ปลายปี ค.ศ. 2014 ชื่อของบริษัททำนาฬิกาโบสถ์ของกลาสฮุ๊ตเต้ (german: Glashütte) ที่หายไปกว่าชั่วอายุคนฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ได้กลับมาสร้างแนวคิดใหม่ของนาฬิกาเยอรมันด้วยแรงบันดาลใจที่ต่อยอดจากพื้นฐานประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และชื่อนั้นคือ “C. H. WOLF”
ประวัติศาสตร์ของ C. H. WOLF
Carl Heinrich Wolf (อ่านว่า: คาร์ล ไฮน์ริช โวล์ฟ) ได้เข้ามาสร้างชื่อในกลาสฮุ๊ตเต้ในปี ค.ศ. 1868 โดยเริ่มจากตั้งโรงงานที่ทำนาฬิกาโบสถ์และชิ้นส่วนกลไกต่างๆ (german: Thurmuhren-Fabrik und Mechanische Werkstatt) และจัดตั้งอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1871 ที่ถนน Feldstraße 2 (อ่านว่า: เฟล์ดชตราเซอะ)
รูปที่ 1 - บริษัท C. H. WOLF ที่ Feldstraße 2, Glashütte, Germany เมื่อปี ค.ศ. 1971
ประมาณปี 1900 ลูกชายทั้งสองคนของ Carl Heinrich Wolf นั้นได้เข้ามาบริหารธุรกิจของครอบครัว พัฒนาโรงงานให้ได้มาตรฐานและตั้งเป็นบริษัทภายใต้ชื่อ “C. H. Wolf & Söhne/Glashütte” (อ่านว่า: เซ. ฮา. โวล์ฟ อุ่น เซินเนอะ กลาสฮุ๊ตเต้) ด้วยความพยายามและผลงานที่มีคุณภาพ C. H. WOLF ได้สร้างชื่อจารึกลงไว้ในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมนาฬิกากลาสฮุ๊ตเต้ ได้สร้างนาฬิกาให้กับโบสถ์มากมาย จนถึงช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่โดยเกิดการรวมตัวระหว่างสองบริษัทโดยใช้ชื่อใหม่คือ LIWOS (ย่อมาจาก: Otto Lindig Nachfolger C. H. Wolf & Söhne) และชื่อของ C. H. WOLF จึงหายไปจากอุตสาหกรรมนาฬิกากลาสฮุ๊ตเต้
รูปที่ 2 - ภายในโรงงานนาฬิกาของ C. H. WOLF สมัยก่อน
ปัจจุบันยังมีนาฬิกาโบสถ์ C. H. WOLF ที่ยังทำงานอยู่สองที่ด้วยกันคือ Kirsche Possendorf และ Stadtkirche Wehlen โดยกลไกยังคงเป็นแบบดั้งเดิมไม่ได้ถูกตกแต่งเพิ่มแต่อย่างใด
รูปที่ 3 - โบสถ์ทั้งสองที่ใช้นาฬิกาของ C. H. WOLF
การกลับมาของ C. H. WOLF
รูปที่ 4 - บริษัท C. H. WOLF ในปัจจุบัน (ยังตั้งอยู่ที่เดียวกับในอดีต)
ชื่อที่ได้หายไปเกือบศตวรรษได้กลับมาอีกครั้งในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2014 โดยสร้างนาฬิกาจากความคิดที่แปลกใหม่ ผสมผสานวัสดุที่หลากหลายเข้าด้วยกัน แต่ยังคงความคลาสสิกตามแบบฉบับกลาสฮุ๊ตเต้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นการวัสดุที่ทำชุดนักบินรบมาทำนาฬิการุ่น Pilot Green และใช้ Cellulose Acetate ที่เป็นวัสดุพอลิเมอร์ในสมัยแรกๆ ที่มีความสำคัญในด้านการบินในสมัยสงครามโลกทั้งสองครั้ง
รูปที่ 5 - นาฬิกา C. H. WOLF รุ่น Pilot Green และ Pilot Red [ที่มา C. H. WOLF]
สิ่งที่โดดเด่นคือ “หน้าปัดขนมชั้น” ที่เป็นการผสมผสานยางพาราและไม้คุณภาพสูงไว้ด้วยกัน จะต้องนำไม้ที่มีความหนาเท่าๆกันมาเรียกตัวสลับกันกับแผ่นยางพาราโดยจะต้องคุมความหนาให้ได้เท่ากัน ใช้เครื่องมือกดทับไว้เพื่อให้วัสดุทั้งสองติดกันภายใต้ความดันและอุณหภูมิที่เหมาะสม หลังจากนั้นจึงจะนำมาตัดบางในแนวขวางแล้วไปเข้าเครื่องตัดให้ได้ขนาดตามต้องการ ต้องใช้กรรมวิธีกว่า 25 ขั้นตอนเพื่อที่จะได้หน้าปัดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ C. H. WOLF
