ธุรกิจ มีกำไร แต่ จะเจ๊ง รึป่าว

คือ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปีที่แล้ว ได้กู้เงินมาทำธุกิจ โดยเอาที่ดินจำนองไว้ กับ ธนาคาร โดย มีวงเงิน 1ล้านบาท เริ่มต้น เราเบิกเงิน3แสนบาท ถมที่ปรับที่ดินไป 2แสน และเริ่มซื้อของอุปกรณ์ ต่าง มา  จนเงิน หมด เราจึงไปเบิกอีก2แสน เพื่อมาซื้อระบบ ของการผลิตสินค้า โดยตอนนี้ กู้เงิน มา 5แสนแล้ว เราก้อนำเงินส่วนนี้ กินใช้ ส่งรถ ไปด้วย เพราะเราไม่มีเงินส่วนตัวเลย เพราะระบบทั้งหมด เราทำเอง กับพ่อ 2คน เพราะค่าแรงค่อนข้างสูงเลยไม่จ้างใคร จึงคิดว่าให้ค่าแรงตัวเองแล้วกัน และเรามีอุปกรณ์ช่างอยู่แล้ว ซึ่งทุกอย่างก้อครบ รวมระยะเวลา กว่าจะ ติดตั้งเสร็จ ใช้เวลาไป6เดือน เราจึงเริ่มผลิตสินค้า (เราทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร) แต่แล้ว ด้วยความที่ประสบการณ์ยังน้อย ผลผลิตจึงมีปัญหา เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง รายได้จึงแทบไม่มี  เหมือนกับ การลองผิดลองถูก จนเวลา ผ่านไป เรื่อยๆ จนครบ 9เดือน ทางธนา คารเริ่มจะแจ้งการชำระหนี้สินประจำปี หรืออีก3เดือนข้างหน้า ซึ่งต้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ประมาน 140000บ. แต่รายได้เราไม่มีเลย จึงไปคุยกับธนาคารว่า พอจะทพอะไรได้บ้าง ซึ่งธนาคารบอกว่า บัญชีเรา มีวงเงิน อยู่1ล้าน เราสามารถกู้เงินทุนหมุนเวียนได้อีก3แสน เท่านั้นแหละ เราจึงสบายใจขึ้นมาหน่อย และเรื่องไม่คาดฝันก้อเกิดขึ้น คือทางบ้านเราถูกดำเนินคดี ที่แม่ไปกู้เงินนอกระบบไว้เมื่อหลายปีก่อน ทางเจ้าหนี้จึงฟ้องศาลเพื่อจะยึด ที่ดินบ้านเรา ซึ่งเราต้องนำเงินไปใช้หนี้2แสนบาท ไม่งั้น ที่ดิน จะถูกยึดขายทอดตลาด เราจึง ให้ เอาเงินหมุนเวียนของเราไปใช้หนี้ก่อน ให้จบเรื่องนี้ไป สุดท้าย ก้อเอาไปเคลียเรื่องทั้งหมด จบ และ เราก้อต้องรับภาระใช้หนี้สินก้อนนี้ แทนแม่  กลับมาเรื่องธุรกิจ ของเราก้อยังเหมือนเดิม มีปัญหา ตลอด จนถึงเวลาชำระหนี้ประจำปี เรา ต้องยืมเงินลุง 5หมื่นเพื่อ มารวมกับเงิน หมุนเวียน รวมเปน150000 เพื่อไปชำระหนี้ สุดท้าย ตอนนี้เราเป็นหนี้ ธนาคารทั้งหมด 7แสนบาท  โดยที่ธุรกิจ ผ่านไป1ปี แทบไม่มีรายได้อะไรเลย ขายได้เดือนล่ะประมาน1หมื่นบาท บางเดือน ยังไม่ถึงหมื่นเลย ธุรกิจ ของเราเหมือนจะเจ๊ง แต่เราก้อมีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ แต่เราไม่สามรถผลิตสินค้าให้ได้ พ่อ และคนในครอบครัวบอกว่าให้เลิกทำแล้ว กลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือนซ่ะ แต่เรา มาถึงขนาดนี้แล้ว หนี้สินตั้ง7แสนบาท ผ่อนรถอีก1คัน แล้วจะไปเป็นมนุษย์เงินเดือนซึ่งได้เงินเดือนไม่เกิน15000 แน่นอน เราจึงคิด สาเหตุเกี่ยวกับธุรกิจ ว่าเป็นเพราะอะไร ทบทวน หาข้อมูลไปเรื่อยๆ ลองทำไปเรื่อยๆ จนเราเริ่มมั่นใจว่า มันเป็นที่ระบบ ที่เราทำเอง ด้วยความที่เราอยากประหยัดเงินทุน โดยคิดว่ามันใช้หลักการแค่นี้ก็น่าจะ ผลิตได้เหมือนกัน แต่แล้ว เรากับคิดผิด เพราะความงก เพื่อจะประหยัดต้นทุน ซึ่งมันทำให้ผลผลิตไม่ค่อยมีคุณภาพ เราจึงศึกษาระบบ ที่นิยมใช้แบบมาตรฐานจนเริ่มเข้าใจ สุดท้าย เราจึงตัดสินใจเทหมดหน้าตัก เพื่อทำธุรกิจให้มันอยู่รอด ซึ่งในวงเงินเรายังสามารถกู้ได้อีก3แสน เราจึงทำเรื่องขอขยายการผลิต กับฝ่ายสินเชื่อ จน สามารถกู้เงินก้อนสุดท้ายผ่านมาได้ เราจึงนำเงินไปลงทุนระบบใหม่ทั้งหมด ประมาน250000 บ. แล้วนำไปใช้หนี้ลุงอีก5หมื่นบาท   ซึ่งเงินทุนก้อหมดพอดี แต่ธุรกิจเราดีขึ้น สามารถ ผลิตสินค้าได้ แต่ก้อต้องนำรายได้มา กินใช้จ่าย ลงทุนซื้อวัตถุดิบ เท่ากับว่า ตอนนี้ ธุรกิจที่เราลงทุนไปปีที่แล้วไม่มีอะไรเลยเหมือนกู้เงินมาซื้อประสบการณ์7แสนบาท แต่ธุรกิจนี้ อยู่รอดจากเงินก้อนใหม่ที่ลงทุนไป250000 บ. ซึ่งรายได้ตอนนี้ จะเหลือกำไรจากการหักต้นทุน เดือนล่ะ2หมื่นกว่าบาท ซึ่งเราก้อจะเอามากินใช้ ส่งรถ  ลงทุน เพิ่มเติมนิดหน่อย แต่เรากับรู้สึกว่า เราไม่มีเงินที่เรียกว่า สภาพคล่องเลย บางทีเงินหมดบัญชีต้อง รอขายสินค้า ถึงจะซื้อของ ลงทุนได้  เรารู้สึกว่าเสียดายเงินกู้ปีแรกมากๆ ที่เป็นหนี้ตั้ง7แสน แต่ไม่สามรถสร้างรายได้อะไรเลย ถ้านำมาลงทุนระบบแบบนี้ เราคิดว่า รายได้เดือนนึง น่าจะเฉียด1แสนบาท ต่อเดือนเลย เท่ากับว่า เราจะต้องเอาหารายได้ให้เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะสามารถ ชำระหนี้สินก้อนแรกด้วย โดยรวมทั้งหมด1ล้านบาท ซึ่งตอนนี้เรากำลังคิดว่า จะลงทุนเพิ่มอีกสักนิด เพื่อให้มีรายได้ มาช่วยในการชำระหนี้ แต่เราก้อจะต้องกู้เงินอีกอยู่ดี ประมานแสนกว่าบาท และเราน่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น พอที่จะส่งธนาคารได้ เราจึงคิดว่าเราจะเป็นหนี้เพิ่มอีกดีมั้ย มันจะเยอะเกินไปรึป่าว หรือใครมีวิธีแนะนำ ที่ดีกว่านี้บ้างครับ หากพิมพ์แล้ว อ่านงงๆ ไมาเข้าใจต้องขอโทษด้วยน่ะครับ พอดีพิมพ์ในโทสับ ไม่ค่อยถนัด อยากได้คำแนะนำ จากพี่ๆ เพื่อนๆน้องๆทุกคน ที่อาจเคยเจอเหตุการณ์แบบผม ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่