หลังจากอ่านหลายๆปัญหาของหลายคนเราพยายามคิดว่าปัญหาเราเล็ก แต่ป่าวเลยมันเป็นปัญหาที่สะสมที่เราอึดอัด อัดอั้นมาตลอด เรากับสามีแต่งงานมาสองปีกว่า เราคบกันมา 9 ปีและตัดสินใจแต่งงาน ของสาธยายยาวหน่อยนะค่ะเพราะอึดอัดมากอยากระบายตอนเราคบกับแฟนแม่แฟนก็ไม่ค่อยชอบด้วยเหตุผลว่าครอบครัวไม่มีหน้าตาทางสังคมเหมือนเขา แฟนเราเคยทะเลาะกับแม่ถึงขั้นที่ว่าให้เลือกระหว่างแม่กับเราเลยทีเดียว เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนสมัยเป็นแฟนกันค่ะ หลังจากนั้นท่านทำยังไงเรากับแฟนก็ไม่เลิกกันหาลูกสาวเพื่อนที่เป็นหมอเป็นพยาบาลมาให้แฟนเราดูก็มี ตอนนั้นแฟนเราเริ่มเรียนป.เอกแล้ว แต่แฟนเราไม่สนใจเขามีอะไรจะเล่าเราทุกอย่าง พ่อแม่เราก็ไม่พอใจที่แม่แฟนเรารังเกียจเราแต่ท่านก็ไม่พูดอะไรเพราะแฟนเราเป็นคนดี ไปมาหาสู่พ่อแม่เราตลอดเรียกได้ว่าสนิทใจที่จะเล่าปัญหาปรึกษาพ่อแม่เรามากกว่าพ่อแม่เขา พอแฟนเราใกล้เรียนจบบวกกับที่บ้านเขาเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินเพราะโดนโกงเรื่องธุรกิจ พ่อเราก็ยื่นมือไปช่วยเล็กๆน้อยๆให้พอประคองได้ จนมันผ่านไปได้ แฟนเราก็พาเราไปเจอกับแม่เขาบ่อยขึ้นพาไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันเพื่อได้เรียนรู้นิสัยกัน เพราะยิ่งห่างยิ่งไม่เข้าใจ จากที่ท่านคิดว่าเราเป็นคนจัดจ้านกร้านโลกก็รู้ว่าเราเป็นคนเฉยๆออกแนวเงียบๆ ไม่สังคมจัด ท่านตัดสินจากการทำสีผมว่าเราทำสีผมแรงๆใส่ชุดสั้นๆ(สั้นเหนือเข่า) พอได้สัมผัสก็รู้นิสัยกันเร่มจูนเข้าหากันเข้าใจกัน จบปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ จนถึงวันแต่งงานต้องบอกเลยว่าเราไม่มีส่วนร่วมในการเก็บเงินแต่งงานกับแฟนเราเลย แฟนเราเก็บเองทั้งหมด แฟนเราไปคุยกับแม่เขาว่าเขาจะพร้อมจะแต่งงานละนะมีเงินเก็บแล้วอยากสร้างครอบครัวแล้ว ท่านก็ไม่ว่าอะไรไม่ว่าอะไรจริงๆค่ะไม่มีการมาพูดคุยสู่ขอกับพ่อแม่เราเลย แฟนเราเป็นคนมาพูดกับพ่อแม่เราเอง พ่อแม่เราก็ไม่ว่าอะไรพยายามเข้าใจเพราะลูกรักกันไม่อยากให้ลูกไม่สบายใจ แม่เราบอกสินสอดแล้วแต่แฟนเราจะใส่มาแต่ใส่มาแล้วคือแม่ส่วนจัดงานแม่ก็ให้ติดต่อเวดดิ้งเอาเอง ซองแม่เราก็จะไม่เอา ให้ลูกๆไปจัดการเคลียร์งาน แฟนเราก็ใส่เงินสดห้าแสน ทองสิบบาท ค่ามัดจำเวดดิ้งสองแสน ค่าชุดแต่งงานเช้าเย็นงบแสรนึง ถ่ายพรีแสนนึง จบที่ทุกอย่างแฟนเราออกหมด จนมาถึงก่อนวันงานแม่แฟนก็ถามว่าใส่ไปเท่าไหร่ แฟนก็บอกว่าใส่ไปห้าแสน แม่แฟนเลยใส่เพิ่มมาอีกห้าแสนกับทองอีกสิบบาท (แต่จบงานเงินกับทองที่แม่แฟนเราใส่มาคือแม่แฟนเราเอากลับ) งานที่จัดก็ถือว่าค่อนข้างใหญ่เพราะทางฝ่ายแฟนเราแขกพันกว่สไปแล้วส่วนทางเราแค่ไม่กี่ร้อยคน จบงานแต่งจ่ายเงินเวดดิ้งส่วนต่างไปแปดแสนกว่าบาท แม่แฟนเราก็ถามว่าแล้วแม่เราไม่คืนเงินสินสอดบ้างหรอ เราอึ้งค่ะ บอกตรงๆหน้าชาเลย คือเอาแบบตรงๆนะค่ะเราแต่งงานแม่แฟนไม่ช่วยค่าอะไรสักสตางค์แดงเดียวค่ะ แต่เลือกสถานที่เอง เลือกการ์ดเอง เลือกของชำร่วยเอง เน้นราคาแพงทั้งนั้น ตอนเราแต่งงานเรากับแฟนก็ไม่ได้ซื้อบ้านนะค่ะ แต่ไปอยู่บ้านของป้าแฟนที่ซื้อให้เขาเช่าเราก็จ่ายค่าเช่าให้ป้าทุกเดือน หลังแต่งงานแฟนเราอยากมีลูกมากก็ให้เราออกจากงานเพื่อเป็นแม่บ้านเต็มตัว เราก็โอเคเพราะอายุก็ไม่สช่น้อยๆแล้วจึงลาออกจากงาน แต่ชะตาไม่เข้าข้างเราค่ะเราตรวจเจอเนื้องอกที่มดลูกมีลูกไม่ได้ถ้าไม่ผ่าตัดเอาเนื้องอกออกก่อน แม่แฟนเรามารู้ตอนที่เราจะไปผ่าตัดแล้วท่านก็บอกเอาตังส์ไหนจ่ายเห็นว่าประกันที่ทำไว้ไม่จ่าย แม่ไม่มีช่วยหรอกนะเงินเยอะแยะ แฟนเราก็บอกเตรียมไว้แล้ว
เล่ามาถึงจุดนี้คือแฟนเราไม่ได้บอกแม่เขาว่าจะมีลูกแล้วนะ คือแต่งงานแล้วไม่จำเป็นต้องบอก หลังผ่าตดเสร็จประมาณปีกว่าเราก็ท้อง คำพูดที่ได้จากแม่แฟนเราคือ "ทำไมไม่ป้องกันให้ดีปล่อยให้ท้องได้ยังไง"
เราอึ้งและตัวชาวูบไปเลยกับคำพูดนั้น หลังจากนั้นแม่แฟนให้เราไปอยู่ที่บ้านท่านเพื่อได้ประหยัดไปห้าพันค่าเช่าบ้าน แต่อยู่ได้แค่เดือนเดียวแฟนเราทนอยู่ไม่ได้เพราะเขาทำงานในเมืองและไปทำงานตอนตีสี่เลิกบ่ายสอง ขับรถไปกลับเป็นร้อยกิโลมีหลับใน เลยตัดสินใจมาอยู่บ้านพ่อแม่เราในตัวเมือง แม่แฟนก็ไม่พอใจเพราะคิดว่าคนอื่นจะดูถูกเลยให้แฟนเราทำเรื่องซื้อบ้าน หลังจากนั้นไม่นานก่อนเรื่องซื้อบ้านจะเสร็จเราแท้งลูก ความเสียใจเกินจะบรรยายเพราะเรารอเขามาตลอด แม่แฟนเรามาเยี่ยมก็ไม่พูดอะไรมาก แต่พอแม่เราออกไปข้างนอกแกพูดกับแฟนต่อหน้าเราเลย "ดีแล้วที่แท้งเพราะถ้าเกิดมาจะเลี้ยงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ยังไงกับเงินแค่นี้" เราร้องไห้เสียใจหนักมากกับคำพูดนั้นทะเลาะกับแหนถึงขั้นขอหย่าเราทนอะไรมาเนี่ย นั้นลูกเราหลานคุณนะ แต่แฟนเราไม่ยอมและบอกจะไปอยู่จังหวัดอื่นกันเขาขอเลือกครอบครัวสร้างครอบครัวของเขาเอง เราเลยเห็นใจเขาไม่ไปอยู่ที่อื่น อยู่ใกล้พ่อแม่เขาพ่อแม่เราจะได้ดูแลยามเจ็บป่วย จนตอนนี้ผ่านมาปีกว่าคำพูดคำเดิมก็คืออย่ามีลูกตอนนี้เพราะยังไม่พร้อม มีตอนสี่สิบก็ได้หมอเดี๋ยวนี้เก่งจะตาย
