เรือดำน้ำออกศึก : เรือดำน้ำปล่อยข่าว
เป็นบทความของนิตยสารกองทัพเรือ “นาวิกศาสตร์” ที่ถูกตีพิมพ์ไว้นานมาก(ผู้เขียนคือ พลเรือโท พัน รักษ์แก้ว) ผมขอถือโอกาสเอามาเผยแพร่ให้อ่านกันเป็นความรู้เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2
___________________________________________________________________________________
ฤดูร้อน ปี ๒๔๘๖ เรือดำน้ำ H.M. Submarine SEA ROUGH เข้าเทียบข้าง เรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำฟอร์ท H.M. FORT ในทะเลสาบ Holy Loch เพื่อสิ่งของอย่างหนึ่ง ที่หน่วยงานลับของกรมข่าวทหารเรืออังกฤษมาส่งไว้ที่เรือพี่เลี้ยงก่อนที่จะส่งของผ่านมา ยังเรือซีรัฟ ลูกเรือที่หมวกกะลาสีมีแถบหมวกเพียงว่า H.M. SUBmarine ช่วยกัน ขนย้ายหีบโลหะใบหนึ่งขนาดยาวประมาณ ๖ ฟุต ปิดด้วยหัวท้านกว้างเหมือนสี่เหลี่ยม จัตุรัส ๒ ฟุต น้ำหนักของหีบประมาณ ๔๐๐ ปอนด์ ข้างหีบมีข้อความประทับไว้ว่า - อุปกรณ์จักษุภัณฑ์ขนย้ายด้วยความระมัดระวัง ขนส่งด้วยวิธีพิเศษ นอกจากหีบโลหะแล้ว ผู้บังคับการเรือดำน้ำ เรือเอก Jewel ยังได้รับมอบถุงใส่เรือยางของคนกรมข่าวทหาร เรือด้วยเป็นเรือยางขนาดเล็กสำหรับ ๒ คน ยังพร้อมกับพายอลูมิเนียมเพียง ๑ อัน
เมื่อรับสิ่งของจากกรมข่าวทหารเรือพร้อมแล้ว วันที่ ๑๙ เมษายน ที่มีอากาศสดใส เรือดำ น้ำก็ได้ออกเดินทางจากทะเลสาบที่ชื่อ Holy เป้นนิมิตหมายของความสักสิทธิ์แล่นลงไปตามแม่น้ำ ไคลด์สู่ทะเลด้วยภารกิจที่ลูกเรือดำน้ำรับทราบว่าจะนำเครื่องมือรายงานอากาศแบบใหม่ไปทำการ ทดลองโดยจะปล่อยเครื่องมือลงทะเลชสยฝั่งประเทศสเปนอย่างัลบ ๆ ก่อนที่จะเดินทางไปยังแอฟริ กาเหนือ
เรือดำน้ำซีรัฟ เป็นเรือขนาดกลางมีนายทหารประจำดรือ ๕ คน รวมทั้งผู้บังคับการเรือลูก เรืออีก ๕๐ นายระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทั้งนายเรือและลูกเรือมีประสบการณ์สูงในการปฏิบัติ ใกล้ฝั่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือเรือเราเคยไปรับนายพล จีราค แห่งกองทัพ ฝรั่งเศสเสรีให้รอดจากการถูกจับเป็นเฉลยขณะกองทัพพันธมิตรกำลังเพลี่ยงพล้ำต่อฝ่ายอักษะใน สมรภูมิแอฟริกาเหนือและเคยรับส่งนายพลมาร์กคล้าแห่งสหรัฐ ฯ ลอบขึ้นฝั่งแอฟริกาเหนือเพื่อ ติดต่อกับพวกฝรั่งที่ต่อต้านกองทัพเยอรมัน มาได้อย่างปลอดภัยเรือดำน้ำซีรัฟจึงถูกเลือกให้ไป ปฏิบัติงานใกล้ชายฝั่งสเปนในการทดลองเครื่องมือทางอุตุนิยมวิทยาแบบใหม่ที่วางอยูาในส่วนหัว เรือภายในเรือดำน้ำ
เรือดำน้ำเดินทางอย่างหลบ ๆ ซ้อน จากเกาะอังกฤษมุ่งมายังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนโดย ใช้เวลา ๑๐ วัน ก็ถึงน่านน้ำก่อนเข้าช่องแคบจิบรอนตา กลางดึกของคืน วันที่ ๒๙ เมษายน เรือดำน้ำได้เข้าใกล้ฝั่งเมืองเบลบาของสเปน ทะเลค่อนข้างเรียบแต่ทัศนวิสัยไม่ดีนัก เห็นได้ไกล เพียง ๑ - ๒ ไมล์ และเห็นแสงไฟของเมืองที่ปากน้ำเวลบาราง ๆ หลังจากหลบหลีกเรือหาปลา ขนาดเล็กหลายลำจนเวลาประมาณ ๐๔๓๐ เรือดำน้ำได้โผล่และหยุดนิ่งในระดับลึกต่ำสุดจนกระทั่ง