รูปที่ 6 - ชิ้นงานก่อนที่จะถูกตัดออกเป็น “หน้าปัดขนมชั้น” เอกลักษณ์ของ C. H. WOLF
รูปที่ 7 - นาฬิการุ่น Nautic Kapitän หน้าปัดขนมชั้นเอกลักษณ์เฉพาะ C.H. WOLF
C. H. WOLF ใช้เครื่องของสวิสของค่าย Unitas และ Sellita (SW200 และ SW500) นำเครื่องมาแยกส่วนประกอบ ขัดแต่งทุกชิ้นส่วนอย่างประณีตบรรจง แล้วปรับแต่งโดยโดยเพิ่ม 3/4 Plate , Gold Chatons และ Swan Neck Regulator ตามแบบธรรมเนียมของกลาสฮุ๊ตเต้ (ลองเปรียบเทียบรูปที่ 8 และรูปที่ 9 ดูนะครับ จะเห็นได้ว่า C. H. WOLF ทำงานอยู่บนพื้นฐานความคลาสสิกของนาฬิกากลาสฮุ๊ตเต้)
รูปที่ 8 - เครื่อง ALPHA CHW 306 ที่มี 3/4 Plate , Gold Chatons และ Swan Neck Regulator
รูปที่ 9 - นาฬิกาโดยการพัฒนาของ Ferdinand Adolf Lange แบบ Type VI หมายเลขเครื่องตั้งแต่ 3100 เป็นต้นไป ทำตั้งแต่ปี ค.ศ. 1863 จะมีชิ้นส่วนต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น 3/4 Plate และ Gold-Chatons ซึ่งเป็นจารีตสำหรับนาฬิการุ่นคลาสสิกของกลาสฮุ๊ตเต้จนถึงปัจจุบัน
ในอนาคต C. H. WOLF จะเปลี่ยนไปใช้เครื่องของ Eterna แทน ซึ่งได้เซ็นสัญญากับ Eterna Movement และพัฒนา in-house movement เอง สำหรับราคาของ C. H. WOLF เป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าเป็นความท้าทาย ปัจจุบันราคาของนาฬิกา C. H. WOLF อยู่ที่ประมาณ 2,500€ ถึง 5500€ เป็นราคาในตำแหน่งที่อยู่ใน mid-high luxury watch ที่มีการแข่งขันสูงมาก นอกจากคู่แข่งในประเทศเองแล้วยังมีคู่แข่งเจ้าสังเวียนอย่างสวิตเซอร์แลนด์อยู่อีกหลายยี่ห้อ ผู้บริหาร คุณ Jürgen Jacob ได้บอกกับผู้เขียนว่า “ทุกสิ่งก็เริ่มจากจุดเล็กๆ แล้วก็ต่อยอดไปอย่างช้าๆทีละก้าว สักวันมันก็จะยิ่งใหญ่” ทำให้ผู้เขียนเชื่อมั่นตามแนวคิดของเยอรมันที่ว่า “einer nach dem anderen” ที่ให้ค่อยๆคิดที่ละก้าวและสร้างเป้าหมายจากพื้นฐานที่มั่นคง แม้วันนี้ C. H. WOLF จะยังเป็นบริษัทที่เพิ่งเกิดใหม่ แต่ด้วยวิสัยทัศน์, ความคิดสร้างสรรค์ และความตั้งใจมุ่งมั่น จะทำให้ชื่อของนาฬิกาสัญชาติเยอรมันนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างในอนาคต

สุดท้ายนี้ผู้เขียนต้องขอขอบพระคุณ คุณ Jürgen Jacob (ผู้บริหารของ C. H. WOLF) ที่สละเวลาเพื่อพาพวกเราเข้าชมบริษัท รวมถึงให้ความรู้ในเรื่องของประวัติศาสตร์ แรงบันดาลใจก่อนจะมาเป็น C. H. WOLF ในวันนี้
- ถ้าอยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของกลาสฮุ๊ตเต้เพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่กระทู้ที่ผมเขียนไว้นี้ครับ
>>คลิกที่นี่<<
- ฝากกด Like C. H. WOLF บน Facebook |
www.facebook.com/pages/C-H-WOLF/469855566461383
- C. H. WOLF Website |
www.c-h-wolf.de
ที่มา
1.
www.uhren-wiki.net
2.
