ผมเป็นคนสังคมค่อนข้างแคบ นอกจากครอบครัวกับลูกน้อง 3-4 คนแล้ว ก็แทบไม่รู้จักใคร ขนาดเพื่อนบ้านใกล้ๆ ถัดไป 2-3 หลัง ก็ไม่รู้จักกันแล้วเพราะไม่เคยทักทายกัน เพื่อนฝูงก็นานๆเป็นปีๆถึงจะมีโอกาศเจอกันสักที ดังนั้นเมียกับลูกสาวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในสังคมรอบตัวผม
แต่ผู้หญิงสองคนอยู่ที่ไหนปัญหาก็อยู่ที่นั้น เพราะตัวแม่เป็นคนเยอะ จู้จี้ ขี้บ่น ยัยลูกสาวตัวดีก็ใช่ว่าจะน้อย ขี้งอน เอาใจยาก เธอทั้งคู่จึงสร้างความปวดหัวให้กับผมเป็นประจำ
เมื่อวานนี้ก็เช่นกัน ทั้งๆที่เป็นวันดีๆ วันพิเศษของครอบครัวผมอีกหนึ่ง คือเป็นวันเกิดครบรอบ 18 ปี ของสมาชิกอายุน้อยที่สุดในครอบครัว คือลูกสาวผม ซึ่งผมกับเมียตกลงกันว่า ปีนี้เราจะไม่เป็นคนเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้ แต่จะพาเขาไปเลือกซื้อตัดสินใจด้วยตัวเขาเอง เพราะทุกปีที่ผ่านมา เหมือนว่าพ่อแม่ให้ของขวัญที่ไม่เคยถูกใจเลยสักปี
และผมก็คาดการณ์ล่วงหน้าไว้แล้ว ว่าแม่ลูกไปเลือกซื้อของด้วยกัน ประเดี๋ยวต้องเกิดเรื่อง ซึ่งก็จริงดั่งคาด เมื่อลูกสาวอยากได้เดรสตัวหนึ่งซึ่งราคาก็พอสมควรสำหรับเสื้อผ้าที่วัยรุ่นจะใส่ แต่ตัวแม่เชียร์ให้เอาอีกตัวซึ่งมีจำนวนเนื้อผ้าที่มากกว่า ปกปิดรัดกุมประหนึ่งชุดหมี(อันนี้ผมประชดแทนลูกสาว) ที่สำคัญราคาย่อมเยากว่า ผมเห็นท่าไม่ดีจึงควัก กระเป่าสตางค์จ่าย ซื้อมันทั้งสองชุดเลย จะได้หมดเรื่อง แต่ก็ไม่หมดซะทีเดียวเพราะบรรยากาศไม่สู้ดียังอยู่ ระหว่างเดินทางกลับ ทั้งคู่ก็นั่งเงียบกันในรถ
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ผมจึงเอาการ์ดที่มีบทโคลงและภาพประกอบเดียวกับกะทู้นี้ที่ได้เตรียมทำไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วให้กับลูกสาว และเรียกภรรยากับลูกมาร่วมดูวีดีโอที่ผมเอามาแปะไว้ในกะทู้นี้ให้ทั้งคู่ได้ดูพร้อมกันทั้งครอบครัว ซึ่งก็ได้ผลน้ำตาแตกกันทั้งแม่ทั้งลูก โดนที่ผมไม่ต้องพูดสักคำแค่ทำหน้าที่ดึงทั้งคู่มาดูวีดีโอนี้ร่วมกัน แม้ว่าที่สุดแล้วทั้งคู่ก็พากันโทษผม เมื่อผมบ่นว่าเสียดายเงิน ที่ต้องซื้อมาตั้งสองชุด ทั้งคู่บอกว่า เป็นเพราะผมรีบจ่ายเงินเร็วเกินไปถึงได้เสียเงินเยอะ เพราะถ้ารออีกหน่อย ต่างฝ่ายต่างก็พร้อมจะยอมเลือกตามที่อีกฝ่ายต้องการแล้ว
แต่ไม่เป็นไรครับ ต่อให้ต้องเป็นคนผิดอีกร้อยล้านครั้ง หากมันทำให้ผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดในชีวิตรักและเข้าใจซึ่งกันและกัน ผมก็พร้อมจะยอมเป็นคนผิดเสมอ