ดาดฟ้าเรือพ้นผิวน้ำเพียง ๑ - ๒ นิ้วเท่านั้น หีบโลหะที่อยู่ภายในเรือได้ถูกยกขึ้นมาบนดาดฟ้า ที่มืดมิด บนดาดฟ้าเรือมีนายทหาร ๕ คนเท่านั้น โดยลูกเรืออยู่ภายในเรือทั้งหมด ก่อนที่จะทำ อะไรต่อไป ผุ้บังคับการเรทือจับไม้กางเขนที่ห้อยคออยู่แล้วได้ขอให้นายทหารอีก ๔ คน สาบานตน ว่า จะไม่พูกไม่เปิดเผยปฏิบัติการครั้งนี้โดยเด้ดขาดจนกว่าทางราชการจเปิดเผยเรื่องราวขึ้นเอง นายทหารต่างรับคำด้วยเกียรติยศของนายทหารแห่งราชนาวีอย่างงงงันว่าทำไมถึงกับต้องสบถ สาบานกัน
ผู้บังคับการเรือจึงแจ้งว่า สิ่งที่อยู่ในหีบใบนี้คือศพที่สวมใส่เครื่องแบบยศ พันตรีกรม ราชนาวิกโยธิน ที่มีกระเป๋าเอกสารติดตัวมาด้วยและจะปล่อยศพจากเรือดำน้ำลงทะเลไปโดยหวัง ศพลอยไปติกฝั่งสเปน หลังจากนั้นสายลับของเยอรมัน และส่งใจความของเอกสารให้ทางการ เยอรมันต่อไปเอกสารเหล่านั้นเป็นเอกสารจริงที่ทำขึ้นเพื่อลวงฝ่ายเยอรมันให้วางแผนสงครามผิด พลาดไป เพราะหลังจากที่ฝ่ายสัมพันธมิตรรบบุกที่แอฟริกาเหนือได้แล้วย่อมจะหาทางรุกทางยุโรป ใต้ต่อไป เอกสารมีข้อความบอกว่าฝ่ายสัมพันธมิตรจะรุกไปในทางทิศใด และให้ฝ่ายเยอรมันเบน ความสนใจไปตั้งซึ่งรับทิสทางนั้นที่ไม่ใช่ทิศทางรบรุกจริงซึ่งจะทำให้การสงครามง่ายและบรรเทา การสูญเสียไปได้มากในการที่จะเปิดศึกด้านใหม่ที่ยุโรปใต้
หลังจากรู้เรื่องความลับกันแล้วนายทหาร ๓ คน กระทำเป็นยามสะพานและควบคุม เรือใหญ่ ผู้บังคับการเรือกับนายทหารอีกตนหนึ่งใช้กุญแจเลื่อนที่ติดมากับหีบใช้เวลา ๑๐ นาที ก็ เปิดหีบออกได้ ร่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าห่มถูกอุ้มออกมาจากหีบอย่างระมักระวัง ทุกคนเงียบงัน เสมือนทำความเคารพ ผู้บังคับบัญชาก้มลงแกะเทปที่พันรอบผ้าห่มคลุมเครื่องแบบเคื่องหมายยศ ตรวจดูกระเป๋าเอกสารถูกยึดไว้กับเข็มขัดอย่างแน่นอนและมือยังกุมกระเป๋าอยู่
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสภาพเรียบร้อยผู้บังคับกการเรือได้เป่าเสื้อชูชีพที่สวมทับเครื่อง แบบที่อยู่ให้พองออกแล้วพึมพำอ้อมแอ้มสวดมนต์พิธีฝั่งศพเท่าที่จะจำได้ขณะที่คนอื่นถอดหมวก และก้มศีรษะสงบเงียบโดยไม่รู้ตัว นายทหารช่วยกันหย่อนศพลงน้ำข้างเรือ ขณะที่เรือดำน้ำอยู่ห่าง จากฝั่ง ๑ ไมล์เศษ เรือดำน้ำใช้เครื่องจักรใหญ่ให้ใบจักรพุ้ยน่ำส่งศพลอยเข้าหาฝั่งเร็วขึ้นหลัง จากเรือใหญ่แล่นห่างจากจุดปล่อยศพราวหนึ่งไมล์ก็ได้ปล่อยเรือยางลงน้ำในลักษณะคว่ำลง ที่หลัก กระเชียงของเรือยางมีกระเชียง ๑ อันผูกติดอยู่ หีบโลหะบรรจุผ้าห่มและเทปใส่น้ำไว้เต็มหีบกับถุง เรือยางถูกทิ้งลงน้ำที่ความลึก ๑๓๐ วา หีบศพดูจะจมน้ำช้าจึงได้ใช้ปืนพกยิงให้จมน้ำเร็วขึ้นแล้ว เรือดำน้ำได้ถอนตัวจากน่านน้ำสเปนไปทำงานอื่นต่อไป
วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๘๖ ผู้บังคับารเรือดำน้ำได้ส่งรหัสสัญญาณเมื่อเวลา ๐๗๑๕ ว่า " ปฏิบัติการมินซ์มีท MINCE MEAT ได้ปฏิบัติแล้ว " ไปยังกรุงลอนดอนรายละเอียดจะรายงานภาย หลังเมื่อเรือกลับฐานทัพ และในวันนั้นเองชาวประมงเมืองเวลบาขณะออกเรือชายฝั่งตามปกติได้ สังเกตเห็นรูปร่างยาวเท่าคนลอยปริ่มน้ำอยู่ และเมื่อเข้าไปใกล้ก็เป็นศพทหารที่สวมเครื่องแบบ แปลกตาจึงได้นำศพไปมอบให้แก่ทหารราบที่กำลังฝึกภาคสนามอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
