[CR] เที่ยวอุบล-ปากเซ58 แบบไม่เสียงตังค์ *.*

ไปอุบล-ปากเซ เราไม่เสียตังค์สักบาท เหยย ทำได้ไง
คือเราไปกับครอบครัว พ่อแม่ออกให้หมดเลยย 55555555555

---

    
ขอออกตัวก่อนนะว่ากระทู้นี้จะไม่มีการรีวิวราคาค่าใช้จ่ายอะไรเท่าไร เราขอเน้นรูปสถานที่ท่องเที่ยวละกัน
อ่อ เพื่ออรรถรสในการรับชม เปิดเพลงนี้ไปด้วยก็ได้นะ


ทริปนี้เริ่มต้นที่เพื่อนๆของแม่ชวนกันไปหาเพื่อนอีกคนที่อุบล  โดยนั่งรถตู้จากจังหวัดลพบุรี (บ้านเราอยู่ลพบุรี) ไปจนถึงอุบล แน่นอน มันใช้เวลานานมาก ประมาณ10ชม.ได้ -0-
เราออกเดินทางในคืนวันที่29 ตอนเที่ยงคืน ซึ่งเป็นวันแรกของการหยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา ทริปนี้มีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 9 คน เป็นครั้งแรกที่เราเดินทางในช่วงกลางคืน เราจึงกังวลกับการนอนในรถของเรามาก แค่เริ่มออกเดินทางก็ทำให้เราหงุดหงิด เพราะเสียงโฟมที่สีกับเบาะที่นั่ง คือของเยอะมากจนต้องอัดๆไว้ติดกัน แต่สักพักก็ชินละ5555 พอถึงช่วงโรงปูนทางจะไปโคราช ตรงที่เป็นเนินเขา คือรถติดมากกก ติดแบบ โอ่ยย นี่มันตี1นะ ทำไมรถติดยังกับชั่วโมงเร่งด่วนในกทม. 555555 เสียเวลาตรงรถติดไปประมาณชม. แต่ก็คือมันเป็นช่วงเทศกาลอะเนาะ คนก็กลับบ้านเยอะ  ระหว่างทางเราจำไม่ค่อยได้ละ หลับๆตื่นๆ แวะปั๊มบ้างอะไรบ้าง ข้ามไปเลยละกัน

หลังจากนั่งก้นบานมาเป็น 10 ชม. 55555555555 และแล้วเราก็มาถึงจังหวัดอุบลราชธานี เย่   เรามาถึงตอนประมาณ 11โมง ก็ไปบ้านเพื่อนแม่ก่อนเลย อยู่ที่อำเภอวารินชำราบ เพราะอาเขาจะเป็นคนนำเที่ยวในทริปนี้ ไปถึงก็พูดคุยทักทายกันสนุกสนาน และก็เริ่มออกเดินทางไปเที่ยวที่แรกของวันนี้เลยก็คือ บ้านคำปุน



บ้านคำปุนเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าไหมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความพิเศษของสถานที่แห่งนี้ คือ จะเปิดให้เข้าชมแค่ปีละหนึ่งครั้งในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีเท่านั้น (เนื่องจากเป็นบ้านส่วนตัว)ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 17 แล้ว โดยมีการเก็บค่าเข้าชม 100 บาท  รายได้จะนำไปสมทบทุนอาหารกลางวันเด็กด้อยโอกาสจังหวัดอุบลราชธานี และสมทบทุนพิพิฑภัณฑ์ศรีอุบลรัตนาราม






ภายในบ้านคำปุน มีการจัดนิทรรศการผ้าทอผืนพิเศษ ผ้ายกทองและผ้าปูม
สาธิตดอกผึ้ง ต้นผึ้ง และการติดพิมพ์แห่เทียนพรรษา
ชมการจัดดอกไม้ การสาวไหม การแกะสลักผักผลไม้
ชมการทอผ้าเมืองอุบลและตำนานผ้ากาบบัว การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทอผ้าโบราณ






น้องฝรั่งคนนี้เอาใบตองที่ตัวเองนั่งทำมาอวดด้วย น่ารักกก


นอกจากนี้ทางบ้านคำปุนยังมีขนมไทยอร่อยๆและก็น้ำดื่มสมุนไพรไว้เลี้ยงคนที่มาเข้าชมงานอีกด้วย ฟรีจ้าา ตอนที่เราไปมีขนมตาล มะพร้าวแก้ว น้ำมะตูม แล้วก็น้ำอัญชัน





ก่อนจะกลับมีโชว์เล็กๆด้วยจากคณะฟ้อนกลองตุ้ม บ้านหนองบ่อ



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอบคุณข้อมูลเล็กๆน้อยๆจากโบรชัวร์นี้ค่ะ

สถานที่ต่อไปที่เราไปก็คือ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม ต้องทำเวลาหน่อย เพราะตอนนั้นก็บ่ายสองกว่าแล้ว กว่าจะถึงผาแต้ม เดี๋ยวแสงจะหมด อดถ่ายรูป ออกเดินทางกันเถอะ ลุยยย

ก่อนถึงผาแต้มเราแวะวัดถ้ำคูหาสวรรค์ หลวงปู่คำคนิง จุลมณี กันแปปนึง





และแล้วเราก็มาถึงละ..
ที่แรกเลย เสาเฉลียง คือแถวนี้จะเป็นหินตั้งๆกันอยู่เยอะๆ มีลานหินแตกด้วย




ขับรถต่อไปอีกนิดนึงก็ถึงจุดชมวิวผาแต้ม มองเห็นฝั่งลาว ยืนดูแม่น้ำโขง เราชอบมากๆ หญ้า ทุ่งนา ต้นไม้ข่างล่างมันเขียวสดมากๆ แล้วคือเป็นตารางๆเลยทุ่งนาเหมือนที่วาดรูปตอนเด็กๆ





เราไม่ได้ลงไปตรงที่มีภาพเขียนโบราณ คือจากจุดที่ชมวิวมันต้องเดินต่อไปอีกนิสสสนึง แล้วตอนนั้นใกล้มืดแล้วด้วย ฝนก็ลงเม็ดอีก แล้วก็จองร้านอาหารไว้ด้วย โอ่ยย อุปสรรคเยอะเนาะ สรุปคือไม่ได้ลงน่ะแหละ แอบเสียดาย เพราะตรงนี้มันเหมือนแลนด์มาร์คของผาแต้มเลยย เอาไว้คราวหน้าละกันนน

หลังจากนั้นเราก็กินข้าวเย็น เข้าที่พัก พวกพ่อแม่ก็ไปคุยกันกับเพื่อนๆ เรากับน้องด้วยความเพลียก็นอนกันอยู่ในห้อง นอนเอาแรงไว้ลุยที่ลาวพรุ่งนี้