คือ พิมพ์มาถึงตอนนี้แล้วรู้สึกมันฮาดีค่ะ เลยอยากเอามาลงให้อ่านกัน
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว Romantic-comedy ขำ ๆ ฮา ๆ สาระมีเกี่ยวกับเรื่อง
นักบิน กองบิน เล็กน้อย แต่ถ้าเขียนไปเรื่อย ๆ คิดว่าจะมีส่วนนี้เพิ่มขึ้น
เพราะเก็บข้อมูลมาเยอะระดับหนึ่ง แต่ตอนที่ลงวันนี้มันอาจจะไม่มีสาระนิดนึง
นะคะ ยังไงก็ไปลองอ่านกันดูดีกว่าค่ะ 555+
ตอนพิเศษ คดีจับไพ่ในตำนาน
คุณหญิงเกดแก้วผู้แม้จะมีอายุมากแล้วแต่ก็ยังคงความสวยสง่า มีราศี และเธอก็มัก
จะไปไหนมาไหนพร้อมกับทรงผมประจำตัวแบบที่ยีฟู ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มวอลยูม พร้อม
ทั้งด้านหน้าเธอก็ยังพกกระบังแบบตั้งเด่ประหนึ่งเรือใบของชาวไวกิ้งก็ไม่ปาน และแถม
ผิวหน้าของคุณหญิงก็ยังตึงเป๊ะไม่แพ้สาวรุ่น ๆ อีกด้วย ทันทีที่ท่านได้ยินเรื่องที่ว่า
ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวจะเข้าพิธีหมั้นกับลูกสาวของจ่าละม่อม คุณหญิงก็
ถึงกับปรี๊ดแตกขึ้นมาทันที
“อะไรกันคะคุณพี่ น้องไปปฎิบัติธรรมที่วัดมาแค่อาทิตย์เดียว กลับมาตาแม็คก็จะ
หมั้นกับยัยเด็กมิวนั่น น้องไม่ยอมนะคะคุณพี่”
“ไปทำบุญมาจริง ๆ ใช่มั้ยเนี่ย ยังขี้วีนเหมือนเดิมเป๊ะ ไม่เห็นจะใจเย็นลงเลย”
ท่านนายพลแอบบ่นคนเดียวงึมงำ ๆ เบา ๆ
“อร๊าย คุณพี่แอบบ่นน้องเหรอคะ” คุณหญิงเกดแก้วผู้ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของ
บ้านลูกนายพลผู้มีฐานะและชาติตระกูลก็เลยติดนิสัยเอาแต่ใจ และชอบวีนเหวี่ยงมา
ตั้งแต่สมัยสาว ๆ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้
แต่ด้วยความที่ท่านนายพลเป็นคนใจดี ใจเย็น และก็รักภรรยามาก ท่านก็เลยไม่
ค่อยเถียงหรือต่อปากต่อคำกับคุณหญิงสักเท่าไหร่ และมีอะไรก็มักจะยอม ๆ ไปเสีย
เป็นส่วนมาก ยกเว้นกรณีว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ คือถ้าเมื่อไหร่ที่ท่านนายพลเริ่ม
เสียงเข้มและจริงจังขึ้นมาละก็ ตัวคุณหญิงเองก็จะต้องรีบปิดปากเงียบและนิ่งฟังท่าน
พูดเช่นกัน ด้วยการรู้จังหวะในการรับฟังและการพูด รวมถึงความเข้าใจในนิสัยของ
อีกฝ่าย คู่นี้ถึงสามารถครองรักกันมาได้อย่างเนิ่นนานยันเกษียณแบบนี้
“อ้าว ก็ไหนคุณหญิงอยากให้ไอ้เจ้าแม็คมันรีบแต่งงานแล้วมีหลานให้เลี้ยงสักที
ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมพอมันจะหมั้น จะแต่งขึ้นมาจริง ๆ ไหงคุณหญิงไม่ยอมเสีย
แบบนี้เล่า” ท่านนายพลถามกลับแบบนิ่ง ๆ
“ก็น้องหาผู้หญิงดี ๆ มาให้ลูกเลือกตั้งหลายคนแล้ว ก็แต่งกับผู้หญิงดี ๆ แบบ
