จากกระทู้
http://pantip.com/topic/34153195
**คำเตือน มีสปอยเนื้อหาหนังนะครับ**
กะว่าจะเขียนเกี่ยวกับอาชีพของเจ๋ด้วย แต่ไปๆมาๆมันยาวมากแถมง่วงด้วย เลยตัดจบกันดื้อๆ
พอดีวันนี้มีเวลา ประกอบกับได้รับความสนใจค่อนข้างดี เลยอยากจะแชร์อีกอาชีพของคนโฆษณา ที่ปรากฏในหนังให้ทราบกัน
เกี่ยวกับอาชีพของสาวเจ๋ สาวตัวเล็กที่ดู แข็งๆ ดูดุ ดูเร่งรีบ ดูเหมือนจะซีเรียสตลอดเวลา สะพายกระเป๋าใบโตเท่าบ้าน และมีพี่สุชาติคอยรับส่ง
เริ่มเลยนะครับ ^ ^
ตำแหน่งของเจ๋เรียกเป็นทางการว่า Still Photography Producer
ภาษาไทยเรียก โปรดิวเซอร์ภาพนิ่ง ครับ
อ่านแล้วอาจจะสงสัย มีแต่นิ่งๆเหรอ แล้วโปรดิวเซอร์ภาพเคลื่อนไหวมีไหม??
มีครับ..แต่ไม่ใช่ Moving Photography Producer นะครับ
ตำแน่งทางการของชาวภาพเคลื่อนไหวคือ Film Producer หรือ TVC Producer
เราจะเรียกกันว่าโปรดิวเซอร์หนัง ก็ที่ทำหนังโฆษณาฉายในทีวีให้เราดูกันแหละครับ ฝ่ายนี้รวยครับ งบเยอะ กินดีอยู่ดี
ถ่ายหนังติดกันยาวๆที น้ำหนักขึ้นกันเป็นแถว
อ้าว มีแต่ภาพเหรอ เสียงไม่มีหรือไง
..เสียงมีครับ จะเป็น Radio Producer
คอยทำสปอตโฆษณาทางวิทยุ ที่ชอบเปิดขัดขวางการฟังเพลงของพวกเรา(ฮ่า)
ถ้าจะถามต่อว่า หมดแล้วเหรอ..มีอีกไหม
เอ้า..ถ้าอยากให้ก็มีให้ครับ
ตามเอเจนซีใหญ่ๆจะมี Print Producer คอยดูแลเกี่ยวกับงานพิมพ์ (ปัจจุบันหายากแล้ว เหลือไม่กี่คน) เป็นเทพเรื่องสิ่งพิมพ์เลยครับ
คอยจัดการฟาดฟันกับโรงพิมพ์ ให้ได้งานพิมพ์ตามต้องการ กระดาษแบบไหน พิมพ์ออกมาแล้วจะเป็นยังไง
เทคนิคการพิมพ์ทุกชนิดในโลกหล้า พี่เค้ารู้ครับ
และสุดท้าย Event Producer ค่อยดูแลงานอีเวนท์ครับ
จริงๆอาชีพ Producer สำหรับคนทั่วๆไปอาจจะสับสนนะครับ จริงๆมันก็น่าสับสนแหละ เพราะมันเยอะ และแตกต่างกันตามสายงาน
รายการทีวีก็มีโปรดิวเซอร์ ที่ต้องเขียนสคริป คุมการถ่าย พอจะทำเพลงก็มีโปรดิวเซอร์ ที่ไม่ต้องเขียนสคริป แต่ต้องแต่งเพลง
รู้เรื่องดนตรี และคุมการทำอัลบัมให้ศิลปิน บริษัทถ่ายหนังก็มีโปรดิวเซอร์ คลื่นวิทยุก็มี โอ้ยยย เยอะแยะไปหมด
แต่วันนี้ผมจะขอพูดถึงแต่ในสายโฆษณา และเจาะจงไปยังโปรดิวเซอร์ภาพนิ่งนะครับ
-โปรดิวเซอร์ทำอะไร?
ตอบแบบกลมๆ กว้างๆ ก็คือควบคุมการผลิตครับ เอางานครีเอทีฟที่ขายลูกค้าผ่านแล้ว มาทำให้เป็นชิ้นงานจริงๆ
เพื่อส่งไปพิมพ์ ไปลงหนังสือ ไปออนแอร์ ตามแต่งานแต่ละประเภท
-ทำเองเหรอ?
