"เอไอเอส" ลุ้นจบดีลพาร์ทเนอร์ "ทีโอที"ส.ค.นี้ เผยส่งแผนขอร่วมธุรกิจทั้ง 5 ส่วนธุรกิจ มั่นใจ ประสบการณ์ส่งอัตราผลตอบแทนคุ้มค่า มากกว่าคู่แข่งรายอื่น "สมชัย" อัพเดทความพร้อม ประมูล 4จี ยันประมูลทั้ง 2 คลื่น 1800-900 เมกะเฮิรตซ์
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หารือร่วมบมจ. ทีโอที เกี่ยวกับความต้องการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเอไอเอสได้ส่งแผนขอเป็นพันธมิตรไปจำนวน 5 กลุ่มธุรกิจ คือ 1.กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน เอฟทีทีเอ็กซ์ 2.กลุ่มเสาโทรคมนาคม 3.กลุ่มอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ 4.กลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ 5.กลุ่มโทรศัพท์ประจำที่ โดยเอไอเอสได้ส่งแผนดำเนินงานร่วมกัน รวมทั้งการแบ่งสัดส่วนรายได้ระหว่างกัน ซึ่งโดยส่วนตัวมีความมั่นใจว่า ข้อเสนอของเอไอเอส มีความน่าสนใจ และคำนวณส่วนแบ่งรายได้ให้ทีโอทีอย่างสมเหตุสมผลมีความคุ้มค่า ดังนั้น จึงเชื่อว่าเอไอเอสจะได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับทีโอทีได้ กลุ่มธุรกิจที่มีความมั่นใจมากที่สุดก็คือ กลุ่ม 4 โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากทีโอที และเอไอเอสเป็นคู่สัญญาสัมปทานกันมามากกว่า 20 ปี "ตอนนี้แผนธุรกิจเราส่งให้ทีโอทีเสร็จทั้งหมดแล้ว ได้เจรจากับทีโอทีบ้างเบื้องต้น และตัวแทนจากทีโอที คือ บริษัทดีลอยท์ ที่ปรึกษาของทีโอที ตอนนี้รอเพียงดีลอยท์สรุปผลมาคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนส.ค.นี้ และจากธุรกิจที่ส่งแผนให้ทีโอทีนั้น ขาดเพียงกลุ่มธุรกิจเดียวที่ไม่ได้ส่งผล คือ กลุ่มดาต้า เซ็นเตอร์ เพราะเราไม่เชี่ยวชาญ แต่ในอีก 5 กลุ่ม ธุรกิจเรามั่นใจในศักยภาพของเอไอเอส"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ดีลอยท์ที่ปรึกษาทางธุรกิจของทีโอที ได้ตัวเลขประเมินมูลค่าทรัพย์สินของทีโอทีเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทั้ง 5 ราย คือ กลุ่มทรูฯ เอไอเอส บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น บมจ. ล็อกซ์เลย์ และ บริษัท โมบายแอลทีอี จำกัด คาดว่า ภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้จะได้รายชื่ออย่างเป็นทางการ โดยแนวโน้มอาจเป็นบริษัทเดียวหรือหลายบริษัทก็ได้ ซึ่งความยากของการเจรจา คือ ทำอย่างไรให้ได้ราคาที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ทีโอทีเสนอมากที่สุด และทีโอทีต้องได้ข้อสรุปการหาพันธมิตรก่อนที่คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ จะหมดสัญญาสัมปทานเดือน ก.ย.นี้ ตามแผนของคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และถูกนำไปประมูลซึ่งจะมีผลต่อมูลค่าทรัพย์สินที่ดีลอยท์ประเมินไว้ โดยบริษัทที่มีความเป็นไปได้ในการร่วมเป็นพันธมิตรคือเอไอเอส เพราะข้อเสนอให้ผลตอบแทนกับ ทีโอทีคุ้มค่าที่สุด
