[CR] โชคชะตาคงพาไป สังขละบุรี ที่นี่ก็ต้องห้าม(พลาด)


"ชอบถ่ายภาพหรือชอบเที่ยว ทุกวันนี้ก็ยังแยกไม่ออก"
ถ้าให้สรุปความเป็นตัวตนและแนวคิดของแจ๊คในการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อถ่ายภาพและเพิ่มเรื่องราวให้ชีวิต  
มันก็คงได้คำจำกัดความเป็นแบบนี้ "อดทนรอคอย ยิ้มง่าย ใจสู้ ไม่จำเป็นต้องหรูหรา ไม่จำเป็นต้องสบาย ขอแค่ให้สิ่งที่รออยู่เป็นวิวสวยๆพอแล้ว"

เวลาก็มี เงินก็พอมีบ้าง(เรืยกว่าไม่ค่อยมีก็ได้ 555) งั้นเราก็ออกเดินทางกันเถอะ
ครั้งแรกที่ก้าวผ่านความกังวลใดๆ แล้วออกไปเผชิญโลกกว้าง คนเดียว

คุณคิดว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่คนเราจะออกเดินทางคนเดียว?? จุดมุ่งหมายของการเดินทางของแต่ละคนต่างกัน
บางคนไปเพื่อเฮฮากับเพื่อนฝูง สนุกกับการกิน
บางคนแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ  ซึมซับธรรมชาติ เรียนรู้ชีวิต
บางคนแค่ไปหามุมใหม่ๆนั่งเฉยๆ แค่อยากพักกายพักใจ

ย้อนไป 5 ปีที่แล้ว สำหรับแจ๊คแล้วมีเหตุผลมากมาย คือ เริ่มคิดว่าเราลองไปเที่ยวคนเดียวบ้างดีมั้ยจะเป็นยังไง  อยากออกไปถ่ายภาพ
เพราะช่วงนั้นซื้อกล้องใหม่  ที่สำคัญเราโสด เราเป็นครู มีวันหยุดเยอะแยะ ช่วงนั้นน้ำท่วมกทม.ด้วย  เวลายิ่งเยอะ
อยากมีความรู้สึกใหม่ ๆ นั่งชิลล์คนเดียว
(พอโสด ได้อยู่คนเดียว มันก็มีความสุขอีกแบบนะ ถึงบางครั้งเหงา แต่มันทำให้เราได้เพื่อนใหม่ๆและมิตรภาพระหว่างทาง )
อยากหลุดพ้นจากความวุ่นวายในเมืองหลวง สัมผัสอากาศดีๆ ไม่มีมลพิษ
สุดท้าย ต้องบอกว่า อยากออกไปเจอคนใหม่ๆ เหมือนเวลาเราดูหนังบางเรื่อง  ตัวละครเดินทางคนเดียว ไปเจอผู้คนมากมาย สนุกดีนะ
บางที่ก็ได้เจอกับความรัก มโนว่าตัวเองเป็นนางเอก นั่นแหระประเด็น 55555 เฮ้ยยยไม่ได้พูดเล่นนะเนี่ย   ผ่านมา5ปี ชีวิตมีเรื่องราวใหม่ๆ
เพื่อนใหม่ๆเพียบ นั่งเล่าได้เป็นวัน และยิ้มได้ทุกครั้งที่แชร์ให้ใครฟัง
เหตุผลมากมายที่ว่ามาทั้งหมดนี้แจ๊คขอเรียกว่าประสบการณ์ค่ะ แท้จริงแล้ว "เราออกไปเพื่อหาประสบการณ์"

"ครั้งแรก"
เริ่มมาจาก มีรุ่นน้องราชมงคล คนหนึ่ง มันบอกมันจะไปสังขละบุรี
เราก็เอาเลย สังขละนี่แหระวะ ชื่อฟังแล้วรู้สึกว่ามันมีมนต์ขลังอะไรบางอย่างให้เราต้องไป
เวลาผ่านไปหลายปี จากการเดินทางคนเดียวครั้งแรก ครั้งนั้น จึงมีครั้งที่ 2 3 4 และอีกหลายๆครั้ง หลายๆที่ตามมา
และยังได้กลับไปที่สังขละอีกหลายครั้ง  ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป มันเป็นที่แรกที่เราก้าวผ่านความกังวลทุกๆอย่าง และออกไปเผชิญโลกก้วาง
และเราได้รับประสบการณ์ที่ดีจากที่นี่ เลยได้มานั่งคิดว่าอยากแชร์ประสบการณ์ดีๆภาพถ่าย สวยบ้างไม่สวยบ้างให้เพื่อนๆได้อ่านได้ดูกัน
และได้เห็นเรื่องดีๆของการไปไหนมาไหนคนเดียว อาจจะทำให้เพื่อนๆ เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า
แล้วออกเดินทางบ้างก็เป็นได้ ลองอยู่กับตัวเองบ้างก็ดีนะคะ"

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การรีวิวครั้งแรก ในเรื่องสังขละนี้แจ๊คยังงงกับตัวเองอยู่เหมือนกันว่า เอ๊ะ!!!!!นี่เราจะเริ่ม และจะดำเนินเรื่องยังไงดีเพราะไปหลายครั้ง
เอาเป็นว่า จะถ่ายทอดออกมาให้ดีที่สุดนะคะ เล่าแบบรวมๆงั้นขอไม่ลงวันที่นะ ภาพจะต่างฤดู ต่างเวลาค่ะอิอิ
เอางี้ บอกก่อนดีกว่าว่าแต่ละครั้งไปได้ยังไง ทำไมถึงไป
ครั้งแรก ก็อย่างที่บอก รวมๆแล้วก็หาประสบกรณ์ แล้วได้เพื่อนใหม่ หลังจากแจ๊คกลับมา เราไม่ได้คุยกันนานมาก แล้วก็กลับมาคุยกัน
เดินทางลุยภาคเหนือหน้าร้อนกันหลายวัน แต่เรายังไม่ได้คบกันนะ
ครั้งที่2 ไปตามคำชวนของเค้าคนนั้น ที่เพิ่งกลับจากลุยภาคเหนือหน้าร้อนด้วยกัน  เค้าบอกฟรีทุกอย่าง เราก็ไปดิ่ แชทคุยกันตีอะไรไม่รู้
          เช้าไปเลยหลังจากนั้นเราคบกันได้ไม่นานก็เลิกกันไปค่ะ
ครั้งที่3 ไปเพราะอยากไปที่ไหนซักที่ รอบนี้กับช่างสัก ขับรถไปเช้ามากๆ เย็นกลับ
ครั้งที่4 นั่งรถตู้ไปคนเดียว อยากพัก อยากได้ภาพสะพานมุมมอญสวยๆ
ครั้งที่5 ไปกับพี่สาว ไหลต่อจากกางเต๊นท์ที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อิอิ  พักที่พี เกสเฮ้าส์ ชอบมาก  บรรยากาศดี
เหมาะสำหรับการไปนั่งชิลล์หน้าระเบียงห้องเวลาที่ฝนตก เพลินดีค่ะ ข้อมูลค่ะ http://www.p-guesthouse.com/2014/index.html
มาคุยกันต่อกับการเดินทางครั้งแรก แจ๊คหาข้อมูลเยอะอยู่พอสมควร แบบว่าตื่นเต้นมากๆ
ลองคิดดูดิ่ ผู้หญิงตัวคนเดียวเดินทางไปในที่ที่ไม่เคยไป
หนทางข้างหน้าเราจะไปเจออะไรก็ไม่รู้ ไม่มีใครรู้จักเรา ทุกคนคือคนแปลกหน้า
สำหรับตัวแจ๊คเอง ถ้าคิดเยอะกลับไปกลับมาว่าไปดี หรือไม่ไปดีไรงี้
ถ้าคิดแบบนี้เยอะๆจะเกิดความกังวลทันที สุดท้ายคืออดไป
"หลายครั้งที่ต้องต่อสู้กับความกังวลภายในใจ ถ้าตัดมันทิ้งไปได้ คุณก็กล้าค่ะ" ลองดู
เมื่อก่อนไปเมืองกาญอยู่2-3ครั้งค่ะ รู้จักแค่ สะพาน สุสาน ช่องเขาขาด บ่อน้ำร้อน น้ำตกไทรโยก ทำนองนี้ ไปบ่อยก็เบื่อ
และคิดว่าไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย ที่เที่ยวมีแค่นี้เอง
พอเริ่มหัดเที่ยว เฮ้ยยย กาญจนบุรีมีที่เที่ยวเยอะมาก และเป็นจังหวัดใหญ่พอสมควร ทุกวันนี้เวลามีคนถามว่าชอบที่ไหน
เราบอกเลยว่าชอบกาญจนบุรี
การเดินทางไปสังขละบุรีนั้นมันแสนจะง่ายแต่ไกลโคตรๆ จากตัวเมืองไปสังขละ ไกลกว่าจาก กทม.ไปเมืองกาญซะอีก
วิธีเดินทางง่ายๆเลย แจ๊คนั่งรถตู้จากอนุสาวรีย์ไปลง บขส.เมืองกาญ ราคาราวๆ 100-120 (จำไม่ได้ อิอิ)

