'กสท' กอดคอ 'ดีแทค' เปิดบริการ4จี '4จี' ต้นปีหน้า 'ทีโอที' ควง 'เอไอเอส' ต่อยอดคลื่น 2100

กระทู้ข่าว

กสท จ่อเซ็นสัญญาดีแทคลุยบริการ '4จี' ต้นปีหน้า
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

          รัฐวิสาหกิจโทรคม "ขยับ" หวั่นตกขบวน หลังเอกชนคว้าไลเซ่นส์ 4จี พร้อมลุยบริการ กสทฯ แจงแผนพัฒนาธุรกิจโมบายปี 59 ลุย "4จี แอลทีอี" เต็มรูปแบบ จับมือ "ดีแทค" ทำ 4จี  บนคลื่น 1800 จำนวน 20 เมกะเฮิรตซ์ ยาวถึง หมดสัมปทานปี 61 คาด 2 สัปดาห์สรุปโมเดลร่วม ก่อนชงอัยการสูงสุด-สคร. เบื้องต้นพร้อมขายแบนด์วิธให้ดีแทคขั้นต่ำ 50%  ที่เหลือเปิดโอกาสให้มี "เอ็มวีเอ็นโอ"รายอื่น ขณะที่ "ทีโอที" ผนึก "เอไอเอส" เซ็นสัญญา ธ.ค.นี้ ต่อยอดธุรกิจบนคลื่น 2100 จำนวน 15 เมก ยาว 10 ปี

          หลังประมูล4จี คลื่นแรก 1800 เมกะเฮิรตซ์ จบไป โดย "เอไอเอส" และ "ทรู" คว้าใบอนุญาต และเตรียมเปิดบริการสู่ผู้บริโภคให้เร็วที่สุด การประมูล 4จี คลื่นที่ 2 คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ กำลังจะประมูลวันที่ 15 ธ.ค.นี้ คาดว่าจะแข่งขันกันอย่างดุเดือด ส่งผลให้รัฐวิสาหกิจโทรคมอย่าง "ทีโอที" และ "กสทฯ" จำเป็นต้องปรับทัพธุรกิจเร่งด่วนเพื่อรับมือการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมปีหน้า

          พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการบริษัทรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า การพัฒนาบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4จี หลังได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่วิทยุ 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 20 เมกะเฮิรตซ์ จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อพัฒนาบริการโทรศัพท์ได้ไปถึงปี 2561 เป็นอย่างน้อย

          ขณะนี้กสทฯได้ดำเนินการจัดหาพันธมิตรธุรกิจ เพื่อสร้างโครงข่ายระบบแอลทีอีแล้ว โดย มีแผนสร้างโครงข่าย 4จี ในพื้นที่ที่ใช้งานหนาแน่น ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนขยายครอบคลุมทุกจังหวัด คาดจะสามารถเปิดให้บริการภายในปี 2559 ใน 2 รูปแบบ คือ ให้บริการภายใต้แบรนด์ "มาย" และขายส่งให้ผู้ประกอบการเอ็มวีเอ็นโอ

          ทั้งนี้ ในปี 2559 อุตสาหกรรมโทรคมนาคมในไทยจะเข้าสู่การบริการ 4จี เต็มรูปแบบ หลังเอกชนประมูลใบอนุญาตจาก กสทช. ดังนั้น เพื่อไม่ให้ กสทฯ ตกขบวนบริษัทต้องเร่งหาพันธมิตรเพื่ออัพเกรดเทคโนโลยีไปสู่ 4จี จากทรัพยากรคลื่นความถี่ที่มี

          "เบื้องต้นเราประเมินคลื่นความถี่ย่าน 1800 จำนวน 20 เมกะเฮิรตซ์นี้ น่าจะรองรับลูกค้าได้ราว 15-20 ล้านราย เทียบเคียงจากการให้บริการที่เคยทำสัญญาร่วมกับบริษัทบีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด ในสัญญาให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3จี บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ ที่สามารถรองรับลูกค้าได้ 14-15 ล้านราย"

          โดยบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เพื่อเป็นพันธมิตรจัดสร้างโครงข่ายระบบ 4จีแอลทีอี เนื่องจากคลื่นดังกล่าวเป็นคลื่นความถี่ที่กสทฯให้สัญญาสัมปทานแก่ดีแทค และคงไม่ได้มีการใช้งาน ดังนั้นการเป็นพันธมิตรกับดีแทค จะสามารถสร้างโครงข่ายได้เร็วขึ้น โดยใช้เสาโทรคมนาคม 1800 เมกะเฮิรตซ์ที่มีอยู่ประมาณ 13,000 ต้น ที่ได้คืนมาหลังจากหมดสัญญาสัมปทาน จาก บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี)

          อย่างไรก็ดี โมเดลการทำธุรกิจคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์ จะหาข้อสรุปถึงรูปแบบการเป็นพันธมิตรร่วมกันได้ จากนั้นต้องนำเรื่องเสนอสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) รับทราบและคาดว่า จะสามารถเซ็นสัญญากับดีแทคได้ภายในต้นปี 2559 และเปิดให้บริการภายในปีเดียวกัน

