เรื่องเบื่อเมียสุดๆ แทบจะเป็นบ้าไม่รู้จะทนได้ถึงไหน ถ้าไม่มีลูกจบไปแล้ว..

ณ. วันนี้กระทู้ที่ผมตั้ง ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการ Comment เยอะขนาดนี้
คำตอบที่ต้องการผมได้รับแล้ว และมีแนวทางที่จะดำเนินชีวิตต่อไปเรียบร้อยแล้ว

อันที่จริงนิสัยผมก็ไม่ได้ดีเท่าไร ผู้ชายคนหนึ่งควรประคับประคองครอบครัวและทำให้ดีที่สุด แต่ผมทำไม่ได้
และที่แย่กว่านั้นคือเอามา Post ในทำนองตำหนิเมียตัวเอง จนถูกวิจารณ์ไปต่างๆ นาๆ

ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้วรบกวนเพื่อน Pantip ทั้งหลายหยุดการ Comment ภรรยาผมเถอะครับ
ความต้องการในวันนี้ของผมคือ
ให้เป็นตัวอย่างของชีวิตที่จะมีการตัดสินใจสร้างครอบครัว หรือที่มีครอบครัวแล้วก็ตาม
ถ้าท่านอ่านกระทู้นี้ และทำให้ท่านหรือไครก็ตามได้หยุดคิด และตัดสินใจดำเนินชีวิตใหม่ได้ถูกต้อง
ซึ่งมันจะทำให้ครอบครัวของท่านในอนาคตมีความสุข สมบูรณ์
ไม่เกิดความผิดพลาดสร้างความทุกข์ให้กับบุคคลที่ 3 ไม่ว่าจะเป็นลูก หรือคนรอบข้าง

ตรงนี้ผมถือว่าเป็นบุญกุศล
หากบุญกุศลอันนี้จะส่งผลดี ขอให้ส่งผลดีกับภรรยาของผม ไม่ว่าอนาคตต่อไปนี้ เราจะได้อยู่ร่วมกันเป็นผัวเมีย กันอีกหรือไม่
ขอให้เธอมีความสุข ทั้งกาย และใจ คาดหวังกับชีวิตที่ดีงามอย่างไร ก็ขอให้ได้สมตามความคาดหวังด้วยเถิด

ขอบคุณครับ

************************************************************
ผมต้องการถามคำถามตอนท้าย 3 ข้อในกรณีที่ความอดทนถึงที่สุด
เบื้องต้นขอเท้าความก่อนนะครับ
ผมอายุ 35
เมียอายุ 35 เท่ากัน
ลูกอายุ 9 ขวบเป็นหญิง
แต่งงานมาได้ 10 ปี
ข้อดีของเมีย
1. เป็นแม่บ้านที่ทำงานบ้านได้ ความไฝ่ฝันคือเป็นแม่บ้านและไม่ต้องออกไปทำงานข้างนอกบ้าน
แต่ก่อนเคยทำงานแต่บริษัทจ้างออกจากภาวะเศรษฐกิจ แต่เขาไม่ยอมหางานใหม่ อ้างว่าไม่พร้อม
2. ไม่นอกใจผมแน่นอน เพราะเธอเกลียดคนที่ลักลอบเป็นชู้กับ ผัว หรือ เมีย ชาวบ้าน