วันที่ ๓ พฤษภาคม ผู้ช่วยทูตทหารเรือประจำกรุงมาดริด ได้ส่งข่าวไปยังกรมข่าวทหารเรือ ในกรุงลอนดอนว่าศพของ พันตรี มาร์ติน MARTIN ราชนาวิกโยธิน ได้ถูกทางการสเปนส่งให้ ้กงสุลอังกฤษที่เมืองเวลบา โดยมีข้าราชการทั้งทหารและพลเรือนสเปนมาร่วมพิธีศพด้วย ข่าวจาก การผู้ช่วยทูต ทหารเรือมิได้กล่าวถึง เรื่องเอกสารหรือเรื่องอื่นใดอีก

ภาพเรือดำน้ำอังกฤษสมัยสงครามโลก
วันที่ ๔ พฤษภาคม ทางกรุงลอนดอนส่งข่าวถึงผู้ช่วยทูตทหารเรือที่กรุงมาดริดว่า พันตรี มาร์ตินมีเอกสารบางอย่างที่มีความลับและสำคัญยิ่ง ขอให้ดำเนินการเอาเอกสารคืนมา โดย ช่อง การทูต และหากไม่ได้เอกสารมาให้สืบหาเอกสารอย่างลับ ๆ ว่าเอกสารตกไปอยู่ที่ใดหรือผู้ใด ให้แจ้งผลการดำเนินการกลับกรุงลอนดอนโดยเร็ว และหากได้เอกสารลับคืนมาก้ขอให้ส่งคืนกับ เจ้ากรมข่าวทหารเรือโยยมิให้ผู้ช่วยทูตเปิดซองเอกสารเหล่านั้น ต่อมาได้ส่งข่าวถึงผู้ช่วยทูตอีกครั้ง ว่า เอกสารมีอยู่ด้วยกัน ๓ ฉบับ ที่คงอยู่ในกระเป๋าเอกสารทางราชการสีดำและเตือนผู้ช่วย ให้ดำเนินการโดยอย่ากระตุ้นความสนใจในเรื่องนี้ของพวกสเปน
ทางกรุงลอนดอนได้รับตอบจากผู้ช่วยทูตทหารเรือครั้งแรกว่า เอกสารที่ติดตัวพันตรีมาร์ติน ไปได้ถูกส่ง " ตามสายงานธุรการ " จากกองบัญชาการกองทัพเรือที่คาดิซมายังทบวงทหารเรือ ซึ่งใช้เวลาบ้างและว่ากงสุลอังกฤษที่เมืองเวลบาไม่มีโอกาสได้เห็นกระเป๋าเอกสารเลย
วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ผู้ช่วยทูตทหารเรือแจ้งกลับมายังลอนดอนว่าเสนธิการทหารเรือสเปน ทำการแทนรัฐมนตรทบวงทหารเรือได้มอบสมบัติทุกอย่างของพันตรีมาร์ตินแก่ผู้ช่วยทูตแล้ว โดย เสนาธิการทหารเรือบอกว่า -ทุกสิ่งทุกอย่างในกระเป๋าเรียบร้อยดี แต่กระเป๋าเอกสารถูกเปิดด้วย กุญแจที่ยังคงเสียบอยูาในรูกุญแจซึ่งผู้ช่วยทูตเชื่อมั่นว่าเสนาธิการทหารเรือสเปนและผู้อื่นบางคน จะรู้ถึงข้อความในเอกสารไม่มากก็น้อย
ผู้ช่วยทูตทหารเรือแจ้งรายละเอียดหลังจากศพของพันตร มาร์ตินพบโดยชาวประมงซึ่งศพ ถูกส่งให้กับหน่วยทหารราบที่ชายฝั่งแล้วว่า นายทหารรัฐธรรมนูญได้รับคำสั่งให้เป็นผู้เก็บรักษาสิ่ง ของทุกอย่างของพันตรี มาร์ติน ซึ่งมีราบการดังนี้
ป้ายชื่อ ๒ ป้าย Major W. Martin R.M. Roman Catholic
สร้อยคอเงินพร้อมไม้กางเขน นาฬิกาข้อมือ กล่องไม้ขีด พวงกุญแจ
ซองหนังที่บรรจุด้วยรูปคู่หมั่น ( ชื่อ Pam ) แสตม์ใช้แล้ว ๒ ดวง จดหมายจากคู่หมั่น ๒ ฉบับ เหรียญรูปนักบุญคริสโตเฟอร์บัตรเชิญของคลับคาบาเรต์ ใบผ่านเข้าออกกองบัญชาการผสม ธนบัตร ๔ ฉบับ เหรียญ ๙ เหรียญ จดหมายจากพ่อ ๒ ฉบับจดหมายจากธนาคารลอยด์ บิลแจ้งหนี้ และบิลเงินสดจากสโมสรทหารและร้านขายเครื่องแบบ บิลแหวนหมั่น ตั๋วรถเมล์ ๒ ใบ และหางตั๋วดู ละคร ๒ วันที่ ๒๒ เมษายน
กระเป๋าเอกสาร ๑ ใบพร้อมด้วยจดหมายของนายทหารผู้ใหญ่ในกองบัญชาการผสม สัมพันธมิตร
