(ถ่ายภาพ) แม่ ... มองมุมไหน เวลาไหน ก็อมยิ้มได้เสมอ

การกลับบ้านครั้งนี้เป็นการลากลับในช่วงวันแม่ครับ พร้อมกับกล้อง SONY A5100
ที่พึ่งถอยออกมาใหม่ สดๆ หมาดๆ เลยถือโอกาสมาถ่ายรูปแม่ ผู้ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของผม

ทั้งแอบถ่ายและตั้งใจถ่าย ในหลายๆ อิริยาบถ ในช่วงเวลาที่จับกล้อง แม่ก็เป็นนางแบบที่น่ารัก
ดูเหมือนจะอิดออดทุกครั้ง แต่ก็ได้ภาพออกมาสวยทุกภาพ

ภาพเหล่านี้เป็นกำลังใจที่ดีที่สุดในการทำงาน ทุกครั้งที่ล้า ที่เหนื่อย หรือท้อแท้
ภาพเหล่านี้จะกระซิบบอกผมเสมอว่า....สู้ๆๆ นะ

ปล.ภาพชุดนี้ย้ำเตือนและทำให้ผมตระหนักว่าแม่เข้าสู้วัยผู้สูงอายุแล้ว
ผมเริ่มสีดอกเลา ใบหน้าที่แบ่งปันรอยยิ้มทุกครั้ง ก็จะปรากฎร่องรอยบนใบหน้า
ซึ่งความผ่านร้อนผ่านหนาวที่ยาวนานของแม่
ถึงเวลาแล้ว ที่ผมต้องรีบกลับไปทำหน้าที่ของลูก ให้สมบูรณ์แบบแล้วสินะ


เช้าวันแม่ 12 สิงหาคม 2558 ผมเดินทางถึงบ้านตอนราวๆ 8 โมงเช้า ถือว่าเป็นการเดินทางกลับบ้าน
ที่เร็วสุดเพราะ นั่งรถต่อเดียว แต่ต้องออกมารอที่ บขส กลางดึก เพราะเป็นรถทัวร์ที่มาจาก กทม.
พอดีผ่านสารคาม ก็เลยแวะขึ้น แล้วก็มาสว่างที่บ้านพอดีครับ

กลับมาถึงบ้าน อาบน้ำอาบท่าเสร็จ แม่เตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้วครับ
หลังทานข้าวเสร็จผมก็เอาใกล้ตัวใหม่ของผมออกมาทดสอบ
วันนี้อากาศดูมากครับ ฝนตกปรอยๆ นอนไกวเปลบนกระท่อม
อะไรมันจะบรรยากาศดีขนาดนี้ เราจึงเริ่มส่องกล้องหานางแบบ


นางแบบกำลังสงสัย คงมองดูว่าเรากำลังทำอะไร อยู่


กำลังคิดอยู่ในใจว่าถ่ายรูปแน่ๆ เลย ต่อมาก็คงนึกว่า จะ Ac ท่าดีไหม


ผมเลยเปลี่ยนมุมไปถ่ายจักรยานประจำตัวของแม่ คันที่แม่ใช้ปั่นไปไหนมาไหนตลอด
คันนี้แม่เลือกเองเลยโดยให้เหตุผลว่า "จะถูกหรือแพง สีแดงไว้ก่อน"


ผมเลยหันกลับมาถ่ายอีกครั้ง โดยแม่ยังไม่ทันตั้งตัว


แม่กำลังงง และสงสัยหนักขึ้นมาทำอะไรหรอ


ผมเลยบอกว่าไหน...ยิ้มหวานซิ เลยได้ภาพตามที่เห็น


พอรู้ว่าผมกำลังถ่ายภาพตัวเอง เลยหยิบแว่นตาที่พังในกระกร้าหมากพลูมาใส่
เหลือแต่กรอบแว่นขึ้นมาใส่ให้ผมถ่าย โดยผมไม่ต้องบอกเลยสักคำ


วันนี้เป็นวันที่อากาศดีมาก ผมก็ยังนอนบนแปล กดถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ
โดยที่คุณแม่กำลังทำเมนูอร่อย ของชอบลูกให้ทาน นั่นก็คือ น้ำพริก กับ ต้มหน่อไม้ // ควันโขมง โฉงเฉงเชียว


ข้างบนนั้น เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ที่แม่จัดเรียงเอง เป็นอุปกรณ์การทอผ้าและหากินในอดีต
ซึ่งปัจจุบันก็ไม่ได้ใช้งานแล้ว มีบางคนจะเผาทิ้งแม่เลยขอมาเก็บไว้


ต้มหน่อไม้ไว้แล้ว ก็ได้เวลาทำกิจกรรมอดิเรก นั่นก็คือ นอนเว็น
ตอนนี้กำลังกางร่มไปเอาอุปกรณ์ประกอบกิจกรรมงานอดิเรกจากบ้านมากระท่อม
ฝนก็ตกไม่หยุด บรรยากาศน่านอนมาก ที่สำคัญหมอนอีกใบนั้นเอามาเผื่อลูกชาย