ข้อเสีย
1. ชอบชื้อของเข้าบ้านแต่จัดไม่เป็นระเบียบ เช่นกระเป๋าเขาจะมีเยอะมาก เยอะไม่เป็นไรแต่จัดให้ดีผมไม่ว่า แต่นี่กองไว้ที่มุมห้องสุมเป็นภูเขาเลย
2. เสื้อผ้าเยอะมาก เยอะไม่เป็นไรแต่เวลาใส่ใส่ไม่ได้ เพราะมันคับเวลาซื้อคิดว่าตัวเองผอม แต่ความจริงตัวเองอ้วน และอ้วนขึ้นเรื่อยๆ เลยใส่ไม่ได้ และเสื้อผ้าเต็มตู้ เสื้อผ้าผมต้องออกมาแขวนด้านนอก คิดดูว่าตู้เสื้อผ้าไม้อัด ด้านข้างพองออกมาเลย ไม้แขวนยัดกันจนไม่มีที่จะแขวน
3. เริ่มอ้วน ไม่สวยเหมือนแต่ก่อน
4. ชอบนอนเป็นชีวิตจิตใจ บอกว่าอย่านอนเยอะโดนแว้ดด ว่าฉันไม่ได้ทำให้ไครเดือนร้อน ยุ่งไรด้วย
ข้อ 1-4 ยอมรับได้ เพราะชินไปแล้ว
แต่ที่สุดๆ คือ
5. ครอบครัวเราปกติมาตลอด คุยกันได้ ตกลงกันได้ อยู่มาวันหนึ่งเธอไม่ชอบคนในครอบครัว มาบอกผมตลอดว่าคนนั้นไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้ ผมก็พยายามให้ทำใจ อยู่ด้วยกัน อย่าไปเกลียดกัน เวลาเราไม่ชอบเขา เราเสียเองเป็นฝ่ายไม่สบายใจ แต่ก็ไม่ฟัง พยายามพูดให้คนในครอบครับเกลียดคนที่เธอเกลียด สุดท้ายเล่นด่ากราดไปหมดว่าครอบครัวเราไม่ดี อยากเปลี่ยนนามสกุล พูดไปหมดและอยากอย่า จะเอาลูกไปอยู่ด้วย อะไรที่ซื้อมาด้วยกันต้องแบ่งครึ่ง ให้ผู้ใหญ่มาเป็นพยานด้วยว่าจะไม่อยู่ด้วยกันแล้ว ทุกคนตกใจมาก ไม่คิดว่าเมียผมจะเป็นอย่างนี้ แม่ผมนี่ออกมาเถียงถึงขั้นกล่าวหาว่าเมียผมมีคนอื่น จึงอยากจะอย่าร้างไช่ไหม จนผมต้องตะล่อมคุยว่า การเกลียดคนอื่น แต่จะให้ครอบครัวมาอย่าร้างเพราะคนอื่นมันไม่ถูกต้อง คนที่ได้ยินก็ต้องเข้าใจว่าเธอหาเรื่องทะเลาะเพราะอยากแยกกับเราและไปอยู่กับคนอื่น จนสงบลง พอสงบแล้วก็ดี
6. เวลาไม่พอใจอะไรแม้เรื่องเล็กน้อยจะชวนหย่าตลอด เธอติดนิสัยเพราะว่าเวลาเธอโกรธผมจะง้อทุกครั้ง แต่ที่ผมง้อทุกครั้งผมจะทำใจหนักมาก เพราะบางครั้งเรื่องที่ทะเลาะไม่เกี่ยวกับผมเลย หรือผมไม่ผิดเลย แต่ก็เป็นชนวนให้ทะเลาะ ทะเลาะแต่ละครั้งเธอจะใช้เสียงเป็นอาวุธ แบบว่าตะโกนโหวกเหวก ได้ยินไป 2-3 บ้าน บางครั้งชาวบ้านเดินมาดูผมอายมาก
7. พ่อ แม่ สงสารผม บอกว่าถ้าชวนหย่าก็ให้หย่าไปเลย ดูซิว่าจะเกิดอะไร แต่ผมทำใจไม่ได้สักที สงสารลูกมาก เวลาทะเลาะเธอจะไม่สนใจไครเลย แม้แต่ลูก เป็นลูกเสียเองที่มาบอกให้ผมว่าให้ไปง้อแม่ ผมเห็นใจลูกก็เลยต้องง้อให้เหตุการมันจบ

ก่อนแต่งงาน คนในหมู่บ้านของแฟนบอกว่าเธอเจ้าอารมณ์ แต่ผมคิดว่าปรับได้ เคยพาไปปฏิบัติธรรม ก็จะดีสักพักแล้วเป็นอีก บางครั้งกลุ้มมากอยากให้เรื่องจบ แต่ไม่รู้ทำไงดี ผมรู้สึกว่าแฟนผมเหมือนกับเป็นโรคจิตนิดๆ
ความรู้สึกผมเหมือนว่ามันแย่กว่าแต่ก่อนมาก แต่ก่อนเวลาทะเลาะกัน และผมแข็ง สุดท้ายเธอจะยอมผม แต่ช่วงหลังนี่เธอไม่ยอมเลย เป็นผมเสียเองที่ต้องอ่อนให้ พออ่อนให้ก็ได้ใจใหญ่ จนเหตุการณ์มันแย่ลงทุกวัน