รายงานแจ้งด้วยง่า ศพของพันตรี มาร์ตินถูกชันสูตรในเมืองเวลบา ซึ่งแพทย์ ระบุว่า พันตรี มาร์ตินตายเนื่องจากหายใจไม่ออกหรือจมน้ำตายแล้ว ๕ - ๘ วัน ก่อนพบศพ นักบินชาวอเมริกัน ซึ่งเครื่องบินตกในทะเลก่อยหน้านี้ ได้ถูกเชิญมาดูศพพันตรีมาร์ติน และว่าเขาไม่รู้จักผู้ตาย
ทางกรุงลอนดอนได้สั่งให้ผู้ช่วยทูตทหารเรือในสเปนนำพวงหรีดไปวางที่หลุมศพพันตรี มาร์ติน และให้หาหินจารึกไปติดตั้งที่หลุมฝังศพโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ไห้ฝ่ายเยอรมันขุดศพ ขึ้นมาชันสูตรอีกครั้งหินจารึกเป็นหินอ่อนสีขาวจ่รึก ชื่อ วัน เดือน ปีเกิด และตาย ชื่อบิดา มารดา แห่งเมืองคาร์ดิฟ มณฑลเวลล์ และคำอธิษฐานให้เขาไปสู่สุคติ
เมื่อกระเป๋าเอกสารที่พัรตรีนำติดตัวไปถูกส่งกลับถึงกรุงลอนดอนปรากฏว่าเอกสารสำคัญ อยู่ครบ ตราคลั่งและซองเอกสารยังอยู่ในสภาพเรียบร้อยแม้จะจมน้ำทะเลอยู่นานนับชั่วโมง จาก การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ พบว่าอย่างน้อยจดหมาย ๒ ใน ๓ ฉบับได้ถูกนำออกจากซองแล้ว เก็บไว้ที่เดิม ส่วนสายลับของเยอรมัน ในเมืองเวลบาจะล่วงรู้ข้อความของเอกสารเพียงใดต้องรอดู การปฏิบัติการของกองทัพเยอรมันเมื่อกองทัพสัมพันธมิตรเรเนียนไปยังยุโรปตอนใต้ว่าทางเยอร มันจะมีการจะมีการเคลื่อนไหวเช่นใด
ก่อนการใช้เรือดำน้ำปล่อยศพ พันตรี มาร์ตินลงทะเล หน้าเมืองเวลบาของสเปนนั้น ฝ่ายเยอรมันยึดประเทศและเมืองต่าง ๆ รอบทะเลเมดิเตอรืเรเนียนตั้งแต่ฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ ในยุโรปใต้กินไปถึง อียิปต์ ลิเบีย ตูนีเซีย และแอลจีเรียในแอฟริกาเหนือส่วนสเปนเป็นประเทศ เป็นกลางซึ่งมีฝ่ายการทูตและสายลับของคู่ สงครามโลกครั้งที่ ๒ ทำงานลับกันอย่างกว้างขวาง จริงจังในสเปน เมื่อกองทัพเยอรมันเริ่มล่าถอยในแอฟริกาเหนือ จากตูนิเซียแล้ว ฝ่ายสัมพันธมิตร ก็เชื่อว่าจะกวาดฝ่ายเยอรมันออกจากแอฟริกาเหนือได้ และเริ่มวางแผนที่จะข้ามทะเลเมดิเตอร์ เรเนียนไปยังยุโรปใต้ อิตาลีและกรีซแล้วกำลังทหารเยอรมันยังยึดเกาะคอร์ซิกาและวาร์ดิเนีย
ฝ่ายสัมพันธมิตรตระหนักดีว่าการโจมตียกพลขึ้นยึดซิซิลีจะมีการสูญเสียเป็นอย่างยิ่ง และ ฝ่ายเยอรมันย่อมประเมินออกว่าการยกทัพจากแอฟริกาผ่านนไปยังทะเลยุโรปใต้ของคาบมหา สมุทรอิตาลีนั้นเป็นตำบลที่สกัดกั้นการเคลื่อนที่กำลังของสัมพันธมิตรผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อย่างเหมาะสมที่สุด ทั้งนี้ฝ่ายเยอรมันเชื่อมั่นว่าหลังจากทางสัมพันธมิตรมีชัยในแอฟริกาเหนือ แล้วคงไม่ถอนกำลังทหารกลับเกาะอังกฤษเพื่อเตรียมยกพลข้ามช่องแคบอังกฤษขึ้นบกที่ฝั่งของ ฝรั่งเศสอย่างน้อยคงมีกำลังทหารสัมพันธมิตรส่วนหนึ่งจากแอฟริกาเหนือข้ามทะเลไปยังฝรั่งเศส ภาคใต้ หรืออิตาลี หรือที่กรีซที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษขณะนั้น เซอร์ชิลเคยเรียกขานไว้ว่าพื้นที่ของ ประเทศเหล่านั้น – เป้นท้องน้อยยุโรป

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เชอร์ชิล