นั้นไปสิคะ ถ้าตาแม็คจะแต่งจะหมั้นกับลูกชาติลูกตระกูลแบบแม่ศิก็ว่าไปอย่าง นี่อะไร
ไปคว้าลูกจ่าต๋อกต๋อยมาเป็นคู่หมั้น ไม่รู้จักเลือกเอาซะเลย ตาแม็คเค้าใช้ตาตุ่มหรือ
ตาปลาคิดกันแน่คะเนี่ย” คุณหญิงพูดบ่นอย่างกับทีมพากย์งานแข่งเรือหางยาว
“ก็คงจะตาแบบเดียวกับที่คุณหญิงใช้มองตอนเลือกพี่แหละมั้งครับ ทีตอนสมัยพี่
เราก็ไม่เห็นจะรังเกียจรังงอนพี่แบบนี้เลย ตอนนั้นพี่ก็เป็นแค่เพียงนายทหารยศร้อยเอก
จน ๆ คนหนึ่งเองนะ” ท่านนายพลตอบกลับแบบนิ่ง ๆ แต่แค่ประโยคสั้น ๆ นี้ก็ทำเอา
คุณหญิงเกดแก้วเองถึงกับเงิบไปไม่น้อย เพราะทุกคำนั้นเข้าตัวเธอแบบเต็ม ๆ คุณหญิง
จึงได้แต่อ้อมแอ้ม ๆ ตอบกลับมาแบบเสียงอ่อย ๆ ว่า
“ก็น้องรักคุณพี่นี่คะ มันเหมือนกันซะที่ไหนล่ะ”
“อ้าว ก็นี่เด็กมันก็รักกัน คุณหญิงเองก็รู้ว่าเจ้าแม็คมันไม่เคยพาสาวคนไหนเข้าบ้านเลย
ขนาดผู้หญิงที่คุณหญิงหามาให้ มันก็ไม่เคยจะสนใจใคร มันไม่เคยพูดถึงผู้หญิงคนไหนให้
เราฟัง ยกเว้นก็แต่เรื่องพยาบาลก้อยตอนช่วงที่มันไปเรียนอยู่ที่กองบินโน้น แล้วนี่ถ้ามันไม่มี
ใจให้ยัยมิว มีหรือที่คนอย่างไอ้เจ้าแม็คมันจะพูดเรื่องขอหมั้นขึ้นมาเองแบบนี้” ท่านนายพล
แสดงความเห็นไปตามที่ท่านคิด
“ไม่ใช่ว่าต้องมารับผิดชอบเพราะข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ แบบนั้นหรอกเหรอคะ แล้วก็ไม่แน่นะ
ยัยเด็กนั่นอาจจะอยากอัพเกรดหรือไม่ก็อาจจะแอบอยากได้สมบัติของบ้านเราก็ได้ ถึงได้ปล่อย
ข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ ออกไปเพื่อบังคับให้ลูกเราต้องมานั่งรับผิดชอบด้วยการหมั้นด้วยแบบนี้น่ะ”
คุณหญิงเองก็แสดงความเห็นในมุมของเธอออกมาเช่นกัน
“เด็กนั่นก็เป็นถึงอาจารย์มหาลัยชื่อดัง มีเกียรติมีศักดิ์ศรี แกคงไม่ต้องมานั่งอัพเกรดตัวเอง
ด้วยวิธีนี้หรอกมั้งคุณ เพราะผมดูแล้วยังไง ๆ ฝ่ายหญิงก็มีแต่เสียกับเสีย แล้วยิ่งถ้าฝ่ายผู้ชาย
ทำเฉยเสีย ไม่ยอมรับผิดชอบ ฝ่ายหญิงก็ยิ่งทำอะไรไม่ได้และก็มีแต่จะต้องยิ่งอับอายขายหน้า
หนักขึ้นไปอีก แล้วพี่จะบอกให้นะว่าถ้าเทียบกับบ้านจ่าม่อมแล้ว ตอนสมัยพี่น่ะ บ้านพี่จนกว่านี้
เยอะ เพราะจริง ๆ แล้วครอบครัวจ่าม่อมกับแม่สไวน่ะผ้าขี้ริ้วห่อทองกันชัด ๆ เพราะมีสมบัติเป็น
ที่ดินที่ทางโคราชตั้ง 40 กว่าไร่ มูลค่าก็หลายสิบล้าน เพียงแต่ลูกน้องพี่คนนี้น่ะ แกทำตัวติดดิน
ไม่เคยอวดร่ำอวดรวย ครอบครัวแกก็อยู่กันแบบสมถะ ไม่ฟุ้งเฟ้อ คนก็เลยไม่รู้ว่าแกมีสมบัติก็
