เยือนแดนปลาดิบ เที่ยวแบบฮิปๆ ตามติดชีวิตสิบวันจากโตเกียวสู่โอซาก้า#6 ปิดท้ายโอซาก้า ชมเทศกาลซากุระที่โรงกษาปณ์

ในที่สุด ในที่สุดดดดดดดดดด

ก็เป็นเมืองสุดท้ายของทริปนี้ก่อนต้องลาจากญี่ปุ่นกลับสู่ดินแดนสุวรรณภูมิแล้วสินะ

ฝากกดไลค์เพจด้วยค่าาาาา
www.facebook.com/NeverEndingByOn เป็นกำลังใจกันหน่อยน้าาา


ฝากกะทู้เก่าตามเคย ไม่อ่านต่อเนื่องเด๋วไม่อินนะเออ


ความเดิมตอนที่แล้ว...

เราอยู่ที่โตเกียวมา 3 วัน แล้วหนีความวุ่นวายในเมืองกะจะชมฟูจิซังแต่ชวดที่ทะเลสาบคาวากูชิโกะ    
จึงย้ายร่างมากินแหลกที่ทาคายาม่า จนหนำใจแล้วจึงไปโอซาก้า พักยาวววว แต่แอบหนีไปเปลี่ยนบรรยากาศที่เกียวโต ตอนนี้กลับมาตายรังที่ "โอซาก้า" เตรียมโบกมือลาแดนปลาดิบแล้วจ้าาาา    
    
#พื้นที่โฆษณา    
#1 ปฐมบทแห่งความครื้นเครง เริ่มบรรเลง ณ บัดนาว >>> http://pantip.com/topic/33979986    
#2 สามวันในโตเกียว นี่สิ....เรียลเจแปน                  >>> http://pantip.com/topic/34034575    
#3 ยู้ฮู ฟูจิซัง..หนีไปซบทาคายาม่า-บ้านสามเหลี่ยม  >>> http://pantip.com/topic/34052635  ((ขออภัยที่พาไปทาคายาม่าไม่ทัน เลยมาต่อกะทู้นี้แยกน้า)    
#4 ลิ้มHida Beefที่ทาคายาม่า ชมชิราคาวาโกะในฤดูซากุระ >>> http://pantip.com/topic/34077135    
#5 ..วันเดียวเที่ยวเกียวโต..เมืองแห่งความศรัทธา    >>> http://pantip.com/topic/34089007
#6 ตอนนี้ไง จบซะทีเถอะค่ะ ก่อนที่จะไม่มีใครอ่าน!!

แผนการเดินทาง 10 วันอีกรอบค่ะ    
    
Day 0    : สุวรรณภูมิ - Hanoi airport
Day 1    :  Narita airport -Roppongi -Omotesando - Shibuya
Day 2     : Roppongi - Ueno park - Ameyoko - Sensoji temple - Tokyo Skytree - Ginza
Day 3    : Tsukiji market - Odaiba - Shinjuku - Shibuya
Day 4     : Shijuku - Kawagushiko station -New century hotel
Day 5     : Kawaguchiko - Kofu - Matsumoto - Takayama - K's house hostel
Day 6    : Jinjayama morning market - สะพานแดง - ย่านเมืองเก่า - Shirakawako - Takayama station - Shin Osaka - Sunny stone hotel 1
Day 7    : Osaka Castle - Mint Bereau (โรงกษาปณ์) - Namba ==>สาบานว่าวันนี้ไปแค่นี้จริงๆ
Day 8    : Sagano Romantic Train - Bamboo Groves - Kinkakuji Temple - Fushimi Inari Shrine - Kiyomizu- Temple
Day 9    : Osaka Fish Market (Endo sushi) - Tenjinbashisuji Shotengai - Namba ((Shopping time!!))
Day 10    : Kansai airpot - Hanoi airport - Suwannabhum

ปิดฉากกันที่ "โอซาก้า" นะตะ

10 Apr 15

ขอย้อนกลับไปคืนวันที่ 10 เรานั่งรถไฟมาจาก "ทาคายาม่า" มาลงที่สถานี Shin-Osaka ซึ่งเป็นศูนย์รวมแห่งความวุ่นวายของเหล่าบรรดาการคมนาคมทั้งหลาย

มาถึงก็อึ้งกิมกี่ ตูจะออกทางไหนฟะ

บอกเลยว่าหลงในนี้อยู่พักนึงเพราะหาทางออก เพื่อที่จะไป MRT ไม่เจอค่ะ ด้วยความที่พวกเรานั้นมีสกิลเรื่องเนวิเกเตอร์สูงส่ง ต้องพึ่งใบบุญกูเกิ้ลแมพตลอดๆ