เรือดำน้ำออกศึก : เรือดำน้ำปล่อยข่าว
เป็นบทความของนิตยสารกองทัพเรือ “นาวิกศาสตร์” ที่ถูกตีพิมพ์ไว้นานมาก(ผู้เขียนคือ พลเรือโท พัน รักษ์แก้ว) ผมขอถือโอกาสเอามาเผยแพร่ให้อ่านกันเป็นความรู้เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2
___________________________________________________________________________________
ฤดูร้อน ปี ๒๔๘๖ เรือดำน้ำ H.M. Submarine SEA ROUGH เข้าเทียบข้าง เรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำฟอร์ท H.M. FORT ในทะเลสาบ Holy Loch เพื่อสิ่งของอย่างหนึ่ง ที่หน่วยงานลับของกรมข่าวทหารเรืออังกฤษมาส่งไว้ที่เรือพี่เลี้ยงก่อนที่จะส่งของผ่านมา ยังเรือซีรัฟ ลูกเรือที่หมวกกะลาสีมีแถบหมวกเพียงว่า H.M. SUBmarine ช่วยกัน ขนย้ายหีบโลหะใบหนึ่งขนาดยาวประมาณ ๖ ฟุต ปิดด้วยหัวท้านกว้างเหมือนสี่เหลี่ยม จัตุรัส ๒ ฟุต น้ำหนักของหีบประมาณ ๔๐๐ ปอนด์ ข้างหีบมีข้อความประทับไว้ว่า - อุปกรณ์จักษุภัณฑ์ขนย้ายด้วยความระมัดระวัง ขนส่งด้วยวิธีพิเศษ นอกจากหีบโลหะแล้ว ผู้บังคับการเรือดำน้ำ เรือเอก Jewel ยังได้รับมอบถุงใส่เรือยางของคนกรมข่าวทหาร เรือด้วยเป็นเรือยางขนาดเล็กสำหรับ ๒ คน ยังพร้อมกับพายอลูมิเนียมเพียง ๑ อัน
เมื่อรับสิ่งของจากกรมข่าวทหารเรือพร้อมแล้ว วันที่ ๑๙ เมษายน ที่มีอากาศสดใส เรือดำ น้ำก็ได้ออกเดินทางจากทะเลสาบที่ชื่อ Holy เป้นนิมิตหมายของความสักสิทธิ์แล่นลงไปตามแม่น้ำ ไคลด์สู่ทะเลด้วยภารกิจที่ลูกเรือดำน้ำรับทราบว่าจะนำเครื่องมือรายงานอากาศแบบใหม่ไปทำการ ทดลองโดยจะปล่อยเครื่องมือลงทะเลชสยฝั่งประเทศสเปนอย่างัลบ ๆ ก่อนที่จะเดินทางไปยังแอฟริ กาเหนือ
เรือดำน้ำซีรัฟ เป็นเรือขนาดกลางมีนายทหารประจำดรือ ๕ คน รวมทั้งผู้บังคับการเรือลูก เรืออีก ๕๐ นายระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทั้งนายเรือและลูกเรือมีประสบการณ์สูงในการปฏิบัติ ใกล้ฝั่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณชายฝั่งแอฟริกาเหนือเรือเราเคยไปรับนายพล จีราค แห่งกองทัพ ฝรั่งเศสเสรีให้รอดจากการถูกจับเป็นเฉลยขณะกองทัพพันธมิตรกำลังเพลี่ยงพล้ำต่อฝ่ายอักษะใน สมรภูมิแอฟริกาเหนือและเคยรับส่งนายพลมาร์กคล้าแห่งสหรัฐ ฯ ลอบขึ้นฝั่งแอฟริกาเหนือเพื่อ ติดต่อกับพวกฝรั่งที่ต่อต้านกองทัพเยอรมัน มาได้อย่างปลอดภัยเรือดำน้ำซีรัฟจึงถูกเลือกให้ไป ปฏิบัติงานใกล้ชายฝั่งสเปนในการทดลองเครื่องมือทางอุตุนิยมวิทยาแบบใหม่ที่วางอยูาในส่วนหัว เรือภายในเรือดำน้ำ
เรือดำน้ำเดินทางอย่างหลบ ๆ ซ้อน จากเกาะอังกฤษมุ่งมายังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนโดย ใช้เวลา ๑๐ วัน ก็ถึงน่านน้ำก่อนเข้าช่องแคบจิบรอนตา กลางดึกของคืน วันที่ ๒๙ เมษายน เรือดำน้ำได้เข้าใกล้ฝั่งเมืองเบลบาของสเปน ทะเลค่อนข้างเรียบแต่ทัศนวิสัยไม่ดีนัก เห็นได้ไกล เพียง ๑ - ๒ ไมล์ และเห็นแสงไฟของเมืองที่ปากน้ำเวลบาราง ๆ หลังจากหลบหลีกเรือหาปลา ขนาดเล็กหลายลำจนเวลาประมาณ ๐๔๓๐ เรือดำน้ำได้โผล่และหยุดนิ่งในระดับลึกต่ำสุดจนกระทั่ง