เท่านั้นเอง” ท่านนายพลร่ายยาวจนคุณหญิงเองก็แอบเหวออ้าปากค้างกับข้อมูลใหม่ ๆ ที่ได้
รับทราบไปเช่นกัน
“จริงเหรอคะคุณพี่” คุณหญิงเผลอครางถามออกมาด้วยความแปลกใจ
“จริงสิ ว่าแต่คุณหญิงเถอะที่ยังตั้งแง่เรื่องว่าที่ลูกสะใภ้อยู่แบบนี้ เป็นเพราะคุณหญิง
ยังแอบเคืองแกเรื่องการทลายวงไพ่ในตำนานเมื่อสมัยก่อนอยู่หรือเปล่า” ท่านนายพล
แอบมองภรรยาด้วยแววตาเย้า ๆ และท่านก็แอบหลุดยิ้มขำออกมาในตอนท้ายอีกด้วย
รอยยิ้มแบบนี้ก็ทำให้คุณหญิงเกดแก้วแอบหน้าแดงแป๊ดขึ้นมาอีกรอบทันที เพราะ
จริง ๆ แล้วทันทีที่ได้ยินชื่อของยัยเด็กมิว ลูกสาวจ่าละม่อม สมองของหล่อนก็นึกย้อน
ไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้นตั้งแต่เมื่อตอนที่หล่อนเริ่มปรี๊ดแตกรอบแรกแล้ว แต่เพราะกลัว
เสียฟอร์ม คุณหญิงก็เลยร้องค้านเสียงหลงออกไปทันทีว่า
“ไม่นี่ค้ะ”
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยปิดเทอมใหญ่ ไม่กี่วันก่อนหน้าที่วินชญาจะขึ้นชั้น ม. 4
วันหนึ่งขณะที่เด็กสาวเพิ่งจะกลับมาจากไปช่วยที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวของป้าแม้น
ในตอนบ่าย ๆ หล่อนก็แอบเห็นว่ามีคนตั้งวงเล่นไพ่กันอยู่ในบ้านของป้าสายบัวในบ้าน
หมายเลย 5 ที่ตั้งอยู่ตรงกลางของหมู่เรือนแถว ด้วยความที่วินชญานั้นเกลียดการพนัน
และอบายมุขทุกชนิด หล่อนก็เลยขี่จักรยานไปยังหมู่เรือนแถวตรงกันข้าม ก่อนที่เด็กสาว
จะรีบหมุนหน้าปัดโทรศัพท์เพื่อโทรหาบิดาที่กองอำนวยการสารวัตรทหารของกองบิน
แต่จ่าเมฆาก็กลับเป็นคนรับสาย
“พ่อเราตามนายไปที่ดอนเมืองนู่น ว่าแต่มีอะไรฮึเจ้ามิว โทรมาแบบนี้”
“อาเมฆ ๆ มาทลายวงไพ่บ้านป้าสายหน่อยสิ ตั้งวงกันอีกแล้วเนี่ย”
“อ้าว โดนจับไปตั้งหลายรอบยังไม่เข็ดอีก แต่ก็นะพวกผีพนันเลิกยากแบบนี้แหละ
รอแป๊บนะ เดี๋ยวอาไป ไม่ต้องห่วง”
“ค่ะ เดี๋ยวมิวช่วยนะ คราวนี้รับรอง พวกขาไพ่วิ่งหนีเข้าดงกล้วยหรือข้ามไปที่หลัง
บ้านฝั่งนู้นไม่ได้แน่ ๆ หึๆๆๆ” วินชญาแอบยิ้มขำออกมาเมื่อเธอนึกได้ว่าเธอจะช่วย
คุณอาสารวัตรทหารอย่างไรดีในรอบนี้
“จะทำอะไรฮึ เจ้าเด็กแสบ” จ่าเมฆาแอบถามออกมาด้วยความสงสัย
“น่า เดี๋ยวอามา อาก็รู้เองแหละค่ะ” เด็กสาวยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากทันที
เมื่อจ่าเมฆากับจ่าประสิทธิ์มาถึงแกก็บุกเข้าไปทลายวงไพ่ แต่ที่ฮาก็คือ คุณหญิงเกดแก้ว
ดันไปหาป้าสายบัวเพื่อที่จะว่าจ้างให้ป้าแกไปช่วยเฝ้าไข้คุณพ่อที่จะมานอนพักรักษาตัวที่
โรงพยาบาลจันทรักษ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำค่ายทหารแห่งนี้อยู่พอดี
