<-------ไวโอลิน-----สีเลือด------{{{=

กระทู้สนทนา
---------------ไวโอลินสีเลือด.........
มิกเป็นเด็กไม่เอาไหน นั้นเป็นเพราะถูกเลี้ยงมาด้วยความรักที่ผิดทาง และไม่ได้รับการปลูกฝังให้มีความรับผิดชอบ
ฉะนั้นไม่ว่าการเรียนหรือความสนใจต่างๆก็มักลงเอยด้วยความล้มเหลวเสมอ เมื่อเขาบอกว่าจะไม่เรียนอีกแล้ว
ผู้เป็นพ่อแม่ก็ได้แต่ทักท้วงด้วยน้ำคำ ยับยั้งด้วยน้ำตา เพียงแค่นั้นย่อมไม่ทำให้มิกหันกลับเข้าสู่ครรลองได้

ในที่สุดเขามั่วสุมและเข้าก๊วนติดยา และเป็นที่รังเกียจแก่สังคมรอบกายอย่างที่พ่อแม่เขากลัว

เงินที่เขานำมาเล่นยา ก็มาจากการออกลักขโมยกับเพื่อนๆ
กระนั้นคนอย่างมิก ก็อุตสาห์มีความฝัน ทุกครั้งที่เขาเมา
เขาจะเฝ้าฝันว่าเขาเป็นนักดนตรี อยู่บนเวทีทีมีแสงเจิดจ้า

ซึ่งจริงแล้ว เขามีพรสวรรค์และฝีมือทางดนตรีไม่น้อยเลย เขาเป็นมือกีตาร์ชั้นยอดยามเพื่อนๆเมา
แต่เมื่อไม่เงินสูบยา มิกก็เอากีตาร์ที่พ่อแม่อุตสาห์เจียดเงินซื้อให้
เพราะหวังว่าลูกคนเดียวจะเอาดีได้สักอย่าง ไปขาย........


มิกเองก็อยากจะเก็บมันไว้ แต่ใจใฝ่ดีของมิก ก็เพียงลมที่พัดขึ้นวูบหนึ่งเท่านั้น

“เราขโมยกันจนชาวบ้านยิ้มระวังตัวแจแล้วหว่ะ ข้าวของก็พากันเก็บมิดชิด ไอ้จะฉกฉวยทีเผลอเหมือนก่อน ก็ยากขึ้นทุกที”

เสียงก่นบ่นขึ้นในวงยาบ้า ท่ามกลางความมืดของรัตติกาล
แสงที่วูบวาบจากการเสพ ทำให้ใบหน้าแต่ละคนดูน่ากลัวราวปีศาจ
แต่ละคนพยายาม อัดควันปอดแทบฉีก ตักตวงพิษร้ายเข้าสู่สมอง
ยาบ้าในห่อพลาสติกสิบกว่าเม็ด ก็หมดลง

ยาบ้าจำนวนนี้ มันดูน้อยเหลือเกินสำหรับคนพวกนี้ ที่เสพวันละสองเม็ด ก็กลายเป็นต้องเสพวันละห้าหกเม็ด
ขนาดในราคามิตรภาพ พวกเขาก็ยังต้องซื้อเม็ดละเกือบสองร้อย

มิกระบายควันพร้อมพูดขึ้น

“แล้วจะเอาไงว่ะ ข้าวของที่ฉวยได้หยิบได้ กูก็เอามาขายจนหมดบ้านแล้ว”

“กูมีวิธี ที่ไม่ต้องเสี่ยงถูกชาวบ้านยิงตาย
จะได้เงินทีละมากๆด้วย”

เสียงใครคนหนึ่งในความมืด พูดขึ้น
++++++++++++

มิกซ้อนมอเตอร์ไซด์วิ่งฝ่าความมืด เขาถูมือไปมา ไล่ความหนาวกับความรู้ผิดชอบชั่วดี

เขาและเพื่อนถูกเลือกให้มาทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต มิกตบหลังคนขับ
“เฮ้ย มาแล้วดับไฟหน้าเร็ว”

มิกล้วงเอาก้อนหินขนาดเต็มกำมือในถุงผ้า ขณะที่ตาจับจ้องไปยังแสงจ้าของรถที่วิ่งสวน มันบึงใกล้เข้าด้วยความเร็ว

++++++++++++

“ปลายฟ้า” แม้จะอายุเพียงสิบสี่ปี ก็แสดงฝีมือว่านักไวโอลินมีอนาคตไกล

ด้วยที่บ้านของเธอร่ำรวย เธอไม่ต้องพะวงกับอนาคตการขวนขวายเพื่อปากท้อง
พ่อแม่ของเธอก็สนับสนุนให้เล่นดนตรีตามที่สวรรค์ประทานพรแก่เธอตั้งแต่เยาว์วัย

นิ้ววิเศษของเธอบรรเลงบทเพลงคลาสลิคที่ซับซ้อนได้ตั้งแต่เก้าขวบ
และด้วยใบหน้าที่น่ารักปานเทพธิดาน้อย ทำให้เพลงที่เธอเล่นยิ่งไพเราะน่าฟัง

วันนี้โชคชะตาอันร้ายกาจ นำทั้งสองให้มาพบกันบนถนนที่เปล่าเปลี่ยว..................

ปลายฟ้า พึ่งกับจากโชว์ใหญ่ครั้งแรกในโรงแรมห้าดาวที่ต่างจังหวัด

เธอนั่งเคาะนิ้วทั้งสิบ ลงบนกล่องไวโอลินที่เบาะหลัง ในขณะที่สมองก็ฮัมทำนองเพลงอย่างเพลิดเพลิน
เธอมองไปที่กระจกมองหลังของรถ เห็นสายตาของผู้เป็นพ่อและแม่ มองกลับมาด้วยแววอาทร

เธอคิดจะยิ้มตอบ แต่เสียงดังที่สุด
เท่าที่เคยได้ยินในชีวิตลั่นสนั่นขึ้นราวฟ้าถล่ม

“เปรี้ยงงงงงงงงง”

รถหมุนเป็นสว่าน เสียงเบรก เสียงโลหะครูดกับถนนจนวาบสว่าง
รถหมุนเหวี่ยงไปหยุดกะทันหันและเสียหายยับเยิน เมื่ออัดเข้ากับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
ใบหน้าที่เคยเป็นเทพธิดา ยุบหายไปในเสี้ยววินาที !!

เพลงที่เธอฮัมในจินตนาการวูบลงเหมือนดับเทียน……………..

==============
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่