ดาดฟ้าเรือพ้นผิวน้ำเพียง ๑ - ๒ นิ้วเท่านั้น หีบโลหะที่อยู่ภายในเรือได้ถูกยกขึ้นมาบนดาดฟ้า ที่มืดมิด บนดาดฟ้าเรือมีนายทหาร ๕ คนเท่านั้น โดยลูกเรืออยู่ภายในเรือทั้งหมด ก่อนที่จะทำ อะไรต่อไป ผุ้บังคับการเรทือจับไม้กางเขนที่ห้อยคออยู่แล้วได้ขอให้นายทหารอีก ๔ คน สาบานตน ว่า จะไม่พูกไม่เปิดเผยปฏิบัติการครั้งนี้โดยเด้ดขาดจนกว่าทางราชการจเปิดเผยเรื่องราวขึ้นเอง นายทหารต่างรับคำด้วยเกียรติยศของนายทหารแห่งราชนาวีอย่างงงงันว่าทำไมถึงกับต้องสบถ สาบานกัน
ผู้บังคับการเรือจึงแจ้งว่า สิ่งที่อยู่ในหีบใบนี้คือศพที่สวมใส่เครื่องแบบยศ พันตรีกรม ราชนาวิกโยธิน ที่มีกระเป๋าเอกสารติดตัวมาด้วยและจะปล่อยศพจากเรือดำน้ำลงทะเลไปโดยหวัง ศพลอยไปติกฝั่งสเปน หลังจากนั้นสายลับของเยอรมัน และส่งใจความของเอกสารให้ทางการ เยอรมันต่อไปเอกสารเหล่านั้นเป็นเอกสารจริงที่ทำขึ้นเพื่อลวงฝ่ายเยอรมันให้วางแผนสงครามผิด พลาดไป เพราะหลังจากที่ฝ่ายสัมพันธมิตรรบบุกที่แอฟริกาเหนือได้แล้วย่อมจะหาทางรุกทางยุโรป ใต้ต่อไป เอกสารมีข้อความบอกว่าฝ่ายสัมพันธมิตรจะรุกไปในทางทิศใด และให้ฝ่ายเยอรมันเบน ความสนใจไปตั้งซึ่งรับทิสทางนั้นที่ไม่ใช่ทิศทางรบรุกจริงซึ่งจะทำให้การสงครามง่ายและบรรเทา การสูญเสียไปได้มากในการที่จะเปิดศึกด้านใหม่ที่ยุโรปใต้
หลังจากรู้เรื่องความลับกันแล้วนายทหาร ๓ คน กระทำเป็นยามสะพานและควบคุม เรือใหญ่ ผู้บังคับการเรือกับนายทหารอีกตนหนึ่งใช้กุญแจเลื่อนที่ติดมากับหีบใช้เวลา ๑๐ นาที ก็ เปิดหีบออกได้ ร่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าห่มถูกอุ้มออกมาจากหีบอย่างระมักระวัง ทุกคนเงียบงัน เสมือนทำความเคารพ ผู้บังคับบัญชาก้มลงแกะเทปที่พันรอบผ้าห่มคลุมเครื่องแบบเคื่องหมายยศ ตรวจดูกระเป๋าเอกสารถูกยึดไว้กับเข็มขัดอย่างแน่นอนและมือยังกุมกระเป๋าอยู่
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสภาพเรียบร้อยผู้บังคับกการเรือได้เป่าเสื้อชูชีพที่สวมทับเครื่อง แบบที่อยู่ให้พองออกแล้วพึมพำอ้อมแอ้มสวดมนต์พิธีฝั่งศพเท่าที่จะจำได้ขณะที่คนอื่นถอดหมวก และก้มศีรษะสงบเงียบโดยไม่รู้ตัว นายทหารช่วยกันหย่อนศพลงน้ำข้างเรือ ขณะที่เรือดำน้ำอยู่ห่าง จากฝั่ง ๑ ไมล์เศษ เรือดำน้ำใช้เครื่องจักรใหญ่ให้ใบจักรพุ้ยน่ำส่งศพลอยเข้าหาฝั่งเร็วขึ้นหลัง จากเรือใหญ่แล่นห่างจากจุดปล่อยศพราวหนึ่งไมล์ก็ได้ปล่อยเรือยางลงน้ำในลักษณะคว่ำลง ที่หลัก กระเชียงของเรือยางมีกระเชียง ๑ อันผูกติดอยู่ หีบโลหะบรรจุผ้าห่มและเทปใส่น้ำไว้เต็มหีบกับถุง เรือยางถูกทิ้งลงน้ำที่ความลึก ๑๓๐ วา หีบศพดูจะจมน้ำช้าจึงได้ใช้ปืนพกยิงให้จมน้ำเร็วขึ้นแล้ว เรือดำน้ำได้ถอนตัวจากน่านน้ำสเปนไปทำงานอื่นต่อไป
วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๘๖ ผู้บังคับารเรือดำน้ำได้ส่งรหัสสัญญาณเมื่อเวลา ๐๗๑๕ ว่า " ปฏิบัติการมินซ์มีท MINCE MEAT ได้ปฏิบัติแล้ว " ไปยังกรุงลอนดอนรายละเอียดจะรายงานภาย หลังเมื่อเรือกลับฐานทัพ และในวันนั้นเองชาวประมงเมืองเวลบาขณะออกเรือชายฝั่งตามปกติได้ สังเกตเห็นรูปร่างยาวเท่าคนลอยปริ่มน้ำอยู่ และเมื่อเข้าไปใกล้ก็เป็นศพทหารที่สวมเครื่องแบบ แปลกตาจึงได้นำศพไปมอบให้แก่ทหารราบที่กำลังฝึกภาคสนามอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