อยากขำก็เข้ามาค่ะ
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว Romantic-comedy ขำ ๆ ฮา ๆ สาระมีเกี่ยวกับเรื่อง
นักบิน กองบิน เล็กน้อย แต่ถ้าเขียนไปเรื่อย ๆ คิดว่าจะมีส่วนนี้เพิ่มขึ้น
เพราะเก็บข้อมูลมาเยอะระดับหนึ่ง แต่ตอนที่ลงวันนี้มันอาจจะไม่มีสาระนิดนึง
นะคะ ยังไงก็ไปลองอ่านกันดูดีกว่าค่ะ 555+
ตอนพิเศษ คดีจับไพ่ในตำนาน
คุณหญิงเกดแก้วผู้แม้จะมีอายุมากแล้วแต่ก็ยังคงความสวยสง่า มีราศี และเธอก็มัก
จะไปไหนมาไหนพร้อมกับทรงผมประจำตัวแบบที่ยีฟู ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มวอลยูม พร้อม
ทั้งด้านหน้าเธอก็ยังพกกระบังแบบตั้งเด่ประหนึ่งเรือใบของชาวไวกิ้งก็ไม่ปาน และแถม
ผิวหน้าของคุณหญิงก็ยังตึงเป๊ะไม่แพ้สาวรุ่น ๆ อีกด้วย ทันทีที่ท่านได้ยินเรื่องที่ว่า
ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวจะเข้าพิธีหมั้นกับลูกสาวของจ่าละม่อม คุณหญิงก็
ถึงกับปรี๊ดแตกขึ้นมาทันที
“อะไรกันคะคุณพี่ น้องไปปฎิบัติธรรมที่วัดมาแค่อาทิตย์เดียว กลับมาตาแม็คก็จะ
หมั้นกับยัยเด็กมิวนั่น น้องไม่ยอมนะคะคุณพี่”
“ไปทำบุญมาจริง ๆ ใช่มั้ยเนี่ย ยังขี้วีนเหมือนเดิมเป๊ะ ไม่เห็นจะใจเย็นลงเลย”
ท่านนายพลแอบบ่นคนเดียวงึมงำ ๆ เบา ๆ
“อร๊าย คุณพี่แอบบ่นน้องเหรอคะ” คุณหญิงเกดแก้วผู้ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของ
บ้านลูกนายพลผู้มีฐานะและชาติตระกูลก็เลยติดนิสัยเอาแต่ใจ และชอบวีนเหวี่ยงมา
ตั้งแต่สมัยสาว ๆ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้
แต่ด้วยความที่ท่านนายพลเป็นคนใจดี ใจเย็น และก็รักภรรยามาก ท่านก็เลยไม่
ค่อยเถียงหรือต่อปากต่อคำกับคุณหญิงสักเท่าไหร่ และมีอะไรก็มักจะยอม ๆ ไปเสีย
เป็นส่วนมาก ยกเว้นกรณีว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ คือถ้าเมื่อไหร่ที่ท่านนายพลเริ่ม
เสียงเข้มและจริงจังขึ้นมาละก็ ตัวคุณหญิงเองก็จะต้องรีบปิดปากเงียบและนิ่งฟังท่าน
พูดเช่นกัน ด้วยการรู้จังหวะในการรับฟังและการพูด รวมถึงความเข้าใจในนิสัยของ
อีกฝ่าย คู่นี้ถึงสามารถครองรักกันมาได้อย่างเนิ่นนานยันเกษียณแบบนี้
“อ้าว ก็ไหนคุณหญิงอยากให้ไอ้เจ้าแม็คมันรีบแต่งงานแล้วมีหลานให้เลี้ยงสักที
ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมพอมันจะหมั้น จะแต่งขึ้นมาจริง ๆ ไหงคุณหญิงไม่ยอมเสีย
แบบนี้เล่า” ท่านนายพลถามกลับแบบนิ่ง ๆ
“ก็น้องหาผู้หญิงดี ๆ มาให้ลูกเลือกตั้งหลายคนแล้ว ก็แต่งกับผู้หญิงดี ๆ แบบ
