คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
หลักกฎหมาย บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะ อย่างใดๆอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหาย นั้นเอง(มาตรา 437 ปพพ)
สรุปคือโดยกฎหมายคุนจะไม่ต้องรับผิดต่อเมือพิสูจน์ได้ว่าเปนเหตุสุดวิสัย หรือเพราะความผิดของผู้เสียหาย(ผู้ถูกชน) เเต่หากปรากฎว่าเปนความผิดของคุณเเละคนถูกชนศาลท่านก็จะลดค่าเสียหายลงมาได้คับ
เเต่นี้คือการดำเนินการทางศาล ความเหนผมทางปฎิบัติจริงๆเราควรช่วยกันครึ่งทางช่วยออกค่าใช้จ่ายให้เขาหากเรารับได้เรื่องจำนวนค่าใช้จ่าย เเต่ถ้าตามกฎหมายเมือขึ้นศาลจะเปนอย่างไรก็เปนไปตามย่อหน้าเเรกคับ
สรุปคือโดยกฎหมายคุนจะไม่ต้องรับผิดต่อเมือพิสูจน์ได้ว่าเปนเหตุสุดวิสัย หรือเพราะความผิดของผู้เสียหาย(ผู้ถูกชน) เเต่หากปรากฎว่าเปนความผิดของคุณเเละคนถูกชนศาลท่านก็จะลดค่าเสียหายลงมาได้คับ
เเต่นี้คือการดำเนินการทางศาล ความเหนผมทางปฎิบัติจริงๆเราควรช่วยกันครึ่งทางช่วยออกค่าใช้จ่ายให้เขาหากเรารับได้เรื่องจำนวนค่าใช้จ่าย เเต่ถ้าตามกฎหมายเมือขึ้นศาลจะเปนอย่างไรก็เปนไปตามย่อหน้าเเรกคับ
แสดงความคิดเห็น
ถ้ามีคนเดินออกมาจากอาคาร แล้วตัดหน้ารถเราจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ
แล้วตัดหน้ารถเราจนรถเราชนไปเพราะเบรคไม่ทัน ในกรณีนี้ฝ่ายได้เปรียบ เสียเปรียบครับ