เราเห็นร่มสวยดี เลยบอกว่า ไหน แม่กางร่มสวยๆ ทำท่าเหมือนนางงามหน่อย


ผ่านไปชั่วไม่กี่อึดใจ คุณแม่ของผมก็หลับไหล สู่ภวังค์ ผมก็เลยต้องหลับตามๆ กันไป


ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ที่ขาดไม่ได้คือข้าวเหนียว ผมจะชอบเอาหน้าไปอังตอนส่ายข้าว
เหมือนกับเราได้ทำสปา ซาวน่า อะไรประมาณนั้น และที่สำคัญเราจะได้กลิ่นหอมแบบว่า ชื่นใจ


จริงๆ ข้าวมันร้อนนะครับ ถ้าใครเคยส่ายข้าว จะรู้ แต่มีเทคนิคครับ มาหาแม่ผมนะ
ท่านจะสอนเทคนิคให้ เอาไว้นึ่งข้าวทานเอง


เช้าตรู่ของวันศุกร์ ที่ ๑๔  เป็นวันศีลใหญ่ หรือวันพระนั่นเอง แม่ก็พาผมลงไปทำบุญตักบาตรที่วัด
เพราะวันปกติพระจะออกบิณฑบาตมาที่หน้าบ้าน แต่ถ้าวันพระ เราต้องลงไปวัด


ยังจำได้ขึ้นใจ แม่จะบอกว่า ก่อนตักบาตร ให้กล่าวว่า "ข้าวข้าพเจ้าขาวดังดอกบัว ยกขึ้นเหนือหัว
ถวายต่อพระสงฆ์ จิตใจจำนงค์ต่อนิพพาน มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ"
โชคลาภร่ำรวย เจริญในหน้าที่การงาน สาธุ


ระหว่างรอคนอื่นตักบาตร เก็บภาพชัดหน้า เบลอหลัง


ตักบาตรเสร็จ จะมีการให้พร ก็จะกรวดน้ำในขัน พอเสร็จเราก็จะเอาขันน้ำกรด ลงมาเทใส่ต้นไม้ให้
หรือ ตามที่ต้องการ เพื่ออธิฐานให้ปลายทางมารับเอา แม่ก็เลือกมาเทตรง เจดีย์ของพ่อ
พอจะกรวดน้ำก็มีการบูรณะ ถากถางก่อน // แบบนี้สิเขาเรียกกว่ารักกันจริง มิเสื่อมคลาย


กรวดน้ำ ให้บรรพบุรุษ ผู้ล่วงลับ เจ้ากรรมนายเวร เทวดา มาร พรหม มนุษย์ อมนุษย์


นี่แหละพ่อผมครับ ท่านจากไป ตั้งแต่นานแล้ว ก่อนผมรับปริญญาของสัปดาห์
ผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคิดถึงแก


ข้างๆ ที่กรวดน้ำ มีนกรวมตัวกัน เลยกดชัตเตอร์ แต่ไม่ทันฝูงใหญ่


กลับจากวัด เราก็ออกไปนากันครับ วันนี้หลานออกมาด้วย เป็นลูกของลูกของน้องชายพ่อ ครับ
// หลานตัวเองก็มีแล้ว สามคนแต่เขาอยู่กับฝั่งตายายครับ


อันนี้หน้าขาวไม่ใช่อะไรนะ เป็นเทคนิคการแต่งหน้าก่อนลงนา


พี่เขยผมกำลังตัดปลายข้าว เป็นเทคนิคที่พึ่งลองปีแรก เขาบอกว่า ข้าวจะไม่ล้ม
รวงข้าวจะใหญ่ แต่ที่เห็นลิบๆ นั้น แม่กำลังถางโพน จะปลูก ผักสวนครัว


ตอนแรกแม่ก็ถางพอได้ปลูก ผมเห็นว่าเหมาะกับการทำที่นั่งเล่น เลยจัดการซะเกลี้ยง รอดูภาพหลังๆ นะครับ


พักเที่ยง คลายเหนื่อย ด้วยสะละลอยแก้ว ที่ผมซื้อมาจากจันทบุรี


อันนี้ก็อุ้มหลานคนอื่นอีกแล้วครับ ไม่มีหลานเป็นของตัวเอง


ไม่ใช่เก็บภาพอย่างเดียวนะครับ เก็บภาพแป๊บเดียว จากนั้นก็ผันตัวเป็นชาวไร่
ทำเป้นทุกอย่างนะครับ ถอนกล้า ดำนา เกี่ยวข้าว


ที่คือผลงาน ในที่สุดก็ได้ "พิชิตโพน ต้นขาม"

รักแม่นะครับ ผมกลับไปทำงานก่อนนะ อาทิตย์หน้าเจอกัน ^___^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่