ศาลาวรรณคดีเกิดขึ้นแล้ว : นิมิตอันดีต่อการเข้าสู่วงวรรณกรรมสากลของไทย / มนตรี อุมะวิชนี

บทความ
"ศาลาวรรณคดีเกิดขึ้นแล้ว :
นิมิตอันดีต่อการเข้าสู่วงวรรณกรรมสากลของไทย"
โดย มนตรี อุมะวิชนี จากหนังสือ "บุรฉัตรานุสรณ์"
(หนังสืออนุสรณ์งานพระทานเพลิงพระศพ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร)
.
นับตั้งแต่รัชกาลที่ ๖ มาจนถึงปัจจุบันได้มีสมาคมและสโมสรเกี่ยวกับวรรณคดีไทยเกิดขึ้นมากมายในรูปของสถาบัน สถาบันเหล่านั้นมีชีวิตอยู่เพียงระยะเวลาสั้นๆ หรือไม่ก็อยู่แต่เพียงในนามเท่านั้น ปัญหาที่ได้ประสบมาก็คือ การแก่งแย่งกันเป็นประธาน รองประธาน เลขาธิการ ฯลฯ เพื่อเกียรติหรือผลประโยชน์อันอาจได้รับจากตำแหน่งเหล่านี้
.
วรรณคดีนั้น ยิ่งกว่ากิจกรรมอื่นใด จะดำรงอยู่ได้ก็แต่โดยที่มีนักเขียน นักแปล และนักวิจารณ์เท่านั้น ดังนั้น เมื่อปัญหาการบริหารเข้าไปเกี่ยวข้องก็มักทำให้เกิดสถานการณ์ที่ผู้เขียนไม่ได้ทำและผู้ทำไม่ได้เขียน ยิ่งในปัจจุบันมีการเดินทางไปประชุมต่างประเทศเกี่ยวกับวรรณกรรมบ่อยๆ ด้วย ความแตกต่างระหว่างผู้บริหารสมาคมกับนักเขียนก็ยิ่งจะมีมากขึ้นทุกที จนในที่สุดวรรณกรรมของไทยจะไม่มีอะไรไปอวดชาวต่างประเทศได้เลย
.
ด้วยตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร จึงได้ทรงริเริ่มวรรณคดีขึ้นมาในรูปของชมรมหรือซาลอง (Salon) ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับวรรณกรรมได้มาพบปะสังสรรค์และตกลงกันเกี่ยวกับการเผยแพร่วรรณคดีของไทยให้เป็นที่รู้จักแก่ชาวโลก
.
ในขั้นต้น พระองค์เจ้าเปรมฯ ได้ทรงเชิญนักแปลที่มีชื่อหลายคน อาทิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ม.ล.ปิ่น มาลากุล คุณจันทร์แจ่ม บุนนาค (“ตุลจันทร์” ผู้แปลสี่แผ่นดิน) ฯลฯ เข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ที่วังของพระองค์ท่าน เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๒๔ ในบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเองของศาลาวรรณคดีไทย
.
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ทรงรับที่จะแปลพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ ๖ เป็นภาษาฝรั่งเศส นอกจากนั้นยังได้มีการตกลงที่จะแปลวรรณคดีชิ้นเอกของไทยเป็นภาษาอังกฤษอีกอย่างน้อย ๒ เรื่อง คือ ไกรทองกับจันทโครพ
.
จุดมุ่งหมายที่สำคัญของศาลาวรรณคดีไทยก็คือ การจัดพิมพ์บทแปลวรรณคดีชิ้นเอกของไทยเป็นภาษาอังกฤษ จากผลงานตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน ทำการรวบรวมบทแปลที่มีอยู่แล้ว และแบ่งงานแปลที่ต้องทำใหม่ให้แก่นักแปลที่เต็มใจและพร้อมที่จะทำงานนี้ หนังสือรวมบทแปลวรรณคดีชิ้นเอกของไทยเล่มหนึ่งคาดว่าทำได้เสร็จภายใน ๒-๓ ปีข้างหน้านี้
.
ความจำเป็นที่จะต้องทำให้วรรณคดีไทยของเราเป็นที่รู้จักทั่วโลก นับวันจะมีมากขึ้นเพราะอย่างน้อยการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของเราดูจะเป็นวิธีเดียวที่จะแก้ภาพพจน์ที่อาจไม่ดีเกี่ยวกับประเทศไทยอย่างมีผล
.
ด้วยเหตุนี้ศาลาวรรณคดีไทยที่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ทรงริเริ่มขึ้นมานี้ จึงเป็นนิมิตอันดีต่อการเข้าสู่วงวรรณกรรมสากลของไทยและการเรียกร้องความยอมรับนับถือต่อวรรณคดีไทยจากชาติอื่นๆ
.
ไม่มีสิ่งใดที่จะอธิบายลักษณะของศาลาวรรณคดีไทยได้ดียิ่งกว่าคำกราบทูลสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ของพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ในวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๒๔ ซึ่งมีข้อความดังต่อไปนี้
.
“ศาลาวรรณคดีไทยที่จะเริ่มในวันนี้ ไม่ใช่สถาบันแต่ประการใด ไม่ใช่สมาคม ไม่ใช่สโมสร ไม่มีผู้ใดเป็นประธาน หรือเลขานุการ หากเป็นการชุมนุมพบปะสังสรรค์ระหว่างมิตรที่ปรารถนาจะส่งเสริมวรรณคดีไทย เพื่อจะปรึกษาหารือกันว่าเราจะกระทำฉันใด วิใดที่จะช่วยกันลงมือแปลวรรณคดีชิ้นเอกของไทยเป็นภาษาต่างประเทศ อาทิเช่น ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และจีน เป็นต้น โดยมิตรศาลาวรรณคดีไทยแต่ละท่านจะรับเลือกวรรณกรรมชิ้นหนึ่งชิ้นใด ไปแปลออกเป็นภาษาหนึ่งภาษาใด โดยแบบการแปลฉบับสมบูรณ์ ฉบับย่อ หรือดัดแปลง และโดยวิธีร่วมมือสองหรือสามคนเป็นคณะ (ทีม) หรือโดยเอกเทศเมื่อเราปรึกษาหารือกันแล้ว อาจจะตกลงได้ว่าใครจะรับแบ่งงานกันอย่างไร”
.
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็มีส่วนร่วมในการเผยแพร่วรรณคดีของไทยด้วย ศาสตราจารย์ประภาศน์ อวยชัย อธิการบดีได้กราบทูลพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร เมื่อคราวเสด็จมาทรงบรรยายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงความสนใจที่จะจัดพิมพ์ผลงานจากศาลาวรรณคดีไทย โดยสำนักพิมพ์ของมหาวิทยาลัย ขณะนี้ (พ.ศ. ๒๕๒๔) สำนักพิมพ์กำลังจัดพิมพ์พระนิพนธ์แปลออกมาในชุดที่ให้ชื่อว่า Thai Classics in Translation by Prem Chaya อันมีไกรทอง ซึ่งจะพิมพ์เสร็จในต้นเดือนธันวาคม ๒๔๒๔ และอีก ๔ เรื่องที่จะพิมพ์ออกมาโดยลำดับคือ พระอภัยมณี ขุนช้างขุนแผน นิราศเมืองแกลง และพระลอ (Magic Lotus) พระนิพนธ์แปลของพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตรจะเป็นเสมือนประทีปส่องทางให้แก่นักแปลวรรณคดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่