ตำนานเหล็กไหล มีจริงหรือไม่ ตอนสอง

ตำนานเหล็กไหล  มีจริงหรือไม่  ตอนสอง
       เมื่อตอนที่แล้วได้กล่าวถึงวิธีและผู้สร้างเหล็กไหลไว้พอประมาณ  ต่อนี้ไปจะได้กล่าวถึงชนิดและประเภทต่าง  ๆ  ของเหล็กไหล

       เหล็กไหลแบ่งเป็นประเภทย่อย  ๆ  ได้ประมาณสองถึงสามร้อยชนิด  แต่แบ่งเป็นประเภทใหญ่  ๆ  ได้เจ็ดชนิดทั้งที่มีอานุภาพและไม่มีอานุภาพดังนี้

       เหล็กไหลโกฏิปี  เป็นเหล็กไหลที่พบน้อยหายากที่สุดในเหล็กไหลทุกชนิด  มีสีเขียวปีกแมลงทับ  คำว่าสีเขียวปีกแมลงทับนี้ขอให้ท่านเข้าใจว่าเหมือนปีกแมลงทับจริง  ๆ  ซึ่งเป็นสีเขียวอมฟ้ามีสีเป็นมันเลื่อมประภัสสร  มีลักษณะสำคัญที่แบ่งแยกออกจากเหล็กไหลชนิดอื่น  ๆ  ด้วยสีและขนาด  ด้วยมีขนาดใหญ่สุดเพียงเท่าท้องของผึ้งเท่านั้น  เวลาเรียกลงมาจะมีขนาดเท่ากับเส้นเข็มเย็บผ้าหรือใหญ่กว่านี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง  แม้แต่เหล็กไหลที่พระอาจารย์มอบให้เสด็จท่านเก็บรักษาก็มีเหล็กไหลโกฏิปีเพียงสี่สิบกว่าก้อนเท่านั้น  ในขณะที่เหล็กไหลอื่น  ๆ  มีเป็นร้อยก้อนหรือกว่านั้นขึ้นไป  เวลาตัดย่อยเป็นก้อนจึงมีขนาดก้อนที่เล็กมาก  หากมีขนาดที่ใหญ่กว่านี้ก็จะเป็นเหล็กไหลชนิดอื่น  ๆ  ไม่ใช่เหล็กไหลโกฏิปี  พระฤษีกะไลยโกฏิเป็นผู้สร้าง  เหตุที่มีจำนวนน้อยเพราะขณะที่สร้างนั้นหลวงปู่มีอายุมากแล้วจึงหุงได้ไม่มาก  แต่ด้วยพระเมตตาก็สู้อุดส่าสร้างจนได้  เพื่อเป็นทานให้กุลบุตรหญิงชาย  ได้ใช้พิทักษ์รักษาแผ่นดินในกาลต่อไปภายหน้า   มีอานุภาพสูงมากในการป้องกันภยันตรายและศาตราวุธต่าง  ๆ   ตลอดจนสามารถเปลี่ยนจิตรใจคนได้  มีอานุภาพป้องกันอันตรายในน้ำ  แม้เจ้าของตกลงไปในน้ำที่เชี่ยวกลาก  ก็จะไม่จมน้ำและไม่ไหลไปตามน้ำให้เป็นอันตรายขึ้นได้  สามารถว่ายพยุงตัวกลับขึ้นฝั่งได้โดยปลอดภัย  สำหรับข้อห้ามจะพูดรวม  ๆ  กันไปกับเหล็กไหลอื่น  ๆ  ด้วยว่าเหมือน  ๆ  กันในข้อนี้  สำหรับเหล็กไหลโกฏิปีนี้แทบไม่มีข้อห้ามเลยก็ว่าได้  ด้วยว่าผู้ถือเหล็กไหลจะต้องรักษาศีลห้าเป็นอย่างน้อยทุกชนิดอยู่แล้ว  แต่สำหรับเหล็กไหลทุกชนิดหากจำเป็น  ในการต่อสู้  