ไม่รู้จะประคับประคองได้ถึงไหน นี่ถ้าไม่มีลูกผมเลิกไปนานแล้ว ทำไมไม่แสดงอาการแบบนี้ตั้งแต่ก่อนมีลูก เศร้าจัง
ส่วนตัวผมนิสัยคือ
1. ไม่ค่อยเป็นผู้นำเสียเท่าไหร่
2. เกลียดการขัดแย้ง ทะเลาะวิวาท
3. มีงานทำมั่นคง ทุกวันนี้ทำงานคนเดียว ส่งลูก พ่อ แม่ ส่วนแฟนให้มั่ง ไม่ให้มั่ง (ผมตกลงว่าถ้าไม่ทำงานผมขอเก็บเงินเองและจะจ่ายเงินภายในครอบครัวเอง) เพราะผมก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง (ถึงอยากให้แฟนทำงานบ้าง) แต่เวลาบอกให้ไปหางานทำบ้างจะโดนแว้ดดด ทุกที
4. รักลูกมากส่วนเมียตรงกันข้ามเลย แต่บางครั้งที่เมียอารมณ์เย็นผมก็มีความสุขนะ เขาก็เอาใจเราเหมือนกัน
5. ตัดสินใจไม่เด็ดขาดเป็นคนโลเล

คิดหลายตะหลบมากเลย วันนี้เกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันอีกจิตใจเสื่อมมาก เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ ถ้าเล่าให้ฟังท่านจะตลกว่าเรื่องแบบนี้ก็เอามาทะเลากันด้วยเหรอ ยืนยันได้ว่าชาวบ้านได้ยินแน่นอนเพราะเสียงดังมาก ส่วนผมพูด 1 ประโยค โดนสวนแทบฟังไม่ทัน เฮ้ออออ
ถ้าเราทนไม่ไหว (แต่จะพยายามทนไปให้ถึงที่สุด) ขอคำปรึกษาด้วยครับว่า
1. บ้านที่ผมปลูกและกู้เงินธนาคารมาสร้างก่อนแต่งงาน (ก่อนรู้จักกันด้วยซ้ำ) ตอนนี้ยังผ่อนไม่หมด จะต้องทำยังไง เธออ้างว่ามันเป็นสินสมรส เธอจะต้องมีส่วนได้ส่วนเสียด้วย
2. รถที่ซื้อตอนรถคันแรกเป็นซื่อของผม ตอนนี้ยังผ่อนไม่หมด เธอบอกว่าจะขายแล้วเอาเงินมาแบ่งกัน(ตรงนี้ตลก ผมคิดว่าถ้าขายก็ยังไม่พอจ่ายส่วนที่ค้างผ่อน)
3. สำคัญมากคือลูก จะทำอย่างไรจะให้ลูกอยู่กับเรา เมียผมมั่นใจได้ว่าเธอเลี้ยงลูกไม่ได้แน่ ถ้าทำงานเงินเดือนก็ไม่พอส่งลูกเรียนได้ ถ้าส่งได้ก็ต้องให้ลูกออกจากโรงเรียนปัจจุบัน
4. มีวิธีการบำบัดให้เมียดีขึ้นไหม ผมคิดว่าผมทำทุกอย่างแล้วนะ พูดคุย ให้ปฏิบัติธรรม ยกตัวอย่างในละคร ก็ไม่ดีขึ้น

ผมไม่เคยชวนทะเลาะเพราะรู้ว่าเหตุการณ์จะแย่และไม่อยากให้ลูกเห็น และไม่เคยชวนหย่า เธอพูดเองครับ บอกว่าจะหย่า และลามไปพูดเรื่องทรัพย์สิน(ที่จริงมีเยอะกว่านี้ครับ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ เธอทวงหมดเลย) และบอกว่าลูกจะเอาไปเลี้ยงและจะไม่ให้ไครหน้าไหนในตระกูลผมเห็นหน้าลูก สิ่งที่เธอพูดหรือขู่ผมนี่เป็นเป็นไปได้ไหมครับ ไครเป็นแบบผมบ้างครับ