แล้วก็ต่อรถตู้ไปลงสังขละ ถามๆคนแถวนั้นไค้ค่ะว่าคิวรถอยู่ตรงไหน
เวลาไปตามท่ารถของจ.ต่างๆ จะมีพวกกลุ่มคนที่ มักจะถามว่าไปใหนครับๆ ๆๆๆๆ เที่ยวนู่นมั้ยนี่มั้ย ประมาณนี้ เพื่อนๆรู้สึกยังไง????
เอาจริงๆเลยนะแจ๊ครู้สึกว่าพวกเนี้ยต้องหลอกเราแน่เลยเห็นเราเป็นนักท่องเที่ยวจะหลอกให้เสียตังค์แพงๆอ่ะดิ่
แจ๊คมักจะหลีกเลี่ยงไม่คุยด้วยแต่ความจริงแล้วก็ไม่ได้แย่แบบนั้นเสมอไปค่ะ วันนั้นไปแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ แจ๊คได้ลองคุย
สอบถามข้อมูลจากพี่ๆพวกนี้แหระ เค้ามีพาเที่ยวในเมืองด้วย แต่จำราคาไม่ได้ละ  เมื่อรู้ว่าเราต้องไปซื้อตั๋วตรงไหน
ก็ไปเลยค่ะ  ตั๋วราคา175บาท ใช้เวลา 3-4ชั่วโมง นั่งกันยาวๆไป ครั้งแรกที่ไปคือคิดเลยว่า โห นานมากอ่ะ
ไม่คิดว่าจะนานขนาดนั้น  รถจะแวะเข้าทองผาภูมิก่อน
"แรกก็ งงๆ ถึงยังเนี่ย อ๋ออออ ยัง 5555 ออกจากทองผาภูมิก็จะไปสังขละ พอรถตู้ไปถึงสังขละ แจ๊คก็ ไม่แน่ใจ ตกลงถึงยังเนี่ย?????
มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งข้างหลังแจ๊ค คงเห็นท่างทางเอ๋อๆ รู้เลยว่าต้องไม่เคยมาแน่ๆ
เค้าเลยถามว่าลงสังขละใช่มั้ย เนี่ยถึงแล้ว ลงรถก็เลยคุยกัน บ้านเค้าอยุ่ที่นั่น แต่เรียนที่กทม.
วันนั้นเค้ากลับบ้านพอดี เค้าส่งนามบัตรรีสอร์ทแห่งหนึ่งให้ คือบ้านเค้าเอง และด้านหลังเขียนเบอร์โทรตัวเองไว้
และบอกว่าถ้าจะให้พาไปเที่ยวหรือถ่ายรูปบอกได้นะ แล้วก็แยกย้ายกัน ด้วยจรรญาบัณเรามิอาจเปิดเผยชื่อได้
ขอใช้นามสมติ นาย A ละกัน5555 จะสมมติทำไมเนี่ย
สุดท้ายก็เลยมีคนพาเที่ยว พาไปถ่ายรูป แถมมีเพื่อนเที่ยวเป็นแก้งค์ใหญ่คือกลุ่มน้องของเค้าที่หนีน้ำท่วมจากกทม.
จากที่ตั้งใจจะไปอยู่เงียบๆ ไม่ใช่ละ ขอขอบใจผู้ร่วมคณะทุกคน น้องๆน่ารักมาก
ช่วงที่ไปครั้งแรกตรงกับลอยกระทงพอดี ที่สังขละก็มีงานค่ะ ดีจังมีเพื่อนลอยกระทงด้วยหลังจากไม่ได้ลอยกระทงมานานมากแล้ว ประทับใจที่สุดค่ะ