www.c-h-wolf.de
3. ข้อมูลจากการเยี่ยมชมบริษัท C. H. WOLF ที่ Glashütte
"Time is the most valuable thing a man can spend." - Theophrastus (372 BC-287 BC)
ถ้าชอบฝากกดไลค์ -
Luxury Watches Thailand - Facebook
C. H. WOLF แนวคิดใหม่ของนาฬิกาเยอรมัน
ประวัติศาสตร์ของ C. H. WOLF
Carl Heinrich Wolf (อ่านว่า: คาร์ล ไฮน์ริช โวล์ฟ) ได้เข้ามาสร้างชื่อในกลาสฮุ๊ตเต้ในปี ค.ศ. 1868 โดยเริ่มจากตั้งโรงงานที่ทำนาฬิกาโบสถ์และชิ้นส่วนกลไกต่างๆ (german: Thurmuhren-Fabrik und Mechanische Werkstatt) และจัดตั้งอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1871 ที่ถนน Feldstraße 2 (อ่านว่า: เฟล์ดชตราเซอะ)
รูปที่ 1 - บริษัท C. H. WOLF ที่ Feldstraße 2, Glashütte, Germany เมื่อปี ค.ศ. 1971
ประมาณปี 1900 ลูกชายทั้งสองคนของ Carl Heinrich Wolf นั้นได้เข้ามาบริหารธุรกิจของครอบครัว พัฒนาโรงงานให้ได้มาตรฐานและตั้งเป็นบริษัทภายใต้ชื่อ “C. H. Wolf & Söhne/Glashütte” (อ่านว่า: เซ. ฮา. โวล์ฟ อุ่น เซินเนอะ กลาสฮุ๊ตเต้) ด้วยความพยายามและผลงานที่มีคุณภาพ C. H. WOLF ได้สร้างชื่อจารึกลงไว้ในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมนาฬิกากลาสฮุ๊ตเต้ ได้สร้างนาฬิกาให้กับโบสถ์มากมาย จนถึงช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่โดยเกิดการรวมตัวระหว่างสองบริษัทโดยใช้ชื่อใหม่คือ LIWOS (ย่อมาจาก: Otto Lindig Nachfolger C. H. Wolf & Söhne) และชื่อของ C. H. WOLF จึงหายไปจากอุตสาหกรรมนาฬิกากลาสฮุ๊ตเต้
รูปที่ 2 - ภายในโรงงานนาฬิกาของ C. H. WOLF สมัยก่อน
ปัจจุบันยังมีนาฬิกาโบสถ์ C. H. WOLF ที่ยังทำงานอยู่สองที่ด้วยกันคือ Kirsche Possendorf และ Stadtkirche Wehlen โดยกลไกยังคงเป็นแบบดั้งเดิมไม่ได้ถูกตกแต่งเพิ่มแต่อย่างใด
รูปที่ 3 - โบสถ์ทั้งสองที่ใช้นาฬิกาของ C. H. WOLF
การกลับมาของ C. H. WOLF
รูปที่ 4 - บริษัท C. H. WOLF ในปัจจุบัน (ยังตั้งอยู่ที่เดียวกับในอดีต)
ชื่อที่ได้หายไปเกือบศตวรรษได้กลับมาอีกครั้งในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2014 โดยสร้างนาฬิกาจากความคิดที่แปลกใหม่ ผสมผสานวัสดุที่หลากหลายเข้าด้วยกัน แต่ยังคงความคลาสสิกตามแบบฉบับกลาสฮุ๊ตเต้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นการวัสดุที่ทำชุดนักบินรบมาทำนาฬิการุ่น Pilot Green และใช้ Cellulose Acetate ที่เป็นวัสดุพอลิเมอร์ในสมัยแรกๆ ที่มีความสำคัญในด้านการบินในสมัยสงครามโลกทั้งสองครั้ง
รูปที่ 5 - นาฬิกา C. H. WOLF รุ่น Pilot Green และ Pilot Red [ที่มา C. H. WOLF]
สิ่งที่โดดเด่นคือ “หน้าปัดขนมชั้น” ที่เป็นการผสมผสานยางพาราและไม้คุณภาพสูงไว้ด้วยกัน จะต้องนำไม้ที่มีความหนาเท่าๆกันมาเรียกตัวสลับกันกับแผ่นยางพาราโดยจะต้องคุมความหนาให้ได้เท่ากัน ใช้เครื่องมือกดทับไว้เพื่อให้วัสดุทั้งสองติดกันภายใต้ความดันและอุณหภูมิที่เหมาะสม หลังจากนั้นจึงจะนำมาตัดบางในแนวขวางแล้วไปเข้าเครื่องตัดให้ได้ขนาดตามต้องการ ต้องใช้กรรมวิธีกว่า 25 ขั้นตอนเพื่อที่จะได้หน้าปัดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ C. H. WOLF