ขอบคุณครับและขอคำแนะนำข้อ 1-3 ด้วยครับ

***********************************************************************
ขอบคุณมากครับทุกคำแนะนำและกำลังใจ รวมทั้งคำตำหนิ ติติง ต่างๆ นาๆ
ไม่คิดว่าจะมีการ Comment เยอะขนาดนี้ และกลายเป็นกระทู้ติดอันดับไปด้วย

หลังเลิกงานผมอ่านกระทู้ทั้งหมด ขอเพิ่มเติมนิดหนึ่งครับ สิ่งที่ผมไม่ได้พิมพ์ไว้ตอนแรก
ข้อดีของเมียผม ที่ดีมากๆ คือ
อุ้มท้องลูกสาวที่น่ารักของผม
ถ้าไม่มีเธอผมก็ไม่มีลูกสาวที่น่ารัก


เรื่องการหย่าผมจะอดทนจนถึงที่สุด มีขีดเส้นเรื่องพ่อ แม่ ผมชัดเจน ห้ามล้ำเส้นเด็ดขาด
ซึ่งต้องพูดคุยกันก่อน ถ้าพูดคุยไม่ได้แสดงว่าเส้นที่ขีดไว้ไม่มีความหมาย คงต้องจบ

แฟนเป็นโรคจิตไหม?
ความรู้สึกของผมเธอเป็นครับ แบบอ่อนๆ จางๆ ผมเห็นใจเธอนะครับ เห็นใจมานานแต่ช่วงหลังนี่เธอลงกับลูก กับพ่อ กับแม่ ก็เลยรู้สึกไม่ไหวครับ

ผมได้คำตอบจากคำถามผมแล้ว
ผมต้องการแค่บ้าน ถ้าเมียฟ้องเอาบ้าน แล้วพ่อ กับแม่ผมต้องลำบากแน่นอน แต่โชคดีที่ได้บ้าน
ทรัพย์สินที่ได้หลังแต่งงานผมตั้งใจจะให้ภรรยาผมทั้งหมด
ส่วนลูกจะฟ้องร้องถ้ายืนยันจะเอาลูกไปเลี้ยงเอง

กระทู้ของผมหากมีคนมาเม้น มากขนาดนี้
สิ่งที่ต้องการอย่างยิ่งสำหรับคนมาอ่าน ไม่ไช่ความเห็นอกเห็นใจ
ผมต้องการให้กระทู้นี้
เป็นตัวอย่างหนึ่งในสังคม ถ้าคุณไม่พร้อมหรือแม้มีแค่เสี้ยวหนึ่งที่ไม่มั่นใจ อย่าตัดสินใจที่จะสร้างครอบครัว
ควรพร้อมทั้งสองฝ่าย และประคับประคองครอบครัวไปให้รอด ร่วมกัน ขอเน้นว่าร่วมกันนะครับ
อย่าเอาเปรียบกันเลย ถึงแม้ว่าฝ่ายหนึ่งยอมทุกอย่างก็ตาม สุขร่วมสุข ทุกข์ร่วมทุกข์
ไม่เช่นนั้นจะเป็นอย่างผม ที่เหนื่อยใจอย่างมาก เห็นใจตัวเอง เห็นใจเมีย เห็นใจลูก เห็นใจพ่อแม่ แต่เจอแต่ทางตัน

ขอบคุณมากครับทุก Comment
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
รถไม่ใช่ของคุณ เป็นของไฟแนนซ์  ถึงจะกู้มาก่อนสมรส ผ่อนหมดเมื่อไหร่ไฟแนนซ์ถึงจะโอนกรรมสิทธิ์ให้
ยังไงก็กลายเป็นสินสมรสหลังโอนแน่นอนครับ
บ้าน ซื้อก่อนสมรส ตามกม.แล้วบ้านจะเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณตั้งแต่โอน แล้วคุณเอาบ้านไปกู้แบงก์  
ต่อให้ผ่อนหมดหลังแต่งงาน กรรมสิทธิ์ก็ยังเป็นของคนที่มีชื่ออยู่ในโฉนดครับ คือคุณ