          เปิด"เอ็มวีเอ็นโอ"ร่วมบริการ
          ทั้งนี้ หลังดีแทคตกลง เป็นผู้สร้างโครงข่ายแอลทีอีแล้ว บริษัทจะเช่าโครงข่ายเพื่อมาให้บริการต่อ โดยให้สิทธิ์ดีแทคใช้โครงข่ายขั้นต่ำ 50% ที่เหลือจะเปิดโอกาสให้มีเอ็มวีเอ็นโอรายอื่นๆ มาร่วมธุรกิจ คาดว่า เมื่อเทคโนโลยีเป็นแอลทีอีแล้วจะมีบริษัทสนใจร่วมเป็นเอ็มวีเอ็นโอกับบริษัทเพิ่มขึ้น 5 ราย ภายใน 3 ปี จนถึงปี 2561


          ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจไร้สายยังเป็นรายได้หลักขององค์กรโดยในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มีรายได้มากกว่า 22,400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% จากรายได้ทั้งหมดที่ 43,500 ล้านบาท โดยรายได้กลุ่มธุรกิจไร้สายดังกล่าว ประกอบด้วย บริการขายส่งเอชเอสพีเอ จำนวน 21,300 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้ของบริษัท เรียลมูฟ จำกัด

          นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากบริการข้ามเครือข่ายในประเทศ 3,600 ล้านบาท บริการมาย 950 ล้านบาท การใช้โครงข่ายร่วม 400 ล้านบาท และ ทรังก์โมบาย 200 ล้านบาท คาดสิ้นปีนี้ธุรกิจ ไร้สายจะทำรายได้ตามเป้าหมายที่ 26,500 ล้านบาท

          บริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ และเคเบิลใต้น้ำมีรายได้ 1,000 ล้านบาท บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ (ไอดีดี) 2,600 ล้านบาท ไอทีเซอร์วิส 640 ล้านบาท และสัมปทานจาก ดีแทค 9,800 ล้านบาท โดยไม่รวมสัมปทานกสทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานเอง 33,700 ล้านบาท หรือ 77% ของรายได้รวม

          ตั้งเป้ารายได้ปีหน้า5.2หมื่นล.
          สำหรับประมาณการ รายได้สิ้นปี 2558 คาดว่า จะมีรายได้รวมอยู่ที่ 53,500 ล้านบาท สูงกว่า เป้าที่ตั้งไว้ที่ 52,700 ล้านบาท อยู่ราว 800 ล้านบาท ส่วนประมาณการกำไรสิ้นปีจะอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท ต่ำกว่าแผนราว 1,000 ล้านบาท จากเหตุจากค่าเช่า โครงข่ายที่บริษัทต้องจ่ายให้บีเอฟเคที เพื่อให้บริการขายส่งเอชเอสพีเอ อยู่ระหว่างเจรจาซื้อคืนระบบสื่อสัญญาณจำนวน 14,000 สถานี คาดจะใช้เงินประมาณ 8,000 ล้านบาท และคาดว่าเมื่อซื้อคืนระบบดังกล่าวได้ จะช่วยลดต้นทุนส่วนนี้ และบริษัทมีผลประกอบการดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2559

          ขณะเดียวกันอีก 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ บริษัทจะเร่งสร้างรายได้จากการใช้โครงข่ายให้คุ้มกับค่าใช้จ่าย ทั้งจากพันธมิตรเอ็มวีเอ็นโอ ที่เพิ่มขึ้น 2 รายคือ บริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น จำกัด และ บริษัท สามารถ ไอโมบาย จำกัด รวมทั้งรายได้อื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้โครงข่าย คาดว่าจะช่วยดันกำไรให้สูงขึ้นและเป็นไปตามเป้าหมาย

          ส่วนเป้าหมายผลประกอบการปี 2559 คาดว่า จะมีรายได้ 52,800 ล้านบาท มาจากกลุ่มธุรกิจไร้สาย 24,800 ล้านบาท ส่วนใหญ่ยังมาจากขายส่งความจุโครงข่ายเอชเอสพีเอ นอกจากรายได้เพิ่มทำให้กำไรเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเกิดจากการควบคุมค่าใช้จ่ายปี 2558 ตามนโยบาย คนร. ที่ให้ลดค่าใช้จ่าย 10% โดย10 เดือนแรกค่าใช้จ่ายบุคลากรลดลงจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว 200 ล้านบาท

          "ทีโอที"ควงเอไอเอสต่อยอดคลื่น2.1
          ขณะที่ นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า บอร์ดทีโอทีมีมติเลือก บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เป็นพันธมิตรธุรกิจมือถือบนคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์จำนวน 15 เมกะเฮิรตซ์ โดยขั้นตอนต่อจากนี้ ทีโอทีจะลงนามในบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น (เอ็มโอยู) กับเอไอเอสโดยเร็ว เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้า ต่อได้ และสร้างรายได้ให้ทีโอที เพราะขั้นตอนการทำสัญญาเป็นพันธมิตรนั้นใช้เวลานาน คาดว่า จะเซ็นสัญญาภายในเดือน ธ.ค.2558 นี้ เบื้องต้นจะทำสถานีฐานบริการมือถือเพิ่มขึ้นอีก 10,000 ต้น จากปัจจุบันมี 5,320 ต้น สัญญามีอายุ 10 ปี

          โดยในส่วนรายละเอียดแผนธุรกิจจากคลื่น 2100 นั้น ยังไม่ได้รับการเปิดเผยจากผู้บริหาร หรือแม้กระทั่งบอร์ดทีโอที แต่ด้วยความสามารถของคลื่น 2100 ที่นอกจากทำ 3จี ได้แล้ว ก็สามารถทำ 4จี ได้ด้วยเช่นกัน

ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 (หน้า 1, 4)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่