โน้วว เปล่าครับ เราให้คนที่ถนัดทำสิครับ ถ่ายภาพก็จ้างช่างภาพอาชีพ นาย/นางแบบก็เรียกจากโมเดลลิ่ง เสื้อผ้าก็ให้สไตลลิสดูแล
เสร็จแล้ว ก็ส่งให้พี่ยุ่นรีทัช ได้ไฟล์มาก็ส่งห้องอาร์ตทำอาร์ตเวิร์คให้โรงพิมพ์
อ่านถึงตรงนี้อาจมีความคิดว่า อ๋อ..ก็แค่ประสานงานสินะ
ถูกแค่ส่วนเดียวครับ ถ้านับเป็นข้อสอบก็ได้ 6 เต็ม 10 ครับ คือว่า การประสานงาน เป็นส่วนหนึ่งของงานเราครับ
แต่ก็ยังมีส่วนอื่นๆที่สำคัญกว่านั้นด้วย เดี๋ยวจะค่อยๆอธิบายนะครับ
ในการทำงานหนึ่งชิ้น พวกเราจะต้อง บริหารจัดการสามส่วนครับ
1.เงิน 2.เวลา 3.คุณภาพงาน
หมายถึงว่า เราต้องทำงานให้ดีมีคุณภาพ ในเวลา และงบประมาณที่กำหนด และต้องขายให้ได้กำไรด้วย
อืมม์..เริ่มยากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ
ฉากหนึ่งในหนังที่ยุ่นไปหาของขวัญให้หมออิม โดยโจทย์คือ ต้องของที่มีความเป็นวิทย์และศิลป์ แล้วก็ได้เป็นปากกามาร์คเกอร์ข็มฉีดยา
พวกเราชาวโปรดิวเซอร์ก็คล้ายๆแบบนั้นแหละครับ เราคือส่วนผสมของความฝันของครีเอทีฟ และความเป็นจริงจากคนทำงาน
(ช่างภาพ/รีทัชเชอร์) ที่ต้องสร้างงานให้ถูกใจคุณลูกค้า และทำกำไรให้เอเจนซี ในงบประมาณและเวลาที่จำกัด
เห็นหรือยังครับว่าแค่ประสานงานมันไม่พอ
**ทั้งหมดจบที่โพสต์ที่ 52 นะครับผมมีแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาไปด้วย ใครอ่านก่อนเที่ยงจะกลับไปอ่านอีกที่ก็ได้นะครับ มีเพิ่มพอสมควรเลย**
**ขอบคุณทุกๆคนมากครับ**
กระทู้ต่อเนื่อง จากหนังฟรีแลนซ์ แฉเบื่องหลังอาชีพของเจ๋ เธอจะดุไปไหน แล้วทำไมกระเป๋าต้องใบโตขนาดนั้น
**คำเตือน มีสปอยเนื้อหาหนังนะครับ**
กะว่าจะเขียนเกี่ยวกับอาชีพของเจ๋ด้วย แต่ไปๆมาๆมันยาวมากแถมง่วงด้วย เลยตัดจบกันดื้อๆ
พอดีวันนี้มีเวลา ประกอบกับได้รับความสนใจค่อนข้างดี เลยอยากจะแชร์อีกอาชีพของคนโฆษณา ที่ปรากฏในหนังให้ทราบกัน
เกี่ยวกับอาชีพของสาวเจ๋ สาวตัวเล็กที่ดู แข็งๆ ดูดุ ดูเร่งรีบ ดูเหมือนจะซีเรียสตลอดเวลา สะพายกระเป๋าใบโตเท่าบ้าน และมีพี่สุชาติคอยรับส่ง
เริ่มเลยนะครับ ^ ^
ตำแหน่งของเจ๋เรียกเป็นทางการว่า Still Photography Producer
ภาษาไทยเรียก โปรดิวเซอร์ภาพนิ่ง ครับ
อ่านแล้วอาจจะสงสัย มีแต่นิ่งๆเหรอ แล้วโปรดิวเซอร์ภาพเคลื่อนไหวมีไหม??