ตอนนี้เรายังเป็นแม่บ้านไม่ได้ทำงานอะไรเพราะตั้งแต่แท้งลูกไปร่างกายเราไม่แข็งแรงแฟนเลยให้อยู่บ้าน แฟนเราเงินเดือน +90k
รายจ่าย
-30000×10 ปี ค่าผ่อนบ้าน
-10000 ให้แม่แฟน (เงินเดือนแม่แฟน 48k อาชีพหลักคือรับราชการทั้งพ่อและแม่และทำธุรกิจปั้มแก๊ส)
-13000 เก็บเป็นค่าประกันออมทรัพย์ของกรมธรรม์ ปลายปีจะได้ไม่ต้องหาเอาเงินก้อนไปจ่าย
-5000 เก็บออมจ่ายประกันชีวิตเรากับแฟนไม่ต้องหาเงินก้อนไปจ่ายอีกเช่นกัน
-10000 เงินเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
- 12000 ค่าจิปาถะต่างๆ ค่าน้ำมัน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์
-30000 คือเงินที่เรากับแฟนจะใช้ร่วมกันทั้งเดือน (แฟนเราทำงานเกี่ยวกับพลังงานจะทำเดือนหยุดเดือน เดือนที่เขาทำงานคือสามหมื่นเราก็จ่ายไม่หมดเราจะเก็บไว้ในบัญชีแยกออกำปเผื่ออยากไปเที่ยวต่างจังหวัดอะไรประมาณนี้) ถ้าจะไปต่างประเทศคือก็จะเก็บเงินโบนัสทุกๆสามเดือนที่ได้มาแล้วไปปีละครั้ง ส่วนเงินค่าออฟชอร์ในกรณีที่แฟนเราต้องลงแท่นเจาะเราก็จะเก็บไว้ในส่วนของเงินเก็บ
และปัญหาสำคัญตอนนี้คือแม่แฟนเรากำลังจะเกษียรท่านเลยขอค่ารายเดือนเพิ่มจากหมื่นนึงเป็นสองหมื่นเพราะจะมีเงินค่าตำแหน่งที่จะหายไป เราก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมาก รู้แค่ว่าขอเงินเพิ่มโดยไม่คิดว่าเรากับแฟนอยากจะสร้างครอบครัวที่ดีอยากมีลูก แฟนเราก็บอกให้แม่ได้นะในส่วนที่แม่ต้องการแต่ช่วยเลิกห้ามเรื่องลูก แต่แม่เขากับพูดว่าแกเลี้ยงแม่ยังไม่ดีเลยมีลูกจะเลี้ยงลูกมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ยังไงกับเงินเดือนแค่นี้ ถ้าแกมีเงินเดิน+120k แล้วค่อยมาพูดเรื่องหลาน คือเราตรรกะน้อยไปสำหรับการเลี้ยงลูกคนนึงมันต้องใช้ต้นทุนเยอะมากมายขนาดไหน รึเงินมันน้อยไปจริงๆเราแค่มโนเอาเองว่าเราพร้อมแล้ว เราแค่คิดว่ากว่าลูกจะเข้ามัธยมเดือนนึงคงยังไม่ถึง30000 เพราะเราผ่อนบ้านหมดเราก็มีเงินเพิ่มมาอีก30000 เราไม่เข้าใจว่าแม่สามีเราคิดว่าเราต้องเลี้ยงลูกแบบไหนหรอถึงจะดีที่สุด เราจะเอาชีวิตครอบครัวเราไปเปรียบเทียบกับใคร เราจะชนะใคร แฟนเราเขาอยากมีลูกโดยไม่แคร์คำะูดแม่เขาแล้ว ณ ตอนนี้ แต่สำหรับเราเราเป็นสะใภ้ แม่เขา พี่สาวเขา พร้อมจะตำหนิติเตียนเราตลอดเวลา เราทะเลาะจะหย่าหบายต่อหบายครั้งแต่แฟนเราไม่ยอมเขาบอกเราตัดช่องน้อยแต่พอตัว แต่เราอึดอัดเราต้องทนอยู่กับภาวะของคำว่าเงินไม่พร้อมมีลูก ทุกอย่างมีเงินเป็นตัวกำหนดซึ่งเราเหนื่อยมาก
