แหล่งข่าวจาก คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT กล่าวว่า ในวันที่ 20 ต.ค. 2558 บอร์ด จะมีการพิจารณา เพื่อหาพันธมิตรร่วมทุน เชิงกลยุทธ์ (สตาร์ทิจิก พาร์ทเนอร์) ตามแผน พลิกฟื้นองค์กร และลดปัญหาการขาดทุน ซึ่งทีโอทีได้ให้ดีลอยท์บริษัทที่ปรึกษา ช่วยในการ วิเคราะห์หาพันธมิตรทางธุรกิจจากผู้ประกอบการ โทรคมนาคมในประเทศ 5 ราย ที่ยื่นข้อเสนอ มา ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส, บริษัท โมบาย แอลทีอี จำกัด, กลุ่มทรูฯ, บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ การพิจารณาหาพันธมิตรนั้น เป็นไปตามกลุ่มธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่มตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายและการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อให้เอกชนที่สนใจเสนอเงื่อนไขเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ คือ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม กลุ่มเสาโทรคมนาคม อินเตอร์เนตเกตเวย์กับเคเบิลใต้น้ำ กลุ่มโทรศัพท์มือถือ กลุ่มโทรศัพท์พื้นฐานและบรอดแบนด์ กลุ่มบริการด้านไอทีและบริการคลาวด์
อย่างไรก็ตาม ทีโอที เปิดรับทุกข้อเสนอ จากเอกชนเพื่อเปิดโอกาสในการสร้างมูลค่าทางธุรกิจร่วมกัน ส่วนเงื่อนไขการคัดเลือกเอกชนรายใดรายหนึ่ง หรือมากกว่า 1 รายนั้น ขึ้นอยู่กับข้อเสนอว่าจะมีความร่วมมือ ที่ดีที่สุด และมอบผลประโยชน์ให้ทีโอที ดีที่สุดหรือไม่ หากข้อเสนอใดเข้าข่าย พ.ร.บ.การให้เอกชนลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ก็เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติต่อไปทำธุรกิจกับทีโอทีเพื่อ พลิกฟื้นองค์กรและลดปัญหาขาดทุน
"ตอนนี้ก็มีการพิจารณาข้อเสนอของเอกชนเสร็จเกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งเอไอเอส ก็ยื่นข้อเสนอมามากที่สุดในกลุ่มธุรกิจทั้ง 6 กลุ่ม และยื่นข้อเสนอด้านการเงินมาให้ถือว่าก็ดีพอสมควร และคุ้มค่าหากเทียบกับ รายอื่น แต่ก็ต้องส่งให้บอร์ดพิจารณาอีกที"
ขณะเดียวกัน การประชุมบอร์ดยังมีวาระเร่งด่วนคือการพิจารณาคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่และเสาโทรคมนาคมเป็นหลัก เนื่องจาก ทีโอที มีความจำเป็นต้องหารายได้ใหม่ทดแทนหลังจากสิ้นสุดสัญญาสัมปทานคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558 ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวทีโอทีกล่าวอีกว่า นอกจาก เรื่องการคัดเลือกพันธมิตรแล้ว ยังต้องหารือ ในประเด็นการยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่จะเปิด ประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ด้วย
ด้านนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทค.) ให้ความเห็นว่า การฟ้องร้องต่อศาลปกครองของทีโอทีนั้น ต้องอยู่ที่ว่าเนื้อหาในการฟ้องคืออะไร หากอ้างในเรื่องของสิทธิ์ในการถือครองคลื่น 900 MHz มีความเห็นว่ามีน้ำหนักน้อยไป เพราะกฎหมายของกสทช.บอกว่าต้องนำคลื่นมาจัดสรรใหม่ด้วยการประมูล
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 9, 10)
TOT นัดเคาะรายชื่อบริษัทพันธมิตร เข้ามาช่วยพลิกฟื้นองค์กร หาช่องค้านประมูลคลื่น 900
แหล่งข่าวจาก คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT กล่าวว่า ในวันที่ 20 ต.ค. 2558 บอร์ด จะมีการพิจารณา เพื่อหาพันธมิตรร่วมทุน เชิงกลยุทธ์ (สตาร์ทิจิก พาร์ทเนอร์) ตามแผน พลิกฟื้นองค์กร และลดปัญหาการขาดทุน ซึ่งทีโอทีได้ให้ดีลอยท์บริษัทที่ปรึกษา ช่วยในการ วิเคราะห์หาพันธมิตรทางธุรกิจจากผู้ประกอบการ โทรคมนาคมในประเทศ 5 ราย ที่ยื่นข้อเสนอ มา ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส, บริษัท โมบาย แอลทีอี จำกัด, กลุ่มทรูฯ, บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ การพิจารณาหาพันธมิตรนั้น เป็นไปตามกลุ่มธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่มตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายและการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อให้เอกชนที่สนใจเสนอเงื่อนไขเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ คือ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม กลุ่มเสาโทรคมนาคม อินเตอร์เนตเกตเวย์กับเคเบิลใต้น้ำ กลุ่มโทรศัพท์มือถือ กลุ่มโทรศัพท์พื้นฐานและบรอดแบนด์ กลุ่มบริการด้านไอทีและบริการคลาวด์
อย่างไรก็ตาม ทีโอที เปิดรับทุกข้อเสนอ จากเอกชนเพื่อเปิดโอกาสในการสร้างมูลค่าทางธุรกิจร่วมกัน ส่วนเงื่อนไขการคัดเลือกเอกชนรายใดรายหนึ่ง หรือมากกว่า 1 รายนั้น ขึ้นอยู่กับข้อเสนอว่าจะมีความร่วมมือ ที่ดีที่สุด และมอบผลประโยชน์ให้ทีโอที ดีที่สุดหรือไม่ หากข้อเสนอใดเข้าข่าย พ.ร.บ.การให้เอกชนลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ก็เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติต่อไปทำธุรกิจกับทีโอทีเพื่อ พลิกฟื้นองค์กรและลดปัญหาขาดทุน
"ตอนนี้ก็มีการพิจารณาข้อเสนอของเอกชนเสร็จเกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งเอไอเอส ก็ยื่นข้อเสนอมามากที่สุดในกลุ่มธุรกิจทั้ง 6 กลุ่ม และยื่นข้อเสนอด้านการเงินมาให้ถือว่าก็ดีพอสมควร และคุ้มค่าหากเทียบกับ รายอื่น แต่ก็ต้องส่งให้บอร์ดพิจารณาอีกที"
ขณะเดียวกัน การประชุมบอร์ดยังมีวาระเร่งด่วนคือการพิจารณาคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่และเสาโทรคมนาคมเป็นหลัก เนื่องจาก ทีโอที มีความจำเป็นต้องหารายได้ใหม่ทดแทนหลังจากสิ้นสุดสัญญาสัมปทานคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558 ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวทีโอทีกล่าวอีกว่า นอกจาก เรื่องการคัดเลือกพันธมิตรแล้ว ยังต้องหารือ ในประเด็นการยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่จะเปิด ประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ด้วย
ด้านนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทค.) ให้ความเห็นว่า การฟ้องร้องต่อศาลปกครองของทีโอทีนั้น ต้องอยู่ที่ว่าเนื้อหาในการฟ้องคืออะไร หากอ้างในเรื่องของสิทธิ์ในการถือครองคลื่น 900 MHz มีความเห็นว่ามีน้ำหนักน้อยไป เพราะกฎหมายของกสทช.บอกว่าต้องนำคลื่นมาจัดสรรใหม่ด้วยการประมูล
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 9, 10)