มีครับ..แต่ไม่ใช่ Moving Photography Producer นะครับ
ตำแน่งทางการของชาวภาพเคลื่อนไหวคือ Film Producer หรือ TVC Producer
เราจะเรียกกันว่าโปรดิวเซอร์หนัง ก็ที่ทำหนังโฆษณาฉายในทีวีให้เราดูกันแหละครับ ฝ่ายนี้รวยครับ งบเยอะ กินดีอยู่ดี
ถ่ายหนังติดกันยาวๆที น้ำหนักขึ้นกันเป็นแถว
อ้าว มีแต่ภาพเหรอ เสียงไม่มีหรือไง
..เสียงมีครับ จะเป็น Radio Producer
คอยทำสปอตโฆษณาทางวิทยุ ที่ชอบเปิดขัดขวางการฟังเพลงของพวกเรา(ฮ่า)
ถ้าจะถามต่อว่า หมดแล้วเหรอ..มีอีกไหม
เอ้า..ถ้าอยากให้ก็มีให้ครับ
ตามเอเจนซีใหญ่ๆจะมี Print Producer คอยดูแลเกี่ยวกับงานพิมพ์ (ปัจจุบันหายากแล้ว เหลือไม่กี่คน) เป็นเทพเรื่องสิ่งพิมพ์เลยครับ
คอยจัดการฟาดฟันกับโรงพิมพ์ ให้ได้งานพิมพ์ตามต้องการ กระดาษแบบไหน พิมพ์ออกมาแล้วจะเป็นยังไง
เทคนิคการพิมพ์ทุกชนิดในโลกหล้า พี่เค้ารู้ครับ
และสุดท้าย Event Producer ค่อยดูแลงานอีเวนท์ครับ
จริงๆอาชีพ Producer สำหรับคนทั่วๆไปอาจจะสับสนนะครับ จริงๆมันก็น่าสับสนแหละ เพราะมันเยอะ และแตกต่างกันตามสายงาน
รายการทีวีก็มีโปรดิวเซอร์ ที่ต้องเขียนสคริป คุมการถ่าย พอจะทำเพลงก็มีโปรดิวเซอร์ ที่ไม่ต้องเขียนสคริป แต่ต้องแต่งเพลง
รู้เรื่องดนตรี และคุมการทำอัลบัมให้ศิลปิน บริษัทถ่ายหนังก็มีโปรดิวเซอร์ คลื่นวิทยุก็มี โอ้ยยย เยอะแยะไปหมด
แต่วันนี้ผมจะขอพูดถึงแต่ในสายโฆษณา และเจาะจงไปยังโปรดิวเซอร์ภาพนิ่งนะครับ
-โปรดิวเซอร์ทำอะไร?
ตอบแบบกลมๆ กว้างๆ ก็คือควบคุมการผลิตครับ เอางานครีเอทีฟที่ขายลูกค้าผ่านแล้ว มาทำให้เป็นชิ้นงานจริงๆ
เพื่อส่งไปพิมพ์ ไปลงหนังสือ ไปออนแอร์ ตามแต่งานแต่ละประเภท
-ทำเองเหรอ?
โน้วว เปล่าครับ เราให้คนที่ถนัดทำสิครับ ถ่ายภาพก็จ้างช่างภาพอาชีพ นาย/นางแบบก็เรียกจากโมเดลลิ่ง เสื้อผ้าก็ให้สไตลลิสดูแล
เสร็จแล้ว ก็ส่งให้พี่ยุ่นรีทัช ได้ไฟล์มาก็ส่งห้องอาร์ตทำอาร์ตเวิร์คให้โรงพิมพ์
อ่านถึงตรงนี้อาจมีความคิดว่า อ๋อ..ก็แค่ประสานงานสินะ
ถูกแค่ส่วนเดียวครับ ถ้านับเป็นข้อสอบก็ได้ 6 เต็ม 10 ครับ คือว่า การประสานงาน เป็นส่วนหนึ่งของงานเราครับ
แต่ก็ยังมีส่วนอื่นๆที่สำคัญกว่านั้นด้วย เดี๋ยวจะค่อยๆอธิบายนะครับ
ในการทำงานหนึ่งชิ้น พวกเราจะต้อง บริหารจัดการสามส่วนครับ
1.เงิน 2.เวลา 3.คุณภาพงาน
หมายถึงว่า เราต้องทำงานให้ดีมีคุณภาพ ในเวลา และงบประมาณที่กำหนด และต้องขายให้ได้กำไรด้วย
อืมม์..เริ่มยากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ
ฉากหนึ่งในหนังที่ยุ่นไปหาของขวัญให้หมออิม โดยโจทย์คือ ต้องของที่มีความเป็นวิทย์และศิลป์ แล้วก็ได้เป็นปากกามาร์คเกอร์ข็มฉีดยา
พวกเราชาวโปรดิวเซอร์ก็คล้ายๆแบบนั้นแหละครับ เราคือส่วนผสมของความฝันของครีเอทีฟ และความเป็นจริงจากคนทำงาน
(ช่างภาพ/รีทัชเชอร์) ที่ต้องสร้างงานให้ถูกใจคุณลูกค้า และทำกำไรให้เอเจนซี ในงบประมาณและเวลาที่จำกัด
เห็นหรือยังครับว่าแค่ประสานงานมันไม่พอ
**ทั้งหมดจบที่โพสต์ที่ 52 นะครับผมมีแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาไปด้วย ใครอ่านก่อนเที่ยงจะกลับไปอ่านอีกที่ก็ได้นะครับ มีเพิ่มพอสมควรเลย**
**ขอบคุณทุกๆคนมากครับ**