วัดใต้น้ำ หรือวัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการาม(เดิม)

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็น Unseen Thailand ที่ไม่ไปไม่ได้ เพราะมีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ

เดิมเป็นวัดหลวงพ่ออุตตมะ ต่อมามีการสร้างเขื่อนน้ำจึงท่วมในที่เดิม จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาล

วัดวังก์วิเวการามเดิมนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2498 เป็นวัดที่เกิดจากพลังความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงพ่ออุตตมะ
วัดอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ คือบริเวณเนินที่มีแม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน

คือ แม่น้ำบิคลี่ ซองกาเลีย และรันตี มารวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย
ในปี 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีโครงการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือเขื่อนเขาแหลม
เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า เมื่อสร้างน้ำเพิ่มขึ้นจนท่วมตัวอำเภอเก่า หมู่บ้านชาวมอญ
รวมถึงวัดวังก์วิเวการามเดิม สำหรับวัดย้ายมาอยู่บนเนินเขาด้านฝั่งตะวันตกของลำน้ำแควน้อยในปัจจุบัน
บริเวณวัดเดิม ถูกปล่อยให้จมอยู่ใต้น้ำ "วัดใต้น้ำ" หรือ “เมืองบาดาล”
และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ

ฤดูร้อน ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม - เมษายน น้ำหลังเขื่อนลดลงสามารถเดินชมโบสถ์เก่าได้

(แต่เราไปต้นเดือนสิงหาคมจริงๆช่วงนี้น้ำเยอะแต่ช่วงที่ไปฝนยังไม่ตกเท่าไหร่เลยเดินไปอยู่)

การไปชมวัดใต้น้ำจะต้องนั่งเรือที่เช่าเหมาลำ เพื่อมาจุดที่เคยเป็นวัดวังก์วิเวการามเก่า

โดยสามารถเช่าเรือได้บริเวณสะพานไม้มอญ ราคาประมาณ 500 บาท(เหมาลำ) ใช้เวลาไป - กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมง
[CR] Unseen Thailand วัดใต้น้ำ หรือวัดจมน้ำ
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็น Unseen Thailand ที่ไม่ไปไม่ได้ เพราะมีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ
เดิมเป็นวัดหลวงพ่ออุตตมะ ต่อมามีการสร้างเขื่อนน้ำจึงท่วมในที่เดิม จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาล
วัดวังก์วิเวการามเดิมนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2498 เป็นวัดที่เกิดจากพลังความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงพ่ออุตตมะ
วัดอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ คือบริเวณเนินที่มีแม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน
คือ แม่น้ำบิคลี่ ซองกาเลีย และรันตี มารวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย
ในปี 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีโครงการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือเขื่อนเขาแหลม
เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า เมื่อสร้างน้ำเพิ่มขึ้นจนท่วมตัวอำเภอเก่า หมู่บ้านชาวมอญ
รวมถึงวัดวังก์วิเวการามเดิม สำหรับวัดย้ายมาอยู่บนเนินเขาด้านฝั่งตะวันตกของลำน้ำแควน้อยในปัจจุบัน
บริเวณวัดเดิม ถูกปล่อยให้จมอยู่ใต้น้ำ "วัดใต้น้ำ" หรือ “เมืองบาดาล”
และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
ฤดูร้อน ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม - เมษายน น้ำหลังเขื่อนลดลงสามารถเดินชมโบสถ์เก่าได้
(แต่เราไปต้นเดือนสิงหาคมจริงๆช่วงนี้น้ำเยอะแต่ช่วงที่ไปฝนยังไม่ตกเท่าไหร่เลยเดินไปอยู่)
การไปชมวัดใต้น้ำจะต้องนั่งเรือที่เช่าเหมาลำ เพื่อมาจุดที่เคยเป็นวัดวังก์วิเวการามเก่า
โดยสามารถเช่าเรือได้บริเวณสะพานไม้มอญ ราคาประมาณ 500 บาท(เหมาลำ) ใช้เวลาไป - กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมง