ก็เป็นกระทู้เล็กๆน้อยๆนะครับ ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เอามาแชร์ข้อคิดเล็กๆน้อยๆ
สืบเนื่องจากกระทู้
http://pantip.com/topic/34173069 "ที่จริงแล้วหลายคนเคยถอดกายทิพย์กันมาแล้วแต่ทำไมจึงเข้าใจว่าเป็นเพียงฝันไป!?"
ซึ่งผมได้ไปตอบในกระทู้นั้นว่า "ที่จริงแล้วหลายคนแค่ฝันไป แต่ทำไมจึงเข้าใจว่าเป็นการถอดกายทิพย์!?"
ซึ่งก็ได้มีสมาชิกท่านหนึ่ง นามสมมติว่า "สมาชิกหมายเลข 25XX987" ได้หลังไมค์มาหาผมหลังจากนั้น บอกว่าเธอสามารถรู้ได้ด้วยสติของเธอตอนถอดจิตและใช้ลมหายใจของเธอเป็นหลักฐานได้ นอกจากนี้เธอยังบอกว่าเธอเคยถอดจิตได้ตอนนอนมาแล้วแต่ถอดไม่สุด
ซึ่งผมก็ได้โต้ตอบไปว่าเราไม่สามารถใช้สติของตัวเองเป็นหลักฐานบอกว่าเรามีสติหรือไม่ และเราไม่สามารถใช้ความคิดตอนหลับมาเป็นหลักฐานว่าเรามีสติตอนหลับหรือไม่ และหากเธอถอดจิตได้จริง เธอก็ควรจะถอดจิตมาดูบ้านผมเพื่อเป็นหลักฐาน
และสุดท้ายมันก็กลับเข้าสู่อิหรอบเดิม ประโยคเดิมๆของผู้มีความสามารถทั้งหลายว่า "คุณก็ไปศึกษาเองสิ ชั้นไม่เสียเวลามาถอดจิตพิสูจน์ให้คุณดูหรอก" และเธอก็บล็อคการสนทนากับผมไป ทั้งๆที่เธอเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับผมมาเอง
มันเป็นเรื่องที่น่าคิด ว่าคนที่อ้างว่าตัวมีความสามารถคุมสติตัวเองได้อย่างนั้นอย่างนี้ ถอดจิตตัวเองได้อย่างนั้นอย่างนี้
กลับคุมแค่มารยาทตัวเองไม่ได้ และบล็อคการสนทนาที่ตัวเองเลือกเป็นคนส่งข้อความหลังไมค์มาถึงผมเอง
มันเป็นความบิดเบือนทางสมองของคนบางกลุ่มจริงๆ
อยากฝากข้อคิดนะครับว่า ถ้าคุณคิดว่าตัวเองมีสติจริง จงคุมมารยาทและพฤติกรรมตัวเองให้ได้นะครับ อย่าใช้การนั่งสมาธิได้นาน การเข้าใจศัพท์ธรรมต่างๆ มาเป็นแค่ข้ออ้างในการยกตนข่มท่าน หรือข้ออ้างว่าฉันมีธรรมะ ฉันไม่ต้องมีมารยาท
เมื่อผมโดนคนที่คุมสติได้ทำมารยาทดีๆใส่
สืบเนื่องจากกระทู้ http://pantip.com/topic/34173069 "ที่จริงแล้วหลายคนเคยถอดกายทิพย์กันมาแล้วแต่ทำไมจึงเข้าใจว่าเป็นเพียงฝันไป!?"
ซึ่งผมได้ไปตอบในกระทู้นั้นว่า "ที่จริงแล้วหลายคนแค่ฝันไป แต่ทำไมจึงเข้าใจว่าเป็นการถอดกายทิพย์!?"
ซึ่งก็ได้มีสมาชิกท่านหนึ่ง นามสมมติว่า "สมาชิกหมายเลข 25XX987" ได้หลังไมค์มาหาผมหลังจากนั้น บอกว่าเธอสามารถรู้ได้ด้วยสติของเธอตอนถอดจิตและใช้ลมหายใจของเธอเป็นหลักฐานได้ นอกจากนี้เธอยังบอกว่าเธอเคยถอดจิตได้ตอนนอนมาแล้วแต่ถอดไม่สุด
ซึ่งผมก็ได้โต้ตอบไปว่าเราไม่สามารถใช้สติของตัวเองเป็นหลักฐานบอกว่าเรามีสติหรือไม่ และเราไม่สามารถใช้ความคิดตอนหลับมาเป็นหลักฐานว่าเรามีสติตอนหลับหรือไม่ และหากเธอถอดจิตได้จริง เธอก็ควรจะถอดจิตมาดูบ้านผมเพื่อเป็นหลักฐาน
และสุดท้ายมันก็กลับเข้าสู่อิหรอบเดิม ประโยคเดิมๆของผู้มีความสามารถทั้งหลายว่า "คุณก็ไปศึกษาเองสิ ชั้นไม่เสียเวลามาถอดจิตพิสูจน์ให้คุณดูหรอก" และเธอก็บล็อคการสนทนากับผมไป ทั้งๆที่เธอเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับผมมาเอง
มันเป็นเรื่องที่น่าคิด ว่าคนที่อ้างว่าตัวมีความสามารถคุมสติตัวเองได้อย่างนั้นอย่างนี้ ถอดจิตตัวเองได้อย่างนั้นอย่างนี้
กลับคุมแค่มารยาทตัวเองไม่ได้ และบล็อคการสนทนาที่ตัวเองเลือกเป็นคนส่งข้อความหลังไมค์มาถึงผมเอง
มันเป็นความบิดเบือนทางสมองของคนบางกลุ่มจริงๆ
อยากฝากข้อคิดนะครับว่า ถ้าคุณคิดว่าตัวเองมีสติจริง จงคุมมารยาทและพฤติกรรมตัวเองให้ได้นะครับ อย่าใช้การนั่งสมาธิได้นาน การเข้าใจศัพท์ธรรมต่างๆ มาเป็นแค่ข้ออ้างในการยกตนข่มท่าน หรือข้ออ้างว่าฉันมีธรรมะ ฉันไม่ต้องมีมารยาท