นายเก้า ตื่นนอนทุกวันเวลา 4.30 อาบน้ำเตรียมตัวออกจากบ้านก็ราว ตีห้าพร้อมหญิงแก่วัย 61 นั่นคือการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ของนาย 9 เดินไปตามตรอกซอยในเมืองหลวงที่พลุกพล่านพร้อมสะบายกระเป๋าที่หลัง สองมือถือถุงพะรุงพะรังและมาหยุดอยู่แถวตลาดบริเวณป้ายรถเมล์ พร้อมตั้งโต๊ะเล็กๆ พร้อมหญิงแก่ที่มากับตน เสียงเงียบสงัดยามเช้าถูกรบกวนด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของนาย9 ตลอดเวลา “รับขนมไทยทานตอนเช้าบ้างมั้ยครับ ขนมต้ม ขนมมัน เหนียวนุ่มอร่อยเชิญครับ” เด็กนักเรียนชายแต่งตัวสะอาดสะอ้านผิวพรรณดี คิ้วเข้ม ปากเล็ก ท่าทางคล่องแคว่ส่งเสียงตลอดเวลาแม้นว่าจะไร้ผู้คนเดินผ่าน เป็นภาพที่สุดแสนธรรมดาที่สามารถพบเจอได้ทั่วไป ทุกๆวันก่อนผมเดินทางไปทำงานจะคอยแวะซื้อขนมกับน้องเค้าเป็นประจำ ทุกอย่างก็เหมือนไม่มีอะไรเป็นพิเศษแต่อย่างไร จนเมื่อศุกร์ที่ผ่านมา 5/7/58 เวลาราคา 22.00น. เมือผมกลับจากดูหนังและกำลังกลับบ้านเจอน้องคนเมือเช้า แต่ตัวชุดเดิม แม้นว่าจะดูหมองไม่จากเมือเช้านิดหน่อยนั่งอยู่แถวป้ายรถเมล์เมื่อเช้า ด้วยความที่ผมเคยเจอเขามาก่อนและคิดว่าเขาก็คงจำผมได้ เรยแวะไปถามด้วยความสงสัยว่า
ผม : อ้าวน้องที่ขายขนมเมื่อเช้านี่ มานั่งทำอะไรที่นี่ดึกละยังไม่กลับบ้านอีกหละ
เก้า : พอดีเพื่งมาซื้อของไปขายเสร็จเรยมานั่งรอรถกลับบ้านครับ แต่วันนี้นมที่ผมนำมาขายด้วย กลับขายไม่หมดนี่สิ
ผม : เหลือกตามองพร้อมคิดว่า มาหลอกชายตรงกูมั้ยวะ 555 แต่แค่นมจะสักเท่าไหร่กัน “เหลือเท่าไหร่มาพี่ซื้อเอง” ผิดคาดครับ แค่ 3 ขวดเท่านั้น ราคารวมก็แค่ 39บาท ผมจึงให้ไป 40 บาท น้องเค้าไม่มีเงินทอน เรยบอกให้ผมให้รอสักครู่ เพียงไม่นาน 9 ก็วิ่งเอาเงินทอนมาให้แก่ผม สักพักฝนเริ่มลงเม็ดและแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมเองก็ว่างเรยคุยเล่นไร้สาระไป ถามนู่นนี่ไปเรื่อย เมื่อฝนซาผมและนาย 9 ก็แยกย้ายกันกลับอย่างปกติทั่วไป
ราวเที่ยงคืนหลังจากที่ผมอาบน้ำและหาอะไรทานกำลังจะเตรียมตัวนอนพลันนึกถึงเรื่องราวที่ได้คุยกับเด็กที่ขายนมคนหนึ่ง โดยเริ่มเช้าวันใหม่ของเด็กคนนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ตีสี่กว่า และเมือไหร่คือเวลาจบวันของเขา เรื่องราวที่ผ่านการเล่าอย่างสนุกสนานผ่านการเล่าของเด็กชายคนนั้นมันน่าละอายระคนความน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
