-เฮนเดอร์สันเป็นนักเตะที่ลิเวอร์พูลยังไม่มีคนมาทดแทนได้อย่างเนียนสนิท ทั้งที่เกมส์ที่เฮนเดอร์สันเล่นอาจจะดูเรียบง่ายและต่อบอลแปะไปมาเท่านั้น ทั้งนี้เพราะพื้นที่ที่ตำแหน่งนักเตะเบอร์ 6 ยืนนั้นถูกประกบได้ง่ายและเร็วเพราะยืนอย่างโดดเดี่ยว ต้องอาศัยนักเตะที่มองเกมส์อย่างรอบด้านและรู้การเคลื่อนไหวของเพื่อนๆรอบด้านเสมอ อีกทั้งยังต้องคิดเร็วทำเร็ว จ่ายบอลสั้นได้มีน้ำหนักที่ดี
-ชานที่เพิ่งเข้ามารับหน้าที่ดังกล่าวเป็นเกมส์แรกในฤดูกาลนี้ยังทำหน้าที่ในลักษณะนี้ได้ไม่ดีนัก
-โดยเป็นที่น่าสนใจว่า ถึงแม้ตำแหน่งการยืนตรงนั้นจะเป็นตำแหน่งที่อยู่ต่ำกว่าคนอื่นก็ไม่ได้ทำให้สามารถส่งขึ้นหน้าได้ง่ายดังที่คิด
-การเคลื่อนที่ของชานและเฮนเดอร์สันยังมีความแตกต่างกันอยู่โดยชานนั้นจะยืนอยู่โดยเฉลี่ยแล้วต่ำกว่าตำแหน่งที่เฮนเดอร์สันปกติยืน
-อย่างไรก็ตามชานนั้นสามารถที่จะเข้าไปแย่งบอลคืนจากจังหวะที่ทีมเสียการครองบอลได้มากกว่าเฮนเดอร์สันทำไม่ว่าจะโดยเฉลี่ย หรือว่าในนัดที่พบกับซันเดอร์แลนด์ครั้งก่อน ซึ่งถ้าหากชานปรับตัวได้คงเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยครับ
หลังจากจบเกมส์กับซันเดอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเกมส์แรกของปีไปแล้ว หลายๆท่านบ่นกันถึงวิธีการเล่นของชานกันเสียไม่ใช่น้อย ในเกมส์นัดดังกล่าวเนื่องจากเฮนเดอร์สันได้รับบาดเจ็บมาจากนัดก่อน ชานจึงได้รับโอกาสสวมบทบาทลงทำหน้าที่แทน โดยก่อนหน้านี้ชานมักจะได้รับจัดวางให้ยืนอยู่บริเวณด้านหน้าเหนือเฮนเดอร์สันขึ้นไป ซึ่งนี่น่าจะเป็นการลงทำหน้าที่บริเวณดังกล่าวครั้งแรกของฤดูกาลนี้
มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าชานจะสามารถลงมาทำหน้าที่ในนัดได้อย่างเรียบสนิทไร้รอยต่อมากแค่ไหน เนื่องจากทีมของคล็อปป์ทีมนี้นั้นดังที่ทราบกันดีว่าเฮนเดอร์สันเป็นคนควบคุมเกมส์แทบทั้งหมด อันที่เราจะสามารถเห็นได้จากหลายๆนัดว่าเมื่อเฮนเดอร์สันและแบ็คสองข้างของลิเวอร์พูลโดนบีบให้ไม่มีพื้นที่เล่น เกมส์ของลิเวอร์พูลจะดูตื้อๆตันๆทันที การที่ชานได้ลงมาสวมบทบาทผู้เล่นที่เยอร์เก้น คล็อปป์เคยให้คำอธิบายว่าเป็นผู้เล่นตำแหน่งเบอร์ 6 แทนที่เฮนเดอร์สันนั้นจึงเป็นอะไรที่น่าสนใจว่ารูปเกมส์จะออกมาเช่นไร
ทั้งนี้หลังจากดูเกมส์กันแล้ว นอกเหนือจากสิ่งที่แตกต่างกันจนรู้สึกได้ชัดเจนเช่น ชานนั้นมักจะจ่ายบอลช้า (เพราะไม่ค่อยได้แปะบอล ดังเฮนเดอร์สันทำจนแฟนบอลขนานนามให้เป็นอาแปะทั้งที่ไม่มีเชื้อสายจีนแต่อย่างใด) วันนี้ผมขอรวบรวมข้อมูลต่างๆถึงความแตกต่างของทั้งคู่ในบทบาทดังกล่าวมาดู ซึ่งชานเองเป็นคนที่ปรับตัวได้ค่อนข้างเร็วอยู่แล้ว (สังเกตจากบทความเก่าที่ผมเคยเขียนถึงไปได้ที่นี่
https://www.facebook.com/scousebastard/posts/359764761032185?match=4LiK4Liy4LiZ) ดังนั้นในช่วงที่เฮนเดอร์สันเจ็บอยู่นี้ถ้าชานได้ลงทำหน้าที่บ่อยๆ เราอาจจะได้กองกลางเบอร์ 6 อีกสไตล์หนึ่งมาเพิ่มมิติของเกมส์ให้ทีมก็เป็นได้ครับ เดี๋ยวลองไปชมกันเลยดีกว่า
อะไรคือความแตกต่างของชานและเฮนเดอร์สันในบทบาทนักเตะเบอร์ 6?