วันที่ ๓ พฤษภาคม ผู้ช่วยทูตทหารเรือประจำกรุงมาดริด ได้ส่งข่าวไปยังกรมข่าวทหารเรือ ในกรุงลอนดอนว่าศพของ พันตรี มาร์ติน MARTIN ราชนาวิกโยธิน ได้ถูกทางการสเปนส่งให้ ้กงสุลอังกฤษที่เมืองเวลบา โดยมีข้าราชการทั้งทหารและพลเรือนสเปนมาร่วมพิธีศพด้วย ข่าวจาก การผู้ช่วยทูต ทหารเรือมิได้กล่าวถึง เรื่องเอกสารหรือเรื่องอื่นใดอีก
ภาพเรือดำน้ำอังกฤษสมัยสงครามโลก
วันที่ ๔ พฤษภาคม ทางกรุงลอนดอนส่งข่าวถึงผู้ช่วยทูตทหารเรือที่กรุงมาดริดว่า พันตรี มาร์ตินมีเอกสารบางอย่างที่มีความลับและสำคัญยิ่ง ขอให้ดำเนินการเอาเอกสารคืนมา โดย ช่อง การทูต และหากไม่ได้เอกสารมาให้สืบหาเอกสารอย่างลับ ๆ ว่าเอกสารตกไปอยู่ที่ใดหรือผู้ใด ให้แจ้งผลการดำเนินการกลับกรุงลอนดอนโดยเร็ว และหากได้เอกสารลับคืนมาก้ขอให้ส่งคืนกับ เจ้ากรมข่าวทหารเรือโยยมิให้ผู้ช่วยทูตเปิดซองเอกสารเหล่านั้น ต่อมาได้ส่งข่าวถึงผู้ช่วยทูตอีกครั้ง ว่า เอกสารมีอยู่ด้วยกัน ๓ ฉบับ ที่คงอยู่ในกระเป๋าเอกสารทางราชการสีดำและเตือนผู้ช่วย ให้ดำเนินการโดยอย่ากระตุ้นความสนใจในเรื่องนี้ของพวกสเปน
ทางกรุงลอนดอนได้รับตอบจากผู้ช่วยทูตทหารเรือครั้งแรกว่า เอกสารที่ติดตัวพันตรีมาร์ติน ไปได้ถูกส่ง " ตามสายงานธุรการ " จากกองบัญชาการกองทัพเรือที่คาดิซมายังทบวงทหารเรือ ซึ่งใช้เวลาบ้างและว่ากงสุลอังกฤษที่เมืองเวลบาไม่มีโอกาสได้เห็นกระเป๋าเอกสารเลย
วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ผู้ช่วยทูตทหารเรือแจ้งกลับมายังลอนดอนว่าเสนธิการทหารเรือสเปน ทำการแทนรัฐมนตรทบวงทหารเรือได้มอบสมบัติทุกอย่างของพันตรีมาร์ตินแก่ผู้ช่วยทูตแล้ว โดย เสนาธิการทหารเรือบอกว่า -ทุกสิ่งทุกอย่างในกระเป๋าเรียบร้อยดี แต่กระเป๋าเอกสารถูกเปิดด้วย กุญแจที่ยังคงเสียบอยูาในรูกุญแจซึ่งผู้ช่วยทูตเชื่อมั่นว่าเสนาธิการทหารเรือสเปนและผู้อื่นบางคน จะรู้ถึงข้อความในเอกสารไม่มากก็น้อย
ผู้ช่วยทูตทหารเรือแจ้งรายละเอียดหลังจากศพของพันตร มาร์ตินพบโดยชาวประมงซึ่งศพ ถูกส่งให้กับหน่วยทหารราบที่ชายฝั่งแล้วว่า นายทหารรัฐธรรมนูญได้รับคำสั่งให้เป็นผู้เก็บรักษาสิ่ง ของทุกอย่างของพันตรี มาร์ติน ซึ่งมีราบการดังนี้
ป้ายชื่อ ๒ ป้าย Major W. Martin R.M. Roman Catholic
สร้อยคอเงินพร้อมไม้กางเขน นาฬิกาข้อมือ กล่องไม้ขีด พวงกุญแจ
ซองหนังที่บรรจุด้วยรูปคู่หมั่น ( ชื่อ Pam ) แสตม์ใช้แล้ว ๒ ดวง จดหมายจากคู่หมั่น ๒ ฉบับ เหรียญรูปนักบุญคริสโตเฟอร์บัตรเชิญของคลับคาบาเรต์ ใบผ่านเข้าออกกองบัญชาการผสม ธนบัตร ๔ ฉบับ เหรียญ ๙ เหรียญ จดหมายจากพ่อ ๒ ฉบับจดหมายจากธนาคารลอยด์ บิลแจ้งหนี้ และบิลเงินสดจากสโมสรทหารและร้านขายเครื่องแบบ บิลแหวนหมั่น ตั๋วรถเมล์ ๒ ใบ และหางตั๋วดู ละคร ๒ วันที่ ๒๒ เมษายน
