สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน
พอดีได้เห็นกระทู้แนะนำอาชีพในเวปนี้ (
http://pantip.com/topic/33980509 ของคุณนางฟ้าชาเย็น เป็นกระทู้ที่ให้ข้อมูลดีมากๆเลยครับ) เลยเกิดอาการคัน อยากจะแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังบ้างครับ เป็นกระทู้แรกที่ตั้งเอง ผิดพลาดประการใดก็ขอคำแนะนำด้วยนะครับ (ภาษาไทยของผมก็คงไม่ถูก100%นะครับ ขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนเลย ยังไงก็จะพยายามไม่ให้อ่านแล้วขัดตาขัดใจนะครับ)
ติดปีกบินท่องไปในท้องนภาอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ อาชีพในฝันของใครๆหลายคน สำหรับผมนั้นอาชีพนักบินก็เรียกได้ว่ามีความอยากที่จะเข้ามาทำตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กม.ปลายหัวเกรียนกันเลยทีเดียว ผมก็ไม่ทราบว่าคนอื่นเขาคิดกันอย่างไร แต่สำหรับผมนั้นคงจะบอกว่าอยากจะมาเป็นเนื่องจากว่ามันเป็นอะไรที่น้อยคนที่จะมีโอกาสได้เข้ามาทำ โก้ไม่หยอกที่จะได้บังคับเครื่องบินราคาหลักพันล้านเต็มไปด้วยปุ่มกดมากมาย ได้ไปทำงานในที่ที่ใครหลายๆคนไม่เคยได้เห็น ฟังดูช่างเท่ห์ไม่น้อย แต่หลังจากได้เข้ามาสัมผัสแล้วจะรู้ว่า เรื่องจริงมันไม่ชิลเหมือนในนิยายเลยสักนิด มันเป็นอย่างไรนั้น ผมจะพยายามเล่าให้ฟังกันผ่านประโยคคำถามนะครับ (ได้มุมมองการเล่าเรื่องแบบนี้มาจากกระทู้ของคุณนางฟ้าชาเย็นครับ
http://pantip.com/topic/33980509 เห็นว่าเหมาะสมดีเนื่องจากไม่สามารถเล่าโดยละเอียดเป็นTimelineให้ฟังได้)
อยากเป็นนักบินต้องทำอย่างไร? คำถามนี้ขอตอบแบบห้วนๆไม่ขยายความนะครับ มีวุฒิปริญญาตรีแล้วก็ไปสอบให้ผ่านครับ ไม่ว่าจะเป็นทุนสายการบิน หรือไปเรียนบินด้วยตัวเองแล้วไปสอบเข้าสายการบิน หาอ่านได้ตามกระทู้และหนังสือแนะนำมากมายหลายเล่ม
กว่าจะได้มาบินให้ผู้โดยสารนั่ง ผ่านอะไรมาบ้าง? สำหรับเรื่องนี้คงต้องเล่ากันยาวจากมื้อเช้ายันมื้อเที่ยง ในที่นี้ผมจะกล่าวถึงนักบินของสายการบินพาณิชย์ที่ท่านๆใช้บริการกันนะครับส่วนแบบอื่นผมไม่ทราบรายละเอียดเบื้องลึกครับ เพราะบอกตรงๆว่าไม่เคยเป็นครับ^^
อันดับแรกเลยเราจะต้องไปเรียนขับเครื่องบินครับ โดยจะเริ่มจากเครื่องบินขนาดเล็ก ซึ่งไม่ได้มีระบบซับซ้อนอะไรมากมาย ก็เหมือนกับการไปเรียนขับรถนั่นแหล่ะครับ มีภาคทฤษฏี และภาคปฎิบัติควบคู่กันไป จุดมุ่งหมายสำคัญคือเรียนเพื่อให้บินเป็น และไปสอบใบอนุญาตให้ผ่าน ก่อนที่จะมาประกอบอาชีพได้ วิชาที่เรียนถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆก็เหมือนเรียนปริญญาตรีซัก1-2เทอมนั่นหล่ะครับ มีสอบ มีซ่อมกันไปตามระเบียบ หลังจากจบจากโรงเรียนการบินและได้เจ้าใบอนุญาตดังกล่าวมา เราก็จะกลับมาเรียนเพิ่มเติมสำหรับการเป็นนักบินพาณิชย์ (ฟังดูแปลยาก เอาง่ายๆก็คือนักบินที่ท่านเห็นว่าเดินลากกระเป๋าไปขึ้นเครื่องที่ท่านนั่งล่ะครับ) ที่บริษัทหรือสายการบินของเราครับ ส่วนนี้ก็น่าจะเหมือนกันเรียนเฉพาะทางว่าเราต้องรู้อะไรที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเรานั่นเองครับ เนื้อหาที่เรียนกันก็มากพอๆกับการเรียนปริญาอีกสักใบหนึ่งครับ เรียนไปสอบไปผ่านครบหมดทุกอย่างก็จะถูกส่งไปฝึกบินในเครื่องปฏิบัติการบินจำลองหรือSimulator (จากนี้ไปขอแทนคำว่า Simนะครับ มันสั้นดี) ในSimก็จะจำลองมาจากเครื่องบินแบบที่เราจะไปบินจริงๆครับ ปุ่มต่างๆรวมถึงแผงควบคุมก็จะถูกจำลองมาเหมือนกันเป๊ะ นั่นก็เพื่อให้เรามีความชำนาญก่อนที่จะไปบินกับของจริงครับ (อยู่ๆจะให้ไปเล่นกับของจริงเลยคงไม่รอดกลับมานั่งอ่านกระทู้ครับ) เมื่อผ่านแล้วถึงจะได้ไปฝึกกับของจริงกันต่อไปในภายภาคหน้า หลังจากนั้นพอได้มาฝึกกับเครื่องบินจริงเราจะเข้าสู่ส่วนที่เรียกว่า Route Introduction เพื่อให้มีความคุ้นเคยกับเส้นทางการบินและการทำงานจริงๆในชีวิตปกติของพวกเราครับ ที่กล่างมาข้างต้นนั้นจะมีครูการบินเป็นผู้กำกับดูแลนะครับ เมื่อผ่านครบหมดทุกขั้นตอนเราถึงจะสามารถมาทำงานร่วมกับนักบินที่ไม่ใช่ครูการบินได้ครับ
งานนักบินไม่เห็นต้องทำอะไรเลย แค่ใส่Auto Pilotแล้วก็นั่งจิบกาแฟ จีบแอร์ไปสบายใจเฉิบ อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความเข้าใจยอดฮิตที่ได้ยินผู้ร่วมสนทนาผู้ทีไรแล้วพาลทำให้หนังตากระตุก คืออยากจะตอบว่าพี่ครับ ถ้ามันง่ายขนาดนั้นผมคงมีความสุขในการทำงานมากกว่านี้เยอะเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องจีบแอร์ (เพราะเค้าไม่เอาผมครับ)
เข้าเรื่องเลยดีกว่า การบินนั้นมีอะไรที่มากกว่าไปนั่งกดปุ่มเยอะครับ เริ่มตั้งแต่ทำตัวเองให้พร้อมทั้งร่างกายและความรู้ก่อนเลยครับ ความรู้ที่นักบินควรจะรู้ก่อนไปบินนั้นเยอะมากครับ เหมือนกันกับเรียนปริญญาอีกสักใบ อ่านหน้าลืมหลัง อ่านหลังลืมหน้า เพราะมันเยอะมากๆ แต่ก็ต้องรู้ในสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าจะอธิบายยังไงให้เข้าใจ เอาเป็นว่ามันเยอะละกันนะครับ ส่วนร่างกายก็คือต้องพักผ่อนให้เพียงพอก่อนจะมาบิน เพราะงานของนักบินนั้นใช้ร่างกายหนักมากครับ หนักในทีนี้คงไม่เหมือนกับนักกีฬาที่เหงื่อออกเพราะวิ่งนะครับ มันหนักคนละแบบ การทำงานในที่ที่ความดันไม่เท่ากับบนพื้นนั้นทำให้เราเพลียง่ายครับ ไหนจะตากแดดตัวดำเพราะบนท้องฟ้าเหนือเมฆนั้นแดดมันแรงจริงจัง (ลองขับรถไกลๆกลางแดดโดยไม่ติดฟิลม์ดูนะครับ คล้ายๆกัน) ไหนจะอดหลับอดนอนเพราะว่าบินตอนกลางคืน (นึกภาพไม่ออกก็ลองอ่านหนังสือสอบตอนดึกๆละกันครับ ใครไม่ง่วงไม่เพลียก็บ้าแล้ว)
