ผมเพิ่งไปดูฟรีแลนซ์: ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ เสร็จสิ้นยามค่ำของวันแรกที่ภาพยนตร์เข้าฉาย มีประเด็นมากมายให้พูดถึง ก็หนังมันอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกและเนื้อหาสาระ ผมจึงเขียนบทความนี้เพื่อเชิญชวนทุกท่านไปชม จากนั้นจึงพรรณาสาระที่ผมได้รับในรายละเอียด
เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้
ดังที่ทุกท่านคงจะชมหนังตัวอย่างและรู้เรื่องย่อแล้ว แนวเรื่องโดยรวมก็เป็นไปตามนั้นครับ ยุ่น (ซันนี่) ตัวละครเอกรับอาชีพฟรีแลนซ์ประเภทกราฟฟิค ดีไซน์ สาขารีทัชหน้า ลบสิว ตัดนิ้ว เติมนม อะไรประมาณนั้น เรื่องของเรื่องคือแกทำงานหนักไปหน่อยจึงผื่นขึ้น ถ้าจะรักจะประหยัดค่ารักษาก็ต้องไปหาหมอในโรงพยาบาลรัฐ ยุ่นจึงได้พบแพทย์หญิงผู้น่ารัก (ดาริกา) แล้วความสัมพันธ์กุ๊กกิ๊กระหว่างคนไข้กับหมอจึงบังเกิดขึ้น มิตรภาพของเขาทั้งสองจะพัฒนาไปทางไหน คุณยุ่นจะต้องเผชิญกับความท้าทายอะไรบ้าง อันนี้ก็ต้องติดตามรับชมนะครับ
สิ่งที่ผิดคาดจากภาพยนตร์ตัวอย่าง และใคร่จะกระซิบบอกทุกท่านก็คือ อารมณ์และโทนหนังเรื่องนี้มิใช่หนังตลกเสียทีเดียวนะครับ ค่อนข้างจะซีเรียสและนิ่งเรียบมากทีเดียว ทว่าความนิ่งและเซื่องช้านั้นก็มีความหมาย มันสื่อถึงสภาวะบางอย่างของคนเมืองและความเป็นเมืองอย่างน่าสนใจ
ตรงนี้ผมขอชื่นชมทางค่ายที่กล้าจะลดความโปกฮา เสนอสาระเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักให้ผู้ชมได้ขบคิดและติดตามอย่างน่าชื่นชม
ภาพยนตร์เลือกที่จะสื่อสารกับกลุ่มเฉพาะกลุ่มหนึ่ง นั่นคือคนรุ่นใหม่ที่คิดและอยากเป็นอิสระจากเจ้านายและงานประจำ คนมีที่พึ่งสรณะเป็นการงาน คนที่คิดว่าชีวิตน่าจะง่ายและไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก คนที่เพิ่งเรียนจบและทำงานใหม่ๆ กำลังมุ่งความสำเร็จเป็นคุณค่าอันดับหนึ่งของชีวิต
เป็นงานชิ้นต่อของภาพยนตร์สารคดีเรื่อง The Master เมื่อปีที่แล้ว (2557) ของผู้กำกับเต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เป็นผลงานชิ้นที่สองที่ผมชอบมาก แต่นี้ต่อไปผมคงไม่พลาดภาพยนตร์ของเขาเช่นกัน
ผมคงจะหยุดการพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้เพียงเท่านี้ ต่อแต่นี้จะลงรายละเอียดเนื้อหา ผมให้คะแนน 4.5 เต็ม 5 ก็แล้วกันครับ (หักคะแนนการนำเสนอ ที่เลือกให้ตัวละครพูดความคิดมากเกินงามไปหน่อย)
สารบัญ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- เมื่อการงานเป็นศูนย์กลางของชีวิต
- พาเหรดเส้นตายกับเวลาที่ถูกบีบอัด
- หมออิม: แพทย์ในจินตนาการที่คนไข้โหยหา
- Retouch: ความย้อนแย้งของการสัมผัส