ก็สามารถสังหารสัตรูได้ไม่ห้ามในข้อนี้   เหล็กไหลโกฏิปี  เป็นเหล็กไหลที่ควรมีไว้ในครอบครองอย่างยิ่งถ้าเลือกได้  เพราะนอกจากมีอานุภาพสูงแล้วยังมีขนาดเล็ก  ฝังไว้ในตัวแผลก็ไม่ใหญ่ไม่ต้องเจ็บมาก  อย่าว่าแต่ศึกมนุษย์เลยแม้แต่ศึกเทวดาก็ไม่ต้องกลัว  สำหรับคน  ๆ  หนึ่ง  ถ้าจะให้สมบูรณ์จะต้องฝังสองก้อน   ก้อนหนึ่งเป็นเหล็กไหลโกฏิปี  ก้อนหนึ่งเป็นเหล็กไหลเพลิง  ดังท่านอาจารย์เสด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์  ท่านฝังเหล็กไหลโกฏิปีไว้ที่ท้องแขนซ้ายหนึ่งก้อน  ฝังเหล็กไหลเพลิงไว้ที่กลางอกหนึ่งก้อน  ดังจะได้กล่าวต่อไป  สำหรับเหล็กไหลโกฏิปีนี้เมื่อหลายวันก่อน  หลานชายของข้าพเจ้าที่พักอยู่ที่เดียวกับที่เล่าตอนไปดูเหล็กไหลเมื่อคราวก่อน   นำถุงพลาสติก ใส่วัตถุเป็นก้อนกลมมีขนาดเล็กมากเล็กกว่าหัวเข็มหมุด  มีสีเขียวหม่น  ๆ  สีคล้ายหยกที่มีสีเขียวออกเทา  สำหรับเหล็กไหลถือว่าลักษณะนี้  ไม่มีสีมีแววแต่อย่างใด นำมาให้ข้าพเจ้าดูแล้วถามว่านี่คืออะไร  มาถึงตรงนี้ท่านทั้งหลายที่อ่านข้อเขียนของข้าพเจ้าคงพอจะรู้ว่าเจ้าก้อนกลมแบนนี้มันคืออะไร  ถ้าคิดไม่ออกข้าพเจ้าจะบอกให้ว่ามันคือเหล็กไหลโกฏิปีของปลอม  คนที่ปลอมมานี้ต้องมีความรู้เกี่ยวกับเหล็กไหลอยู่พอตัว  มีความเข้าใจในสีสันและขนาดของเหล็กไหลเป็นอย่างดี   ขอท่านทั้งหลายพึงทราบเถิดว่า  เหล็กไหลจะต้องเป็นก้อนรีทรงกระบอกปลายมนทั้งสองด้านเท่านั้น  ที่เป็นเช่นนี้เพราะเวลาเราตัดแบ่งย่อยจากสายของเหล็กไหลที่ย้อยลงมานั้นเหล็กไหลจะย้อยลงมาทีละน้อยจนเป็นสายยาวจนสุดแล้ว  ให้ใช้น้ำมนต์ที่เตรียมไปประพรมเสียก่อน  สำหรับพระคาถาที่ใช้ทำน้ำมนต์จะต้องเป็นคาถาที่ใช้กับเหล็กไหลโดยตรง  ไม่ใช่ใช้พระคาถาอะไรก็ได้   เหตุที่ต้องใช้น้ำมนต์ประพรมก็เพื่อไม่ให้เหล็กไหลหนีกลับไปในถ้ำก่อนที่เราจะตัดได้  แล้วจึงใช้ไฟจากเทียนขี้ผึ้งแท้ลนบริเวณส่วนที่เหล็กไหลติดกับตาน้ำที่เราเรียกเหล็กไหลลงมา  จนย้อยสุดเหลือใยเล็กที่สุดเพื่อสะดวกในการตัด  แล้วใช้วัสดุตามที่กำหนดไว้ในคัมภีร์โสฬสตัด  สำหรับสิ่งที่ใช้ตัดเหล็กไหลนี้เขาไม่ให้บอกกัน  