#ใครเคยมีปัญหากับแม่แฟนบ้างคะ ?

สวัสดีคะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆพันทิพ
เราขอเข้าเรื่องเลยนะคะ ตอนนี้เราอายุ25 แฟนเราอายุ27 เรามีแผนจะแต่งงานกันปลายปีนี้ เรากับแฟนสองคนรักกันดีคบกันมา4ปี ไม่เคยมีปัญหากัน มีบ้างเล็กน้อย งอนกันนิดหน่อยประมาณนั้น เราสองคนไม่เคยมีปัญหาใหญ่ๆกันเลย  
จนกระทั่งเราย้ายเข้ามาอยู่บ้านแฟนปลายปีที่แล้ว คือเข้ามาอยู่แบบพ่อแม่ทั้ง2ฝ่ายรับรู้นะคะ เพราะว่าเรากำลังจะแต่งงานกัน เราอยู่มาสักพักก็เริ่มรู้สึกแปลกๆคะ คือมันก็ไม่ใช่บ้านเราด้วยก็คงเป็นธรรมดามั้งคะตอนแรกก็คิดแบบนั้น จนตอนนี้เราเริ่มอึดอัดคะ แม่แฟนเราเป็นคนจู้จี้คะ ขี้บ่นมากถึงมากที่สุด(เราไม่ได้ว่ายะคะแต่เป็นแบบนั้นจริงๆ) ทุกเช้า6โมงแม่จะไปจ่ายตลาดคะเราก็ตื่นไปด้วยทุกวันนะ(ปกติอยู่บ้านตัวเองนี่ตื่นกี่โมงก็ได้ พ่อแม่ไม่เคยบ่นเพราะเข้าใจว่าเราทำงานเหนื่อย)เราก็พยายามปรับตัวทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำ เราต้องกว่ดบ้านทุกเช้าบ้านทั้งหลังกวาดคนเดียวนะคะ ตอนแรกๆมาอยู่นี่กวาดกันทั้งบ้านคะ ทั้งแฟน ทั้งแม่ ทั้งน้องสาว นานไปเหลือเราคนเดียวแต่ก็ไม่เป็นไรคะสีทนได้ ทุกเช้าเราจะต้องหุงข้าวทำกับข้าวให้แฟนเราทานตอนเช้าก่อนไปทำงาน บางวันแม่ก็จะเป็นคนทำกับข้าว แต่เราจะเป็นคนหุงข้าวทุกวัน บางวันที่แม่ทำกับข้าวแล้วเราลืมเข้าไปหุงข้าวแม่จะไม่คุยกับเราทั้งวัน แถมกระแนะกระแหนเราอยู่นั่น(ทั้งๆที่ตอนอยู่บ้านพ่อจะเป็นคนเตรียมกับข้าวให้ทุกวันมาตั้งแต่สมัยเรียนเลย) แม่ชอบพูดว่าสมัยสาวๆนี่ต้องขยันตื่นแต่เช้าทำนู่นทำนี่ตระกูลนี้ไม่ชอบคนขี้เกียจมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าคือลากไปนู่นเลยคะบรรพบุรุษก็มา แต่ที่เราเห็นนะคะแฟนเรานี่ก็ไม่ได้ขยันขนาดนั้น ยิ่งน้องสาวนี่ยิ่งไปกันใหญ่เลยนอนตื่น10โมง งานบ้านไม่เคยทำ เราเห็นน้องสาวจับไม่กวาดครั้งล่าสุดเมื่อไหร่นี่จำไม่ได้แล้ว ไม่ถูพื้นนี่ลืมไปได้เลยไม่เคยเห็น กินข้าวกันทีเราก็เป็นคนล้างจานตลอดเข้าครัวน้องก็ไม่เคยเข้า(เรียนปี3แล้วนะคะ) เรานี่อยากจะถามเหมือนกันนะว่าแฟนกับน้องนี่มาจากตระกูลไหน