สมุติว่ามีเที่ยวบินที่ออกเดินทางตอน7โมงเช้า ชีวิตผมในวันนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ตี3ครึ่งแล้วครับ อาบน้ำปะแป้งแปรงฟังออกจากบ้านเดินทางไปสนามบิน โดยที่ต้องไปถึงที่ทำงานอย่างช้า2ชั่วโมงก่อนเครื่องออกเพื่อนไปอ่านและเตรียมเอกสารต่างที่จำเป็นต้องใช้ในเที่ยวบินนั้นๆ หลักก็พยากรณ์อากาศของสนามบินต่างๆที่เกี่ยวข้อง ยิ่งบินไกลเอกสารก็จะยิ่งเยอะตามไปเป็นเงาตามตัว จากนั้นประมาณ1ชั่วโมงก่อนเครื่องออก เราจะเดินทางไปที่เครื่องเพื่อเตรียมความพร้อมโดยรายละเอียดนั้นคงจะได้กล่าวถึงในคำถามต่อๆไปครับ
กระโดดข้ามมาตอนบินเลยละกัน เมื่อเครื่องยกตัวขึ้นเหนือพื้นดินแล้วเราก็จะใช้งานAuto Pilotตามคำกล่าวอ้างยอดฮิตทันทีครับ สาเหตุนั้นก็เพราะมันช่วยลดWork loadในการทำงาน เพื่อให้นักบินมีเวลามาสนใจสิ่งรอบข้างได้มากขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าระบบนี้ยังต้องการinputจากคนอยู่นะครับ เค้าไม่สามารถทำงานโดยไม่มีคนควบคุมได้ จะให้ยกตัวอย่างก็คงเหมือนกับใช้Cruise controlในรถยนต์ครับ ยังไงก็ยังต้องเร่งความเร็วหรือเบรคด้วยตัวคนขับอยู่ดี ถ้าใส่Cruise controlแล้วนั่งจิบกาแฟเฉยๆได้ก็คงดีเช่นกัน สำหรับการบินนั้นแตกต่างจากขับรถตรงมันมีมิติที่มากขึ้นครับ รถยนต์มีไปข้างหน้า เปลี่ยนเลน เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ส่วนเครื่องบินเพิ่มแนวบนล่าง และเอียงซ้ายขวาเข้ามาด้วยครับ ที่กล่าวมานั้นเป็นแค่เรื่องการควบคุมเครื่องบิน แต่ในการทำงานจริงนั้นจะมีสิ่งอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องอีกมากมาย เช่นติดต่อวิทยุกับหอบังคับการบิน, หลบเมฆและสภาพอากาศต่างๆในระหว่างเส้นทางบิน, คอยฟังว่าเครื่องบินลำอื่นใกล้ๆเราเค้าอยู่ตรงไหนเพื่อจะได้ระวังตัวไม่เข้าไปเฉี่ยวชนกัน, การแก้ปัญหาเมื่อเวลามีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
หากจะยกตัวอย่างก็ขอสมมุติว่า ต้องขับรถที่ความเร็ว200กมต่อชั่วโมงโดยใช้Cruise control ในขณะเดียวกันนั้นก็คุยโทรศัพท์ อ่านแผนที่ วางแผนเส้นทางการเดินทาง ระวังรถรอบๆข้างไม่ให้มาชนเราและเราไม่ไปชนเค้า เปลี่ยนเลนซ้ายขวาเพื่อหลบถนนขรุขระหรือรถคันอื่น ขึ้นสะพานลงสะพาน จิบกาแฟ จีบแอร์(ตามที่เขาว่ากัน) ที่กล่าวมานั้นทำพร้อมกันหมดทุกอย่างโดยห้ามจอดรถแล้วคิดนะครับเพราะบนฟ้าเครื่องบินมันจอดไม่ได้ ได้แต่ไปข้างหน้าลูกเดียว คิดว่ามันง่ายไหมครับ หากคิดว่าง่ายรีบมาสมัครเลยครับ มี1สมองกับ2มือ2เท้าเหมือนกัน แต่คุณเทพกว่าผมเยอะ รับรองว่ามีประโยชน์กว่าผมแน่ๆ เพราะผมคิดว่ามันไม่ง่ายครับ
เอาไว้มาเล่าต่อนะครับ ตอนนี้ง่วงมากๆแล้ว ขอบคุณที่ทนอ่านครับ มีคำถามอะไรก็Postไว้นะครับ จะพยายามเข้ามาตอบครับ