แต่จะตั้งเป็นปริศนาให้คิดซึ่งเป็นการหาเหล็กไหลด้วยในปริศนาข้อนี้เอง  ข้าพเจ้าจะบอกในโอกาสต่อไป  เหล็กไหลเมื่อย้อยลงมาจะเป็นเส้นเดียวจะยาวหรือสั้น  หรือมีขนาดของเส้นใหญ่เล็กอย่างไรนั้น  ขึ้นอยู่กับชนิดของเหล็กไหล  ให้เราแบ่งย่อยเป็นก้อนเล็ก ๆ  จะเป็นท่อนทรงกระบอกปลายตัด  หลังจากตัดแบ่งย่อยแล้วเหล็กไหลจะเซ็ตตัวปลายที่ตัดทั้งสองจะเปลี่ยนเป็นทรงกลมด้วยเหตุนี้เหล็กไหลที่แท้จริงจึงมีเพียงสัณฐานเดียวเท่านั้น  ในข้อนี้ขอให้ทราบว่าขณะเมื่อเหล็กไหลย้อยลงมานั้น  จะทำอิทธิฤทธิ์เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นราวกับว่าถ้ำทั้งถ้ำจะถล่มพังลงมา  ที่ลงแบบนิ่ม ๆ  เงียบ ๆ  ขอให้เข้าใจว่าไม่มีและไม่ใช่อย่างแน่นอน   จะอย่างไรเสียของปลอมมันก็ไม่เหมือนของจริงอยู่ดี  ข้าพเจ้าจึงบอกไปว่า  น่าจะเป็นเหล็กไหลแต่ก้อนนี้ไม่ใช่  เขาบอกว่าพระอาจารย์เขาให้มา  ข้าพเจ้าจึงบอกว่าเหล็กไหลราคาก้อนหนึ่งเป็นสิบล้านเขาคงไม่ให้กันง่าย  ๆ  หลอก  เขาก็เก็บกลับไป  ข้าพเจ้าขอบอกให้รู้ว่าถ้าเป็นเหล็กไหลแท้จริงแล้วจะไม่สามารถใส่ถุงพกในกระเป๋าเสื้อได้เลย  เพราะเหล็กไหลจะแสดงอานุภาพ  เปิดไฟก็จะหรี่ดับ  เปิดพัดลมก็ไม่ได้มันจะไม่หมุนแล้วจะพานไหม้เสียหาย  สตาร์ทรถถ้าเราไม่ใช่คนขับก็จะไม่ติด  เป็นอันว่าทำอะไรก็ไม่ได้  ถ้าจะพกไปมีทางเดียวคือใส่ไว้ในกลักขี้ผึ้งแท้  หรือฝังไว้ในตัวคน  จึงจะไม่แสดงอานุภาพ  อีกอย่างหนึ่งเหล็กไหลนี้  ท่านผู้สร้างได้ฝังอาถรรพ์กันขโมยเอาไว้  เพื่อป้องกันผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของจะนำพาไปใช้ได้  คำว่า  ยักพาไปลิงพามานี้  ไม่มีทางสำหรับเหล็กไหลที่จะเป็นไปได้  ลืมบอกไปว่าที่บ้านของหลานข้าพเจ้าเป็นตำหนักทรงเจ้าแม่กวนอิม

          ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผู้ที่ครอบครองเหล็กไหลไม่สามารถขาย  หรือให้เหล็กไหลแก่ผู้อื่นโดยไม่มีการอาราธนาขออนุญาตจากท่านผู้สร้างเหล็กไหลก่อน  เพราะถ้าตั้งธงไว้ว่าเหล็กไหลเกิดเองตามธรรมชาติ  หรือเป็นสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติแล้ว  ก็เลยไม่คิดที่จะขออนุญาตใคร   