมก็เอาไปใส่ในเว็บไซต์ของบริษัท แล้วก็รอเจ้าหน้าที่ internet marketing เอาไปโพสต์ต่อไปค่ะ ทีมโพสต์เขาก็จะมีหน้าที่เอาไปโพสต์ตามเว็บต่างต่าง ที่ซื้อตำแหน่งโฆษณาไว้ หรือไม่ก็เลือกโพสต์ตามช่วงเวลา พีค เช่นตอนเที่ยง ตอนเย็น ที่คาดว่าลูกค้าจะเข้ามาดู ขึ้นอยู่กับว่าเว็บไหน สถิติที่คนเข้าดูเยอะคือตอนไหนไรงี้ ขอไม่ลงdetail เพราะการวางกลยุทธทาง marketing ในแต่ละ quarter ก็จะแตกต่างกันไปนะค่ะ โดยงานพวกนี้ก็ไม่ใช่งานหลักของฝ่ายขายอีกเหมือนกัน แต่ฝ่ายขายก็ควรต้องเรียนรู้ไว้บ้างค่ะ
ที่เล่ามาเหมือนจะยังไม่ค่อยได้เนื้อได้หนัง 55555555 ดูเป็นงานที่น่าเบื่อ แต่แค่ขั้นตอนพวกนี้ก็ฝึกกันเป็นเดือนค่ะ ที่ต้องเริ่มงานนี้ก่อนเพราะว่าเป็นพื้นฐานอ่ะค่ะ อาชีพของเราคือตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ค่ะ หัวใจหลักคือเราต้องบอกลูกค้าได้ ว่าเราจะทำอะไรให้บ้าง หากลูกค้าไว้วางใจ ในการเอาบ้านมาฝากขายกับเรา
เรียนรู้เรื่องเอกสาร ได้พอประมาณ ทีนี้ก็เริ่มติดต่อหาลูกค้า จะเป็นเซลล์ขายบ้านมือสองได้ ก็ต้องไปหาบ้านมาขายถูกมั้ยคะ ตอนแรกบริษัทจะให้เริ่มโทรหาลูกค้าจากลิสต์(ส่วนรายชื่อลูกค้าฝั่งผู้ขาย ในวงการเขาเรียกว่า listing ค่ะ หรือที่เรียกสั้นสั้น ว่าลิสต์ ที่แปลว่ารายการอ่ะค่ะ )เก่าๆก่อนค่ะ(ลิสต์นี้ก็คือ รายการที่ได้มาจากเซลล์รุ่นพี่ ออกไปสำรวจตามหมู่บ้านค่ะ เขาจะจดเบอร์โทรชื่อหมู่บ้าน รายละเอียด ฟังก์ชั่นบ้าน หลักๆค่ะ) การโทรนี้ก็เพื่อฝึกค่ะ ยอมรับว่าการโทรสายแรกๆ ใจเต้น ตูมตาม เลยค่ะ ลูกค้าบางคนก็พูดดีค่ะ บางคนพอรู้ว่าเป็นนายหน้าก็วางหูใส่ คละคละกันไปค่ะ ช่วงนั้นคือ นั่งโทรจากรายชื่อเก่าเก่าอยู่เป็นอาทิตย์เลยค่ะ ซึ่งตอนแรกก็คิดว่า จะเอารายชื่อเก่านี้มาให้โทรทำไม โทรไปเขาก็ไม่มาฝากอยู่ดี เพราะรายชื่อพวกนี้ ถ้าเขาอยากฝากบ้านให้เราขาย เขาก็คงฝากตั้งแต่ตอนที่ เซลล์คนก่อนหน้านี้โทรไปแล้วดิ แต่จริงจริงแล้วไม่ใช่ค่ะ ลูกค้าบางคนก็สนใจฝาก นะคะ แปลก 5555 ตอนหลังเพิ่งมารู้ว่า เซลล์แต่ละคน ก็สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าได้ไม่เหมือนกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องต่างกรรม ต่างวาระ บางคนเพิ่งย้ายไปต่างจังหวัดแล้ว ไม่มีเวลามาเปิดบ้าน ก็สนใจอยากฝากขาย เดือนนั้นทั้งเดือนก็นั่งโทรแบบนี้ทั้งเดือนอ่ะค่ะ
ยังจำวันที่ไปทำสัญญารับฝากขายบ้านหลังแรกได้ค่ะ เป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ค่ะ โครงการมีชื่อเสียง เจ้าของกรรมสิทธิ์เป็นพยาบาลค่ะ ก็เลยไม่สะดวก ถ้าเราจะแฟกซ์สัญญาไปให้อ่านก่อน ดังนั้น ลูกค้านัดให้ไปหาที่โรงพยาบาลไปอ่านสัญญาให้ฟังเลยค่ะ อธิบายเสร็จลูกค้าก็ตกลงเลยค่ะ ลูกค้าเล่าว่า ติดป้ายขายมาเป็นปีแล้ว แต่ไม่มีใครโทรมาเลย !! ก็เลยอยากลองฝากขายดูค่ะ คือเรานี่ ใจตุ๊มตุ๊ม ต่อมต่อม กลัวเขาไม่เซ็นต์ 55555