- Yolo: คำถามต่อทัศนะที่ว่า “เกิดมาแค่ครั้งเดียว ใช้ให้คุ้ม”
- ไม่ต้องเศร้านะ ทุกคนเกิดมาต้องตาย: มันง่ายอย่างนั้นจริงหรือ
Freelance: Review retouch relove
ผมเพิ่งไปดูฟรีแลนซ์: ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ เสร็จสิ้นยามค่ำของวันแรกที่ภาพยนตร์เข้าฉาย มีประเด็นมากมายให้พูดถึง ก็หนังมันอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกและเนื้อหาสาระ ผมจึงเขียนบทความนี้เพื่อเชิญชวนทุกท่านไปชม จากนั้นจึงพรรณาสาระที่ผมได้รับในรายละเอียด
เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้
ดังที่ทุกท่านคงจะชมหนังตัวอย่างและรู้เรื่องย่อแล้ว แนวเรื่องโดยรวมก็เป็นไปตามนั้นครับ ยุ่น (ซันนี่) ตัวละครเอกรับอาชีพฟรีแลนซ์ประเภทกราฟฟิค ดีไซน์ สาขารีทัชหน้า ลบสิว ตัดนิ้ว เติมนม อะไรประมาณนั้น เรื่องของเรื่องคือแกทำงานหนักไปหน่อยจึงผื่นขึ้น ถ้าจะรักจะประหยัดค่ารักษาก็ต้องไปหาหมอในโรงพยาบาลรัฐ ยุ่นจึงได้พบแพทย์หญิงผู้น่ารัก (ดาริกา) แล้วความสัมพันธ์กุ๊กกิ๊กระหว่างคนไข้กับหมอจึงบังเกิดขึ้น มิตรภาพของเขาทั้งสองจะพัฒนาไปทางไหน คุณยุ่นจะต้องเผชิญกับความท้าทายอะไรบ้าง อันนี้ก็ต้องติดตามรับชมนะครับ
สิ่งที่ผิดคาดจากภาพยนตร์ตัวอย่าง และใคร่จะกระซิบบอกทุกท่านก็คือ อารมณ์และโทนหนังเรื่องนี้มิใช่หนังตลกเสียทีเดียวนะครับ ค่อนข้างจะซีเรียสและนิ่งเรียบมากทีเดียว ทว่าความนิ่งและเซื่องช้านั้นก็มีความหมาย มันสื่อถึงสภาวะบางอย่างของคนเมืองและความเป็นเมืองอย่างน่าสนใจ
ตรงนี้ผมขอชื่นชมทางค่ายที่กล้าจะลดความโปกฮา เสนอสาระเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักให้ผู้ชมได้ขบคิดและติดตามอย่างน่าชื่นชม
ภาพยนตร์เลือกที่จะสื่อสารกับกลุ่มเฉพาะกลุ่มหนึ่ง นั่นคือคนรุ่นใหม่ที่คิดและอยากเป็นอิสระจากเจ้านายและงานประจำ คนมีที่พึ่งสรณะเป็นการงาน คนที่คิดว่าชีวิตน่าจะง่ายและไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก คนที่เพิ่งเรียนจบและทำงานใหม่ๆ กำลังมุ่งความสำเร็จเป็นคุณค่าอันดับหนึ่งของชีวิต
เป็นงานชิ้นต่อของภาพยนตร์สารคดีเรื่อง The Master เมื่อปีที่แล้ว (2557) ของผู้กำกับเต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เป็นผลงานชิ้นที่สองที่ผมชอบมาก แต่นี้ต่อไปผมคงไม่พลาดภาพยนตร์ของเขาเช่นกัน
ผมคงจะหยุดการพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้เพียงเท่านี้ ต่อแต่นี้จะลงรายละเอียดเนื้อหา ผมให้คะแนน 4.5 เต็ม 5 ก็แล้วกันครับ (หักคะแนนการนำเสนอ ที่เลือกให้ตัวละครพูดความคิดมากเกินงามไปหน่อย)
สารบัญ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้