-ชานที่เพิ่งเข้ามารับหน้าที่ดังกล่าวเป็นเกมส์แรกในฤดูกาลนี้ยังทำหน้าที่ในลักษณะนี้ได้ไม่ดีนัก
-โดยเป็นที่น่าสนใจว่า ถึงแม้ตำแหน่งการยืนตรงนั้นจะเป็นตำแหน่งที่อยู่ต่ำกว่าคนอื่นก็ไม่ได้ทำให้สามารถส่งขึ้นหน้าได้ง่ายดังที่คิด
-การเคลื่อนที่ของชานและเฮนเดอร์สันยังมีความแตกต่างกันอยู่โดยชานนั้นจะยืนอยู่โดยเฉลี่ยแล้วต่ำกว่าตำแหน่งที่เฮนเดอร์สันปกติยืน
-อย่างไรก็ตามชานนั้นสามารถที่จะเข้าไปแย่งบอลคืนจากจังหวะที่ทีมเสียการครองบอลได้มากกว่าเฮนเดอร์สันทำไม่ว่าจะโดยเฉลี่ย หรือว่าในนัดที่พบกับซันเดอร์แลนด์ครั้งก่อน ซึ่งถ้าหากชานปรับตัวได้คงเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยครับ
หลังจากจบเกมส์กับซันเดอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเกมส์แรกของปีไปแล้ว หลายๆท่านบ่นกันถึงวิธีการเล่นของชานกันเสียไม่ใช่น้อย ในเกมส์นัดดังกล่าวเนื่องจากเฮนเดอร์สันได้รับบาดเจ็บมาจากนัดก่อน ชานจึงได้รับโอกาสสวมบทบาทลงทำหน้าที่แทน โดยก่อนหน้านี้ชานมักจะได้รับจัดวางให้ยืนอยู่บริเวณด้านหน้าเหนือเฮนเดอร์สันขึ้นไป ซึ่งนี่น่าจะเป็นการลงทำหน้าที่บริเวณดังกล่าวครั้งแรกของฤดูกาลนี้
มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าชานจะสามารถลงมาทำหน้าที่ในนัดได้อย่างเรียบสนิทไร้รอยต่อมากแค่ไหน เนื่องจากทีมของคล็อปป์ทีมนี้นั้นดังที่ทราบกันดีว่าเฮนเดอร์สันเป็นคนควบคุมเกมส์แทบทั้งหมด อันที่เราจะสามารถเห็นได้จากหลายๆนัดว่าเมื่อเฮนเดอร์สันและแบ็คสองข้างของลิเวอร์พูลโดนบีบให้ไม่มีพื้นที่เล่น เกมส์ของลิเวอร์พูลจะดูตื้อๆตันๆทันที การที่ชานได้ลงมาสวมบทบาทผู้เล่นที่เยอร์เก้น คล็อปป์เคยให้คำอธิบายว่าเป็นผู้เล่นตำแหน่งเบอร์ 6 แทนที่เฮนเดอร์สันนั้นจึงเป็นอะไรที่น่าสนใจว่ารูปเกมส์จะออกมาเช่นไร
ทั้งนี้หลังจากดูเกมส์กันแล้ว นอกเหนือจากสิ่งที่แตกต่างกันจนรู้สึกได้ชัดเจนเช่น ชานนั้นมักจะจ่ายบอลช้า (เพราะไม่ค่อยได้แปะบอล ดังเฮนเดอร์สันทำจนแฟนบอลขนานนามให้เป็นอาแปะทั้งที่ไม่มีเชื้อสายจีนแต่อย่างใด) วันนี้ผมขอรวบรวมข้อมูลต่างๆถึงความแตกต่างของทั้งคู่ในบทบาทดังกล่าวมาดู ซึ่งชานเองเป็นคนที่ปรับตัวได้ค่อนข้างเร็วอยู่แล้ว (สังเกตจากบทความเก่าที่ผมเคยเขียนถึงไปได้ที่นี่ https://www.facebook.com/scousebastard/posts/359764761032185?match=4LiK4Liy4LiZ) ดังนั้นในช่วงที่เฮนเดอร์สันเจ็บอยู่นี้ถ้าชานได้ลงทำหน้าที่บ่อยๆ เราอาจจะได้กองกลางเบอร์ 6 อีกสไตล์หนึ่งมาเพิ่มมิติของเกมส์ให้ทีมก็เป็นได้ครับ เดี๋ยวลองไปชมกันเลยดีกว่า