จุดมุ่งหมายแรกในการทำการ์ดและเตรียมวีดีโอชุดนี้ไว้ ก็เพื่อสอนลูกสาวให้เข้าใจในสิ่งที่ภรรยาผมกระทำ ที่อาจดูเหมือนว่า"เยอะ"สำหรับเขา และก็อยากบอกให้ภรรยาลองทบทวนตัวเองว่า ความรักความห่วงใยที่เขามีให้ลูกสาว ไม่จำเป็นต้องออกมาในรูปแบบที่เยอะ และทำเหมือนไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่าย
แต่วินาทีที่ได้ดูวิดีโอชุดนี้พร้อมกันสามคน พ่อแม่ลูก ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้กลับถามในคำถามที่แตกต่างออกไปจากเนื้อหาในภาพยนตร์โฆษณา มันถามผมว่า
ผมปฏิบัติตัวต่อคนที่ผมรักตอบสนองการปฏิบัติต่อคนที่รักผมดีพอหรือยัง..? ซึ่งทำให้ผมนึกได้ว่ามีหลายๆครั้งที่ตัวผมตอบสนองกับการปฏิบัติของเมียและลูกไม่ดีนัก มานึกย้อนดูตอนนี้ผมก็รู้สึกไม่ดีที่ได้ทำเช่นนั้นลงไป
คนที่ถูกสอนมากที่สุด ไม่ใช่สองแม่ลูกที่กอดกันกลมพากันร้องไห้ปรับความเข้าใจและรักกันเหมือนเดิม แต่กลับเป็นตัวคนที่หวังจะสอนพวกเขาอย่างผมเอง
ขอบคุณเรื่องราวดีๆที่นักการตลาดคิดค้นขึ้นมาเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าตัวเอง ผมและครอบครัวสารภาพตามตรง ว่าไม่เคยสนับสนุนผลิตภัณฑ์นี้เลย แทบจะจำไม่ได้ด้วยว่ามีสินค้ายี่ห้อนี้อยู่ในตลาด แต่เรื่องราวดีๆของโฆษณาชุดนี้ ก็ทำให้คิดว่าหากสังคมเราไม่คิดแต่เรื่องผลประโยชน์และผลกำไรเป็นหลัก ย่อมมีส่วนส่งเสริมสังคมให้มีความรักความสุข และพร้อมจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างเรื่องราวดีๆให้กับสังคมนี้ต่อไป
ขอบคุณช่วงเวลาดีๆที่ทำให้เรา สามพ่อแม่ลูกได้อยู่ร่วมกัน
ขอบคุณเมียและลูก ที่ทำให้ผมรู้สึกมีค่าที่ได้เป็นคนสำคัญในชีวิตของเธอทั้งสอง
ผมเอง ตัวตนจริงๆก็เป็นคนไร้แก่นสาร ทำตัวตลกโปกฮาไปวันๆหาสาระอะไรไม่ได้ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจสายตาคนอื่นเลยทั้งสิ้น ผมขอแค่เป็นผัวและพ่อที่ดีให้กับผู้หญิงสองคนที่ผมรักก็พอแล้ว ผมขอแค่นั้นจริงๆ แต่ความตั้งใจของผมนั้นจะไม่มีทางสำเร็จได้เลย หากผมไม่ใส่ใจในการปฏิบัติต่อคนรอบข้าง และคนรอบข้างก็ไม่ได้ใส่ใจจะทำเช่นกัน ขอบคุณภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ที่ช่วยเตือนสติครอบครัวของผมที่ทุกคนต่างก็รู้ว่ารักกันแน่นอน แต่บางทีลืมนึกไปว่าควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร
ขอบคุณครับ ที่เข้ามาร่วมรับฟังเรื่องราวดีๆของครอบครัวผมครับ
นายพระรอง
