วันนี้ไปประชุมผู้ถือหุ้นของบ้านปู วาระขอออกหู้กู้มูลค่า 20,000 ล้านบาท(ให้สิทธิ์คณะกรรมการบริษัทว่าจะออกหุ้นกู้เมื่อไหร่ก็ได้: อายุ 15 ปี) ใจความสำคัญเท่าที่ฟังมา
FACT
• 63% ของหนี้บริษัททั้งหมดเป็น fix rate ที่อัตราน้อยกว่า 4% → บางส่วนของวงเงินกู้ใหม่ 20,000 ล้านเพื่อมาปรับโครงสร้างหนี้ให้เป็นดอกเบี้ยคงที่ทั้งหมด
• ภายใน 1-2 ปี bond อันเก่าจะถึงอายุต้องชำระ → ใช้เงินกู้ใหม่เพื่อมาชำระหนี้เก่า ( ภายใน 1-2 ปี ต้องมีการกู้วงเงินตัวนี้แน่)
• ไม่มีผลต่อ credit rating เพราะ ไปทดแทนหนี้เก่าที่ถึงกำหนดชำระ D/E ratio ไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่
• กลางปีหน้า(คาดว่าประมาณเดือนมิถุนา)โรงไฟฟ้าหงสาเฟสแรกจะเริ่มดำเนินการทำให้ต้องการเม็ดเงินไป operate ซึ่งก็จะมาจากวงเงินกู้นี้ด้วย\
• ธุรกิจของบริษัทกว่า 60% เป็นธุรกิจถ่านหิน(จากออสสเตเลียและอินโดนีเซีย), ส่งออกไปจีน 6 ล้านตัน และ อินเดีย 3 ล้านตัน (ราคาปัจจุบัน 70 USD/ton) คิดเป็นเงินประมาน 18,900 ล้านบาท
ปัจจัยบวก
• Technology ใหม่จากญี่ปุ่นลดมลพิษจากการผลิต
• ในตลาดโลกถ่านหินยังเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้า (จีนลดการใช้ถ่านหินเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงไปสร้างกระแสไฟฟ้าจากพลังงานนน้ำซึ่งเป็นผลมาจากช่วงปีที่ผ่านมากระแสน้ำในจีนเพิ่มขึ้นจำนวนมากจึงต้องไปผลิตจากพลังงานน้ำ → บริษัทเชื่อว่าจีนต้องกลับมาใช้ถ่านหินอีกในอนาคต
• ประสิทธิภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าจากถ่านหินของบ้านปูยังดีกว่าการผลิตไฟฟ้าด้วยวิธีอื่นทั้งนี้ในไทยเพียงแค่ 16% ของไฟฟ้าทั้งหมดผลิตจากถ่านหินและมีการหารือกับรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มสัดส่วนไฟฟ้าที่ผลิตจากถ่านหินให้เพิ่มมากขึ้น
• โรงไฟฟ้าหงสา Phase 1, June 2015, Phase 2( November 2015), Phase 3 ( February 2016), คิดว่ากำไรจะใกล้กับโรงไฟฟ้า BLCP
Homework
• ดูสัดส่วนเงินกู้เก่าที่ถึงกำหนดชำระเป็นวงเงินเท่าไหร่ของวงเงินกูใหม่ 2หมื่นล้าน
• เงินที่เหลือจากวงเงินกู้ใหม่นำมาใช้ลงทุนในโครงการไหน, ระยะเวลาในการที่โครงการนั้นๆจะสร้างกระแสเงินให้บริษัทได้เมื่อไหร่ เช่นโครงการหงสา ภายในปี 2559 จะเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด และคาดว่าจะสร้างกำไรเท่า BLCP สามารถนำมาพิจารณาในการซื้อขายหุ้นระยะสั้นได้ (2-3 ปี) เพราะในระยะยาวบริษัทยังมีอนาคตที่ไม่แน่นอนและดูเป็นทางลบซะส่วนใหญ่คิดว่ายังไม่ใช่ช่วงที่จะสะสมหุ้นเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกไหนที่มีน้ำหนักเพียงพอจะดึงบ้านปูกลับไปจุดเดิมได้