ส่วนกรณีภรรยา คุณควรรู้นิสัยเธอดีที่สุดตั้งแต่ก่อนแต่งงาน  ยกเว้นว่าเธอเสแสร้งหลอกคุณเก่งมากแล้วหลังแต่งมาดีแตก
ถ้าก่อนนี้เธอดีมาก แต่วันนี้กลับหน้ามือหลังมือ แล้วคุณยืนยันกับผมได้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนโกหกหลอกลวงให้คุณมาแต่งงาน
ผมคงต้องบอกว่า สัญญาณหลายอย่างระบุว่าเธอมีปัญหาทางใจ ครับ

1. นอนทั้งวัน  สัญญาณชัดเลยถึงอาการหดหู่
2. สะสมเสื้อผ้าจนล้นมากองนอกตู้
3. สะสมของกองสุม
ข้อ 2-3 เป็นสัญญาณเริ่มแรกของของอาการ Compulsive hoarding-สะสมสมบัติบ้า/สะสมของรก
ซึ่งมักจะเกิดจากจุดเปลี่ยนชีวิต ที่ทำให้เจ้าตัวเศร้า และว่างเปล่าอย่างรุนแรง
แต่กลับเลี่ยงที่จะเผชิญปัญหา  ไม่ยอมรับ
เลยชดเชยไม่รู้ตัวด้วยการสะสมของเพื่อเติมเต็มความว่างเปล่าในโพรงหัวใจของตัวเอง
4. เกรี้ยวกราด เจ้าโทสะ


ตอนนี้คุณจขกท.กำลังกล่าวโทษภรรยาฝ่ายเดียวอยู่  
แต่ผมมองเห็น สัญญาณเตือนภัย ของความเศร้า ความว่างเปล่า ความผิดหวังในตัวเอง  ที่ภรรยากำลังมีต่อชีวิตตัวเองครับ
แต่เธอเลี่ยงไม่อยากยอมรับมัน  มันก็เลยแสดงออกทางการสะสมของรก นอนทั้งวัน และเกรี้ยวกราดครับ

คุณพ่อคุณแม่ของคุณจขกท.เองเข้าข้างจขกท.บอกให้หย่า  อาจเพราะโกรธลูกสะใภ้ที่ไม่ให้เกียรติก็ได้  แต่...
คุณปู่คุณย่าลืมไปหรือเปล่าว่าหลาน 9 ขวบจะรู้สึกยังไง

ตอนนี้ผู้ใหญ่ทุกคนในชีวิตเด็ก 9 ขวบกำลังทำตามใจตัวเอง
ภรรยาก็เบื่อชีวิตตัวเองจึงท้าหย่า คุณพ่อคุณแม่สามีก็เกลียดลูกสะใภ้ ก็ยุให้หย่า
สามีเองก็สุดแสนจะทนกับความไม่เอาไหนของภรรยา ใจเองก็อยากหย่า

แล้วมีใครถามเด็ก 9 ขวบบ้างมั้ยว่าเขากำลังตกอยู่ในสภาพอะไร?
ความคิดเห็นที่ 50
พ่อแม่เคยทะเลาะกัน(สาเหตุอื่นนะคะ ไม่ใช่แม่สะสมของรก 5555) บอกเลยว่า สายตาของลูกไม่ถึงสิบขวบคือเบื่อมาก รำคาญมาก ทำไรไม่ได้เลย ทรมานมาก อย่าคิดแทนลูกว่าจะมีปัญหาถ้าครอบครัวแตกแยก มันจะมีปัญหาซึมซับความหดหู่รุนแรงเพราะทะเลาะกันนี่แหละ วันที่พ่อแม่เราเลิกกันเรามีความสุขมากกกกกก คือไม่ต้องฟังการด่า เราอยากอยู่เงียบๆมาหลายปีแล้ว แต่ไม่มีใครถามเลยว่าเราอยากให้อยู่หรือหย่า

