ก่อนหน้านั้นผมรู้สึกเชื่อมั่นในตัวของร็อจเจอร์มาโดยตลอด
เพราะผมคิดว่าเขามีดีพอ เขามีดีพอขนาดที่ว่าพาทีมเข้าไปใกล้กับคำว่าแชมป์มากที่สุด
ตั้งแต่ลีกสูงสุดอังกฤษถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีก
แม้ว่าฤดูกาลที่แล้วทีมเราจะไม่เป็นโล้เป็นพาย แต่ผมก็ยังเชื่อมั่น
ผมบอกกับตัวเองว่าอาจจะเป็นเพราะทีมเราขาดคีย์แมนคนสำคัญอย่าง "ซัวเรส" ไป
เราจึงต้องให้เวลาเขาปรับจูนทีมขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
จนถึงปัจจุบันนี้พรีเมียร์ลีกดำเนินผ่านมาแล้ว 5 นัด
ร็อจเจอร์เสริมนักเตะเข้ามามากมาย มากมายชนิดที่ว่าสามารถทำให้แฟนลิเวอร์พูลหลายๆคน
คิดถึงฟอร์มการเล่นอันน่าตื่นตาตื่นใจอีกครั้งนึง
แต่จนแล้วจนรอดสิ่งที่ผมและเหล่าแฟนลิเวอร์พูลคนอื่นๆได้เห็นนั่นก็คือ
การเคาะบอลไปเคาะบอลมา รอเวลาที่จะเสียบอลให้ฝ่ายตรงข้าม
อย่างนัดล่าสุดจะเห็นเด่นชัดเลยช่วงก่อนที่จะหมดครึ่งแรก เราต่อบอลมาได้ทางด้านซ้าย
มีโอกาสที่จะเจาะได้ แต่สิ่งที่ได้เห็นคือ ส่งบอลคืนหลัง คืนหลัง คืนหลังจนไปถึงเซ็นเตอร์และกรรมการก็เป่าหมดเวลา
แถมยังมีอยู่อีกจังหวะนึงชานส่งให้สเคเทล สเคเทลส่งให้ชาน ชานส่งให้สเคเทล สเคเทลส่งให้ชาน ชานส่งให้สเคเทล
สเคเทลส่งให้มิโญเล่ มิโญเล่ส่งให้สเคเทล โว๊ะ! เล่นกันอยู่แค่เนี้ย เข้าใจว่าแมนยูบีบกันเร็ว แต่จะใจเย็นอะไรกันขนาดนั้น
(จังหวะนี้อาจจำนักเตะผิด แต่เล่นกันอยู่แค่นี้จริงๆส่งไปส่งมาส่งจนคืนโกลและส่งกลับไปและส่งคืนโกล)
เริ่มครึ่งหลังทีมเราเสียประตูจากความผิดพลาด ขนาดผมไม่ได้มีความรู้ทางด้านฟุตบอลผมยังคิดได้เลย
ว่าเราต้องมีการแก้เกม และต้องแก้เกมให้เร็วเท่าที่จะเร็วได้ด้วย แต่ร็อจเจอร์เขาก็ยังคงรอ รอเวลา
ไม่รีบร้อนที่จะแก้เกมอะไร กว่าจะแก้ก็ปาไปนาทีที่ 65 แถมการแก้เกมก็เป็นการแก้เกมแบบตำแหน่งต่อตำแหน่ง
แทบจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแบบแผนการเล่นแต่อย่างใด การแก้เกมที่มีการเปลี่ยนแบบแผน
ก็ปาไปจนนาทีที่ 88 เวลามันเหลือน้อยไปมั้ย จนผมเดาได้แล้วว่านัดต่อไปร็อจเจอร์จะส่งใครมาแทนใคร
ใครบ้างที่จะถูกส่งลงสนามมาแทนที่
ถึงตอนนี้ผมคิดได้อย่างเดียวว่าในหัวของร็อจเจอร์ช่างตีบตัน ตีบตันจนมันเหมือนเดิมทุกๆนัด
ยกเว้นครึ่งแรกที่เจอกับอาเซน่อล ที่เหลือไม่ว่าจะเจอทีมเล็กหรือใหญ่มันก็ตันๆแบบนี้หมด
และก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าตราบใดที่เขายังอยู่กับสโมสร เราจะต้องพบกับเหตุการณ์แบบนี้ไปตลอด
ไม่ว่าจะต้องเจอกับทีมเล็กหรือทีมใหญ่ ก็จะทำประตูไม่ได้ รอแต่โดนและโดนยิงอยู่อย่างเดียวแค่นั้น
ประตูที่เราจะได้ก็คงต้องเกิดจากดวงหรือความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ ซึ่งเราจะนั่งรอแต่ดวงอย่างเดียว
แค่นั้นจริงๆน่ะเหรอ
เบรนแดน ร็อจเจอร์ครับ ผมขอเลิกสนับสนุนคุณและผมก็หมดความอดทนกับคุณแล้วครับ