อยากรู้ไหม อาชีพนักบินมันเป็นยังไงหนอ
พอดีได้เห็นกระทู้แนะนำอาชีพในเวปนี้ (http://pantip.com/topic/33980509 ของคุณนางฟ้าชาเย็น เป็นกระทู้ที่ให้ข้อมูลดีมากๆเลยครับ) เลยเกิดอาการคัน อยากจะแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังบ้างครับ เป็นกระทู้แรกที่ตั้งเอง ผิดพลาดประการใดก็ขอคำแนะนำด้วยนะครับ (ภาษาไทยของผมก็คงไม่ถูก100%นะครับ ขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนเลย ยังไงก็จะพยายามไม่ให้อ่านแล้วขัดตาขัดใจนะครับ)
ติดปีกบินท่องไปในท้องนภาอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ อาชีพในฝันของใครๆหลายคน สำหรับผมนั้นอาชีพนักบินก็เรียกได้ว่ามีความอยากที่จะเข้ามาทำตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กม.ปลายหัวเกรียนกันเลยทีเดียว ผมก็ไม่ทราบว่าคนอื่นเขาคิดกันอย่างไร แต่สำหรับผมนั้นคงจะบอกว่าอยากจะมาเป็นเนื่องจากว่ามันเป็นอะไรที่น้อยคนที่จะมีโอกาสได้เข้ามาทำ โก้ไม่หยอกที่จะได้บังคับเครื่องบินราคาหลักพันล้านเต็มไปด้วยปุ่มกดมากมาย ได้ไปทำงานในที่ที่ใครหลายๆคนไม่เคยได้เห็น ฟังดูช่างเท่ห์ไม่น้อย แต่หลังจากได้เข้ามาสัมผัสแล้วจะรู้ว่า เรื่องจริงมันไม่ชิลเหมือนในนิยายเลยสักนิด มันเป็นอย่างไรนั้น ผมจะพยายามเล่าให้ฟังกันผ่านประโยคคำถามนะครับ (ได้มุมมองการเล่าเรื่องแบบนี้มาจากกระทู้ของคุณนางฟ้าชาเย็นครับ http://pantip.com/topic/33980509 เห็นว่าเหมาะสมดีเนื่องจากไม่สามารถเล่าโดยละเอียดเป็นTimelineให้ฟังได้)
อยากเป็นนักบินต้องทำอย่างไร? คำถามนี้ขอตอบแบบห้วนๆไม่ขยายความนะครับ มีวุฒิปริญญาตรีแล้วก็ไปสอบให้ผ่านครับ ไม่ว่าจะเป็นทุนสายการบิน หรือไปเรียนบินด้วยตัวเองแล้วไปสอบเข้าสายการบิน หาอ่านได้ตามกระทู้และหนังสือแนะนำมากมายหลายเล่ม
กว่าจะได้มาบินให้ผู้โดยสารนั่ง ผ่านอะไรมาบ้าง? สำหรับเรื่องนี้คงต้องเล่ากันยาวจากมื้อเช้ายันมื้อเที่ยง ในที่นี้ผมจะกล่าวถึงนักบินของสายการบินพาณิชย์ที่ท่านๆใช้บริการกันนะครับส่วนแบบอื่นผมไม่ทราบรายละเอียดเบื้องลึกครับ เพราะบอกตรงๆว่าไม่เคยเป็นครับ^^
อันดับแรกเลยเราจะต้องไปเรียนขับเครื่องบินครับ โดยจะเริ่มจากเครื่องบินขนาดเล็ก ซึ่งไม่ได้มีระบบซับซ้อนอะไรมากมาย ก็เหมือนกับการไปเรียนขับรถนั่นแหล่ะครับ มีภาคทฤษฏี และภาคปฎิบัติควบคู่กันไป จุดมุ่งหมายสำคัญคือเรียนเพื่อให้บินเป็น และไปสอบใบอนุญาตให้ผ่าน ก่อนที่จะมาประกอบอาชีพได้ วิชาที่เรียนถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆก็เหมือนเรียนปริญญาตรีซัก1-2เทอมนั่นหล่ะครับ มีสอบ มีซ่อมกันไปตามระเบียบ หลังจากจบจากโรงเรียนการบินและได้เจ้าใบอนุญาตดังกล่าวมา เราก็จะกลับมาเรียนเพิ่มเติมสำหรับการเป็นนักบินพาณิชย์ (ฟังดูแปลยาก เอาง่ายๆก็คือนักบินที่ท่านเห็นว่าเดินลากกระเป๋าไปขึ้นเครื่องที่ท่านนั่งล่ะครับ) ที่บริษัทหรือสายการบินของเราครับ ส่วนนี้ก็น่าจะเหมือนกันเรียนเฉพาะทางว่าเราต้องรู้อะไรที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเรานั่นเองครับ เนื้อหาที่เรียนกันก็มากพอๆกับการเรียนปริญาอีกสักใบหนึ่งครับ เรียนไปสอบไปผ่านครบหมดทุกอย่างก็จะถูกส่งไปฝึกบินในเครื่องปฏิบัติการบินจำลองหรือSimulator (จากนี้ไปขอแทนคำว่า Simนะครับ มันสั้นดี) ในSimก็จะจำลองมาจากเครื่องบินแบบที่เราจะไปบินจริงๆครับ ปุ่มต่างๆรวมถึงแผงควบคุมก็จะถูกจำลองมาเหมือนกันเป๊ะ นั่นก็เพื่อให้เรามีความชำนาญก่อนที่จะไปบินกับของจริงครับ (อยู่ๆจะให้ไปเล่นกับของจริงเลยคงไม่รอดกลับมานั่งอ่านกระทู้ครับ) เมื่อผ่านแล้วถึงจะได้ไปฝึกกับของจริงกันต่อไปในภายภาคหน้า หลังจากนั้นพอได้มาฝึกกับเครื่องบินจริงเราจะเข้าสู่ส่วนที่เรียกว่า Route Introduction เพื่อให้มีความคุ้นเคยกับเส้นทางการบินและการทำงานจริงๆในชีวิตปกติของพวกเราครับ ที่กล่างมาข้างต้นนั้นจะมีครูการบินเป็นผู้กำกับดูแลนะครับ เมื่อผ่านครบหมดทุกขั้นตอนเราถึงจะสามารถมาทำงานร่วมกับนักบินที่ไม่ใช่ครูการบินได้ครับ
งานนักบินไม่เห็นต้องทำอะไรเลย แค่ใส่Auto Pilotแล้วก็นั่งจิบกาแฟ จีบแอร์ไปสบายใจเฉิบ อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความเข้าใจยอดฮิตที่ได้ยินผู้ร่วมสนทนาผู้ทีไรแล้วพาลทำให้หนังตากระตุก คืออยากจะตอบว่าพี่ครับ ถ้ามันง่ายขนาดนั้นผมคงมีความสุขในการทำงานมากกว่านี้เยอะเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องจีบแอร์ (เพราะเค้าไม่เอาผมครับ)
เข้าเรื่องเลยดีกว่า การบินนั้นมีอะไรที่มากกว่าไปนั่งกดปุ่มเยอะครับ เริ่มตั้งแต่ทำตัวเองให้พร้อมทั้งร่างกายและความรู้ก่อนเลยครับ ความรู้ที่นักบินควรจะรู้ก่อนไปบินนั้นเยอะมากครับ เหมือนกันกับเรียนปริญญาอีกสักใบ อ่านหน้าลืมหลัง อ่านหลังลืมหน้า เพราะมันเยอะมากๆ แต่ก็ต้องรู้ในสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าจะอธิบายยังไงให้เข้าใจ เอาเป็นว่ามันเยอะละกันนะครับ ส่วนร่างกายก็คือต้องพักผ่อนให้เพียงพอก่อนจะมาบิน เพราะงานของนักบินนั้นใช้ร่างกายหนักมากครับ หนักในทีนี้คงไม่เหมือนกับนักกีฬาที่เหงื่อออกเพราะวิ่งนะครับ มันหนักคนละแบบ การทำงานในที่ที่ความดันไม่เท่ากับบนพื้นนั้นทำให้เราเพลียง่ายครับ ไหนจะตากแดดตัวดำเพราะบนท้องฟ้าเหนือเมฆนั้นแดดมันแรงจริงจัง (ลองขับรถไกลๆกลางแดดโดยไม่ติดฟิลม์ดูนะครับ คล้ายๆกัน) ไหนจะอดหลับอดนอนเพราะว่าบินตอนกลางคืน (นึกภาพไม่ออกก็ลองอ่านหนังสือสอบตอนดึกๆละกันครับ ใครไม่ง่วงไม่เพลียก็บ้าแล้ว)