กระเป๋าเอกสาร ๑ ใบพร้อมด้วยจดหมายของนายทหารผู้ใหญ่ในกองบัญชาการผสม สัมพันธมิตร
รายงานแจ้งด้วยง่า ศพของพันตรี มาร์ตินถูกชันสูตรในเมืองเวลบา ซึ่งแพทย์ ระบุว่า พันตรี มาร์ตินตายเนื่องจากหายใจไม่ออกหรือจมน้ำตายแล้ว ๕ - ๘ วัน ก่อนพบศพ นักบินชาวอเมริกัน ซึ่งเครื่องบินตกในทะเลก่อยหน้านี้ ได้ถูกเชิญมาดูศพพันตรีมาร์ติน และว่าเขาไม่รู้จักผู้ตาย
ทางกรุงลอนดอนได้สั่งให้ผู้ช่วยทูตทหารเรือในสเปนนำพวงหรีดไปวางที่หลุมศพพันตรี มาร์ติน และให้หาหินจารึกไปติดตั้งที่หลุมฝังศพโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ไห้ฝ่ายเยอรมันขุดศพ ขึ้นมาชันสูตรอีกครั้งหินจารึกเป็นหินอ่อนสีขาวจ่รึก ชื่อ วัน เดือน ปีเกิด และตาย ชื่อบิดา มารดา แห่งเมืองคาร์ดิฟ มณฑลเวลล์ และคำอธิษฐานให้เขาไปสู่สุคติ
เมื่อกระเป๋าเอกสารที่พัรตรีนำติดตัวไปถูกส่งกลับถึงกรุงลอนดอนปรากฏว่าเอกสารสำคัญ อยู่ครบ ตราคลั่งและซองเอกสารยังอยู่ในสภาพเรียบร้อยแม้จะจมน้ำทะเลอยู่นานนับชั่วโมง จาก การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ พบว่าอย่างน้อยจดหมาย ๒ ใน ๓ ฉบับได้ถูกนำออกจากซองแล้ว เก็บไว้ที่เดิม ส่วนสายลับของเยอรมัน ในเมืองเวลบาจะล่วงรู้ข้อความของเอกสารเพียงใดต้องรอดู การปฏิบัติการของกองทัพเยอรมันเมื่อกองทัพสัมพันธมิตรเรเนียนไปยังยุโรปตอนใต้ว่าทางเยอร มันจะมีการจะมีการเคลื่อนไหวเช่นใด
ก่อนการใช้เรือดำน้ำปล่อยศพ พันตรี มาร์ตินลงทะเล หน้าเมืองเวลบาของสเปนนั้น ฝ่ายเยอรมันยึดประเทศและเมืองต่าง ๆ รอบทะเลเมดิเตอรืเรเนียนตั้งแต่ฝรั่งเศส อิตาลี กรีซ ในยุโรปใต้กินไปถึง อียิปต์ ลิเบีย ตูนีเซีย และแอลจีเรียในแอฟริกาเหนือส่วนสเปนเป็นประเทศ เป็นกลางซึ่งมีฝ่ายการทูตและสายลับของคู่ สงครามโลกครั้งที่ ๒ ทำงานลับกันอย่างกว้างขวาง จริงจังในสเปน เมื่อกองทัพเยอรมันเริ่มล่าถอยในแอฟริกาเหนือ จากตูนิเซียแล้ว ฝ่ายสัมพันธมิตร ก็เชื่อว่าจะกวาดฝ่ายเยอรมันออกจากแอฟริกาเหนือได้ และเริ่มวางแผนที่จะข้ามทะเลเมดิเตอร์ เรเนียนไปยังยุโรปใต้ อิตาลีและกรีซแล้วกำลังทหารเยอรมันยังยึดเกาะคอร์ซิกาและวาร์ดิเนีย
ฝ่ายสัมพันธมิตรตระหนักดีว่าการโจมตียกพลขึ้นยึดซิซิลีจะมีการสูญเสียเป็นอย่างยิ่ง และ ฝ่ายเยอรมันย่อมประเมินออกว่าการยกทัพจากแอฟริกาผ่านนไปยังทะเลยุโรปใต้ของคาบมหา สมุทรอิตาลีนั้นเป็นตำบลที่สกัดกั้นการเคลื่อนที่กำลังของสัมพันธมิตรผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อย่างเหมาะสมที่สุด ทั้งนี้ฝ่ายเยอรมันเชื่อมั่นว่าหลังจากทางสัมพันธมิตรมีชัยในแอฟริกาเหนือ แล้วคงไม่ถอนกำลังทหารกลับเกาะอังกฤษเพื่อเตรียมยกพลข้ามช่องแคบอังกฤษขึ้นบกที่ฝั่งของ ฝรั่งเศสอย่างน้อยคงมีกำลังทหารสัมพันธมิตรส่วนหนึ่งจากแอฟริกาเหนือข้ามทะเลไปยังฝรั่งเศส ภาคใต้ หรืออิตาลี หรือที่กรีซที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษขณะนั้น เซอร์ชิลเคยเรียกขานไว้ว่าพื้นที่ของ ประเทศเหล่านั้น – เป้นท้องน้อยยุโรป
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เชอร์ชิล