เหล็กไหลจะกลับมาที่เดิมทุกครั้งไม่ว่าจะใช้วิธีการใด  ๆ   ก็ไม่สามารถจะนำเหล็กไหลไปได้  ในเรื่องนี้มีผู้เขียนไว้หลายท่านแล้ว  แต่ไม่ระบุเหตุผลว่าเป็นเพราะเหตุใด  ในข้อเขียนของข้าพเจ้าจึงได้แจ้งไว้แล้วตามนี้  ในรายละเอียดจะไม่ขอพูดถึงอีกเพราะจะซ้ำกันและเป็นการสาธยายข้อเขียนของผู้อื่นเห็นว่าไม่สมควร

          จะเล่าเรื่องพวกสิบแปดมงกุฎ  ใช้วิธีการอันแยบยลในการหลอกลวงผู้คน  ข้าพเจ้าเพิ่งรู้มาใหม่  พวกที่หลอกลวงไม่เว้นแม้แต่ผู้ห่มผ้าเหลือง  เมื่อหลายปีก่อนมีคนห่มผ้าเหลืองคนหนึ่ง  ใช้วิธีนี้ในการตัดเหล็กไหล  ก่อนที่จะกล่าวต่อไปขอย้ำว่าการตัดเหล็กไหลจะต้องทำเหมือนที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้แล้วเท่านั้น  จะใช้วิธีอื่น ๆ  ให้ได้มาซึ่งเหล็กไหลจากในถ้ำนั้น  ไม่ได้และไม่ใช่โดยเด็ดขาด  เป็นต้นว่าหล่นลงมา  ไม่ว่าจะใช้อะไรรับ  เป็นต้นว่าบางก้อนก็หล่นลงในผ้าบ้างหล่นนอกผ้าบ้างเพราะคนโยน  ๆ  มาแรงเกินไป  ขอให้ทราบว่าเหล็กไหลเมื่อตกพื้นดินจะสูญหายทันที  ออกมาเป็นก้อน  มาแล้ว ๆ  ไม่ต้องแบ่งย่อยอีก  หรือใช้วิธีการอื่นในการแบ่งให้เป็นก้อนย่อย ๆ   ก็ดี  สิ่งนั้นไม่ใช่เหล็กไหลอย่างแน่นอน  และคนที่เรียกเหล็กไหลเหล่านี้  จะพูดเป็นทำนองว่าห้ามทดสอบบ้าง  ห้ามขายบ้างถ้าไม่เชื่อจะมีอันเป็นไป  เพราะกลัวเขานำไปทดลองแล้วจะรู้ว่าเป็นของปลอม  เหล็กไหลเป็นของวิเศษ  ที่หลวงปู่ฤษีสร้างไว้  มีแต่คุณไม่มีโทษใด ๆ แก่ผู้ที่ครอบครอง  เว้นแต่เหล็กไหลชนิดนี้คือเหล็กไหลที่ปักติดบนผนังถ้ำมีลักษณะเป็นดอกบัว  มีรัศมีสีรุ้งครอบคลุมอยู่  เหล็กไหลชนิดนี้จะมีเทพชั้นสูงคุ้มครองอยู่  มนุษย์ไม่สามารถครอบครองเหล็กไหลชนิดนี้ได้  หากฝืนก็จะเสียชีวิตเสียเปล่า ๆ  นอกจากเหล็กไหลชนิดนี้แล้ว  ถ้าผู้ที่ครอบครองทำสิ่งที่ผิดต่อเหล็กไหล  ก็จะไม่ให้โทษ ใด ๆ  แก่ผู้ครอบครอง  เหล็กไหลจะใช้วิธีสูญหายไปจากผู้ครอบครองแทน  เรื่องนี้จะเล่าให้ฟังเป็นตัวอย่างจากประสบการณ์ของข้าพเจ้า  เมื่อเกือบสามสิบปีก่อน  ข้าพเจ้าไปฝึกทนายความอยู่ที่จังหวัดราชบุรี  