พอเซ็นต์เสร็จ ก็นัดไปถ่ายรูปบ้าน ไปติดป้ายขายบ้านค่ะ แล้วก็ป้ายขายตามข้างทาง เนื้อหาของงาน ก็ ย้อนกลับไปที่งานเอกสารเหมือนเดิมค่ะ ไปที่หมู่บ้าน บ้านหลังนี้อยู่ซอยไหน ราคาเท่าไหร่ หลังจากนั้น ต้อง สำรวจให้ทั่วหมู่บ้านค่ะ ว่าหมู่บ้านมีขายอีกกี่หลัง ขายกันที่ราคาเท่าไหร่ สภาพต่างจากบ้านของลูกค้าเรามั้ย ถ้าต่าง จะต่างกันอย่างไร มากมาย ก่ายกอง อ่ะค่ะ ประวัติบ้านลูกค้าที่เราไปรับฝาก ต้องสอบถามจากข้างบ้าน จากยาม จากร้านค้าในหมู่บ้าน สภาพแวดล้อมซอยในหมู่บ้านเป็นอย่างไร เพื่อนบ้านโอเครมั้ย มีใครเสียชีวิตในบ้านหรือป่าว ยังแอบสงสัย นี่งานนายหน้าหรืองานนักสืบ แทบจะต้องรู้ทุกเรื่อง นี่ขนาดยังขายไม่ได้ บ้านหลังนี้ผ่านไปสัก 3 เดือน ก็ขายได้ค่ะ ดีใจปลื้มปริ่มมากค่ะ แต่เบื้องหลังงานขาย ไว้ค่อยมาเล่านะคะ เราขอเล่าแต่ส่วนของงานรับฝากก่อนนะคะ ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าเรื่องงานขายนะคะ โหด มันส์ ฮา ค่ะ อย่างที่บอกตอนแรก อ่ะค่ะ ไม่มีอะไรได้มาง่ายง่าย อ่ะค่ะ กว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้เจ้าของบ้านเอาบ้านเข้ามาฝากขายก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าโทรไปเสนอบริการรับฝากขายบ้าน 10 ราย จะตกลงทั้ง 10 ราย คงเป็นไปไม่ได้ รับฝากเข้ามา ก็ใช่ว่าจะขายได้ ทุกหลัง บางหลังเจ้าของบ้านเอาบ้านไปปล่อยเช่า เมื่อมีผู้เช่า เช่าอยู่ ก็เป็นธรรมดา ที่ผู้เช่าก็มักไม่สะดวกเปิดบ้านให้ ผู้สนใจจะซื้อได้ชมบ้าน บางทีนัดล่วงหน้ากันเป็นเดือน พอถึงเวลานัดจริง ผู้เช่าปิดบ้านเงียบไม่ยอมให้ดูบ้าน ปัญหามี 108 -1009 ค่ะ แต่ก็แก้ไขกันไปค่ะ ตามสัจธรรมของโลกใบนี้ คือไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ^^ สู้ต่อไปเถอะ นายหน้าทั้งหลาย
ตอนติดป้ายขายตามเสาไฟฟ้าข้างทางครั้งแรก ก็จะอายนิดนุงค่ะ เป็นสาวเป็นนาง ไม่เคยอ่ะค่ะ ก็มีประหม่าบ้าง 55555 ต้องเรียกแฟนมาปีนเสาไฟฟ้า ติดป้ายเป็นเพื่อนค่ะ และทุกครั้งที่มีลูกค้าผู้จะซื้อนัดบ้าน เราก็ต้องหมั่นดูตามเสาไฟฟ้าค่ะ ว่าป้ายเราหลุดไปบ้างหรือเปล่า หมึกที่เขียนจางลงบ้างมั้ย ถ้าหลุดก็ต้องเติมป้ายค่ะ ระหว่างเดือน ก็ต้องมีการโทรรายงานผู้ขาย ว่ามีลูกค้าโทรเข้ามาสอบถามบ้างมั้ย มีผู้สนใจมาดูบ้านบ้างมั้ย มาดูแล้ว สนใจหรือเปล่า
กว่าจะได้เงินค่าคอม บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อย !! ค่ะ ไม่ได้ นั่งเทียน อยู่เฉยเฉย เงินค่านายหน้าจะวิ่งมาเข้ากระเป๋า ซะเมื่อไหร่ เท่าที่เล่ามาทั้งหมด นี่แค่เริ่มต้นอ่ะค่ะ เรียกว่า สิวสิว ถ้ามีเวลา จะมาเล่า เป็นเคสบายเคสเลยค่ะ ประสบการณ์งานขาย บ้านมือสอง บอกได้คำเดียวว่า โหด มันส์ ฮา จริงๆ ค่ะ