มุมมองลูกนะคะ แลัวแต่จะพิจารณาค่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
เรื่องกม.รอผู้รู้มาตอบละกันนะคะ แต่อยากให้กำลังใจคุณ เมียคุณเหมือนพี่สะใภ้เราเลย เมื่อก่อนทะเลาะกับพี่ชายเราทีไรก็ขู่จะหอบลูกหนี ตอนหลังบ้านเราเอือมระอาแล้วเลยไม่ง้อ บอกจะไปก็ไปเหอะ มันก็ไม่ไปไหนจนตอนนี้นะ ไม่ขู่แล้วด้วย เปลี่ยนมาบอกว่าถ้าจะไปต้องให้นั่นให้นี่ เราก็จะให้จริงๆตามที่ขอด้วย แต่ก็ไม่ไปอยู่ดี เพราะจริงๆแล้วมันก็ไม่มีที่ไปหรอก งานก็ไม่ได้ทำจะเอาเงินจากไหน ยิ่งเอาลูกไปด้วย จะเอาปัญญาที่ไหนเลี้ยง อยู่บ้านเฉยๆให้ผัวเลี้ยงทุกวันนี้ก็สบายขนาดไหนแล้ว

เรื่องเมียคุณน่ะนะ เขาจับจุดคุณได้แล้ว คุณกลัวอาย คุณชอบรอมชอม เมียเลยชอบทำเรื่องให้ใหญ่ๆเข้าไว้ ให้คุณยอมเธอง่ายๆ คุณแก้นิสัยคนอื่นไม่ได้ก็ต้องแก้ที่ตัวเองนะคะ คนที่ชอบขู่จะทำจริงๆสักกี่ครั้งเชียว เลิกหยวน เลิกยอม เลิกต่อล้อต่อเถียง เพราะมันไม่ช่วยอะไรเลย เรื่องนั้นจบก็มีเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาบอกจะหย่าก็บอกไปเลยว่าตกลง แล้วก็ไม่ต้องพูดอะไรต่อแล้ว เดินหนีไปเลย ให้เมียเดาทางไม่ถูก เช้ามาชวนไปอำเภอเลย ดูสิจะยอมไปไหม
ความคิดเห็นที่ 19
วันนี้ตื่นแต่เช้ามาอ่านกระทู้ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจหลายๆท่าน
ตอนพิมพ์กระทู้นี้ลูกก็นอนอยู่ข้างๆ ครับ 9 ขวบน่ารักดี

ส่วนเมียไปนอนบ้านพ่อกับแม่ของเขา เมื่อวานทะเลาะกันตั้งซื่อเรื่องที่ทะเลาะกันว่า "เสียดายเผ็ดไปหน่อย" คือติบอกว่าต้มยำมันเผ็ดแต่ก็อร่อยน๊าา
คนในบ้านคนกินกันคนละ สีห้า คำแล้วก็อิ่มทำให้กับข้าวเหลือเยอะ นอกนั้นก็มีเรื่องราวตามมามากมาย
สุดท้ายคุณเมียไปนอนบ้านพ่อกับแม่ของเขา
ก่อนจะไปชวนลูกไปด้วย แต่ลูกไม่ไป ลูกไม่ตามใจก็เลยด่าลูกว่าอกตัญญู และลูกก็โดนผลักหัวจนเซ ดีที่พ่อผมขับรถเข้ามาก่อนก็เลยหยุดด่าลูก

ลูก 9 ขวบ กลัวและเกรงใจแม่มาก แต่เขาอยากอยู่กับผมมากกว่าเลยปฏิเสธ แกเข้าใจแม่แก ทำให้ผมนึกไปถึงเรื่องทองเนื้อเก้า ที่แม่ทวงบุญคุณกับลูก และลูกต้องรักแม่คนเดียว
ผมก็สอนลูก พ่อกับแม่ ผมก็สอนลูก ให้อดทน และไม่มีทางที่จะบอกให้ลูกเกลียดแม่ มันบาป
ลูกก็ย้อนว่าพ่อก็อดทนกับแม่ให้ได้นะ หนูรักพ่อค่ะ หนูจะตั้งใจเรียน แล้วแกก็ไปเอาการบ้านมาทำ

บ้านเมียผมมีแต่แม่ยาย กับพี่ชายเขาที่พาเมียเข้ามาอยู่ในบ้าน บ้านผมกับบ้านเมีย พึ่งพาอาศัยกัน มีข้าวสาร มีฟักทอง มีถั่วก็แบ่งกันไปมาหาสู่กันตลอด ที่บ้านแม่ยาย เมียผมใหญ่สุด ไม่มีไครกล้ามีเรื่องกับเธอ เพราะคงจะรำคาญกับผลที่จะตามมามีแต่พี่สะไภ้ที่มีบ้าง พี่สะไภ้ชอบมาบอกว่าทนอยู่กับคนพันนี้ได้อย่างไร ผมก็หัวเราะ ผมคิดเองนะเมียคงแต่งเรื่องแย่ๆ เกี่ยวกับบ้านผมให้แม่ยาย กับพี่ชายเขาฟังบ้างหละ เพราะแม่ยายชอบมาพูดว่ารักกันให้มากๆ น๊า หนักนิด เบาหน่อยก็อภัยให้กัน น้องมันยังเด็กอยู่(เด็กกะผีอะไร อายุเท่ากัน) ผมก็คับๆๆๆ ไป

ทุกวันนี้ผมต้องพยายามระวังคำพูดไม่ให้เกิดปัญหาก็จะนิ่งๆ อ่ะครับ เพราะถ้าทะเลาะกันลูกอยู่ด้วยไม่อยากให้ลูกเห็นได้ฟัง แต่เมียผมนี่ไม่สนเลย

เรื่องที่ถามลูกไหมว่ารู้สึกอย่างไร ผมก็ไม่อยากให้เกิดครับเรื่องหย่าร้าง พ่อ กับแม่ผมนี่ แกให้คิดให้ดี ให้รอบคอบ สงสารหลาน แต่บางครั้งแกก็บอกให้ลองดูซิ จะไปไหนรอด คิดว่าคงระอาใจ จึงบอกอย่างนั้น

ผมคิดว่าผมหย่าแน่นอน ถ้าลูกอยู่ในการดูแลของผม จากการที่ลองถามลูกก็อยากอยู่กับผม(ตั้งคำถามว่าสมมุติว่าต้องเลือก)
ลูกไปอยู่กับแม่ก็คงเป็นทาสแม่วันยังค่ำ
ส่วนอยู่กับผมผมคิดว่าผมเลี้ยงให้เติบใหญ่ทั้ง กาย และใจ ที่อิสระและสบายได้แน่นอน