หญิงใดเล่า เรื่องราวที่มากกว่าความรักระหว่างแม่ลูก
ผมเป็นคนสังคมค่อนข้างแคบ นอกจากครอบครัวกับลูกน้อง 3-4 คนแล้ว ก็แทบไม่รู้จักใคร ขนาดเพื่อนบ้านใกล้ๆ ถัดไป 2-3 หลัง ก็ไม่รู้จักกันแล้วเพราะไม่เคยทักทายกัน เพื่อนฝูงก็นานๆเป็นปีๆถึงจะมีโอกาศเจอกันสักที ดังนั้นเมียกับลูกสาวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในสังคมรอบตัวผม
แต่ผู้หญิงสองคนอยู่ที่ไหนปัญหาก็อยู่ที่นั้น เพราะตัวแม่เป็นคนเยอะ จู้จี้ ขี้บ่น ยัยลูกสาวตัวดีก็ใช่ว่าจะน้อย ขี้งอน เอาใจยาก เธอทั้งคู่จึงสร้างความปวดหัวให้กับผมเป็นประจำ
เมื่อวานนี้ก็เช่นกัน ทั้งๆที่เป็นวันดีๆ วันพิเศษของครอบครัวผมอีกหนึ่ง คือเป็นวันเกิดครบรอบ 18 ปี ของสมาชิกอายุน้อยที่สุดในครอบครัว คือลูกสาวผม ซึ่งผมกับเมียตกลงกันว่า ปีนี้เราจะไม่เป็นคนเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้ แต่จะพาเขาไปเลือกซื้อตัดสินใจด้วยตัวเขาเอง เพราะทุกปีที่ผ่านมา เหมือนว่าพ่อแม่ให้ของขวัญที่ไม่เคยถูกใจเลยสักปี
และผมก็คาดการณ์ล่วงหน้าไว้แล้ว ว่าแม่ลูกไปเลือกซื้อของด้วยกัน ประเดี๋ยวต้องเกิดเรื่อง ซึ่งก็จริงดั่งคาด เมื่อลูกสาวอยากได้เดรสตัวหนึ่งซึ่งราคาก็พอสมควรสำหรับเสื้อผ้าที่วัยรุ่นจะใส่ แต่ตัวแม่เชียร์ให้เอาอีกตัวซึ่งมีจำนวนเนื้อผ้าที่มากกว่า ปกปิดรัดกุมประหนึ่งชุดหมี(อันนี้ผมประชดแทนลูกสาว) ที่สำคัญราคาย่อมเยากว่า ผมเห็นท่าไม่ดีจึงควัก กระเป่าสตางค์จ่าย ซื้อมันทั้งสองชุดเลย จะได้หมดเรื่อง แต่ก็ไม่หมดซะทีเดียวเพราะบรรยากาศไม่สู้ดียังอยู่ ระหว่างเดินทางกลับ ทั้งคู่ก็นั่งเงียบกันในรถ
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ผมจึงเอาการ์ดที่มีบทโคลงและภาพประกอบเดียวกับกะทู้นี้ที่ได้เตรียมทำไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วให้กับลูกสาว และเรียกภรรยากับลูกมาร่วมดูวีดีโอที่ผมเอามาแปะไว้ในกะทู้นี้ให้ทั้งคู่ได้ดูพร้อมกันทั้งครอบครัว ซึ่งก็ได้ผลน้ำตาแตกกันทั้งแม่ทั้งลูก โดนที่ผมไม่ต้องพูดสักคำแค่ทำหน้าที่ดึงทั้งคู่มาดูวีดีโอนี้ร่วมกัน แม้ว่าที่สุดแล้วทั้งคู่ก็พากันโทษผม เมื่อผมบ่นว่าเสียดายเงิน ที่ต้องซื้อมาตั้งสองชุด ทั้งคู่บอกว่า เป็นเพราะผมรีบจ่ายเงินเร็วเกินไปถึงได้เสียเงินเยอะ เพราะถ้ารออีกหน่อย ต่างฝ่ายต่างก็พร้อมจะยอมเลือกตามที่อีกฝ่ายต้องการแล้ว
แต่ไม่เป็นไรครับ ต่อให้ต้องเป็นคนผิดอีกร้อยล้านครั้ง หากมันทำให้ผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดในชีวิตรักและเข้าใจซึ่งกันและกัน ผมก็พร้อมจะยอมเป็นคนผิดเสมอ