ประชุมผู้ถือหุ้นบ้านปูที่ผ่านมาอยากลองฟังความเห็นของเพื่อนๆพันทิพดูบ้างครับ คิดยังไงกับบ้านปู
FACT
• 63% ของหนี้บริษัททั้งหมดเป็น fix rate ที่อัตราน้อยกว่า 4% → บางส่วนของวงเงินกู้ใหม่ 20,000 ล้านเพื่อมาปรับโครงสร้างหนี้ให้เป็นดอกเบี้ยคงที่ทั้งหมด
• ภายใน 1-2 ปี bond อันเก่าจะถึงอายุต้องชำระ → ใช้เงินกู้ใหม่เพื่อมาชำระหนี้เก่า ( ภายใน 1-2 ปี ต้องมีการกู้วงเงินตัวนี้แน่)
• ไม่มีผลต่อ credit rating เพราะ ไปทดแทนหนี้เก่าที่ถึงกำหนดชำระ D/E ratio ไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่
• กลางปีหน้า(คาดว่าประมาณเดือนมิถุนา)โรงไฟฟ้าหงสาเฟสแรกจะเริ่มดำเนินการทำให้ต้องการเม็ดเงินไป operate ซึ่งก็จะมาจากวงเงินกู้นี้ด้วย\
• ธุรกิจของบริษัทกว่า 60% เป็นธุรกิจถ่านหิน(จากออสสเตเลียและอินโดนีเซีย), ส่งออกไปจีน 6 ล้านตัน และ อินเดีย 3 ล้านตัน (ราคาปัจจุบัน 70 USD/ton) คิดเป็นเงินประมาน 18,900 ล้านบาท
ปัจจัยบวก
• Technology ใหม่จากญี่ปุ่นลดมลพิษจากการผลิต
• ในตลาดโลกถ่านหินยังเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้า (จีนลดการใช้ถ่านหินเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงไปสร้างกระแสไฟฟ้าจากพลังงานนน้ำซึ่งเป็นผลมาจากช่วงปีที่ผ่านมากระแสน้ำในจีนเพิ่มขึ้นจำนวนมากจึงต้องไปผลิตจากพลังงานน้ำ → บริษัทเชื่อว่าจีนต้องกลับมาใช้ถ่านหินอีกในอนาคต
• ประสิทธิภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าจากถ่านหินของบ้านปูยังดีกว่าการผลิตไฟฟ้าด้วยวิธีอื่นทั้งนี้ในไทยเพียงแค่ 16% ของไฟฟ้าทั้งหมดผลิตจากถ่านหินและมีการหารือกับรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มสัดส่วนไฟฟ้าที่ผลิตจากถ่านหินให้เพิ่มมากขึ้น
• โรงไฟฟ้าหงสา Phase 1, June 2015, Phase 2( November 2015), Phase 3 ( February 2016), คิดว่ากำไรจะใกล้กับโรงไฟฟ้า BLCP
Homework
• ดูสัดส่วนเงินกู้เก่าที่ถึงกำหนดชำระเป็นวงเงินเท่าไหร่ของวงเงินกูใหม่ 2หมื่นล้าน
• เงินที่เหลือจากวงเงินกู้ใหม่นำมาใช้ลงทุนในโครงการไหน, ระยะเวลาในการที่โครงการนั้นๆจะสร้างกระแสเงินให้บริษัทได้เมื่อไหร่ เช่นโครงการหงสา ภายในปี 2559 จะเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด และคาดว่าจะสร้างกำไรเท่า BLCP สามารถนำมาพิจารณาในการซื้อขายหุ้นระยะสั้นได้ (2-3 ปี) เพราะในระยะยาวบริษัทยังมีอนาคตที่ไม่แน่นอนและดูเป็นทางลบซะส่วนใหญ่คิดว่ายังไม่ใช่ช่วงที่จะสะสมหุ้นเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกไหนที่มีน้ำหนักเพียงพอจะดึงบ้านปูกลับไปจุดเดิมได้