ตกลง อิสระภาพทางการเงิน จริงๆมันไม่มีจริง หรือ คนไม่รู้จักพอกันแน่

ตกลง อิสระภาพทางการเงิน จริงๆมันไม่มีจริง หรือ คนไม่รู้จักพอกันแน่

ถ้ามองตามจริง คือ หากมีคนนึง ที่ได้ปันผล เอาแค่เป็นแสนต่อเดือน นี่ก็เท่ากับว่า เขาก็มีอิสระภาพแล้ว ซึ่งจำนวนเงินต้น ก็คงจะเยอะน่าดู แต่เคยสังเกตไหมว่า คนพวกนี้ ทำไมเขาถึงไม่หยุด แสวงหา นั่นก็เพราะเขาไม่รุ้จักพอไง คิดว่ามีมากๆแล้วจะมีความสุข

ลองถ้าเป็นคนทั่วไปหาเช้ากินค่ำสิ แบ่งเงินสว่นนึงไปลงทุนหุ้นปันผลชั้นดีเลยนะ เอาแบบซื้อได้ตอนถูกสุดๆด้วย ก็ยังไม่ได้ปันผล เก็บกินมากเท่ากับ คนที่ มีรายได้ต่อเดือน เป็นหลายล้าน อย่างพวกดารา ศิลปิน หรือ ลูกนักธุรกิจเลยด้วยซ้ำ จึงไม่สามารถที่จะหยุดหาทุน มาลงทุน หรือ ไว้กินใช้ได้

แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ ไม่ว่าจะคนแบบ แรก ที่ร่ำรวย จากชื่อเสียง หรือ เป็นลูกเจ้าของธุรกิจใหญ่ กับ แบบสอง คนทั่วไป การลงทุนในหุ้น ก็หาความแน่นอนไม่ได้ ลองถ้าจำเป็นต้องใช้เงิน แล้วตลอดตกสาหัสสิ ไอที่ลองไว้ก็อาจจะไม่พอเลยก็ได้ สาหัสเหมือนกัน

ยังไงการทำธุรกิจ ก็ดีกว่าลูกจ้าง ในแง่ที่มี่เงินสด รับเข้ามามากกว่าแน่ๆอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ธุรกิจก็จะต้องเปิดมาหลายสิบปี และไปได้ด้วย หรือ พูดในอนีกในหนึ่งก็คือ ลูกเจ้าของนักธุรกิจนั่นเอง ส่วนคนที่รองๆจากนั้นลงมาก็ ที่บ้านอาจจะมีที่ มีทุน ก็สามารถเอาที่มาทำของขาย หรือ อาศัยเปิดให้เช่า กินดอกผล แทนลงทุนในหุ้นก็ได้ ส่วนคนทั่วไปที่เป็นลูกจ้าง ก็ต้องอดทนหน่อย ประหยัดให้มาก แบ่งเงินลงทุน และ ไว้ใช้ยามจำเป็นด้วย เพราะหากสะุดุดขึ้นมา อาจจะไม่มีใครช่วยอะไรเลยก็ได้

ขอเน้นย้ำชัดๆ หุ้นไม่ได้ทำให้รวยนะ !!!
การจะรวยได้ ต้องทำธุรกิจส่วนตัว (จะสานต่อ หรือใช้วิธีไหนก็ตามแต่) ไม่ก็ จัดสัมมนาพารวย (ดูสิ จัดกันเยอะเลย) เก็บค่าสัมมนา วันละ 3-4 หมื่น คนมาฟัง 10 คนก็อยู่ได้เป็นปีๆแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่