ความประทับใจหลังอ่านเรื่องศิวาราตรี

เรื่องย่อแบบไม่สปอยย ศิวาราตรีเป็นจินตนิยายภารตะ ที่มีเนื้อเรื่องกล่าวถึงดินแดนชมพูทวีปหรืออินเดีย(หากไม่ใช่แย้งได้นะครับ^^)ซึ่งเรื่องจะเกี่ยวกับสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์สองสีผิว คืออารยันชนชาวผิวขาว และมิลักขะชนชาวผิวสี เนื้อเรื่องตอนแรกจะเดิมเนินการรุกรานของเผ่าอารยันเข้ามายืดดินแดนของชาวมิลักขะโดยเผ่าอารยันนำจากองค์พิษณุมหาราช เผ่ามิลักขะคือชาตะเวท เป็นประมุขและมีวิชนีเป็นราชินีคู่บัลลังค์เทวทหะนคร และในคืนศิวาราตรีคือราตรีแห่งการลอยบาปของทางศาสนาพราหมณ์ ได้ปรากฎเหตุอัศจรรย์ขึ้น เมื่อสรรพาวุธทั้งปวงได้เปล่งแสงเรืองรองและกระทบกันเอง นิมิตประหลาดนี้เกิดขึ้นทั้งฝ่ายมิลักขะ และฝ่ายอารยัน คำทำนายที่ว่ามีทารกชายเผ่ามิลักขะผู้หนึ่งถือกำเนิดภายใต้ฤกษ์โจร และทารกนั้นจะสามารถแย่งชิงแผ่นดินอันเคยเป็นของมิลักขะคืนจากอารยันได้ คำทำนายที่ว่ามานี้ทำให้พิษณุมหาราชสั่งให้พวกทหารอารยันฆ่าทารกเพศชายทั้งหมดของเผ่ามิลักขะไม่ให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว
ในขณะเดียวกันทางด้านมิลักขะ วิชนีราชนีของชาตะเวทก็ให้ประสูติโอรสชายฝาแฝดสามคนโดยสลักชื่อไว้ที่หลังเบื้องขวาไว้เพราะฝาแฝดรูปลักษณ์หน้าตาละม้ายคล้ายกันราวกับเบ้าหล่อหลอมด้วยพิมเดียวกัน โดยองค์โตชื่อทุษยันต์ องค์รองชื่อเวชยันต์ องค์เล็กชื่อทัสยุ เมื่อสามกุมารอายุได้ขวบปีก็ถึงกาลอวสานของเมืองเทวทหะนครและกษัตริย์ทั้งสองแต่กุมารสามหน่อด้วยถูกช่วยเหลือโดยทหารรับใช้คนสนิทและขุนพลต่างๆจนรอดมาได้โดยคนโตถูกนักบุญแห่งอารยันนำไปฟุมฟักเลี้ยงดูและก็มอบให้เป็นบุตรบุญธรรมให้แก่กษัตริย์แห่งกรุงกบิลพัทธ์ซึ่งเป็นชาวอารยันรับไปเลี้ยงดู คนรองระหว่างถูกคมหอกของพิษณุมหาราชเสียดผิวหนังก็พลัดตกไปยังแม่น้ำก็ได้รับการช่วยเหลือจากแรดน้ำให้ขึ้นฝั่งและบังเอิญว่าแม่น้ำนั้นใช้เป็นพิธีลอยบาปศิวาราตรี กลิ่นสาปมนุษย์จริงหายไปและอัวราแม่สิงห์มาพบเข้าก็นึกรักจึงคาบไปเลี้ยงไว้เป็นลูกอยู่ถ้ำสิงห์และต่อมาก็ได้ขุนโจรนำไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ส่วนคนน้องคือทัสยุได้วนิพกเป็นผู้ช่วยเหลือและได้นำไปเลี้ยงดูในที่สุด ทำให้สามหน่อมิลักขะต้องแยกจากกันไปและเวลาต่อมาก็จะทำการแก้แค้นแทนเผ่าตนเองต่ออารยัน จบเรื่องย่อ
จากนี้ไปจะขอพูดถึงความประทับใจต่อเนื้อเรื่อง ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นเขียนได้โดยใช้ภาษาที่สวยงามมากๆเลยครับอ่านแรกๆจะรู้สึกว่าทำไมอ่านยากต้องแกะคำไทยเป็นไทยอีกแต่ว่าอ่านไปเรื่อยๆจะพบกับความสนุกและหยุดวางไม่ได้เลย ชอบการเปิดเรื่องที่เล่าสาเหตุของความแค้นทั้งหมด ตอนจบเรื่องต่างก็ได้รับผลกรรมไปตามกันและที่สำคัญเรื่องนี้สอนให้รู้จักรักสามัคคีกันไว้อีกทั้งยังบอกความไม่จีรังยั่งยืนของชีวิตคนแม้จะเก่งเพียงใดก็จะต้องมีการสูญเสียเมื่อเวลามาถึง ผมอ่านเป็นหนังสือปกแข็งของอมรินทร์บุ๊คที่เป็นสี่เล่ม เล่มแรกเปิดเรื่องเปิดประเด็นซ่อนปมได้ดีมากๆทำให้ต้องตามอ่านเล่มสองจะเข้าถึงแก่นมากขึ้นโดยจะมีทั้งรักทั้งรบเล้กๆเล่มสามจะเป็นการไขข้องปัญหาของสามหน่อให้รู้แลที่มาที่ไปของตนเองเล่มสุดท้ายยไม่อยากจะเล่าเลยเพราะเศร้ามากสงครามไม่ได้ทำให้เกิดความสันติที่แท้จริง คุณพนมเทียนจบเรื่องได้อย่างเป็นธรรมชาติและเป็นไปตามหลักความจริงที่สุดถึงแม้จะไม่ได้จบแบบสุขที่สุดแต่ก็จบได้แบบสวยงามที่สุดเช่นกัน แต่จบได้เศร้ามากเศร้าจริงๆมีนักเขียนคนหนึ่งกล่าวไว้ว่าเศร้าจนไม่สามารถร้องไห้ได้เศร้าจับจิตจับใจ ซึ่งผมก็เห็นด้วยครับอ่านเพิ่งจบเมื่อคืนตอนนี้ยังเศร้าๆอยู่ครับ ฮาฮา