ตอนนั้นแจ๊คจองที่พักไว้ เบอมิช อิน คืนละ 400 ห้องน้ำในตัว พออยู่ได้ แต่ไม่ถึงกับประทับใจ ถ้าทำห้องให้น่าอยู่กว่านี้จะดีมากๆ
มันเดินไปสะพานมอญได้เลยเลือกที่นี่ ลงรถที่ตลาดแล้วนั่งมอไซค์รับจ้างไป 20บาทข้อมูลค่ะ http://www.burmese-inn.com

วิวจากหน้าห้องค่ะ ที่เห็นไกลๆนั่นคือสะพานปูนสำหรับเดินไปสะพานมอญค่ะ


ต้องบอกก่อนว่า เวลาแจ๊คเที่ยวแจ๊คจะไปเฉพาะที่ที่ดูข้อมูลดูภาพแล้วเกิดความรู้สึกอยากไป แจ๊คก็ไป
ไม่ใช่ไปเพราะมีคนบอกว่า ไปจ.นี้ ต้องไปที่นี่นะ ต้องกินร้านนี้นะ ไม่งั้นถือว่าไปไม่ถึง 5555 ขวางโลกมั้ยล่ะ
เราเที่ยวเราก็ต้องไปตามใจเราดิ่ ถูกป่ะ(แต่ก็มีข้อเสียนะเพราะพรุ่งนี้คุณจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง อิอิ)
ข้อมูลของสถานที่ต่างๆหาได้จากgoogleนะคะ แจ๊คเอามาบอกแบบย่อๆ เดี๋ยวรีวิวมันจะดูไม่มีอะไรเลย ^^
เที่ยวในสังขละ ควรใช้รถค่ะ ไม่งั้นเที่ยวลำบากนิดนึง  เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าที่ พีเกสเฮ้าส์ มีมอไซค์ให้เช่าด้วย
"เย็นนี้มีคนมารับไปถ่ายรูป" ต้องขอบคุณมากๆ สำหรับเพื่อนใหม่ ตอนแรกกะจะไม่โทรนะ สุดท้ายต้องโทร
เพราะเราลืมซื้อบัตรเติมเงินก็เลยอยากไปเซเว่น5555 ใช่หรออออออ นายAก็เลยพาแว้นซ์แถวๆนั้น
ถ้าขับรถ จะไปฝั่งมอญได้โดยข้ามสะพานซองกาเลียค่ะ



ทุกอย่างตามป้ายค่ะ รับรองไม่หลง ข้ามสะพานไปเราจะเจอจุดชมวิวก่อนค่ะ
จุดชมวิว จากจุดชมวิวเทศบาลวังกะ



เงียบๆ เหมือนไม่มีคนดูแล ไม่รู้ว่าช่วงอื่นๆเป็นไง สร้างแบบใหญ่โตมากๆ
หรืออจาจจะเป็นเพราะช่วงไม่ค่อยมีคนเที่ยว แต่เรากลับไปรอบหลังๆก็เงียบๆเหมือนเดิมนะ

จากที่พักเบอมิช อิน เดินข้ามสะพานปูนไป ก็จะถึงสะพานมอญค่ะ ไกล้มากๆ




สะพานมอญ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ
ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า
และเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธา ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรี
ขอเอาภาพจากหลายๆครั้งมารวมกันนะ มีทั้งเช้าและเย็น





คนที่นี่เค้าจะเอาขอเทินบนศรีษะค่ะ น้องบอก ไม่ต้องฝึกอะไร ทำได้เอง ชิลล์ไปมั้ยน้อง

ช่วงเช้านักท่องเที่ยวและชาวบ้านก็มักจะมาใส่บาตรค่ะ คนเยอะช่วงเช้าและเย็นๆ เพราะกลางวันแดดมันร้อนค่ะ

จะมีไกด์ท้องถิ่นเป็นเด็กน้อยชาวมอญคอยให้ข้อมูลหรือแนะนำการเที่ยว น้องๆพวกนี้น่ารักค่ะ


เดี๋ยวแจ๊คจะพาดูมุมต่างๆของสะพานมอญต่อค่ะ นานาขอบคุณ
ชื่อสินค้า:   สังขละบุรี, กาญจนบุรี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่