สำหรับคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนแล้วต้องการหลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนผมบอกเลยครับว่าข้ามไปได้เลยเพราะบทความนี้ไม่ได้ทำให้คุณร่ำรวยมีอิสรภาพทางการเงินแบบที่หลายๆ คนมาขายฝันให้คุณแล้วสุดท้ายก็เอาเงินคุณไป แต่บทความนี้จะทำให้คุณเพิ่มความมั่นคงในการใช้ชีวิตประจำวันและเป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเต็มภาคภูมิครับ
หลังจากการเรียนรู้และทบทวนสุดท้ายผมก็พบคำตอบของการลงทุนที่แท้จริงที่จะทำให้ชีวิตมั่นคงไม่เดือดร้อนและสนุกกับการลงทุนรวมทั้งได้ผลกำไรตอบแทนกลับมาอย่างเหมาะสมแก่การลงทุน สิ่งที่ผมจะบอกกับคุณเป็นเรื่องง่ายๆ ใครก็สามารถปฏิบัติได้ ผมมีข้อห้ามอยู่แค่ 2 ข้อครับ
1. ห้ามเอาเงินเราให้คนอื่นลงทุน เช่น กองทุนต่างๆ ถ้าตลาดดี ผู้จัดการกองทุนเก่งๆ คุณก็โชคดีไปแต่ถ้าไม่คุณก็มีสิทธิหมดตัวได้สิ่งที่คุณจะได้ก็คือ “พี่ผมขอโทษครับ” เป็นคำกล่าวปลอบใจเวลาคุณหมดตัว
2. ห้ามเอาเงินคนอื่นมาลงทุน เช่นคุณเห็นว่าคุณทำกำไรจากตลาดได้เลยรีบชวน พ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อน คนรัก คนรู้จักมาลงทุนผ่านคุณ กู้ยืมเงิน ในระบบ นอกระบบ ผมบอกเลยครับนอกจากคุณจะหมดตัวแล้วความสัมพันธ์คุณก็จะมีปัญหาด้วย ใช้เงินเราเองครับเรามีเงินเดือน
มาเริ่มที่แนวคิดในการลงทุนก่อนนะครับ เพราะคนเราจะเป็นอย่างไรเริ่มที่ความคิดครับ การที่คุณมีงานประจำหมายความว่าคุณไม่สามารถทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการลงทุนได้ เพราะฉะนั้นให้คุณมองการลงทุนในรูปแบบของเงินฝากครับ ไม่ต้องคาดหวังผลตอบแทนเป็น 100-200 เปอร์เซ็นต์นะครับ เอาแค่ชนะดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ 2 ต่อปี หรือชนะอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 5 ต่อปีได้ก็พอครับ มีขั้นตอนดังนี้ครับ
1. เปิดบัญชีการลงทุน ผมแนะนำให้เปิดบัญชีกับ Broker ที่สามารถนำเงินฝากขั้นต่ำเท่าไรก็ได้และไม่มีค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำเวลาซื้อหรือขายหุ้นครับ (โดยปกติจะอยู่ที่ 50 บาท แต่บาง Broker ก็จะไม่คิดขั้นต่ำครับลองหาดูนะครับ) เวลาเปิดบัญชีแนะนำให้เปิดในงานสัมมนาหรืองานของตลาดหลักทรัพย์ครับเพราะจะเปิดบัญชีง่ายกว่าปกติ และคุณอาจเปิดบัญชี Future ได้ด้วยครับ (แต่บทความนี้ไม่ขอกล่าวถึง Future นะครับ)
2. เมื่อไรที่คุณได้เงินเดือนให้หักเงินส่วนหนึ่งออกมาทันทีครับเช่นคุณอาจจะลงทุน 2-5% ทุกเดือน หรือถ้าไม่มีจริงๆ คุณก็คิดเลยครับอาจเป็นเดือนละ 500-1000 บาทก็ได้ครับ ลองงดเที่ยวสักสัปดาห์คุณก็ได้เงินก้อนนี้แล้วครับ
3. นำเงินที่ได้ไปฝากในบัญชีหุ้นที่คุณทำการเปิดไว้ และห้ามถอนออกมาเด็ดขาดจนกว่าคุณจะได้กำไรที่เหมาะสม ผมแนะนำว่าคุณควรฝากไปเรื่อยๆ จนคุณมีเงินใน Port (ผมขอเรียกบัญชีว่า Port นะครับมาจากคำว่า Portfolio การลงทุน) มากกว่าหรือเท่ากับ 3 เท่าของเงินเดือนคุณหรือฝากต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ปี ซึ่งระหว่างที่สะสมคุณก็จะซื้อขายหุ้นไปด้วยเพื่อให้ได้ผลกำไรกลับมา