นั้นไปสิคะ ถ้าตาแม็คจะแต่งจะหมั้นกับลูกชาติลูกตระกูลแบบแม่ศิก็ว่าไปอย่าง นี่อะไร
ไปคว้าลูกจ่าต๋อกต๋อยมาเป็นคู่หมั้น ไม่รู้จักเลือกเอาซะเลย ตาแม็คเค้าใช้ตาตุ่มหรือ
ตาปลาคิดกันแน่คะเนี่ย” คุณหญิงพูดบ่นอย่างกับทีมพากย์งานแข่งเรือหางยาว
“ก็คงจะตาแบบเดียวกับที่คุณหญิงใช้มองตอนเลือกพี่แหละมั้งครับ ทีตอนสมัยพี่
เราก็ไม่เห็นจะรังเกียจรังงอนพี่แบบนี้เลย ตอนนั้นพี่ก็เป็นแค่เพียงนายทหารยศร้อยเอก
จน ๆ คนหนึ่งเองนะ” ท่านนายพลตอบกลับแบบนิ่ง ๆ แต่แค่ประโยคสั้น ๆ นี้ก็ทำเอา
คุณหญิงเกดแก้วเองถึงกับเงิบไปไม่น้อย เพราะทุกคำนั้นเข้าตัวเธอแบบเต็ม ๆ คุณหญิง
จึงได้แต่อ้อมแอ้ม ๆ ตอบกลับมาแบบเสียงอ่อย ๆ ว่า
“ก็น้องรักคุณพี่นี่คะ มันเหมือนกันซะที่ไหนล่ะ”
“อ้าว ก็นี่เด็กมันก็รักกัน คุณหญิงเองก็รู้ว่าเจ้าแม็คมันไม่เคยพาสาวคนไหนเข้าบ้านเลย
ขนาดผู้หญิงที่คุณหญิงหามาให้ มันก็ไม่เคยจะสนใจใคร มันไม่เคยพูดถึงผู้หญิงคนไหนให้
เราฟัง ยกเว้นก็แต่เรื่องพยาบาลก้อยตอนช่วงที่มันไปเรียนอยู่ที่กองบินโน้น แล้วนี่ถ้ามันไม่มี
ใจให้ยัยมิว มีหรือที่คนอย่างไอ้เจ้าแม็คมันจะพูดเรื่องขอหมั้นขึ้นมาเองแบบนี้” ท่านนายพล
แสดงความเห็นไปตามที่ท่านคิด
“ไม่ใช่ว่าต้องมารับผิดชอบเพราะข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ แบบนั้นหรอกเหรอคะ แล้วก็ไม่แน่นะ
ยัยเด็กนั่นอาจจะอยากอัพเกรดหรือไม่ก็อาจจะแอบอยากได้สมบัติของบ้านเราก็ได้ ถึงได้ปล่อย
ข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ ออกไปเพื่อบังคับให้ลูกเราต้องมานั่งรับผิดชอบด้วยการหมั้นด้วยแบบนี้น่ะ”
คุณหญิงเองก็แสดงความเห็นในมุมของเธอออกมาเช่นกัน
“เด็กนั่นก็เป็นถึงอาจารย์มหาลัยชื่อดัง มีเกียรติมีศักดิ์ศรี แกคงไม่ต้องมานั่งอัพเกรดตัวเอง
ด้วยวิธีนี้หรอกมั้งคุณ เพราะผมดูแล้วยังไง ๆ ฝ่ายหญิงก็มีแต่เสียกับเสีย แล้วยิ่งถ้าฝ่ายผู้ชาย
ทำเฉยเสีย ไม่ยอมรับผิดชอบ ฝ่ายหญิงก็ยิ่งทำอะไรไม่ได้และก็มีแต่จะต้องยิ่งอับอายขายหน้า
หนักขึ้นไปอีก แล้วพี่จะบอกให้นะว่าถ้าเทียบกับบ้านจ่าม่อมแล้ว ตอนสมัยพี่น่ะ บ้านพี่จนกว่านี้
เยอะ เพราะจริง ๆ แล้วครอบครัวจ่าม่อมกับแม่สไวน่ะผ้าขี้ริ้วห่อทองกันชัด ๆ เพราะมีสมบัติเป็น
ที่ดินที่ทางโคราชตั้ง 40 กว่าไร่ มูลค่าก็หลายสิบล้าน เพียงแต่ลูกน้องพี่คนนี้น่ะ แกทำตัวติดดิน
ไม่เคยอวดร่ำอวดรวย ครอบครัวแกก็อยู่กันแบบสมถะ ไม่ฟุ้งเฟ้อ คนก็เลยไม่รู้ว่าแกมีสมบัติก็
เท่านั้นเอง” ท่านนายพลร่ายยาวจนคุณหญิงเองก็แอบเหวออ้าปากค้างกับข้อมูลใหม่ ๆ ที่ได้
