ตามนั้นเลยค่ะ เราไม่เคยคิดว่าไอ้เหตุผลเห่ยๆนี่จะเกิดกับเรา เรากับแฟนคบกันมา 5 ปีค่ะ และลงเอยเช่นเดียวกันกับคู่อื่นๆด้วยการแต่งงานกัน เมื่อเดือนที่แล้ว เราและแฟนของเรา ขอแทนว่าชื่อเอ นะคะ เราและเอเป็นคนต่างจังหวัดทั้งคู่แต่มาเช่าอพาร์ทเม้นในกรุงเทพ เอทำงานเป็นพนักงานประจำ เราเป็นแม่ค้าแผงลอย เอเป็นคนเหนือ มีสมาชิกครอบครัว 4คน คือพ่อ แม่ และพี่สาว ส่วนเราเป็นคนใต้ มีสมาชิกครอบครัว 4 คนเช่นเดียวกัน พ่อ แม่ และน้องชาย ปัญหาของเราเริ่มเกิดเมื่อเอบ่นว่าอยากกลับไปดูแลพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด แต่เราไม่อยากไป...ลองฟังเหตุผลที่เราไม่อยากไปก่อนนะคะ เริ่มจากบ้านที่เอจะกลับไปอยู่เป็นบ้านของพี่สาวเอ ซึ่งซื้อให้ พ่อแม่อยู่ ส่วนตัวพี่สาวเอทำงานอยู่ในกรุงเทพเช่นเดียวกัน ยังไม่มีแฟน และไม่มีบ้านในกรุงเทพ ตามมาด้วยเหตุผลยอดฮิตคือแม่ผัวกะลูกสะใภ้ ปัจจุบันครอบครัวเอดีกะเรามากๆ รักเรามาก แต่ก็นั่นแหละมันจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปหรือเปล่า ก่อนที่จะแต่งงานกันเรายอมรับทุกครั้งที่ไปบ้านเอ เราก็รู้สึกอึดอัดไม่เป็นตัวเองนิดนึง จะเดิน จะนอน ก็เกรงใจไปหมด ต้องกิน ต้องนอนเป็นเวลา ทำตัวเรียบร้อยให้ผู้ใหญ่เอ็นดู ทั้งที่จริงๆเป็นคนไม่เรียบร้อยเลยค่ะ โหวกเหวกโวยวาย ชอบพูดเล่นตลกๆ ไม่ถึงกับหน้าไหว้หลังหลอกนะคะ แต่ต้องเรียบร้อยตามกาละเทศะค่ะ ปกติที่บ้านเราเลี้ยงเราแบบตามใจจะทำอะไรก็ทำแค่ไม่เดือดร้อนคนอื่นเป็นพอ อีกอย่างตอนคบกันกับเอมีทะเลาะกันบ้าง ทั้งๆที่เอผิดแต่เรารู้สึกว่าแม่เอก็จะเข้าข้างเอมากเกินไป ถ้าเราไปอยู่บ้านเอแล้วทะเลาะกัน คงเหมือนอยู่ตัวคนเดียว(อันนี้เราคิดเอง) เหตุผลสุดท้ายของเราคือ เราก็เป็นคนนึงที่รักครอบครัวเรามากไม่น้อยไปกว่าเอ เราอยู่กรุงเทพมาเป็นสิบปีไม่มีวันไหนเลยที่เราจะไม่ได้โทรคุยกะพ่อแม่ ทุกเดือนเราจะต้องกลับบ้านไปหาพ่อแม่ เดือนละ 2-3วันตลอด เรากลัวว่าหากต้องไปอยู่บ้านเอ แล้วเราจะกลับมาบ้านเหมือนเดิมไม่ได้ พ่อแม่เออาจจะไม่พอใจ(คิดเองอีกแล้ว) หรืออาจจะด้วยเหตุเพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่เพิ่มขึ้นอีกทั้งตัวเราเองก็ยังไม่มีรายได้แน่นอนรองรับหากต้องไปอยู่ที่นั่น เอบอกว่าจะถ้ากลับไปจะเปิดร้านค้าเล็กๆที่หน้าบ้านให้ ซึ่งหน้าบ้านเอไม่ใช่แหล่งชุมชุมทางรวยดูมีน้อยมาก เราก็อยากกลับไปดูแลพ่อแม่เราเช่นเดียวกันนะแต่เราก็ไม่เคยชวนเอไปอยู่บ้านเราด้วยเหตุผลใจเขาใจเราเราจึงชวนเอให้ซื้อบ้านในกรุงเทพอยู่ด้วยกัน เพื่อเป็นการพบกันคนละครึ่งทาง แต่เอก็ไม่โอเค ด้วยหลายๆเหตุผลของเอ ทั้งอยากไปดูแลพ่อแม่บ้าง เบื่อชีวิตกรุงเทพบ้าง และล่าสุดดูเหมือนว่าแม่เอก็เริ่มจะพูดอยากให้เอกลับไปอยู่บ้าน เราจึงยื่นอีกทางออกว่าจะกลับก็ได้แต่ขอปลูกบ้านอยู่ใกล้ๆได้มั้ยเพราะไม่อยากอยู่ในบ้านเดียวกัน เอบอกว่าที่จะกลับไปก็เพื่อจะไปดูแลพ่อแม่ถ้าแยกไปอยู่ที่อื่นจะกลับทำไม...