4.30 -8.00 อาบน้ำออกจากบานไปขายของกับแม่บริเวณที่ผมแวะซื้อขนมก่อนไปทำงานทุกวัน
8.30 ถึงไปรษณีย์หน้าโรงเรียนเพื่อรอเข้าส่งของเป็นรายแรกของวัน
8.45 เรื่มเรืยนในโรงเรียน (แน่นอนว่าสายทุกวัน)
8.45-16.00 เรียน + ออนเฟสคอยขายสินค้า
16.30-20.00 ช่วยแม่ขายของและเก็บของ
20.30-21.30 เดินส่งนมตามบ้านและยิ่นชายทั่วไป
21.30 ไปซื้อของเพื่อนำไปส่งสิ้นค้าที่ขายในตอนกลางวัน (สินค้าที่น้องเค้าซื้อสามารถซื้อได้ตอนดึกเท่านั้น ร้านนั้นเปิดดึกมา)
จากนั้นมันยังต้องเดินทางกลับบ้าน ทำขนมสำหรับขายพรุ้งนี้ ทำการบ้าน อ่านหนังสือ และกว่าจะได้นอนก็ราวตีสอง ผมฟังมาถึงจุดนี้ผมเริ่มไม่เชื่อละคนบ้าอะไรทำไมต้องทำอะไรขนาดนี้ ยิ่งได้รู้ว่าน้องเค้าเรียนเพียงแค่ชั้นม.4 ยิ่งตกใจมาก เพราะเมือผมลองมาคิดๆๆดูแล้ว น้องมันจะได้นอนสักตอนไหนในเมื่อมันมีกิจกรรมที่ต้องทำขนาดนี้จริง
วันรุ่งขึ้นด้วยความอยากรู้ผมจึงลงทุนตื่นเช้ามากเพื่อกะไปดูว่าที่น้องมันพูดนั้นมีจริงบ้างหรือไม่ โดยผมออกไปจ่ายตลาดเป็นเพื่อนแม่ แต่ส่งที่ผมเจอคือเด็กชายแต่งตัวชุดนักเรียนส่งเสียงเจื้อยแจ้วยืนขายขนมที่ผมซื้ออยู่ทุกๆวัน โดยก่อนหน้านั้นผมคิดว่าน้องเขามาขายตอน 7โมงก่อนไปเรียนเสียอีก แต่ขณะนี้มันตอนตี 5 แต่น้องมันกลับแต่งตัวชุดนักเรียนเรียบร้อย และตั้งร้านขายขนมกับแม่เขาเสร็จแล้ว ผมเองเมือเจอเช่นนั้นบอกดำเดียวว่าพูดอะไรไม่ออกจริงๆ แต่ที่แย่หนักคือ เมือผมหันไปถามแม่ผมว่า ไอ้เด็กคนนี้แม่เคยเหงมาขายบ่อยป่าว “ไม่รู้สิ แม่รู้แค่ว่าไม่มีวันไหนที่แม่มาและไม่เจอ นานมากจนแม่จำไม่ได้ว่าเขามาขายนานยัง แต่เหมือนว่าขนมพวกนั้นเด็กคนนั้นทำเองด้วยนะ ซึ่งแม่ก็ซื้อบ่อยๆ”
วิ้งๆอยู่ในหัวผมเต็มไปหมดคิดอะไรไม่ออกเรย กลับบ้านจากจ่ายตลาดพร้อมแม่ ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานออกมาเพิ่อเดินทางก็ยังคงเห็นเด้กคนนั้นยังขายอยู่เช่นเดิม แต่วันนี้ผมเดินไปซื้อขนมจากน้องเขาทั้งหมด
ผม : “อ้าวเจอกันอีกแล้วเก้า มาๆวันนี้พี่ช่วยซื้อเหมาหมดเรยและกัน” แต่คำตอบที่ผมได้รับคือ
