[CR] ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา สิงหาคม 2558. Interview US Visa August 2015

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านนะคะ
ก่อนอื่นขอบอกเลยว่านี้เป็นกระทู้แรกของเรา อาจมีขาดตกบกพร่องตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ

แนะนำตัวพื้นฐานโปรไฟล์ตัวเองค่ะ
เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชน อายุ 25 ปี ประสบการณ์การทำงาน 2 ปี ไม่มีภาระบ้านรถหนี้สินใดๆ
รักการท่องเที่ยว อเมริกาก็คืออีกเป้าหมายหนึ่งที่เราอยากไปสัมผัส เลยตัดสินใจ ว่าจะไปเที่ยวสักครั้ง หลังทำงานเก็บเงินมา 2 ปี

เราจะไม่ลงรายละเอียดการกรอกประวัติหรือแบบฟอร์มต่างๆ นะคะ แต่จะให้ไปอ่านต่อจากลิงค์ของกระทู้ข้างล่างนี้
เพราะค่อนข้างละเอียดและรู้เรื่องดีค่ะ สำหรับใครที่อยากรู้ขั้นตอนต่างๆเพิ่ม และขอบคุณเจ้าของกระทู้เหล่านี้ด้วยค่ะ

http://pantip.com/topic/33516176
http://pantip.com/topic/33255727
http://pantip.com/topic/32193184

เพิ่มเติมจากข้อมูลอัพเดตนะคะ ช่วงนี้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลง สถานทูตจะยึดอัตราค่าธรรมเนียมการสัมภาษณ์อยู่ที่ 160 USD ค่ะ
แล้วแต่ช่วงที่ค่าเงินบาทอยู่ที่ราคาเท่าไร ต่อ ดอลล่าในขณะนั้น ตอนเราจ่ายมันอยู่ที่ 1 USD = 34 THB เลยจ่ายไป 5,440 THB

จ่ายเสร็จแระ วันถัดไป หลังเที่ยงเราสามารถทำนัดวีซ่าได้เลยค่ะ นัดได้เร็วสุดหนึ่งสัปดาห์หลังวันชำระ แต่ก็แล้วแต่ว่าจะมีคิวว่างรึป่าว
ของเรานัดหนึ่งเดือนหลังจ่ายตังค์ เพราะติดงานยาว แล้วมาแอบเห็นค่าธรรมเนียมใหม่อยู่ที่ 1 USD = 36 THB OMG!!! ขึ้นเร็วมาก

เรามีเวลาเตรียมตัวค่อนข้างมาก เลยหาอ่านจากประสบการณ์ตามเว็บและจากเพื่อนที่เคยผ่านมาแล้ว พอเข้าไปในสนามจริง มันก็เป็นประโยชน์มากเลยนะ
เน้นย้ำๆ เลยนะคะ ***
*** รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 3 เดือน เพราะเขาจะถามเรา หากเกินกำหนดจะต้องไปถ่ายใหม่ เสียเวลาต่อคิวยาวมาก
*** กงศุลจะรับฝากมือถือได้เครื่องเดียวเท่านั้น ไม่ต้องเอาไปหลายเครื่อง อุปกรณ์อื่นๆ iPad iPod AppleWatch ห้ามหมด

เอกสารที่เราเตรียมมาด้วย
1. หนังสือเดินทาง Passport (มีเล่มเก่าๆ กี่เล่มเอาไปให้หมด)
2. ใบพิมพ์หน้าสรุปของ DS160
3. บัตรประจำตัวประชาชน Thai ID
4. หนังสือรับรองเงินเดือน/การทำงาน Work Certificate
5. บัญชีเงินได้จาก รายได้/เงินฝาก จากบัญชีธนาคารของเราค่ะ Statement and BookBank
6. รูปถ่ายตามกำหนดการของสถานทูต
7. ใบเสร็จการชำระค่าธรรมเนียมสัมภาษณ์วีซ่า ส่วนที่ธนาคารให้เราเก็บไว้ครึ่งแผ่นอ่ะคะ
8. ใบพิมพ์ระบุวันที่ เวลา การนัดสัมภาษณ์
9. แผนการท่องเที่ยวเดินทาง Traveling Plan ทำเองคร่าวๆ อ่านง่ายสบายตา รู้เรื่องเร็ว
และเอกสารเกี่ยวกับหลักฐานการเป็นอยู่ที่ไทย ที่ใครมีเพิ่มก็สามารถนำไปเผื่อไว้ได้นะคะ ส่วนน้อยมากที่จะขอดู (กรณีไปเรียนอีกเรื่องนึงค่ะ)

เรานัดคิวสัมภาษณ์ไว้เวลา 8.45 น. มาถึงสถานทูต 8.20 น. ตรวจสอบเอกสาร และตรวจวัตถุต้องสงสัยต่างๆ เหมือนจะขึ้นเครื่องบินเลยค่ะ
แต่ละเอียดกว่ามาก ได้เข้าไปในสถานทูต 8.45 น. นั่งรอประมาณ 2 นาที จนท. จะเรียกคิวเวลานี้ XX ถึง XX เชิญช่องนี้ค่ะ เป็นการตรวจเอกสารคร่าวๆ
และแนบโค๊ตไปรษณีย์ที่จะจัดส่ง Passport กลับที่อยู่เรา กรณีผ่านได้รับวีซ่าค่ะ แล้วเข้าไปในอาคารข้างๆ จะต่อคิวเพื่อสแกนลายนิ้วมือสิบนิ้วค่ะ
จนท. จะถามข้อมูลทั่วไปคร่าวๆ แล้วไปต่ออีกช่องเพื่อทดสอบลายนิ้วมือหลังสแกนค่ะ คราวนี้ล่ะ ต่อคิวช่องสัมภาษณ์กับ จนท. ผู้ที่จะลิขิตชะตาชีวิตเรา