ด้วยความเสร่อ ชั้นเข้าไปทางช่องทางออก MRT โดยที่ไม่รุ้ว่ามันต้องตึ้ดบัตรรถไฟออกก่อนแล้วไปเข้าอีกทางนึง

ด้วยความโง้ ตอนนี้ชั้นหลงเข้าอยู่ด้านใน เพื่อนอยู่ด้านนอก ยืนมองตากันปริบๆ

เอาไงดี ถ้าเมิงเข้ามา ก้จะได้ไปด้วยกัน แต่มันผิด!!! จะโดนเจ้าหน้าที่จับป่าวว้า

เรายืนลังเล สุดท้าย เอาวะ ชั้นไปสำรวจด้านล่าง แล้วขึ้นมาบอกให้เพื่อนลงมาเจอตรง ยูนิโคล่

ในที่สุด เราก็มาอยู่ด้วยกันอีก ...เฮ้ออออ

ไปต่อค่ะ ที่พักของเราต้องไปลงสถานี Esaka ซึ่งอยู่ถัดจาก Shin-Osaka ไปอีก 2 สถานีถ้วน

คืนนี้เราพักกันที่ Sunny stone Hotel สาขา 1 ค่ะ (จริงๆมันคือความผิดพลาดอีกแล้ว แต่มิอยากกล่าวถึง)
โรงแรมนี้จัดว่า "ใช้ได้" ค่ะ ด้วยราคาคนละไม่ถึงพันต่อคืน

ตอนนี้ฝนเริ่มโปรยปราย เราเดินตามหาโรงแรม จนเจอ วางของ ละออกตามล่าหาของกิน เพราะตั้งแต่ฮิดะเมื่อตอนบ่ายมันย่อยสลายไปหมดแล้วววว

มาเจอร้านนี้ค่ะไม่ไกลจากที่พักของเรานัก


เปิด 24 ชม จ้าาาาา ดีงามมมมมมมมม (เวลานั้น 4ทุ่ม ร้านอื่นทยอยปิดหมดละข่าาาา)

เข้ามาก้เจอเจ้านี่


ยืนอ้าปากค้างไปสักพัก ก็มีคนญี่ปุ่นมาใช้บริการ เราจึงทำการลอกเลียนแบบเค้าค่ะ

และเราก็เดินไปนั่งอย่างสบายใจเฉิบ  

มาละๆๆ ของเราแน่ๆๆ





สองเซต หมดไปแค่ 1,170 เยน !!!  ถูก อิ่ม รสชาติดีเลยยยย

เรานั่งกินไปพักนึง เริ่มสังเกตอะไรบางอย่าง

เบญจ์ : เมิงๆ กุว่ามันแปลกๆว่ะร้านนี้
ออน  :  ยังไงวะ
เบญจ์ : กุว่า ทำไมที่นี่มันมีแต่ลูกค้าผู้ชายวะ
ออน หันไปมองรอบๆ และคิดตาม : เออว่ะ มีผู้หญิงแค่เราสองคน
เราเหลือบไปเห็นว่า ที่นีให้ เติมข้าวฟรี !!! OMG!
หันมามองหน้ากันและพยักหน้าเข้าใจ

นี่มันร้านกรรมกรนี่! ช่างเหมาะกะเราอย่างยิ่ง ดีค่ะดียยยยย

กินเสร็จกลับที่พัก เตรียมตัวตะลุยโอซาก้าที่ไม่มีแพลนในวันพรุ่งนี้กัน!!!
ปล. ที่นี่มีชุดนอนให้ด้วยอ่ะ กุ๊กกิ๊กจุงเบย


11 Apr 2015

เช้านี้เราทานอาหารกันที่โรงแรม เนื่องจาก "ฟรี" คือมันรวมอยู่ในตังค์ที่เราจ่ายไปแล้วนั่นเอง

มาดูกันว่า ชาวญี่ปุ่นเค้ากินอะไรกันน้าาา ยามเช้า

ผ่างงงงง



เฮ้ยยย  กินไรกันเนี่ย รับไม่ได้จีจี  มีแต่ข้าวปั้น กะผงโรยข้าว กอชชชชช แวร์อิสเนื้อสัตว์

โชคดีที่เมื่อวาน พวกเราฉลาดพอ จึงแวะซื้อสิ่งเหล่านี้ตามทาง รอดไปอีกหนึ่งมื้อ


พร้อมละสำหรับวันนี้....

วันนี้อากาศดูดี ฝนท่าจะไม่ตก เราเลยว่าจะไปเก็บที่เที่ยวในโอซาก้าให้ได้มากที่สุด
เลยจัด Amazing pass ไป สนนราคาคนละ 2,300 เยน มาดูกันว่าเราจะคุ้มไหม!!

https://www.osaka-info.jp/osp/en/index.html
รายละเอียดตามนี้เลยค่า หลักๆมันจะรวมรถไฟฟ้าและก็ค่าเข้าที่ท่องเที่ยวต่างๆในโอซาก้า

โดยเราจะไปลุยที่ปราสาทโอซาก้ากันก่อน ไปปปปป!