ขอบคุณที่คุณหลายคนอ่านยาวจนจบ เรื่องอาจจะวกไปวนมาบ้าง และใครมีประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกช่วยบอกเราหน่อนค่ะว่าตั้งแต่แรกเกิดจนถึงสิบขวบคุณใช้ต่อเดือนสำหรับลูกเดือนละเท่าไหร่ เผื่อบางทีตรรกะเราอาจจะน้อยไปจริงๆ
แม่สามีเรียกร้องเงินจากสามีมากเกินกำลังโดนสั่งห้ามมีลูกหากเงินเดือนไม่มากตามที่ต้องการ
เล่ามาถึงจุดนี้คือแฟนเราไม่ได้บอกแม่เขาว่าจะมีลูกแล้วนะ คือแต่งงานแล้วไม่จำเป็นต้องบอก หลังผ่าตดเสร็จประมาณปีกว่าเราก็ท้อง คำพูดที่ได้จากแม่แฟนเราคือ "ทำไมไม่ป้องกันให้ดีปล่อยให้ท้องได้ยังไง"
เราอึ้งและตัวชาวูบไปเลยกับคำพูดนั้น หลังจากนั้นแม่แฟนให้เราไปอยู่ที่บ้านท่านเพื่อได้ประหยัดไปห้าพันค่าเช่าบ้าน แต่อยู่ได้แค่เดือนเดียวแฟนเราทนอยู่ไม่ได้เพราะเขาทำงานในเมืองและไปทำงานตอนตีสี่เลิกบ่ายสอง ขับรถไปกลับเป็นร้อยกิโลมีหลับใน เลยตัดสินใจมาอยู่บ้านพ่อแม่เราในตัวเมือง แม่แฟนก็ไม่พอใจเพราะคิดว่าคนอื่นจะดูถูกเลยให้แฟนเราทำเรื่องซื้อบ้าน หลังจากนั้นไม่นานก่อนเรื่องซื้อบ้านจะเสร็จเราแท้งลูก ความเสียใจเกินจะบรรยายเพราะเรารอเขามาตลอด แม่แฟนเรามาเยี่ยมก็ไม่พูดอะไรมาก แต่พอแม่เราออกไปข้างนอกแกพูดกับแฟนต่อหน้าเราเลย "ดีแล้วที่แท้งเพราะถ้าเกิดมาจะเลี้ยงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ยังไงกับเงินแค่นี้" เราร้องไห้เสียใจหนักมากกับคำพูดนั้นทะเลาะกับแหนถึงขั้นขอหย่าเราทนอะไรมาเนี่ย นั้นลูกเราหลานคุณนะ แต่แฟนเราไม่ยอมและบอกจะไปอยู่จังหวัดอื่นกันเขาขอเลือกครอบครัวสร้างครอบครัวของเขาเอง เราเลยเห็นใจเขาไม่ไปอยู่ที่อื่น อยู่ใกล้พ่อแม่เขาพ่อแม่เราจะได้ดูแลยามเจ็บป่วย จนตอนนี้ผ่านมาปีกว่าคำพูดคำเดิมก็คืออย่ามีลูกตอนนี้เพราะยังไม่พร้อม มีตอนสี่สิบก็ได้หมอเดี๋ยวนี้เก่งจะตาย
ตอนนี้เรายังเป็นแม่บ้านไม่ได้ทำงานอะไรเพราะตั้งแต่แท้งลูกไปร่างกายเราไม่แข็งแรงแฟนเลยให้อยู่บ้าน แฟนเราเงินเดือน +90k
รายจ่าย
-30000×10 ปี ค่าผ่อนบ้าน
-10000 ให้แม่แฟน (เงินเดือนแม่แฟน 48k อาชีพหลักคือรับราชการทั้งพ่อและแม่และทำธุรกิจปั้มแก๊ส)
-13000 เก็บเป็นค่าประกันออมทรัพย์ของกรมธรรม์ ปลายปีจะได้ไม่ต้องหาเอาเงินก้อนไปจ่าย