รับทราบไปเช่นกัน
“จริงเหรอคะคุณพี่” คุณหญิงเผลอครางถามออกมาด้วยความแปลกใจ
“จริงสิ ว่าแต่คุณหญิงเถอะที่ยังตั้งแง่เรื่องว่าที่ลูกสะใภ้อยู่แบบนี้ เป็นเพราะคุณหญิง
ยังแอบเคืองแกเรื่องการทลายวงไพ่ในตำนานเมื่อสมัยก่อนอยู่หรือเปล่า” ท่านนายพล
แอบมองภรรยาด้วยแววตาเย้า ๆ และท่านก็แอบหลุดยิ้มขำออกมาในตอนท้ายอีกด้วย
รอยยิ้มแบบนี้ก็ทำให้คุณหญิงเกดแก้วแอบหน้าแดงแป๊ดขึ้นมาอีกรอบทันที เพราะ
จริง ๆ แล้วทันทีที่ได้ยินชื่อของยัยเด็กมิว ลูกสาวจ่าละม่อม สมองของหล่อนก็นึกย้อน
ไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้นตั้งแต่เมื่อตอนที่หล่อนเริ่มปรี๊ดแตกรอบแรกแล้ว แต่เพราะกลัว
เสียฟอร์ม คุณหญิงก็เลยร้องค้านเสียงหลงออกไปทันทีว่า
“ไม่นี่ค้ะ”
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยปิดเทอมใหญ่ ไม่กี่วันก่อนหน้าที่วินชญาจะขึ้นชั้น ม. 4
วันหนึ่งขณะที่เด็กสาวเพิ่งจะกลับมาจากไปช่วยที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวของป้าแม้น
ในตอนบ่าย ๆ หล่อนก็แอบเห็นว่ามีคนตั้งวงเล่นไพ่กันอยู่ในบ้านของป้าสายบัวในบ้าน
หมายเลย 5 ที่ตั้งอยู่ตรงกลางของหมู่เรือนแถว ด้วยความที่วินชญานั้นเกลียดการพนัน
และอบายมุขทุกชนิด หล่อนก็เลยขี่จักรยานไปยังหมู่เรือนแถวตรงกันข้าม ก่อนที่เด็กสาว
จะรีบหมุนหน้าปัดโทรศัพท์เพื่อโทรหาบิดาที่กองอำนวยการสารวัตรทหารของกองบิน
แต่จ่าเมฆาก็กลับเป็นคนรับสาย
“พ่อเราตามนายไปที่ดอนเมืองนู่น ว่าแต่มีอะไรฮึเจ้ามิว โทรมาแบบนี้”
“อาเมฆ ๆ มาทลายวงไพ่บ้านป้าสายหน่อยสิ ตั้งวงกันอีกแล้วเนี่ย”
“อ้าว โดนจับไปตั้งหลายรอบยังไม่เข็ดอีก แต่ก็นะพวกผีพนันเลิกยากแบบนี้แหละ
รอแป๊บนะ เดี๋ยวอาไป ไม่ต้องห่วง”
“ค่ะ เดี๋ยวมิวช่วยนะ คราวนี้รับรอง พวกขาไพ่วิ่งหนีเข้าดงกล้วยหรือข้ามไปที่หลัง
บ้านฝั่งนู้นไม่ได้แน่ ๆ หึๆๆๆ” วินชญาแอบยิ้มขำออกมาเมื่อเธอนึกได้ว่าเธอจะช่วย
คุณอาสารวัตรทหารอย่างไรดีในรอบนี้
“จะทำอะไรฮึ เจ้าเด็กแสบ” จ่าเมฆาแอบถามออกมาด้วยความสงสัย
“น่า เดี๋ยวอามา อาก็รู้เองแหละค่ะ” เด็กสาวยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากทันที
เมื่อจ่าเมฆากับจ่าประสิทธิ์มาถึงแกก็บุกเข้าไปทลายวงไพ่ แต่ที่ฮาก็คือ คุณหญิงเกดแก้ว
ดันไปหาป้าสายบัวเพื่อที่จะว่าจ้างให้ป้าแกไปช่วยเฝ้าไข้คุณพ่อที่จะมานอนพักรักษาตัวที่
โรงพยาบาลจันทรักษ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำค่ายทหารแห่งนี้อยู่พอดี