รูปที่ 6 - ชิ้นงานก่อนที่จะถูกตัดออกเป็น “หน้าปัดขนมชั้น” เอกลักษณ์ของ C. H. WOLF
รูปที่ 7 - นาฬิการุ่น Nautic Kapitän หน้าปัดขนมชั้นเอกลักษณ์เฉพาะ C.H. WOLF
C. H. WOLF ใช้เครื่องของสวิสของค่าย Unitas และ Sellita (SW200 และ SW500) นำเครื่องมาแยกส่วนประกอบ ขัดแต่งทุกชิ้นส่วนอย่างประณีตบรรจง แล้วปรับแต่งโดยโดยเพิ่ม 3/4 Plate , Gold Chatons และ Swan Neck Regulator ตามแบบธรรมเนียมของกลาสฮุ๊ตเต้ (ลองเปรียบเทียบรูปที่ 8 และรูปที่ 9 ดูนะครับ จะเห็นได้ว่า C. H. WOLF ทำงานอยู่บนพื้นฐานความคลาสสิกของนาฬิกากลาสฮุ๊ตเต้)
รูปที่ 8 - เครื่อง ALPHA CHW 306 ที่มี 3/4 Plate , Gold Chatons และ Swan Neck Regulator
รูปที่ 9 - นาฬิกาโดยการพัฒนาของ Ferdinand Adolf Lange แบบ Type VI หมายเลขเครื่องตั้งแต่ 3100 เป็นต้นไป ทำตั้งแต่ปี ค.ศ. 1863 จะมีชิ้นส่วนต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น 3/4 Plate และ Gold-Chatons ซึ่งเป็นจารีตสำหรับนาฬิการุ่นคลาสสิกของกลาสฮุ๊ตเต้จนถึงปัจจุบัน
ในอนาคต C. H. WOLF จะเปลี่ยนไปใช้เครื่องของ Eterna แทน ซึ่งได้เซ็นสัญญากับ Eterna Movement และพัฒนา in-house movement เอง สำหรับราคาของ C. H. WOLF เป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าเป็นความท้าทาย ปัจจุบันราคาของนาฬิกา C. H. WOLF อยู่ที่ประมาณ 2,500€ ถึง 5500€ เป็นราคาในตำแหน่งที่อยู่ใน mid-high luxury watch ที่มีการแข่งขันสูงมาก นอกจากคู่แข่งในประเทศเองแล้วยังมีคู่แข่งเจ้าสังเวียนอย่างสวิตเซอร์แลนด์อยู่อีกหลายยี่ห้อ ผู้บริหาร คุณ Jürgen Jacob ได้บอกกับผู้เขียนว่า “ทุกสิ่งก็เริ่มจากจุดเล็กๆ แล้วก็ต่อยอดไปอย่างช้าๆทีละก้าว สักวันมันก็จะยิ่งใหญ่” ทำให้ผู้เขียนเชื่อมั่นตามแนวคิดของเยอรมันที่ว่า “einer nach dem anderen” ที่ให้ค่อยๆคิดที่ละก้าวและสร้างเป้าหมายจากพื้นฐานที่มั่นคง แม้วันนี้ C. H. WOLF จะยังเป็นบริษัทที่เพิ่งเกิดใหม่ แต่ด้วยวิสัยทัศน์, ความคิดสร้างสรรค์ และความตั้งใจมุ่งมั่น จะทำให้ชื่อของนาฬิกาสัญชาติเยอรมันนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างในอนาคต
สุดท้ายนี้ผู้เขียนต้องขอขอบพระคุณ คุณ Jürgen Jacob (ผู้บริหารของ C. H. WOLF) ที่สละเวลาเพื่อพาพวกเราเข้าชมบริษัท รวมถึงให้ความรู้ในเรื่องของประวัติศาสตร์ แรงบันดาลใจก่อนจะมาเป็น C. H. WOLF ในวันนี้
- ถ้าอยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของกลาสฮุ๊ตเต้เพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่กระทู้ที่ผมเขียนไว้นี้ครับ >>คลิกที่นี่<<
- ฝากกด Like C. H. WOLF บน Facebook | www.facebook.com/pages/C-H-WOLF/469855566461383
- C. H. WOLF Website | www.c-h-wolf.de
ที่มา
1. www.uhren-wiki.net
2. www.c-h-wolf.de
3. ข้อมูลจากการเยี่ยมชมบริษัท C. H. WOLF ที่ Glashütte
"Time is the most valuable thing a man can spend." - Theophrastus (372 BC-287 BC)
ถ้าชอบฝากกดไลค์ - Luxury Watches Thailand - Facebook