ตัวละครที่ประทับใจ
คนแรกเลยคือเวชยันต์จอมโจรแห่งผาสิงห์คำรณเป็นทั้งนักรบที่เก่งนักรักที่มั่นคงต่อคนรักชอบตัวละครนี้มากๆเก่งกาจกล้าหาญความสามารถพิเศษที่ไม่สามารถมีในหมู่คนได้คือคุยกับสิงโตซื่งถือได้ว่าเขาผู้นี้แหละคือนรสิงห์ผู้เกรียงไกรยากนักที่จะต่อกรแต่ก็มีผู้หนึ่งที่สามารถใช้สติปัญญาเอาชนะเขาได้เสมอมา จะเป็นใครไม่ได้เลยคนนั้นคือ ทุษยันต์ พระเชษฐาของเขานั้นเองคนนี้แรกๆไม่ชอบเพราะพระเอกเกินไปแลดูเป็นคนที่เก็บตัวตลอดและก็รอบรู้ไปเสียทุกอย่างอะไรจะเก่งปานนั้นแต่พอทราบเหตุผลของเขาในแต่ละข้อแล้วก็ชอบแต่ไม่ได้ชอบมากเท่าไรแค่ชอบคำสอนและการเสียสละของเขา เสียสละอะไรติดตามกันเองนะครับ และที่เรียกได้ว่ารักมากๆก็คือเจ้าหญิงยามาระตี อรทัย เจ้าหญิงสองสายเลือดระหว่างอารยันจากบิดาแลมิลักขะจากมารดานางคือผู้ที่เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นสมบัติของชาวอารยันเพราะเป็นราชธิดาของพิษณุมหาราชจอมโหด! นางป็นผู้ที่อาภัพนักเพราะได้รักกับคนที่เป็นศัตรูของบิดาของนางคือเวชยันต์นั้นเอง ซึ่งเจ้าหญิงยามาระตีนี้เป็นคนที่สิริโฉมงดงามราวกับเทพีและฉลาดล้ำเลิศแถมยังงามไปด้วยจิตใจที่เเมตตาแผ่กุศลไม่มีจิตคิดพยาบาทใคร ไม่เห็นด้วยในการกระทำของบิดารักเวชยันต์มาก แต่ที่ประหลาดก็คือมีคนที่หน้าเหมือนนางราวกับเป็นเงาในกระจกก็คือโรหิตาลูกสาวของราชครูประจำตัวพิษณุมหาราชคนนี้ผมก็ชอบนางนะเพราะเป็นยอดวีรสตรีที่เสียสละเพื่อบ้านเมืองอย่างกล้าหาญ และคนสุดท้ายคือมานวิกาเทวีผู้ที่หลงรักทุษยันต์ที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายของตนเองแต่ทั้งสองไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆเพราะทุษยันต์ถูกนำมาอุปการะจากบิดาของนาง มาณวิการักทุษยันต์ด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์แท้จริงเป็นคนที่น่าสงสารเพราะกว่าจะมีความสุขก็ทุกข์ใจเสียอยู่นานพอได้สุขแล้วก็ต้องอันมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตของนางไปตลอดกาลด้วยใจอันแน่วแน่ต่อความรัก ตัวละครที่กล่าวมาคือตัวละครที่มีมิติถึงแม้บางตัวละครบทบาทไม่มากแต่ตัวละครนั้นๆก็ทำให้ผู้อ่านเห็นถึงความสำคัญได้อย่างชัดเจนเช่นโรหิตา มาณวิกา ผมจึงขอพูดลยว่าคุณพนมเทียนเก่งจริงๆครับเก่งมากๆๆๆที่สามารถสร้างสรรค์ผลงสนชิ้นเอกนี้ให้คนได้อ่านกัน อย่างไรก็ตามผมอยากจะแนะนำเรื่องนี้ให้เยาวชนต่างๆทุกคนที่ไม่รู้จะอ่านนิยายอะไรแบบว่ามีเวลาอ่านด้วยแล้ว เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจอ่านกันเถิดครับเพราะเรื่องนี้คุณพนมเทียนเขากล่าวไว้ว่านี้เป็นเพชรเม็ดงามของเขาเลยทีเดียว ด้วยภาษาที่สวยงามกอปรกับเนื้อเรื่องที่สนุกครบทุกรสชาติแล้วจึงสมควรอย่างยิ่งเลยละครับ สุดท้ายนี้ผมมีคำถามจะถามคนที่เคยอ่านมาแล้วนะครับว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ขอพูดจากใจเลยครับว่า#วรรณกรรมไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก แก้ไขเพิ่มเติมเรื่องสีผิวมิลักขะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เวชยันต์ ได้ลักพา(?) ตัวเจ้าหญิงยามาระตีไปครองรักอยู่พักนึง ก่อนส่งคืน

ชาวมิลักขะ ไม่ใช่ผิวดำ แต่เป็นผิวสี
เผ่าทมิฬ (ปรากฏตอนหลังสุด) ถึงจะผิวดำ

ทัสยุ ถูกเลี้ยงโดยอดีตขุนพล ที่ปลอมตัวเป็นวนิพกพเนจร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่