4. ใช้เวลาช่วงวันหยุดหางานสัมมนาหรือศึกษาแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับคุณ และทดสอบวิธีการหรือทฤษฎีการลงทุนกับเงินที่คุณมี ห้ามเล่นหุ้นปั่นเด็ดขาดนะครับ (คุณอาจจะไม่รู้จักคำว่าหุ้นปั่น ลองเข้างานสัมมนาสัก 2-3 ครั้งหรือสอบถามคนที่เคยเล่นหุ้นก็ได้ครับ) ผมแนะนำให้คุณหาหุ้นที่มีการปันผลสูง และมีความมั่นคงของบริษัทด้วย ในกรณีที่ราคาไม่เป็นไปตามคาดคุณก็ยังได้ปันผลครับ
5. หาจังหวะที่เหมาะสมในการซื้อหุ้นตัวที่คุณสนใจ ดูเวลาที่ดัชนีลงทั้งตลาดและหุ้นที่คุณสนใจราคาลงมาด้วย หรือใช้ Technical จับจังหวะการซื้อก็ได้ครับ
6. เมือซื้อแล้วคุณมีวิธีการได้กำไรอยู่ 2 แบบ คือ Capital Gain หรือส่วนต่างราคาหุ้น และ ปันผลครับ ผมแนะนำให้คุณหาวิธีทำกำไรทั้ง 2 แบบนะครับ เงินที่ได้จะถูกสะสมมากขึ้นและคุณจะมีเงินในการลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ
7. เมื่อคุณซื้อแล้วราคาลง ผมแนะนำให้ถือไปเรื่อยๆ ครับถ้าคุณเลือกหุ้นดีแล้ว (ไม่ใช่หุ้นปั่น) เนื่องจากนี่คือเงินเก็บสะสมครับคุณจะขายเมื่อได้กำไรเท่านั้น
8. ให้คุณกำหนดผลกำไรที่คุณต้องการเช่น 5-20% ต่อการซื้อหรือขายหุ้น 1 ครั้ง
9. ใน Port ผมแนะนำให้ถือหุ้นไม่เกิน 5 ตัวครับคุณจะได้มีเวลาในการบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม
10. ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ครับ ผมจะแสดงตารางให้คุณดูว่าคุณมีเงินเท่าไรถ้าคุณลงทุนแบบที่ผมบอกเป็นเวลา 2 ปี โดยได้รับผลตอบแทนจากตลาดเฉลี่ยเพียง 1% ต่อเดือน และเงินลงทุนเดือนละ 1,000 บาทครับ
เดือนที่ เงินลงทุน ผลตอบแทน 1 %
1 1000 1,010.00
2 1000 2,030.10
3 1000 3,060.40
4 1000 4,101.01
5 1000 5,152.02
6 1000 6,213.54
7 1000 7,285.67
8 1000 8,368.53
9 1000 9,462.21
10 1000 10,566.83
11 1000 11,682.50
12 1000 12,809.33
13 1000 13,947.42
14 1000 15,096.90
15 1000 16,257.86
16 1000 17,430.44
17 1000 18,614.75
18 1000 19,810.90
19 1000 21,019.00
20 1000 22,239.19
21 1000 23,471.59
22 1000 24,716.30
23 1000 25,973.46
24 1000 27,243.20
ลองมาดูถ้าคุณมีเงินเดือน 30,000 บาท แบบเงินเดือนไม่ขึ้นเลยและเก็บสะสม 5% ต่อเดือนโดยมีผลตอบแทน 5% ต่อเดือน (คุณได้กำไรแค่เดือนละตัวหุ้น)
เดือนที่ เงินลงทุน ผลตอบแทน 5 %
1 1500 1,575.00
2 1500 3,228.75
3 1500 4,965.19
4 1500 6,788.45
5 1500 8,702.87
6 1500 10,713.01
7 1500 12,823.66
8 1500 15,039.85
9 1500 17,366.84
10 1500 19,810.18
11 1500 22,375.69
12 1500 25,069.47
13 1500 27,897.95
14 1500 30,867.85
15 1500 33,986.24
16 1500 37,260.55
17 1500 40,698.58
18 1500 44,308.51
19 1500 48,098.93
20 1500 52,078.88
21 1500 56,257.82
22 1500 60,645.71
23 1500 65,253.00
24 1500 70,090.65
36000
จะเห็นยอดที่คุณสะสมเพียง 36,000 แต่คุณมีรายได้เพิ่มมาอีกเกือบ 100% ลองทำกันดูนะครับ ทั้งหมดอยู่ที่การมีวินัยในการลงทุนเท่านั้นครับ ขอให้มีความสุขในการลงทุนทุกท่านนะครับ