-5000 เก็บออมจ่ายประกันชีวิตเรากับแฟนไม่ต้องหาเงินก้อนไปจ่ายอีกเช่นกัน
-10000 เงินเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
- 12000 ค่าจิปาถะต่างๆ ค่าน้ำมัน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์
-30000 คือเงินที่เรากับแฟนจะใช้ร่วมกันทั้งเดือน (แฟนเราทำงานเกี่ยวกับพลังงานจะทำเดือนหยุดเดือน เดือนที่เขาทำงานคือสามหมื่นเราก็จ่ายไม่หมดเราจะเก็บไว้ในบัญชีแยกออกำปเผื่ออยากไปเที่ยวต่างจังหวัดอะไรประมาณนี้) ถ้าจะไปต่างประเทศคือก็จะเก็บเงินโบนัสทุกๆสามเดือนที่ได้มาแล้วไปปีละครั้ง ส่วนเงินค่าออฟชอร์ในกรณีที่แฟนเราต้องลงแท่นเจาะเราก็จะเก็บไว้ในส่วนของเงินเก็บ
และปัญหาสำคัญตอนนี้คือแม่แฟนเรากำลังจะเกษียรท่านเลยขอค่ารายเดือนเพิ่มจากหมื่นนึงเป็นสองหมื่นเพราะจะมีเงินค่าตำแหน่งที่จะหายไป เราก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมาก รู้แค่ว่าขอเงินเพิ่มโดยไม่คิดว่าเรากับแฟนอยากจะสร้างครอบครัวที่ดีอยากมีลูก แฟนเราก็บอกให้แม่ได้นะในส่วนที่แม่ต้องการแต่ช่วยเลิกห้ามเรื่องลูก แต่แม่เขากับพูดว่าแกเลี้ยงแม่ยังไม่ดีเลยมีลูกจะเลี้ยงลูกมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ยังไงกับเงินเดือนแค่นี้ ถ้าแกมีเงินเดิน+120k แล้วค่อยมาพูดเรื่องหลาน คือเราตรรกะน้อยไปสำหรับการเลี้ยงลูกคนนึงมันต้องใช้ต้นทุนเยอะมากมายขนาดไหน รึเงินมันน้อยไปจริงๆเราแค่มโนเอาเองว่าเราพร้อมแล้ว เราแค่คิดว่ากว่าลูกจะเข้ามัธยมเดือนนึงคงยังไม่ถึง30000 เพราะเราผ่อนบ้านหมดเราก็มีเงินเพิ่มมาอีก30000 เราไม่เข้าใจว่าแม่สามีเราคิดว่าเราต้องเลี้ยงลูกแบบไหนหรอถึงจะดีที่สุด เราจะเอาชีวิตครอบครัวเราไปเปรียบเทียบกับใคร เราจะชนะใคร แฟนเราเขาอยากมีลูกโดยไม่แคร์คำะูดแม่เขาแล้ว ณ ตอนนี้ แต่สำหรับเราเราเป็นสะใภ้ แม่เขา พี่สาวเขา พร้อมจะตำหนิติเตียนเราตลอดเวลา เราทะเลาะจะหย่าหบายต่อหบายครั้งแต่แฟนเราไม่ยอมเขาบอกเราตัดช่องน้อยแต่พอตัว แต่เราอึดอัดเราต้องทนอยู่กับภาวะของคำว่าเงินไม่พร้อมมีลูก ทุกอย่างมีเงินเป็นตัวกำหนดซึ่งเราเหนื่อยมาก
ขอบคุณที่คุณหลายคนอ่านยาวจนจบ เรื่องอาจจะวกไปวนมาบ้าง และใครมีประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกช่วยบอกเราหน่อนค่ะว่าตั้งแต่แรกเกิดจนถึงสิบขวบคุณใช้ต่อเดือนสำหรับลูกเดือนละเท่าไหร่ เผื่อบางทีตรรกะเราอาจจะน้อยไปจริงๆ