มีท่านผู้มีฐานะคนหนึ่งมีอิทธิพลพอควรเขามีฐานะดีและคงมีสัตรูอยู่มาก  จึงซื้อเหล็กไหลมาได้ในราคาสิบล้านบาทตอนนั้น  เขาได้ฝังไว้ในตัว  ที่ท้องแขนซ้ายก้อนหนึ่ง  ตลอดเวลาที่ผ่านไปของเขา  ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  อยู่มาวันหนึ่งเขาไปบ้านเพื่อน  ซึ่งอยู่ในบ้านนอกก็เป็นบ้านทั่ว ๆ  ไปตามชนบท ขณะเดินเข้าไปในบริเวณบ้านได้ยินเสียงดังเพี้ยะที่ท้องแขนซ้าย  เขาก็รีบใช้มือจับดูปรากฏว่าเหล็กไหลที่ฝังไว้  หายไปเสียแล้ว  พอเขาแหงนหน้าขึ้นมองเหนือศีรษะ  จึงทราบว่าเขาเดินลอดราวตากผ้า  แต่ตอนนั้นมีผ้าอยู่ไม่กี่ผืนจึงไม่ทันได้สังเกตุเห็น  เพราะมีแต่เส้นลวดเล็ก ๆ  เรื่องนี้ข้าพเจ้ารู้มาด้วยตนเอง  จึงเป็นข้อเตือนใจว่าผู้ที่จะครอบครองเหล็กไหลนั้นจะต้องรอบรู้คาถาอาคมพอสมควรไม่ใช่ใคร  ๆ  ก็จะฝังเหล็กไหลได้เพียงเพราะมีเงินซื้อเท่านั้น  นอกจากนี้พวกร้านฟักแฟงที่ปลูกไว้ก็ห้ามลอด  ผิดลูกเมียเขาหรือโสเภณีก็ห้าม  เวลาเข้าส้วมก็ห้ามพูดว่าเหม็น  สกปรกเหล่านี้ห้ามพูด  ด่าพ่อด่าแม่ก็ห้ามด่า  แท้จริงแล้วเหล็กไหลจะไม่ให้โทษอะไรกับผู้ครอบครองเหล็กไหล  เป็นแต่เขาจะไม่อยู่ด้วยกับคนผู้นี้  ถ้าจำเป็นต้องฝ่าสิ่งที่ต้องห้ามเช่นต้องติดตามสัตรู  ให้อันเชิญพระคาถาป้องกันคือ  พระมนต์ทรง  ให้ทำดังนี้ให้ว่านะโมสามจบ  แล้วใช้มือกุมศีรษะไว้แล้วว่าคาถาดังนี้    นะทรงฟ้า  โมทรงดิน  พุทธทรงสายสิญจน์   ธาทรงสมุทร  ยะยุดอากาศ    เมื่อผ่านสิ่งที่ต้องห้ามไปแล้ว  ให้ว่าพระคาถาถอยหลังเพื่อเรียกของกลับคืน  แล้วเอามือออกจากศีรษะเป็นอันเสร็จการผ่านสิ่งต้องห้าม  แต่จงจำไว้ว่าขณะเราใช้พระคาถานี้อยู่อาคมต่าง ๆ  จะไม่คุ้มครองเราไปชั่วเวลานี้ด้วย  ถ้าถูกยิงก็ต้องตาย  จึงต้องใช้เมื่อจำเป็นจริง  ๆ  เท่านั้น  อีกข้อสำคัญ  ผู้ที่จะใช้พระเวทย์ทุกบท  ต้องผ่านการครอบครูที่ถูกต้องมาแล้ว  และยกครูทุกวิชาที่จะเรียนจึงจะใช้ได้เป็นประสิทธิ

          เล่ามาถึงตอนนี้แล้ว  ขอยกไปเล่าเรื่องคนนุ่งผ้าเหลืองเขาใช้กลเม็ดใดในการเรียกเหล็กไหลในตอนต่อไป  อย่าลืมพบกันทุกวันอาทิตย์ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่