ไม่อยากเถียงกับเมียซึ่งหน้าก็มาพิมพ์ ไม่คิดว่าจะพิมพ์ได้เยอะขนาดนี้ เมียมาอ่านคงรู้ว่าเป็นเรื่องเขา
แต่ IT เมียผมไม่ถนัด เรื่องอ่านหนังสือยิ่งไม่ชอบใหญ่ ปีหนึ่งอ่านหนังสือได้ 10 หน้าหรือเปล่าไม่รู้ ทั้งที่หนังสือที่บ้านเยอะมาก
ความคิดเห็นที่ 106
ภรรยาคุณเค้ามีเรื่องอะไรในจิตใจ หรือไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า เข้ามาดูอาการคล้าย ๆ ตัวเอง +555
++ครอบครัวคุณเป็นครอบครัวใหญ่อยู่กันหลายคน เหมือนบ้านสามีเราเลย เราไม่ได้อยากมาอยู่ แต่ต้องมาอยู่เพราะสงสารเค้าที่ต้องขับรถเทียวไปเทียวมา แล้วก็มาประสบปัญหาคนในครอบครัวไม่ชอบ(ไม่ชอบตั้งแต่ก่อนมาอยู่ อยากได้ลูกสะใภ้รวยๆ +555) ก็จะเจอเรื่องประชดประชัน กระเเหน่กระแหน่ตลอด เลี้ยงลูกอยู่บ้านเอง ลูกเล็กอยู่เหนื่อยมาก ทำทุกอย่างในบ้าน จนมันถึงขีดสุด ครั้งนึง หอบลูกกลับบ้านเลย แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาเพราะสงสารสามี ก็เลยเป็นปมในจิตใจไง ไม่ชอบที่บ้านสามี ไม่ชอบเอามาก ๆ พอเราหงุดหงิดเรื่องนี้ ก็กลายเป็นอารมณ์ไง เรื่องนิดเดียวก็ชวนทะเลาะได้ ไม่รู้เป็นอะไร แล้วก็พ่วงไปด้วยคำว่า"เลิก" ตลอด เพราะในใจที่ไม่อยากอยู่ที่นี่ไง แต่เราก็ไม่รู้ตัวหรอก รู้แต่ว่าอารมณ์เสียอยู่ตลอด
+++ แต่แฟนเราเค้ายังดีที่สังเกตุเป็น เค้าจะสังเกตุว่า เวลาที่เรากลับบ้านเราเอง ไปเที่ยวที่ไกล ๆ กันแค่ 3 คน เราจะมีความสุข เราจะไม่หงุดหงิดหรืออารมณ์เสียใส่เค้า ก็เลยตัดสินใจ แยกบ้าน อยู่กันเอง เราก็ว่าจิดใจเราดีขึ้นนะ ไม่เจอเรื่องเคลียด ๆ ก็สบายใจขึ้นเยอะ
+++ เรื่องเงิน เมื่อก่อนแฟนเราจะให้เงินที่บ้านใช้ตลอด ทั้งที่พ่อแม่เค้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงินเลย แต่เรานี่สิ ต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูกมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ส่งเงินให้ที่บ้านใช้สักบาท ยังไม่พอขอเค้าอีก ก็ยิ่งหงุดหงิดไปใหญ่ ให้บ้างไม่เป็นไรเพราะเราก็เป็นคนแฟร์ แต่บางทีจะซื้อของให้ลูกแต่ตัวเองดันเอาเงินไปให้แม่นี่สิ ไม่เดือดร้อนพอว่า อันนั้นเงินเค้ากองจะทับหัวอยู่แล้ว
+++ ส่วนเรื่องงาน พอเราออกมาเลี้ยงลูกนาน ๆ เราก็ไม่อยากกลับไปเริ่มต้นทำงานใหม่เเล้ว รู้อยู่งานบริษัทมันน่าเบื่อขนาดไหน เราก็ลองขาย มาไม่รู้กี่อย่าง เจ้งบ้าง ดีบ้าง เวลาเจ้งก็โดนที่บ้าานสามีด่า
+++ พอตอนนนี้ แยกมาอยู่ อารมณ์ดีขึ้น คิดอะไรออกขึ้น กล้าลองทำอะไรมากขึ้น ตอนนี้ก็ทำขนมฝากขาย ได้นิดได้หน่อยก็ยังดี
++++  เราว่าตอนนี้สภาพจิดใจเราดีขึ้นนะ ไม่เครียดไม่วีนเหมือนเมื่อก่อน พอตอนนี้มันเป็นบ้านของเราอยู่กันเอง กับกลายเป็นพิถีพิถันดูแลบ้านมากกว่าแต่ก่อนอีก +555 เด๋วนี้แฟนเราให้เราถือเงินทุกบาท จากเมื่อก่อนกระเป๋ารองเท้า กองเต็มบ้าน เด๋วนี้ไม่กล้าซื้อเลย ซื้อไปก็ไม่ได้ใช้ไม่ได้ไปไหน อิอิ
++++ ยังคิดเลยว่า ถ้าเมื่อก่อนสามีไม่เข้าใจเรา ปล่อยเราไปตามอารมณ์ ป่านนี้คงเลิกกันไปนานแล้ว เพราะคำที่บอกเลิก ไม่ได้อยากเลิกจริง ๆ หรอก มันเป็นความรู้สึกที่เบื่อ เบื่อที่ต้องอยุ่สภาพแบบนี้ เป็นอย่างนี้ บางทีเลิกกันไปอาจจะดีเสียกว่า แต่ก็ดีที่เค้าอดทน
++++ อ้อ !! ส่วนเรื่องอ้วน ตอนเกิดลุกใหม่ ๆ อ้วนฉุ เลย +555 แต่เค้าก็ให้กำลังใจ อาหารเสริมทกุอย่าง เครื่องออกกำลังกายมาในบ้านเลย มันก็ช่วยได้จริง ๆ เมื่อก่อนเครียดต้องระบายด้วยการซื้อของ เด๋วนี้กลายเป้นว่า สามีต้องบอกซื้อเลย อยากซื้ออะไรก็ซื้อเลย +555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่