ไหนบอกตระกูลนี้ไม่ชอบคนขี้เกียจ แบบนี้เรียกวิถีคนขยันหรอ แม่เป็นคนขี้หงุดหงิด เชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ค่อยฟังใคร บางทีบอกอะไรไปก็โดนด่าคะหาว่ารู้ดีงั้นงี้ ตอนนี้เรานี่ไม่พูดอะไรแล้ว และคิดซะว่าเดี๋ยวแต่งงานไปแยกไปมีครอบครัวไม่ค่อยได้เจอกันอะไรๆคงดีกว่านี้
เรากับแฟนเก็บเงินกันมาได้ก้อนนึง ก็ตั้งใจไว้ว่าจะเอาไว้ซื้อบ้านบวกกับกู้อีกนิดหน่อย แต่!!!!!!!!!แม่แฟนพอรู้ว่าจะไปปลูกบ้านก็ชวนแฟนเราสร้างบ้านใหม่คะ สร้างที่เดิมแต่สร้างใหม่(คือบ้านเก่าก็ยังดีอยู่คะแต่ไม่รู้จะทำใหม่เพื่อ!!!) คือเข้าใจปะคะว่าสร้างแบบสามชั้นอยู่กันคนละชั้น พ่อแม่ชั้นนึง เรากับแฟนชั้นนึง น้องชั้นนึง คือจะให้อยู่กันแบบนี้คะอยู่กันไปจนตาย ขะไม่ให้ไปไหน ปล.หมู่บ้านที่จะไปซื้ออยู่ห่างจากบ้านพ่อแม่ไม่ถึง1กม. ตอนนี้แฟนเราเอยเอียงไปทางพ่อแม่แล้ว เค้าเป็นคนรักพ่อแม่มาก บอกเราว่าทำบ้านใหม่ก็ดีจะได้ดูแลพ่อแม่ด้วย คือถ้าน้องสาวแต่งงานก็จะให้มาอยู่ด้วยกันคืออยู่กันแบบนี้อ่ะคะ ตอนนี้แฟนเราจะทำเรื่องกู้แล้ว เอาจริงๆเราอยากแยกออกไปมีครอบครัวมากกว่า เพราะเผื่อวันข้างหน้าเรามีลูกอีกครอบครัวมันก็จะใหญ่ขึ้นเราไม่ชินกับการอยู่กันเยอะๆแบบครอบครัวใหญ่มั้งคะ ตอนนี้เราอึดอัดมากใกล้จะไปทำเรื่องกูแล้ว(กู้ร่วมนะคะ คือเรากับแฟน) เราคิดหนักมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้คุยกับแฟนก็ไม่ได้ เคยอธิบายนะคะว่าเราน่าจะไปสร้างบ้านใหม่นะเผื่อวันข้างหน้าก็ทะเลาะกันทุกครั้งกี่ครั้งๆก็หาว่าเราจะดูแลพ่อแม่มันผิดตรงไหน มันไม่ดีตรงไหน คือยังไงอ่ะเราไม่ได้มองว่าผิดนะแต่คนเรามันก็ต้องมีครอบครัว อย่างเราก็ต้องจากพ่อแม่เรามา จากบ้านที่เราสุขสบายทุกอย่าง มาปรับตัว มาพร้อมที่จะมีครอบครัว แต่คุณเล่นจะไม่ยอมอะไรเลย ยิ่งใกล้จะไปกู้ก็ยิ่งเครียด ทุกวันนี้คิดไม่ตกเลย คิดมากถึงขั้นอยากเลิกกับแฟนเลยนะคะ เราควรทำไงดี ใครเคยเจอแบบเรา เป็นแบบเราบ้าง เราจะต้องทำยังไง เครียมาก มากจริงๆ