ส่วนความพร้อมประมูล4จี เอไอเอสยืนยันว่า ต้องการได้ใบอนุญาตมากที่สุด อย่างน้อยต้องได้ช่วงความถี่ละ 1 ใบอนุญาตคือทั้งย่าน 1800 และ900 เมกะเฮิรตซ์ และในความเห็นส่วนตัวมองว่า การประมูลครั้งนี้จะมีการแข่งขันมากขึ้นกว่าการประมูล 3จี ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ส่วนจะมีรายใหม่เข้าร่วมประมูลด้วยก็น่าจะเป็นไปได้ เพราะผู้ประกอบการต่างต้องการคลื่นความใหม่มารองรับปริมาณการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ทั้งนี้ ปัจจุบันในฐานลูกค้าเอไอเอสมีผู้ใช้ดาต้ามากกว่า 30% จากจำนวนลูกค้ารวม 44.3 ล้านราย โดยอัตราการเติบโตของผู้ใช้ดาต้ายังเพิ่มขึ้นราว 15% และปีนี้น่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมตลาดโทรคมนาคม เอไอเอสยังมองว่า ปีนี้น่าจะเติบโตได้ราว 3-4% ซึ่งปัจจัยบวกมาจากจำนวนยอดการใช้โมบาย อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปีนี้คาดว่าจะขยายตัวจากปีก่อน ราว 30-50% เป็นอย่างน้อย ในทางกลับกันบริการด้านเสียงมีแนวโน้มหดตัวลง 10% แต่เมื่อเฉลี่ยกันแล้วยังช่วยให้อุตสาหกรรมมีการเติบโตอยู่สูง โดยตามที่ได้ประกาศแผนขยายเครือข่ายในปี 2558 ด้วยงบลงทุนกว่า 40,000 ล้านบาท แต่คาดว่าจะใช้จริง 36,000 ล้านบาท เพื่อปูพรมพัฒนาโครงข่ายพื้นฐาน โดยแผนขยายเครือข่ายปีนี้ มุ่งให้ความสำคัญทั้งกับโมบาย และฟิกซ์ไลน์ ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.เครือข่าย 3จี ที่ยังคงเตรียมงบลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความพร้อมในการเข้าสู่การประมูล 4จีอย่างเต็มที่ 2. การขยายบริการฟิกซ์ บรอดแบนด์ และ 3.การพัฒนาคุณภาพเครือข่ายเอไอเอส ไวไฟ ที่เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2554 โดยงบที่ลดลงนั้น เอไอเอสไม่ได้ปรับลดงบประมาณแต่อย่างใด เพียงแต่แบ่งจ่ายเงินซัพพลายเออร์เป็นงวดๆ และมีงวดที่ต้องจ่ายในปี 2559
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (หน้า 8 ล่างขวา) ฉบับวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558
'เอไอเอส' ลุ้นจบดีลพาร์ทเนอร์ทีโอทีสิ้น ส.ค.
"เอไอเอส" ลุ้นจบดีลพาร์ทเนอร์ "ทีโอที"ส.ค.นี้ เผยส่งแผนขอร่วมธุรกิจทั้ง 5 ส่วนธุรกิจ มั่นใจ ประสบการณ์ส่งอัตราผลตอบแทนคุ้มค่า มากกว่าคู่แข่งรายอื่น "สมชัย" อัพเดทความพร้อม ประมูล 4จี ยันประมูลทั้ง 2 คลื่น 1800-900 เมกะเฮิรตซ์
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หารือร่วมบมจ. ทีโอที เกี่ยวกับความต้องการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเอไอเอสได้ส่งแผนขอเป็นพันธมิตรไปจำนวน 5 กลุ่มธุรกิจ คือ 1.กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน เอฟทีทีเอ็กซ์ 2.กลุ่มเสาโทรคมนาคม 3.กลุ่มอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ 4.กลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ 5.กลุ่มโทรศัพท์ประจำที่ โดยเอไอเอสได้ส่งแผนดำเนินงานร่วมกัน รวมทั้งการแบ่งสัดส่วนรายได้ระหว่างกัน ซึ่งโดยส่วนตัวมีความมั่นใจว่า ข้อเสนอของเอไอเอส มีความน่าสนใจ และคำนวณส่วนแบ่งรายได้ให้ทีโอทีอย่างสมเหตุสมผลมีความคุ้มค่า ดังนั้น จึงเชื่อว่าเอไอเอสจะได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับทีโอทีได้ กลุ่มธุรกิจที่มีความมั่นใจมากที่สุดก็คือ กลุ่ม 4 โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากทีโอที และเอไอเอสเป็นคู่สัญญาสัมปทานกันมามากกว่า 20 ปี "ตอนนี้แผนธุรกิจเราส่งให้ทีโอทีเสร็จทั้งหมดแล้ว ได้เจรจากับทีโอทีบ้างเบื้องต้น และตัวแทนจากทีโอที คือ บริษัทดีลอยท์ ที่ปรึกษาของทีโอที ตอนนี้รอเพียงดีลอยท์สรุปผลมาคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนส.ค.