การไปเขื่อนครั้งนี้ คือการไปเพื่อที่จะสำรวจเส้นทาง หาดใหญ่-สุราษฎร์ธานี
เพื่อที่จะ "กิจกรรมคาราวานให้ลูกค้าน่ะครับ"

เราออกเดินทางจากหาดใหญ่ เวลา 08.00 น. ถึงท่าเรือที่เขื่อนเวลา 13.00 น.ระหว่างทางก็แวะสำรวจเส้นทางและจุดทำกิจกรรมต่างๆไปเรื่อยๆ

ถึงท่าเรือก็เริ่มคอแห้ง เลยแวะหาเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวไปรับประทานบนเรือ

ได้เวลาเรื่อของเราก็ออกเดินทางสู่จุดหมายกันน่ะครับ

ระหว่างทางคุณจะได้สัมผัส ก็ธรรมชาติสองข้างทางที่สวยงามเป็นอย่างมาก

นั่งเรือมาสักพักสัญญาณโทรศัพทืของคุณก็จะหายไป

ผมมองว่าการที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ก็ดีน่ะขาดการติดต่อจากโลกภายนอกไปสักวันสองวัน ดื่มให้เต็มที่เมาให้สุดๆ555 เพื่อนพักผ่อนอย่างเต็มที่ หยุดงานชาร์จแบตให้ตัวเอง

หลังจากนั่งเรือออกมาได้ 45 นาที เราก็มองที่หมายของเรา ที่ๆเราจะพาลูกค้ามาพักกัน

แพภูผาวารีนั้นเอง ครับ

ฝั่งนี้จะเป็นห้องฝั่งที่มีห้องน้ำในตัวนะครับ สบายๆมากๆเลยครับ

ใครจะคิดว่านั่งอยู่หลังห้องตัวเองแล้วมองออกไปมีสระน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา

เดินข้ามมาดูอีกฝั่งนึงกันครับ ดอกไม้สวยดีเลย กดมา ฝากค้าบ

ฝั่งนี้จะเป็นแบบ ธรรมดานะครับสำหรับคนที่เน้นความเรียบง่ายเเละต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างเเท้จริง ส่วนเรื่องร้องน้ำจะเป็นห้องน้ำรวมนะครับ

เล่นน้ำสิครับ รออะไรอยู่

ค่ำนี้ก็เหมือนเดิมครับ บนเเพที่พักเขาก็มีบริการให้น่ะครับ ราคาเเตกต่างไม่มาก (เเต่เราพากันมาเอง เพราะกลัวว่าที่มีจำหน่ายบนเเพจะไม่พอครับ 55)ไม่ได้คอเเข็งน่ะครับเเต่มากันหลายคน

เช้าวันวันเราออก เราวางกันไว้ว่าพาลูกค้าไปชม "กุ้ยหลิน เมืองไทยกันครับ"

จากเเพที่เราพักกันก็เดินทางสักพักก็ถุงเเล้วครับ

หัวหน้าผมเองครับ ข้างหลังหัวหน้าของผมก็คือ ที่เขาเรียกว่ากุ้ยหลินเมืองไทยอะครับ เป็นภูเขาหินปูนที่สูงชันล้อมรอบไปด้วยผืนน้ำที่กว้างใหญ่ ด้วยความลึกของระดับน้ำ กรอปกับสีของตะไคร้น้ำที่อยู่เบื้องล่างทำให้น้ำในเขื่อนมีสีเข้มเหมือนสีมรกต จนนักท่องเที่ยวหลายท่านคิดว่าเป็นน้ำทะเล ลักษณะภูมิประเทศไปคล้ายกับภูมิประเทศที่เมืองกุ้ยหลินประเทศจีน จึงได้ฉายาว่า กุ้ยหลินเมืองไทย
จบเเล้วครับทริปสำรวจเส้นทางของผม อิอิ
[CR] เที่ยว"เขื่อนเชี่ยวหลาน"
เพื่อที่จะ "กิจกรรมคาราวานให้ลูกค้าน่ะครับ"
เราออกเดินทางจากหาดใหญ่ เวลา 08.00 น. ถึงท่าเรือที่เขื่อนเวลา 13.00 น.ระหว่างทางก็แวะสำรวจเส้นทางและจุดทำกิจกรรมต่างๆไปเรื่อยๆ
ถึงท่าเรือก็เริ่มคอแห้ง เลยแวะหาเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวไปรับประทานบนเรือ
ได้เวลาเรื่อของเราก็ออกเดินทางสู่จุดหมายกันน่ะครับ
ระหว่างทางคุณจะได้สัมผัส ก็ธรรมชาติสองข้างทางที่สวยงามเป็นอย่างมาก
นั่งเรือมาสักพักสัญญาณโทรศัพทืของคุณก็จะหายไป
ผมมองว่าการที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ก็ดีน่ะขาดการติดต่อจากโลกภายนอกไปสักวันสองวัน ดื่มให้เต็มที่เมาให้สุดๆ555 เพื่อนพักผ่อนอย่างเต็มที่ หยุดงานชาร์จแบตให้ตัวเอง
หลังจากนั่งเรือออกมาได้ 45 นาที เราก็มองที่หมายของเรา ที่ๆเราจะพาลูกค้ามาพักกัน
แพภูผาวารีนั้นเอง ครับ
ฝั่งนี้จะเป็นห้องฝั่งที่มีห้องน้ำในตัวนะครับ สบายๆมากๆเลยครับ
ใครจะคิดว่านั่งอยู่หลังห้องตัวเองแล้วมองออกไปมีสระน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา
เดินข้ามมาดูอีกฝั่งนึงกันครับ ดอกไม้สวยดีเลย กดมา ฝากค้าบ
ฝั่งนี้จะเป็นแบบ ธรรมดานะครับสำหรับคนที่เน้นความเรียบง่ายเเละต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างเเท้จริง ส่วนเรื่องร้องน้ำจะเป็นห้องน้ำรวมนะครับ
เล่นน้ำสิครับ รออะไรอยู่
ค่ำนี้ก็เหมือนเดิมครับ บนเเพที่พักเขาก็มีบริการให้น่ะครับ ราคาเเตกต่างไม่มาก (เเต่เราพากันมาเอง เพราะกลัวว่าที่มีจำหน่ายบนเเพจะไม่พอครับ 55)ไม่ได้คอเเข็งน่ะครับเเต่มากันหลายคน
เช้าวันวันเราออก เราวางกันไว้ว่าพาลูกค้าไปชม "กุ้ยหลิน เมืองไทยกันครับ"
จากเเพที่เราพักกันก็เดินทางสักพักก็ถุงเเล้วครับ
หัวหน้าผมเองครับ ข้างหลังหัวหน้าของผมก็คือ ที่เขาเรียกว่ากุ้ยหลินเมืองไทยอะครับ เป็นภูเขาหินปูนที่สูงชันล้อมรอบไปด้วยผืนน้ำที่กว้างใหญ่ ด้วยความลึกของระดับน้ำ กรอปกับสีของตะไคร้น้ำที่อยู่เบื้องล่างทำให้น้ำในเขื่อนมีสีเข้มเหมือนสีมรกต จนนักท่องเที่ยวหลายท่านคิดว่าเป็นน้ำทะเล ลักษณะภูมิประเทศไปคล้ายกับภูมิประเทศที่เมืองกุ้ยหลินประเทศจีน จึงได้ฉายาว่า กุ้ยหลินเมืองไทย
จบเเล้วครับทริปสำรวจเส้นทางของผม อิอิ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น