เรามาถึงปราสาทโอซาก้าแบบงงๆ มันกว้างมาก เราเดินเล่นรอบๆกว่าจะเข้าไปถึงปราสาทโอซาก้าก็นานอยู่

ตรงทางเข้า เรายืนผลัดกันถ่ายรูป จนมีลุงชาวญี่ปุ่นคนนึงมาทัก บอกว่าเด๋วจะถ่ายให้ ลุงแกใจดีมาก ถ่ายให้หลายรูปเบย
ถ่ายเราเสร็จ ลุงก็เดินไปหานักท่องเที่ยวคนอื่นอีก และทำแบเดียวกัน ((นี่ถ้าอยู่เมืองไทยช้านนึกว่าจิโดนหลอกฉกกล้อง))
แต่เราขออนุญาตไม่โชวผลงานคุณลุงนะคะ ฝีมือลุงแกผ่านค่ะ แต่หน้าพวกชั้นไม่ผ่านค่ะ จบนะ





อย่าถามว่าตอนโพสท่านี้คิดอะไรอยู่






เราเดินเข้าไปบริเวณรอบๆ ซากุระ ยังคงมีบ้างประปราย แต่ไม่ค่อย Full bloom แล้ว มันเริ่มโรยราร่วงลงพื้น
จะมีแต่ตรงทางเข้าที่มีของกินขายนี่ละ ต้นนี้เด่นมาก เพราะมีคนมาผูกใบเซียมซีกันเต้มมมมไปหมด ไม่รุทำไมเหมือนกัน





เดินเข้าไปในปราสาท ยื่นบัตร Amazing pass ตรงทางเข้าให้อย่างองอาจ

เราขึ้นไปถึงยอดปราสาทเพื่อถ่ายรูปวิวด้านบนกันก่อน





เค้ามีบอกด้วยนะว่ามุมที่เราเหนนี้มีวิวอะไรบ้าง แต่เราก้มิได้สนใจแต่อย่างใด






ภายในปราสาทชิ้นอื่นๆ จัดแสดงของเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่างๆมากมาย เช่น
ชุดเกราะซามูไรญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่ ไม่ให้ถ่ายรูป เราเลยได้แต่เดินดู และซื้อโปสการ์ดเป็นของที่ระลึก

ได้เวลาออกจากปราสาท


ระหว่างที่เราเดินหามุมถ่ายรูปกะปราสาท ก็รู้สึกเหมือนเดจาวู

ลุงคนนั้นหน้าคุ้นๆว่ะ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน

....ก้ข้างหน้าไงวะ!

เราเลยได้พูดคุยกับลุงผู้ใจดีอีกรอบ คราวนี้ขอถ่ายรูปด้วยซะเลย


ลุงแกพยายามจะแนะนำสถานที่ให้เรา เราฟังกันอยู่นานมากว่าลุงพูดถึงอะไร
แกพูดถึงคำว่า Mint ไอเราก้คิดไปนู่นนนนน โนว โนว ไอไม่ดูมิ้นท์ ไอจะดูซากุระ

สรุปคือ เรฟังจนเข้าใจว่า มันคือ "Mint Bureau" หรือโรงกษาปณ์นั่นเองค่ะ เป็นที่ที่เราจะไปอยู่แล้ว
เพราะช่วงนี้เค้าจัดงานเทศกาลชมซากุระพอดิบพอดี

ว่าแล้วก็ออก step เดินออกไป


เราไปเจอด่านของกินด้านหน้าปราสาทดักไว้ ได้ไอนี่มาค่ะ


กินรองท้องไปก่อนเผื่อหิวววว

ระหว่างที่เรานั่งกินอยู่นั้น....ก็รุสึกถึงสายตาคู่นึง


หนูน้อยทาเคจัง (ตั้งเอง) มองมาด้วยความอยากรุอยากเห็น

แหมะ อยากเล่นด้วยล่ะสิ ไอเด็กอ้วนนน


เล่นกับเจ้ เร็วไป20ปีค่าาาาา


ทาเคจังหนีพ่อมา อยากจะเล่นด้วย สุดท้ายโดนลากกลับไปให้นั่งสอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวจ้า


ทาเคจังมันน่ารักซะจนน่า......

ลูกหลายใครทำไมถูกใจจริงๆ ส่งสายตาให้กันปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง

หยุดมโนเรื่องเด็ก แล้วไปต่อที่โรงกษาปณ์กันเถอะ!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่