สรุปเอก็ไม่โอเคอีก ตอนนี้เราคิดว่าเราเริ่มมาถึงทางตันแล้วค่ะ เราจึงคิดว่าเราจะยืนยันที่จะไม่ไปบ้านเอ อะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยให้เกิด ยกเว้นลูก!!!จะให้เกิดไม่ได้ ซึ่งเออยากให้มีมากๆเราเองก็เช่นกัน เรากลัวว่าวันข้างหน้าเรากับเอจะต้องเลิกลากันไปเพราะทางที่เราจะเดินต่อไปมันเป็นคนละเส้นทางกัน....
เพิ่มเติมนะคะ -พ่อแม่ของเราทั้งคู่ยังอยู่ในช่วงที่ดูแลตัวเองได้ 50-70 ค่ะ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย เดินไปมาสะดวก
-ที่บ้านเอมีอาชีพค้าขาย เย็บเสื้อยืดส่งออก ซึ่งเราคิดว่าเราไปอยู่หากร้านค้าเล็กๆที่เอเปิดให้ไปไม่รอด เราคงต้องมาช่วยทำเสื้อนี่แหละ ซึ่งรายได้ที่เราจะมีก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน
-ทุกวันนี้เราหาเงินได้มากกว่าเอค่ะ เราไม่เคยขอเงินเอใช้ ทำเอง เก็บเอง ทุกอย่างหารสอง ค่าสินสอดหาเอง ค่าจัดงานก็หารสอง
เรารักเอมากค่ะ แค่คิดว่าจะต้องเลิกกัน น้ำตาก็ไหลแล้ว ทุกวันนี้คิดเรื่องนี้จนไม่เป็นสุข บางครั้งเราก็สับสนไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันถูกแล้วหรือเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป ใครพอมีคำแนะนำดีดี แนะนำกันเข้ามาได้นะคะ เรารอฟ้งอยู่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ตลกดีเลิกกันเพราะ...ไปด้วยกันไม่ได้
เพิ่มเติมนะคะ -พ่อแม่ของเราทั้งคู่ยังอยู่ในช่วงที่ดูแลตัวเองได้ 50-70 ค่ะ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย เดินไปมาสะดวก
-ที่บ้านเอมีอาชีพค้าขาย เย็บเสื้อยืดส่งออก ซึ่งเราคิดว่าเราไปอยู่หากร้านค้าเล็กๆที่เอเปิดให้ไปไม่รอด เราคงต้องมาช่วยทำเสื้อนี่แหละ ซึ่งรายได้ที่เราจะมีก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน
-ทุกวันนี้เราหาเงินได้มากกว่าเอค่ะ เราไม่เคยขอเงินเอใช้ ทำเอง เก็บเอง ทุกอย่างหารสอง ค่าสินสอดหาเอง ค่าจัดงานก็หารสอง
เรารักเอมากค่ะ แค่คิดว่าจะต้องเลิกกัน น้ำตาก็ไหลแล้ว ทุกวันนี้คิดเรื่องนี้จนไม่เป็นสุข บางครั้งเราก็สับสนไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันถูกแล้วหรือเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป ใครพอมีคำแนะนำดีดี แนะนำกันเข้ามาได้นะคะ เรารอฟ้งอยู่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