ติดตามความรู้ที่ผมแบ่งปันได้ที่นี่ครับ
https://www.facebook.com/NayTopLevel
วิธีการลงทุนในหุ้นแบบมีประสิทธิภาพของมนุษย์เงินเดือนเพื่อการเริ่มต้น
หลังจากการเรียนรู้และทบทวนสุดท้ายผมก็พบคำตอบของการลงทุนที่แท้จริงที่จะทำให้ชีวิตมั่นคงไม่เดือดร้อนและสนุกกับการลงทุนรวมทั้งได้ผลกำไรตอบแทนกลับมาอย่างเหมาะสมแก่การลงทุน สิ่งที่ผมจะบอกกับคุณเป็นเรื่องง่ายๆ ใครก็สามารถปฏิบัติได้ ผมมีข้อห้ามอยู่แค่ 2 ข้อครับ
1. ห้ามเอาเงินเราให้คนอื่นลงทุน เช่น กองทุนต่างๆ ถ้าตลาดดี ผู้จัดการกองทุนเก่งๆ คุณก็โชคดีไปแต่ถ้าไม่คุณก็มีสิทธิหมดตัวได้สิ่งที่คุณจะได้ก็คือ “พี่ผมขอโทษครับ” เป็นคำกล่าวปลอบใจเวลาคุณหมดตัว
2. ห้ามเอาเงินคนอื่นมาลงทุน เช่นคุณเห็นว่าคุณทำกำไรจากตลาดได้เลยรีบชวน พ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อน คนรัก คนรู้จักมาลงทุนผ่านคุณ กู้ยืมเงิน ในระบบ นอกระบบ ผมบอกเลยครับนอกจากคุณจะหมดตัวแล้วความสัมพันธ์คุณก็จะมีปัญหาด้วย ใช้เงินเราเองครับเรามีเงินเดือน
มาเริ่มที่แนวคิดในการลงทุนก่อนนะครับ เพราะคนเราจะเป็นอย่างไรเริ่มที่ความคิดครับ การที่คุณมีงานประจำหมายความว่าคุณไม่สามารถทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการลงทุนได้ เพราะฉะนั้นให้คุณมองการลงทุนในรูปแบบของเงินฝากครับ ไม่ต้องคาดหวังผลตอบแทนเป็น 100-200 เปอร์เซ็นต์นะครับ เอาแค่ชนะดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ 2 ต่อปี หรือชนะอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 5 ต่อปีได้ก็พอครับ มีขั้นตอนดังนี้ครับ
1. เปิดบัญชีการลงทุน ผมแนะนำให้เปิดบัญชีกับ Broker ที่สามารถนำเงินฝากขั้นต่ำเท่าไรก็ได้และไม่มีค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำเวลาซื้อหรือขายหุ้นครับ (โดยปกติจะอยู่ที่ 50 บาท แต่บาง Broker ก็จะไม่คิดขั้นต่ำครับลองหาดูนะครับ) เวลาเปิดบัญชีแนะนำให้เปิดในงานสัมมนาหรืองานของตลาดหลักทรัพย์ครับเพราะจะเปิดบัญชีง่ายกว่าปกติ และคุณอาจเปิดบัญชี Future ได้ด้วยครับ (แต่บทความนี้ไม่ขอกล่าวถึง Future นะครับ)
2. เมื่อไรที่คุณได้เงินเดือนให้หักเงินส่วนหนึ่งออกมาทันทีครับเช่นคุณอาจจะลงทุน 2-5% ทุกเดือน หรือถ้าไม่มีจริงๆ คุณก็คิดเลยครับอาจเป็นเดือนละ 500-1000 บาทก็ได้ครับ ลองงดเที่ยวสักสัปดาห์คุณก็ได้เงินก้อนนี้แล้วครับ
3. นำเงินที่ได้ไปฝากในบัญชีหุ้นที่คุณทำการเปิดไว้ และห้ามถอนออกมาเด็ดขาดจนกว่าคุณจะได้กำไรที่เหมาะสม ผมแนะนำว่าคุณควรฝากไปเรื่อยๆ จนคุณมีเงินใน Port (ผมขอเรียกบัญชีว่า Port นะครับมาจากคำว่า Portfolio การลงทุน) มากกว่าหรือเท่ากับ 3 เท่าของเงินเดือนคุณหรือฝากต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ปี ซึ่งระหว่างที่สะสมคุณก็จะซื้อขายหุ้นไปด้วยเพื่อให้ได้ผลกำไรกลับมา