*********************มาอัพเดตคะ 25/08/58********************

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าขอบคุณทุกๆคนมากนะคะ ที่ให้กำลังใจเรา หลายๆความเห็นที่เรารู้สึกฉุกคิดขึ้นมาได้ หลายๆเรื่องราวคำบอกเล่าประสบการณ์ของหลายๆท่านที่เตือนใจเรา ตอนนี้กลับมาบ้านแล้วคะ มาอยู่กับพ่อแม่ที่บ้าน พอดีพ่อไม่ค่อยสบายนิดหน่อยเลยได้โอกาสกลับมาเลยคะ คิดถึงพ่อกับแม่มากกกกกกก ตอนนี้ก็คุยๆกับพ่อแม่ว่ายังไม่อยากแต่งงาน ยังไม่พร้อม ท่านก็คิดว่าเรากับแฟนทะเลาะกัน เราก็เล่าเรื่องปลูกบ้านให้ฟัง พ่อกับแม่ก็บอกว่าให้เค้าปลูกของเค้าไปเราไม่ต้องไปยุ่ง ถ้าแฟนเรากู้ปลูกบ้านให้พ่อแม่เค้าก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อช่วยเราออกเงินซื้อบ้านเราเอง แล้วใช้ชื่อเราคนเดียวถ้าแฟนเราจะมาอยู่ก็มาไม่มาก็ไม่ต้องมา ตอนนี้เราเฉยๆแล้วอ่ะ แบบมองถึงอนาคตคิดถึงหลายๆอย่างว่าทำไมต้องมาทำอะไรเพื่อใครขนาดนี้ ตอนนี้ไม่คิดเรื่องแต่งแล้วคะหายอยาก เมื่อวานลองคุยกับแฟนเรื่องบ้านแล้ว ยังไงก็ไม่ยอมอยู่ดี เราเลยคิดว่าจะไม่พูดแล้ว เราไม่เคยเล่าให้พ่อแม่เราฟังนะว่าไปอยู่นู่นทำอะไรบ้าง เจออะไรยังไงบ้าง กลัวท่านเป็นห่วง ตอนนี้คอดว่าเลิกก็ยอมแล้ว ยอมเสียเวลา4ปีแลกกับความสุขทั้งชีวิต จริงๆก็เพิ่งคิดได้นะว่าพ่อแม่แฟนก็แค่คนอื่นไม่ได้คลอดเรามาด้วยซ้ำ แต่เราทำอะไรมากมายเพื่อท่านมากกว่าที่ทำให้พ่อแม่เราอีก คิดแล้วก็รู้สึกแย่กับตัวเองพ่อแม่คนอื่นดูแลได้ ต่อไปคงต้องทำเพื่อพ่อแม่เราบ้าง

ปล. หลายคนบอกว่าทำไมยอมย้ายไปบ้านแฟน ทำไมถึงอยู่ก่อนแต่ง จริงๆเราเพิ่งย้ายที่ทำงานอยู่ใกล้บ้านแฟน บ้านเราอยู่ไกลขับรถไม่ไหว ตอนแรกจะมาหาคอนโดอยู่แฟนเลยคุยกับแม่แฟน ท่านเลยชวนมาอยู่ที่บ้านคะ (ทุกอย่างเกิดขึ้นหลังจากที่คุยเรื่องแต่งงานแล้วนะคะ) พ่อแม่เราเลยยอม จริงๆเราว่าโชคดีนะที่มาอยู่ มารู้อะไรหลายๆอย่าง จะได้ไม่ต้องแต่งแล้วหย่าเป็นหม้ายดูไม่ดีกว่าเยอะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ถ้าจะสร้างบนที่หลังเดิม
ให้บ้านเค้ากู้เอา. คุณอย่าไปกู้ร่วม

ถ้ากู้ร่วมคือต้องแยกบ้านยื่นคำขาดไปเลย

ถ้าอึดอัดตั้งแต่ตอนนี้ หลังแต่งยิ่งกว่านี้อีก
ไม่ก็เบรคการแต่งงานไปก่อน

คือมันไม่ใช่เรื่องของการแค่อึดอัดนะ
แต่พออยู่อย่างนั้น การที่คุณจะสวีทกัน หยอกเย้ากันบ้าง
ทะเลาะกันบ้าง ปรึกษาเรื่องนู้นเรื่องนี้กันบ้าง
มันจะไม่เป็นส่วนตัวอ่ะ มันจะมีคนอื่นรับรู้กันตลอด
ยิ่งถ้าแม่สามีชอบจุ้นจ้านชอบเผือก
หรือชอบมีอิทธิพล ชอบการควบคุมลูกชาย
คุณจะไม่อึดอัดกว่านี้หรอ

ตอนนี้เราก็เป็นอยู่
คือไม่ได้ทะเลาะกันหรอก แต่มันอึดอัด
ทำไรไม่สะดวก เรื่องกิน ซื้อของเข้าบ้าน
ก็ต้องเป็นฝ่ายออกด้วย ทั้งทั้งที่อยู่คนเดียว
ซื้อกินคนเดียวไม่เปลืองเยอะเท่านี
ไปไหนบางทีพ่อแม่พี่น้องหลานเค้าตามไปอีก
ทั้งทั้งท่เวลาพวกเค้าไปไหนเราไม่เคยขอตามไปด้วยเลย
เข้าใจว่าคนเราก็อยากมีพื้นที่ครอบครัวบ้าง้
แพลนตอนนี้คือพอลูกโต เราไม่อยู่แล้วหล่ะ
จะไปหาทำงานที่อื่น
ถ้าจะต้องเลิกกับสามีเพราะเรื่องพ่อแม่สามี พี่น้องเค้า
เรายอมนะ รักมากแค่ไหนก็ยอม
คืออยู่แล้วสุขภาพจิตเสียมากมาก
หน้าตาหม่นหมอง

คิดดีดีนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่