เก้า : “ไม่ขายครับ พี่เองไม่ได้ทานมากมายขนาดนั้นซื้อ1ถุงเอาพอทานเหมือนทุกทีก็พอครับ ขอบคุณมากครับ“ พร้อมทั้งพูดต่อว่า “ช่วงนี้เงินหายากมากเรยพี่ซื้อเท่าที่ทานก็ช่วยผมมากๆๆแล้วแต่หากพี่เหมาไปละทานไม่หมดจะเสียของเปล่าๆนะครับ”
ผม : บอกตรงๆว่าไม่นึกจิงๆว่าจะเจอเด็กที่คิดได้ใสแบบนี้ ผมยิ้มและตอบกลับไปว่า “พี่จะเอาไปขายเพื่อนที่ออฟฟิตสักหน่อย กะว่าจะเอากำไรสักถุงละ 1 บาท” พร้อมยื่นเงินให้ 500 บาท
เก้า : “เมื่อเก้าเห็นจึงพูดขึ้นว่า พี่ครับผมไม่มีเงินทอนหรอกครับ ไว้พี่ค่อยเอามาให้ก็ได้ “
ผม : “เก้าช่วยไปแลกร้านค้ามาทอนให้พี่หน่อยได้ไหมพอดีว่าพี่ไม่รู้ว่าจะเจอกันตอนไหน อาจเลิกงานไม่ตรงกัน” จากนั้นผมก็รับขนมจากเก้ามาจำนวน 7-8 ถุง พร้อมกันนั้นเก้าเองก็รีบวิ่งไปร้านสะดวกซื้อคงหวังแลกเงินมาทอน เมือผมเห็นดังนั้นจึงรีบเดินจากไป พร้อมรอยยิ้มในตอนเช้าที่สดใสก่อนเข้าทำงาน
หลังจากนั้นผมต้องออกต่างจังหวัด ประมาณ 10 วันกับคุณแม่ ในเช้าวันหนึ่งที่เป็นปกติของผมนั้นระหว่างที่ผมเดินทางไปทำงานกลับได้ยินเสียงเด็กเรียกชื่อผมมาแต่ไกล เมือหันไปมองจึงพบว่า นายเก้านั้นเอง วิ่งพร้อมตะโกนเรียกผมตลอดเวลา และเมื่อเจอผม แววตาดูดีใจเป็นอย่างมาก ยังไม่ได้พูดอะไรใดๆ นายเก้ารีบนำเงินจำนวนหนึ่งออกมาให้ผม พร้อมบอกว่าเมื่อวันก่อนพี่ลืมเงินทอนครับ
ผมยิ่นมือออกไปด้วยความงงงั้น แต่เมื่อรู้อีกทีก็เห็นว่าเด็กคนนั้นวิ่งไปไกลเพื่อขายชองเสียแล้ว ที่ผมมาเขียนในวันนี้ ผมแค่อยากมาแชร์ความรู้สึกดีๆที่ได้เจอเด็กที่นิสัยที่ดีคนนึง หัวใจน้องงดงามจริงๆ
ปล.ตัวผมเองไม่กล้าบอกว่าน้องเค้าขายอยู่ที่ไหนกัวว่าจะโดนตำหนิหรือคิดว่าเปงการโปรโมท แต่ให้รู้ไว้ว่า มีเด็กคนนี้จริงๆ
ดราม่าให้เด็กขายขนม
ผม : อ้าวน้องที่ขายขนมเมื่อเช้านี่ มานั่งทำอะไรที่นี่ดึกละยังไม่กลับบ้านอีกหละ
เก้า : พอดีเพื่งมาซื้อของไปขายเสร็จเรยมานั่งรอรถกลับบ้านครับ แต่วันนี้นมที่ผมนำมาขายด้วย กลับขายไม่หมดนี่สิ
ผม : เหลือกตามองพร้อมคิดว่า มาหลอกชายตรงกูมั้ยวะ 555 แต่แค่นมจะสักเท่าไหร่กัน “เหลือเท่าไหร่มาพี่ซื้อเอง” ผิดคาดครับ แค่ 3 ขวดเท่านั้น ราคารวมก็แค่ 39บาท ผมจึงให้ไป 40 บาท น้องเค้าไม่มีเงินทอน เรยบอกให้ผมให้รอสักครู่ เพียงไม่นาน 9 ก็วิ่งเอาเงินทอนมาให้แก่ผม สักพักฝนเริ่มลงเม็ดและแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมเองก็ว่างเรยคุยเล่นไร้สาระไป ถามนู่นนี่ไปเรื่อย เมื่อฝนซาผมและนาย 9 ก็แยกย้ายกันกลับอย่างปกติทั่วไป