ไม่ไหวแล้วครับกับ "เบรนแดน ร็อดเจอร์"
เพราะผมคิดว่าเขามีดีพอ เขามีดีพอขนาดที่ว่าพาทีมเข้าไปใกล้กับคำว่าแชมป์มากที่สุด
ตั้งแต่ลีกสูงสุดอังกฤษถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีก
แม้ว่าฤดูกาลที่แล้วทีมเราจะไม่เป็นโล้เป็นพาย แต่ผมก็ยังเชื่อมั่น
ผมบอกกับตัวเองว่าอาจจะเป็นเพราะทีมเราขาดคีย์แมนคนสำคัญอย่าง "ซัวเรส" ไป
เราจึงต้องให้เวลาเขาปรับจูนทีมขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
จนถึงปัจจุบันนี้พรีเมียร์ลีกดำเนินผ่านมาแล้ว 5 นัด
ร็อจเจอร์เสริมนักเตะเข้ามามากมาย มากมายชนิดที่ว่าสามารถทำให้แฟนลิเวอร์พูลหลายๆคน
คิดถึงฟอร์มการเล่นอันน่าตื่นตาตื่นใจอีกครั้งนึง
แต่จนแล้วจนรอดสิ่งที่ผมและเหล่าแฟนลิเวอร์พูลคนอื่นๆได้เห็นนั่นก็คือ
การเคาะบอลไปเคาะบอลมา รอเวลาที่จะเสียบอลให้ฝ่ายตรงข้าม
อย่างนัดล่าสุดจะเห็นเด่นชัดเลยช่วงก่อนที่จะหมดครึ่งแรก เราต่อบอลมาได้ทางด้านซ้าย
มีโอกาสที่จะเจาะได้ แต่สิ่งที่ได้เห็นคือ ส่งบอลคืนหลัง คืนหลัง คืนหลังจนไปถึงเซ็นเตอร์และกรรมการก็เป่าหมดเวลา
แถมยังมีอยู่อีกจังหวะนึงชานส่งให้สเคเทล สเคเทลส่งให้ชาน ชานส่งให้สเคเทล สเคเทลส่งให้ชาน ชานส่งให้สเคเทล
สเคเทลส่งให้มิโญเล่ มิโญเล่ส่งให้สเคเทล โว๊ะ! เล่นกันอยู่แค่เนี้ย เข้าใจว่าแมนยูบีบกันเร็ว แต่จะใจเย็นอะไรกันขนาดนั้น
(จังหวะนี้อาจจำนักเตะผิด แต่เล่นกันอยู่แค่นี้จริงๆส่งไปส่งมาส่งจนคืนโกลและส่งกลับไปและส่งคืนโกล)
เริ่มครึ่งหลังทีมเราเสียประตูจากความผิดพลาด ขนาดผมไม่ได้มีความรู้ทางด้านฟุตบอลผมยังคิดได้เลย
ว่าเราต้องมีการแก้เกม และต้องแก้เกมให้เร็วเท่าที่จะเร็วได้ด้วย แต่ร็อจเจอร์เขาก็ยังคงรอ รอเวลา
ไม่รีบร้อนที่จะแก้เกมอะไร กว่าจะแก้ก็ปาไปนาทีที่ 65 แถมการแก้เกมก็เป็นการแก้เกมแบบตำแหน่งต่อตำแหน่ง
แทบจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแบบแผนการเล่นแต่อย่างใด การแก้เกมที่มีการเปลี่ยนแบบแผน
ก็ปาไปจนนาทีที่ 88 เวลามันเหลือน้อยไปมั้ย จนผมเดาได้แล้วว่านัดต่อไปร็อจเจอร์จะส่งใครมาแทนใคร
ใครบ้างที่จะถูกส่งลงสนามมาแทนที่
ถึงตอนนี้ผมคิดได้อย่างเดียวว่าในหัวของร็อจเจอร์ช่างตีบตัน ตีบตันจนมันเหมือนเดิมทุกๆนัด
ยกเว้นครึ่งแรกที่เจอกับอาเซน่อล ที่เหลือไม่ว่าจะเจอทีมเล็กหรือใหญ่มันก็ตันๆแบบนี้หมด
และก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าตราบใดที่เขายังอยู่กับสโมสร เราจะต้องพบกับเหตุการณ์แบบนี้ไปตลอด
ไม่ว่าจะต้องเจอกับทีมเล็กหรือทีมใหญ่ ก็จะทำประตูไม่ได้ รอแต่โดนและโดนยิงอยู่อย่างเดียวแค่นั้น
ประตูที่เราจะได้ก็คงต้องเกิดจากดวงหรือความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ ซึ่งเราจะนั่งรอแต่ดวงอย่างเดียว
แค่นั้นจริงๆน่ะเหรอ
เบรนแดน ร็อจเจอร์ครับ ผมขอเลิกสนับสนุนคุณและผมก็หมดความอดทนกับคุณแล้วครับ