/// ณ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ที่ตั้งฆ้องขนาดมหึมาตรงด้านหน้าวัด..แวะเข้าไปกราบหลวงปู่คำคนิง (องค์เหมือน) ด้านในถ้ำ ///

/// ณ จุดชมวิวแม่น้ำสองสี ภายในวัดโขงเจียม..แต่สังเกตไม่ออกเลยว่าแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลบรรจบกันที่ตรงไหนเพราะฝนตกหนักจนน้ำในแม่น้ำเยอะมากเป็นพิเศษ ///

+++ เก็บภาพวัดโขงเจียมและบรรยากาศแม่น้ำสองสีเสร็จก็เริ่มหิวขึ้นมาตะหงิดๆ ต้องหาอะไรกินก่อนหาที่พัก (ยังนอนใจกับเรื่องที่พักในตอนนั้น) และก็มาสะดุดตาที่ร้านแพอารยา เคลมว่าร้านอาหารระดับ Michellin Star +++

/// นี่คือเมนูสามรายการที่สั่ง “อู๋ไข่ปลา” (ต้มลาวๆ แบบอ่อมใส่ผักแขยงลงไป..เรียกถูกป่าวหว่า) ต้มย้ำปลาเนื้ออ่อน (อ้ายกากชมว่าอร่อยที่สุดสำหรับทริปนี้) และกุ้งฝอยทอด..มาเรทคะแนนให้อาหารกันบ้าง

ปริมาณเทียบกับราคา 9/10 เยอะทุกอย่าง กินจนเหนื่อย

ความอร่อย 8/10 รสชาติมาตรฐานสำหรับนกอีก๋อย แต่ก็แอบประทับใจอู๋ไข่ปลาอยู่นะ

เบ็ดเสร็จค่าเสียหาย 690 บาท ถือว่าราคาไม่แรงมาก ///

/// ได้กินมื้อเย็นในบรรยากาศชวนฟินหอมกลิ่นฝนช่วยให้อาหารอร่อยเป็นร้อยเท่า ///

/// แวะตลาดหาของกินเล่นหน่อยซิ ///

+++ ว่าแล้วก็เดินทางกันต่อ เพื่อหาที่พักสำหรับคืนที่สอง และโชคก็เข้าข้างเราที่พักคืนนี้ใกล้กับอุทยานแห่งชาติผาแต้มไม่เกิน 8 กิโลเมตร เป็นที่พักที่ถือเป็นของดีของโขงเจียมซ่อนตัวอยู่ไกลจนอาจคาดไม่ถึง..แต่ใครจะรู้ว่าของดีมีอยู่จริง..โฮมสเตย์เรือนตามุย เปิดมาเจ็ดปีแต่พิษโควิดเล่นงานจนเกือบแย่เหมือนกัน และปีที่ผ่านมาถือว่าฟื้นตัวมาได้เกือบจะร้อยเปอร์เซ็น..หากมีเพื่อนๆ คนไหนชอบนอนรีสอร์ทแบบฟีลธรรมชาติที่บริการอาหารเช้าทั้งกาแฟ โอวัลติน ข้าวต้ม ก๋วยจั๊บญวน (บุฟเฟ่ต์) ต้องลองมาพักที่เรือนตามุยดูจ้า ภาพในอินเตอร์เน็ตไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริงเรือนตามุยสวยมากๆ สำหรับนกอีก๋อยเลยล่ะ เป็นเรือนไม้สองชั้นโครงสร้างดูแข็งแรง สไตล์การตกแต่งก็เก๋ไก๋ เครื่องนอนเกรดดีผ้าห่มผ้าปูนุ่มหอมนอนหลับสนิทตลอดท้างคืน..ฟิน! +++

/// มื้อเช้ามีเยอะแต่ก็กินได้แค่ที่เห็น นกอีก๋อยสอบถามแม่ครัวว่าปลาทางนี้มีอะไรน่าสนใจ จนได้เป็นปลานางทอดกระเทียมหอมฉุยทั้งคุ้งโขง (ปลานาง=ปลาเนื้ออ่อน) ปลาสดขึ้นจากฝั่ง ตัวโต เนื้อเยอะ นุ่มอร่อย ตัวไซส์กลางเคี้ยวกินได้ทั้งเนื้อและหัวเพราะแม่ครัวทอดได้กรอบมากเว่อร์ อันนี้สั่งต่างหากจากมื้อเช้าที่รีสอร์ทจัดไว้ให้ สนนราคาจานนี้ 200 บาท ///

+++ Check out จากเรือนตามุย นั่งคุยมากันกับอ้ายกากในรถว่าเที่ยวอุบลรอบนี้ประทับใจจังเลยเนอะ ทุกๆ ช่วงการเดินทางเหมือนว่ามีใครมากำหนดไว้ว่าเราต้องหยุดที่จุดนี้นะ นอนที่นี่นะ..ทุกที่เติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวของเราอย่างแท้จริง...และระหว่างทริปได้มีโอกาสนำเทียนไปถวายที่วัดตามุย ซึ่งเป็นวัดป่าและมีพระสงฆ์จำวัดอยู่เพียงรูปเดียว ท่านเปรยมาว่าดูทีโยมเดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยเข้าวัดทำบุญกันแล้ว (คงเพราะข่าวฉาววงการสงฆ์สดๆ ร้อนๆ ตอนนี้) ไอ้เราก็ได้แต่ยิ้มกัน..ก็โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว และความลับก็ไม่มีในโลกอีกต่อไป +++

+++ ออกจากวัดตามุย ไปต่อกันที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มดินแดนอารยธรรมโบราณที่ย้อนกลับไปหลายพันปี แต่ปัจจุบันยังเหลือภาพเขียนโบราณไว้บอกเล่าเรื่องราวการดำเนินชีวิตของผู้คน ความอุดมสมบูรณ์ของป่าและสิงสาราสัตว์..ที่น่าสนใจคือเที่ยวอุทยานฯ ผาแต้มไม่ได้ลำบากมากมายอะไรเลย ถ้าพอเดินไหวก็สามารถเดินไปดูภาพเขียนโบราณบนฝาผนังได้ในระยะทางประมาณ 800 เมตร (ไปกลับประมาณ 1.6 กม.) ทางเดินทางอุทยานก็ทำเป็นขั้นบันไดอย่างดีให้เดินได้ง่ายพอเรียกเหงื่อ และสำหรับเราก็ถือว่าพอได้ออกกำลังกายให้อาหารมันได้ย่อย..ฝากไว้สำหรับ สว. หรือไม่ สว. ก็ให้เตรียมรองเท้าที่รัดส้นเพื่อความปลอดภัยและกันลื่นขณะเดินจ้า +++

/// ระหว่างทางเดินไปจุดต่างๆ เพื่อชมภาพเขียนบนผนัง บรรยากาศและวิวทิวทัศน์สวยไม่ใช่น้อย ///

ปล. หากอยากสอบถามข้อมูลของอุทยานฯ เพิ่มเติมก็จะมีเจ้าหน้าที่หน้าตาน่ารักคอยตอบคำถามที่ด้านในศูนย์บริการฯ ด้วยนะ

- มีต่อช่วงท้ายอีกหน่อยจ้า -