พอถึงคิวเราได้เจอ จนท. หน้าตาดีสุดในสามคนที่สัมภาษณ์แระ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เราตื่นเต้นมากกก ใจเต้นแรงตึบตับๆ กลัวเขาหาว่าลุกลี่ลุกลนโกหก
ก็พยามตั้งสติให้มากที่สุดและนิ่งที่สุดค่ะ และเราต้องพูดทุกอย่างตามความจริงนะคะ แล้วก็เดินเข้าไปช่องการสัมภาษณ์ การสนทนาก็เริ่มขึ้น ดังต่อไปนี้

จนท : สวัสดีครับ (เค้าพูดไทยได้ทุกคนค่ะ)
เรา   : สวัสดีค่ะ
จนท : เคยไปอเมริกาไหมครับ?
เรา   : ไม่เคยค่ะ
จนท : จะไปทำอะไรที่นั่นครับ ไปที่ไหนบ้างครับ?
เรา   : อ่อ ไปเที่ยวค่ะ ไปที่เมือง New York City และ Las Vegas ค่ะ
จนท : เคยไปประเทศไหนมาแล้วบ้างครับ?
เรา   : เคยไป Loas, Singapore, Indonesia, Macau, HongKong ค่ะ
จนท : แล้วทำไมกรอกข้อมูลผู้ติดต่อที่ Oklahoma ครับ?
เรา   : อ่อ ข้อมูลญาติเราค่ะ จะแวะไปเยี่ยมญาติด้วย
จนท : เขาทำงานอะไรที่นั่นครับ?
เรา   : He's American Citizen, lived there for 30 years with their family, He's working at American Air Force.
(เผลอพูดอังกฤษไป ไม่ได้อยากโชว์พาวนะคะ เราเป็นคนฟังฝรั่งพูดไทยไม่ชัดมันฟังขัดๆ และเราตอบภาษาไทยกุกกักไม่ลื่นไหลเลย
เพราะตื่นเต้นแล้วกล้วเค้าหาว่าโกหกให้ข้อมูลเท็จ ส่วนตัวเวลาตื่นเต้นจะพูดอังกฤษเร็วปรื๋อเรย เพราะเถียงกับลูกค้าในที่ทำงานบ่อย แฮร่ๆ)
จนท : Who'd pay for your traveling this trip ?
เรา   : Me, by my self. (จนท. ทำหน้างงนิดๆ อาจเพราะไม่เชื่อใจในภูมิฐานเรา เพราะแต่งตัวธรรมดามาก บวกกับหน้าเด็กด้วย นี่คิดเอง)
จนท : Can I see your statement please?
เรา   : Yes, sure. (ดีใจที่อุตส่าห์เตรียมมาด้วย เพราะเสียค่าทำให้ธนาคาร 200 บาทแนะ เงินที่โชว์ในนั้นมีแค่สามแสนกว่าบาทค่ะ)
จนท : Where do you work ?
เรา   : I was working on Intl' company, my position is ... and I've been worked for 2 years
จนท : ... (ทั้งดูข้อมูลและพิมพ์อะไรเรื่อยๆ ที่คอมส่วนตัวของเค้า)
เรา   : Would you like to see my Work Certificate ? (เพื่อเพิ่มความบริสุทธิ์ใจ เลยเสนออยากให้ดู ไหนๆ ก็ขอมาจาก HR แระ)
จนท : Yes, please. (จนท. อ่านดูและพิมพ์ข้อมูลที่คอมของเค้าเรื่อยๆ)
เรา   : You're welcome.
จนท : ... Ok, you'll receive your ID in next 3 days.
เรา   : O.O!!! (อึ้ง ตกใจแบบนิ่งๆ หูไม่ฝาดใช่มั้ย รวบสติ เก็บอาการ แล้วถามต่อสวยๆ ว่า) Any Information ?
จนท : No, thanks. (จริงๆ เราก็ไม่มีเอกสารอื่นๆ อีกหรอก นอกจากที่เตรียมมา ทำเป็นพูดไปงั้น)
เรา   : Ok, Thank you so much...!

หลังจากเสร็จสรรพ บอกลา ก็เดินออกมาอย่าง สง่าผ่าเผย เฉิดฉาย ประดุจได้รับมง 555555
เดินยิ้มออกมาจากประตู คนที่รอคิวสัมภาษณ์มองแระรับรู้เลย อินี่ได้วีซ่าแล้ววว (หรือ อินี่บ้าป่าวว่ะ)

สรุปเอกสารที่ได้ใช้คือ 1, 2, 3, 4, 5. เท่านั้น บัตรประชาชนใช้แค่แลกไว้เพื่อฝากโทรศัพท์มือถือเท่านั้นค่ะ

เราดีใจมากและยิ้มทั้งวันเลย โทรบอกพ่อแม่ญาติพี่น้องทุกคนว่า ผ่าน ได้วีซ่าแระน๊าาา จะได้ไปเที่ยวเดินตามความฝันแร้ว

ก็หลังจากนั้นก็เราได้รับวีซ่าในเล่ม Passport ตรงกับ 3 วันทำการพอดี
D1 วันสัมภาษณ์ D2 วันต่อมาส่งเข้าระบบโปรษณีย์ D3 วันถึงที่อยู่เรา(กทม)ค่ะ

***ประเด็นที่ดีใจที่สุด ได้มา 10 ปี!!! คุณพระ!!! ขอบพระคุณทุกสิ่งทุกอย่างทุกท่าน***
    และทุกคนที่อ่านนะคะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์เช่นกันค่ะ
ชื่อสินค้า:   วีซ่าอเมริกา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่