นี้ และจากธุรกิจที่ส่งแผนให้ทีโอทีนั้น ขาดเพียงกลุ่มธุรกิจเดียวที่ไม่ได้ส่งผล คือ กลุ่มดาต้า เซ็นเตอร์ เพราะเราไม่เชี่ยวชาญ แต่ในอีก 5 กลุ่ม ธุรกิจเรามั่นใจในศักยภาพของเอไอเอส"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ดีลอยท์ที่ปรึกษาทางธุรกิจของทีโอที ได้ตัวเลขประเมินมูลค่าทรัพย์สินของทีโอทีเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทั้ง 5 ราย คือ กลุ่มทรูฯ เอไอเอส บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น บมจ. ล็อกซ์เลย์ และ บริษัท โมบายแอลทีอี จำกัด คาดว่า ภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้จะได้รายชื่ออย่างเป็นทางการ โดยแนวโน้มอาจเป็นบริษัทเดียวหรือหลายบริษัทก็ได้ ซึ่งความยากของการเจรจา คือ ทำอย่างไรให้ได้ราคาที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ทีโอทีเสนอมากที่สุด และทีโอทีต้องได้ข้อสรุปการหาพันธมิตรก่อนที่คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ จะหมดสัญญาสัมปทานเดือน ก.ย.นี้ ตามแผนของคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และถูกนำไปประมูลซึ่งจะมีผลต่อมูลค่าทรัพย์สินที่ดีลอยท์ประเมินไว้ โดยบริษัทที่มีความเป็นไปได้ในการร่วมเป็นพันธมิตรคือเอไอเอส เพราะข้อเสนอให้ผลตอบแทนกับ ทีโอทีคุ้มค่าที่สุด
ส่วนความพร้อมประมูล4จี เอไอเอสยืนยันว่า ต้องการได้ใบอนุญาตมากที่สุด อย่างน้อยต้องได้ช่วงความถี่ละ 1 ใบอนุญาตคือทั้งย่าน 1800 และ900 เมกะเฮิรตซ์ และในความเห็นส่วนตัวมองว่า การประมูลครั้งนี้จะมีการแข่งขันมากขึ้นกว่าการประมูล 3จี ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ส่วนจะมีรายใหม่เข้าร่วมประมูลด้วยก็น่าจะเป็นไปได้ เพราะผู้ประกอบการต่างต้องการคลื่นความใหม่มารองรับปริมาณการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ทั้งนี้ ปัจจุบันในฐานลูกค้าเอไอเอสมีผู้ใช้ดาต้ามากกว่า 30% จากจำนวนลูกค้ารวม 44.3 ล้านราย โดยอัตราการเติบโตของผู้ใช้ดาต้ายังเพิ่มขึ้นราว 15% และปีนี้น่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมตลาดโทรคมนาคม เอไอเอสยังมองว่า ปีนี้น่าจะเติบโตได้ราว 3-4% ซึ่งปัจจัยบวกมาจากจำนวนยอดการใช้โมบาย อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปีนี้คาดว่าจะขยายตัวจากปีก่อน ราว 30-50% เป็นอย่างน้อย ในทางกลับกันบริการด้านเสียงมีแนวโน้มหดตัวลง 10% แต่เมื่อเฉลี่ยกันแล้วยังช่วยให้อุตสาหกรรมมีการเติบโตอยู่สูง โดยตามที่ได้ประกาศแผนขยายเครือข่ายในปี 2558 ด้วยงบลงทุนกว่า 40,000 ล้านบาท แต่คาดว่าจะใช้จริง 36,000 ล้านบาท เพื่อปูพรมพัฒนาโครงข่ายพื้นฐาน โดยแผนขยายเครือข่ายปีนี้ มุ่งให้ความสำคัญทั้งกับโมบาย และฟิกซ์ไลน์ ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.เครือข่าย 3จี ที่ยังคงเตรียมงบลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความพร้อมในการเข้าสู่การประมูล 4จีอย่างเต็มที่ 2. การขยายบริการฟิกซ์ บรอดแบนด์ และ 3.การพัฒนาคุณภาพเครือข่ายเอไอเอส ไวไฟ ที่เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2554 โดยงบที่ลดลงนั้น เอไอเอสไม่ได้ปรับลดงบประมาณแต่อย่างใด เพียงแต่แบ่งจ่ายเงินซัพพลายเออร์เป็นงวดๆ และมีงวดที่ต้องจ่ายในปี 2559
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (หน้า 8 ล่างขวา) ฉบับวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558