จุดมุ่งหมายแรกในการทำการ์ดและเตรียมวีดีโอชุดนี้ไว้ ก็เพื่อสอนลูกสาวให้เข้าใจในสิ่งที่ภรรยาผมกระทำ ที่อาจดูเหมือนว่า"เยอะ"สำหรับเขา และก็อยากบอกให้ภรรยาลองทบทวนตัวเองว่า ความรักความห่วงใยที่เขามีให้ลูกสาว ไม่จำเป็นต้องออกมาในรูปแบบที่เยอะ และทำเหมือนไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่าย
แต่วินาทีที่ได้ดูวิดีโอชุดนี้พร้อมกันสามคน พ่อแม่ลูก ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้กลับถามในคำถามที่แตกต่างออกไปจากเนื้อหาในภาพยนตร์โฆษณา มันถามผมว่า ผมปฏิบัติตัวต่อคนที่ผมรักตอบสนองการปฏิบัติต่อคนที่รักผมดีพอหรือยัง..? ซึ่งทำให้ผมนึกได้ว่ามีหลายๆครั้งที่ตัวผมตอบสนองกับการปฏิบัติของเมียและลูกไม่ดีนัก มานึกย้อนดูตอนนี้ผมก็รู้สึกไม่ดีที่ได้ทำเช่นนั้นลงไป
คนที่ถูกสอนมากที่สุด ไม่ใช่สองแม่ลูกที่กอดกันกลมพากันร้องไห้ปรับความเข้าใจและรักกันเหมือนเดิม แต่กลับเป็นตัวคนที่หวังจะสอนพวกเขาอย่างผมเอง
ขอบคุณเรื่องราวดีๆที่นักการตลาดคิดค้นขึ้นมาเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าตัวเอง ผมและครอบครัวสารภาพตามตรง ว่าไม่เคยสนับสนุนผลิตภัณฑ์นี้เลย แทบจะจำไม่ได้ด้วยว่ามีสินค้ายี่ห้อนี้อยู่ในตลาด แต่เรื่องราวดีๆของโฆษณาชุดนี้ ก็ทำให้คิดว่าหากสังคมเราไม่คิดแต่เรื่องผลประโยชน์และผลกำไรเป็นหลัก ย่อมมีส่วนส่งเสริมสังคมให้มีความรักความสุข และพร้อมจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างเรื่องราวดีๆให้กับสังคมนี้ต่อไป
ขอบคุณช่วงเวลาดีๆที่ทำให้เรา สามพ่อแม่ลูกได้อยู่ร่วมกัน
ขอบคุณเมียและลูก ที่ทำให้ผมรู้สึกมีค่าที่ได้เป็นคนสำคัญในชีวิตของเธอทั้งสอง
ผมเอง ตัวตนจริงๆก็เป็นคนไร้แก่นสาร ทำตัวตลกโปกฮาไปวันๆหาสาระอะไรไม่ได้ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจสายตาคนอื่นเลยทั้งสิ้น ผมขอแค่เป็นผัวและพ่อที่ดีให้กับผู้หญิงสองคนที่ผมรักก็พอแล้ว ผมขอแค่นั้นจริงๆ แต่ความตั้งใจของผมนั้นจะไม่มีทางสำเร็จได้เลย หากผมไม่ใส่ใจในการปฏิบัติต่อคนรอบข้าง และคนรอบข้างก็ไม่ได้ใส่ใจจะทำเช่นกัน ขอบคุณภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ที่ช่วยเตือนสติครอบครัวของผมที่ทุกคนต่างก็รู้ว่ารักกันแน่นอน แต่บางทีลืมนึกไปว่าควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร
ขอบคุณครับ ที่เข้ามาร่วมรับฟังเรื่องราวดีๆของครอบครัวผมครับ
นายพระรอง