สมุติว่ามีเที่ยวบินที่ออกเดินทางตอน7โมงเช้า ชีวิตผมในวันนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ตี3ครึ่งแล้วครับ อาบน้ำปะแป้งแปรงฟังออกจากบ้านเดินทางไปสนามบิน โดยที่ต้องไปถึงที่ทำงานอย่างช้า2ชั่วโมงก่อนเครื่องออกเพื่อนไปอ่านและเตรียมเอกสารต่างที่จำเป็นต้องใช้ในเที่ยวบินนั้นๆ หลักก็พยากรณ์อากาศของสนามบินต่างๆที่เกี่ยวข้อง ยิ่งบินไกลเอกสารก็จะยิ่งเยอะตามไปเป็นเงาตามตัว จากนั้นประมาณ1ชั่วโมงก่อนเครื่องออก เราจะเดินทางไปที่เครื่องเพื่อเตรียมความพร้อมโดยรายละเอียดนั้นคงจะได้กล่าวถึงในคำถามต่อๆไปครับ
กระโดดข้ามมาตอนบินเลยละกัน เมื่อเครื่องยกตัวขึ้นเหนือพื้นดินแล้วเราก็จะใช้งานAuto Pilotตามคำกล่าวอ้างยอดฮิตทันทีครับ สาเหตุนั้นก็เพราะมันช่วยลดWork loadในการทำงาน เพื่อให้นักบินมีเวลามาสนใจสิ่งรอบข้างได้มากขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าระบบนี้ยังต้องการinputจากคนอยู่นะครับ เค้าไม่สามารถทำงานโดยไม่มีคนควบคุมได้ จะให้ยกตัวอย่างก็คงเหมือนกับใช้Cruise controlในรถยนต์ครับ ยังไงก็ยังต้องเร่งความเร็วหรือเบรคด้วยตัวคนขับอยู่ดี ถ้าใส่Cruise controlแล้วนั่งจิบกาแฟเฉยๆได้ก็คงดีเช่นกัน สำหรับการบินนั้นแตกต่างจากขับรถตรงมันมีมิติที่มากขึ้นครับ รถยนต์มีไปข้างหน้า เปลี่ยนเลน เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ส่วนเครื่องบินเพิ่มแนวบนล่าง และเอียงซ้ายขวาเข้ามาด้วยครับ ที่กล่าวมานั้นเป็นแค่เรื่องการควบคุมเครื่องบิน แต่ในการทำงานจริงนั้นจะมีสิ่งอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องอีกมากมาย เช่นติดต่อวิทยุกับหอบังคับการบิน, หลบเมฆและสภาพอากาศต่างๆในระหว่างเส้นทางบิน, คอยฟังว่าเครื่องบินลำอื่นใกล้ๆเราเค้าอยู่ตรงไหนเพื่อจะได้ระวังตัวไม่เข้าไปเฉี่ยวชนกัน, การแก้ปัญหาเมื่อเวลามีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
หากจะยกตัวอย่างก็ขอสมมุติว่า ต้องขับรถที่ความเร็ว200กมต่อชั่วโมงโดยใช้Cruise control ในขณะเดียวกันนั้นก็คุยโทรศัพท์ อ่านแผนที่ วางแผนเส้นทางการเดินทาง ระวังรถรอบๆข้างไม่ให้มาชนเราและเราไม่ไปชนเค้า เปลี่ยนเลนซ้ายขวาเพื่อหลบถนนขรุขระหรือรถคันอื่น ขึ้นสะพานลงสะพาน จิบกาแฟ จีบแอร์(ตามที่เขาว่ากัน) ที่กล่าวมานั้นทำพร้อมกันหมดทุกอย่างโดยห้ามจอดรถแล้วคิดนะครับเพราะบนฟ้าเครื่องบินมันจอดไม่ได้ ได้แต่ไปข้างหน้าลูกเดียว คิดว่ามันง่ายไหมครับ หากคิดว่าง่ายรีบมาสมัครเลยครับ มี1สมองกับ2มือ2เท้าเหมือนกัน แต่คุณเทพกว่าผมเยอะ รับรองว่ามีประโยชน์กว่าผมแน่ๆ เพราะผมคิดว่ามันไม่ง่ายครับ
เอาไว้มาเล่าต่อนะครับ ตอนนี้ง่วงมากๆแล้ว ขอบคุณที่ทนอ่านครับ มีคำถามอะไรก็Postไว้นะครับ จะพยายามเข้ามาตอบครับ