ราวเที่ยงคืนหลังจากที่ผมอาบน้ำและหาอะไรทานกำลังจะเตรียมตัวนอนพลันนึกถึงเรื่องราวที่ได้คุยกับเด็กที่ขายนมคนหนึ่ง โดยเริ่มเช้าวันใหม่ของเด็กคนนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ตีสี่กว่า และเมือไหร่คือเวลาจบวันของเขา เรื่องราวที่ผ่านการเล่าอย่างสนุกสนานผ่านการเล่าของเด็กชายคนนั้นมันน่าละอายระคนความน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
4.30 -8.00 อาบน้ำออกจากบานไปขายของกับแม่บริเวณที่ผมแวะซื้อขนมก่อนไปทำงานทุกวัน
8.30 ถึงไปรษณีย์หน้าโรงเรียนเพื่อรอเข้าส่งของเป็นรายแรกของวัน
8.45 เรื่มเรืยนในโรงเรียน (แน่นอนว่าสายทุกวัน)
8.45-16.00 เรียน + ออนเฟสคอยขายสินค้า
16.30-20.00 ช่วยแม่ขายของและเก็บของ
20.30-21.30 เดินส่งนมตามบ้านและยิ่นชายทั่วไป
21.30 ไปซื้อของเพื่อนำไปส่งสิ้นค้าที่ขายในตอนกลางวัน (สินค้าที่น้องเค้าซื้อสามารถซื้อได้ตอนดึกเท่านั้น ร้านนั้นเปิดดึกมา)
จากนั้นมันยังต้องเดินทางกลับบ้าน ทำขนมสำหรับขายพรุ้งนี้ ทำการบ้าน อ่านหนังสือ และกว่าจะได้นอนก็ราวตีสอง ผมฟังมาถึงจุดนี้ผมเริ่มไม่เชื่อละคนบ้าอะไรทำไมต้องทำอะไรขนาดนี้ ยิ่งได้รู้ว่าน้องเค้าเรียนเพียงแค่ชั้นม.4 ยิ่งตกใจมาก เพราะเมือผมลองมาคิดๆๆดูแล้ว น้องมันจะได้นอนสักตอนไหนในเมื่อมันมีกิจกรรมที่ต้องทำขนาดนี้จริง
วันรุ่งขึ้นด้วยความอยากรู้ผมจึงลงทุนตื่นเช้ามากเพื่อกะไปดูว่าที่น้องมันพูดนั้นมีจริงบ้างหรือไม่ โดยผมออกไปจ่ายตลาดเป็นเพื่อนแม่ แต่ส่งที่ผมเจอคือเด็กชายแต่งตัวชุดนักเรียนส่งเสียงเจื้อยแจ้วยืนขายขนมที่ผมซื้ออยู่ทุกๆวัน โดยก่อนหน้านั้นผมคิดว่าน้องเขามาขายตอน 7โมงก่อนไปเรียนเสียอีก แต่ขณะนี้มันตอนตี 5 แต่น้องมันกลับแต่งตัวชุดนักเรียนเรียบร้อย และตั้งร้านขายขนมกับแม่เขาเสร็จแล้ว ผมเองเมือเจอเช่นนั้นบอกดำเดียวว่าพูดอะไรไม่ออกจริงๆ แต่ที่แย่หนักคือ เมือผมหันไปถามแม่ผมว่า ไอ้เด็กคนนี้แม่เคยเหงมาขายบ่อยป่าว “ไม่รู้สิ แม่รู้แค่ว่าไม่มีวันไหนที่แม่มาและไม่เจอ นานมากจนแม่จำไม่ได้ว่าเขามาขายนานยัง แต่เหมือนว่าขนมพวกนั้นเด็กคนนั้นทำเองด้วยนะ ซึ่งแม่ก็ซื้อบ่อยๆ”