4. ใช้เวลาช่วงวันหยุดหางานสัมมนาหรือศึกษาแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับคุณ และทดสอบวิธีการหรือทฤษฎีการลงทุนกับเงินที่คุณมี ห้ามเล่นหุ้นปั่นเด็ดขาดนะครับ (คุณอาจจะไม่รู้จักคำว่าหุ้นปั่น ลองเข้างานสัมมนาสัก 2-3 ครั้งหรือสอบถามคนที่เคยเล่นหุ้นก็ได้ครับ) ผมแนะนำให้คุณหาหุ้นที่มีการปันผลสูง และมีความมั่นคงของบริษัทด้วย ในกรณีที่ราคาไม่เป็นไปตามคาดคุณก็ยังได้ปันผลครับ
5. หาจังหวะที่เหมาะสมในการซื้อหุ้นตัวที่คุณสนใจ ดูเวลาที่ดัชนีลงทั้งตลาดและหุ้นที่คุณสนใจราคาลงมาด้วย หรือใช้ Technical จับจังหวะการซื้อก็ได้ครับ
6. เมือซื้อแล้วคุณมีวิธีการได้กำไรอยู่ 2 แบบ คือ Capital Gain หรือส่วนต่างราคาหุ้น และ ปันผลครับ ผมแนะนำให้คุณหาวิธีทำกำไรทั้ง 2 แบบนะครับ เงินที่ได้จะถูกสะสมมากขึ้นและคุณจะมีเงินในการลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ
7. เมื่อคุณซื้อแล้วราคาลง ผมแนะนำให้ถือไปเรื่อยๆ ครับถ้าคุณเลือกหุ้นดีแล้ว (ไม่ใช่หุ้นปั่น) เนื่องจากนี่คือเงินเก็บสะสมครับคุณจะขายเมื่อได้กำไรเท่านั้น
8. ให้คุณกำหนดผลกำไรที่คุณต้องการเช่น 5-20% ต่อการซื้อหรือขายหุ้น 1 ครั้ง
9. ใน Port ผมแนะนำให้ถือหุ้นไม่เกิน 5 ตัวครับคุณจะได้มีเวลาในการบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม
10. ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ครับ ผมจะแสดงตารางให้คุณดูว่าคุณมีเงินเท่าไรถ้าคุณลงทุนแบบที่ผมบอกเป็นเวลา 2 ปี โดยได้รับผลตอบแทนจากตลาดเฉลี่ยเพียง 1% ต่อเดือน และเงินลงทุนเดือนละ 1,000 บาทครับ
เดือนที่ เงินลงทุน ผลตอบแทน 1 %
1 1000 1,010.00
2 1000 2,030.10
3 1000 3,060.40
4 1000 4,101.01
5 1000 5,152.02
6 1000 6,213.54
7 1000 7,285.67
8 1000 8,368.53
9 1000 9,462.21
10 1000 10,566.83
11 1000 11,682.50
12 1000 12,809.33
13 1000 13,947.42
14 1000 15,096.90
15 1000 16,257.86
16 1000 17,430.44
17 1000 18,614.75
18 1000 19,810.90
19 1000 21,019.00
20 1000 22,239.19
21 1000 23,471.59
22 1000 24,716.30
23 1000 25,973.46
24 1000 27,243.20
ลองมาดูถ้าคุณมีเงินเดือน 30,000 บาท แบบเงินเดือนไม่ขึ้นเลยและเก็บสะสม 5% ต่อเดือนโดยมีผลตอบแทน 5% ต่อเดือน (คุณได้กำไรแค่เดือนละตัวหุ้น)
เดือนที่ เงินลงทุน ผลตอบแทน 5 %
1 1500 1,575.00
2 1500 3,228.75
3 1500 4,965.19
4 1500 6,788.45
5 1500 8,702.87
6 1500 10,713.01
7 1500 12,823.66
8 1500 15,039.85
9 1500 17,366.84
10 1500 19,810.18
11 1500 22,375.69
12 1500 25,069.47
13 1500 27,897.95
14 1500 30,867.85
15 1500 33,986.24
16 1500 37,260.55
17 1500 40,698.58
18 1500 44,308.51
19 1500 48,098.93
20 1500 52,078.88
21 1500 56,257.82
22 1500 60,645.71
23 1500 65,253.00
24 1500 70,090.65
36000
จะเห็นยอดที่คุณสะสมเพียง 36,000 แต่คุณมีรายได้เพิ่มมาอีกเกือบ 100% ลองทำกันดูนะครับ ทั้งหมดอยู่ที่การมีวินัยในการลงทุนเท่านั้นครับ ขอให้มีความสุขในการลงทุนทุกท่านนะครับ
ติดตามความรู้ที่ผมแบ่งปันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/NayTopLevel