วิ้งๆอยู่ในหัวผมเต็มไปหมดคิดอะไรไม่ออกเรย กลับบ้านจากจ่ายตลาดพร้อมแม่ ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานออกมาเพิ่อเดินทางก็ยังคงเห็นเด้กคนนั้นยังขายอยู่เช่นเดิม แต่วันนี้ผมเดินไปซื้อขนมจากน้องเขาทั้งหมด
ผม : “อ้าวเจอกันอีกแล้วเก้า มาๆวันนี้พี่ช่วยซื้อเหมาหมดเรยและกัน” แต่คำตอบที่ผมได้รับคือ
เก้า : “ไม่ขายครับ พี่เองไม่ได้ทานมากมายขนาดนั้นซื้อ1ถุงเอาพอทานเหมือนทุกทีก็พอครับ ขอบคุณมากครับ“ พร้อมทั้งพูดต่อว่า “ช่วงนี้เงินหายากมากเรยพี่ซื้อเท่าที่ทานก็ช่วยผมมากๆๆแล้วแต่หากพี่เหมาไปละทานไม่หมดจะเสียของเปล่าๆนะครับ”
ผม : บอกตรงๆว่าไม่นึกจิงๆว่าจะเจอเด็กที่คิดได้ใสแบบนี้ ผมยิ้มและตอบกลับไปว่า “พี่จะเอาไปขายเพื่อนที่ออฟฟิตสักหน่อย กะว่าจะเอากำไรสักถุงละ 1 บาท” พร้อมยื่นเงินให้ 500 บาท
เก้า : “เมื่อเก้าเห็นจึงพูดขึ้นว่า พี่ครับผมไม่มีเงินทอนหรอกครับ ไว้พี่ค่อยเอามาให้ก็ได้ “
ผม : “เก้าช่วยไปแลกร้านค้ามาทอนให้พี่หน่อยได้ไหมพอดีว่าพี่ไม่รู้ว่าจะเจอกันตอนไหน อาจเลิกงานไม่ตรงกัน” จากนั้นผมก็รับขนมจากเก้ามาจำนวน 7-8 ถุง พร้อมกันนั้นเก้าเองก็รีบวิ่งไปร้านสะดวกซื้อคงหวังแลกเงินมาทอน เมือผมเห็นดังนั้นจึงรีบเดินจากไป พร้อมรอยยิ้มในตอนเช้าที่สดใสก่อนเข้าทำงาน
หลังจากนั้นผมต้องออกต่างจังหวัด ประมาณ 10 วันกับคุณแม่ ในเช้าวันหนึ่งที่เป็นปกติของผมนั้นระหว่างที่ผมเดินทางไปทำงานกลับได้ยินเสียงเด็กเรียกชื่อผมมาแต่ไกล เมือหันไปมองจึงพบว่า นายเก้านั้นเอง วิ่งพร้อมตะโกนเรียกผมตลอดเวลา และเมื่อเจอผม แววตาดูดีใจเป็นอย่างมาก ยังไม่ได้พูดอะไรใดๆ นายเก้ารีบนำเงินจำนวนหนึ่งออกมาให้ผม พร้อมบอกว่าเมื่อวันก่อนพี่ลืมเงินทอนครับ
ผมยิ่นมือออกไปด้วยความงงงั้น แต่เมื่อรู้อีกทีก็เห็นว่าเด็กคนนั้นวิ่งไปไกลเพื่อขายชองเสียแล้ว ที่ผมมาเขียนในวันนี้ ผมแค่อยากมาแชร์ความรู้สึกดีๆที่ได้เจอเด็กที่นิสัยที่ดีคนนึง หัวใจน้องงดงามจริงๆ
ปล.ตัวผมเองไม่กล้าบอกว่าน้องเค้าขายอยู่ที่ไหนกัวว่าจะโดนตำหนิหรือคิดว่าเปงการโปรโมท แต่ให้รู้ไว้ว่า มีเด็กคนนี้จริงๆ