
ผู้ที่บรรลุธรรมได้ในหมวด สุกขวิปัสสโก จะมีจำนวนมากที่สุด (เพราะใช้กำลังสมาธิน้อยเพียงแค่ ปฐมฌาน ก็สามารถที่จะบรรลุธรรมได้)
แต่ผู้ที่บรรลุธรรมได้ในหมวดที่มีทิพย์จักษุญาณ จะมีน้อย เพราะจะต้องมีกำลังสมาธิถึง ฌาน4 เป็นอย่างน้อย
ยิ่งหมวดที่มีความรู้เพิ่มเติมมากขึ้นไปเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสำเร็จได้ยาก เพราะวิธีฝึกยาก ยิ่งหมวดปฏิสัมภิทาญาณ ก็จะมีจำนวนผู้บรรลุธรรมได้น้อยที่สุด
อุปมาสมมติดั่งว่า ผู้ที่สามารถบรรลุธรรมได้ในหมวด
สุกขวิปัสสโก มี 90% ของจำนวนผู้ที่บรรลุธรรม
อุปมาสมมติดั่งว่า ผู้ที่สามารถบรรลุธรรมได้ในหมวด
เตวิชโช มี 6% ของจำนวนผู้ที่บรรลุธรรม
อุปมาสมมติดั่งว่า ผู้ที่สามารถบรรลุธรรมได้ในหมวด
ฉฬภิญโญ มี 3% ของจำนวนผู้ที่บรรลุธรรม
อุปมาสมมติดั่งว่า ผู้ที่สามารถบรรลุธรรมได้ในหมวด
ปฏิสัมภิทาญาณ มี 1% ของจำนวนผู้ที่บรรลุธรรม
((((( ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั้น )))))
เนื่องจากคนที่บรรลุธรรมได้นั้นมีน้อยมากๆ และแม้ว่าจะบรรลุธรรมได้แล้วก็ตาม
แต่ก็มักจะบรรลุธรรมได้แค่ในหมวดสุกขวิปัสสโก เท่านั้น
เป็นส่วนมากของจำนวนผู้ที่บรรลุธรรมทั้งหมด (เพราะใช้กำลังสมาธิน้อยเพียงแค่ ปฐมฌาน ก็สามารถบรรลุธรรมได้)
และ พระอรหันต์ทุกหมวด จะมีความสะอาดของจิตแบบสุกขวิปัสสโกเป็นพื้นเหมือนกันหมดทุกหมวด (
เป็นจุดร่วมที่ทุกหมวดจะมีอารมณ์เหมือนกัน)
เพราะฉนั้น......
การบอกสภาวะธรรมของนิพพานในตำรา จึงเป็นการบอกสภาวะนิพพานของหมวดสุกขวิปัสสโก "เพราะทุกหมวดจะมีอารมณ์ของสุกขวิปัสสโกเป็นพื้น"
ในตำราจึงบอกแค่ว่า "นิพพานเป็นสภาวะที่สูญจากกิเลส" โดยที่ไม่มีการบอกว่าบนนิพพานนั้นมีอะไรบ้าง เพราะหมวดสุกขวิปัสสโกไม่มีทิพย์จักษุญาณ
เป็นการบอกแต่ "
อารมณ์นิพพาน" แต่ไม่เห็นภาพนิพพาน (
เพราะหมวดสุกขวิปัสสโกจะไม่มีทิพย์จักษุญาณ จึงไม่เห็นภาพนิพพาน)
การเข้าถึงนิพพาน ของพระอรหันต์ในแต่ละหมวดนั้น จะมีการเข้าถึงมากหรือน้อย ก็แล้วแต่ว่าพระอรหันต์รูปนั้นจะบรรลุธรรมในหมวดใด?
ถ้าบรรลุธรรมในหมวด สุกขวิปัสสโก ก็จะมี
อารมณ์นิพพานตามตำรา
ถ้าบรรลุธรรมในหมวด เตวิชโชขึ้นไป ก็จะมี
อารมณ์นิพพานตามตำรา +
นิพพานที่ตัวเองเห็นด้วยทิพย์จักษุญาณ เพิ่มขึ้นมาด้วย
สรุปก็คือ "
คนเห็นนิพพาน ก็จะสอนแบบคนเห็นนิพพาน ส่วนคนที่ไม่เห็นนิพพาน ก็จะสอนตามตำรา"
จึงทำให้มีคนที่ไม่เข้าใจในรายละเอียดในเรื่องนี้ คิดว่าพระสงฆ์บางรูปสอนผิด เพราะสอนแบบเกินตำรา สอนแบบเห็นนิพพานคล้ายเมืองแก้ว
(และพระสงฆ์บางท่าน ท่านอาจจะเห็นนิพพานแล้ว แต่ก็อาจจะบอกสอนตามตำราเดิมๆไปก่อน)
(เพราะรู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้แก่ชาวบ้านทั่วไปส่วนมาก ที่มักจะไม่ค่อยมีความรู้ จึงบอกสอนตามตำราไปก่อน เพื่อง่ายต่อการอธิบาย)
เพราะฉนั้น พระอรหันต์ ทั้ง4หมวดนั้น จะไม่มีอารมณ์ขัดแย้งกันในเรื่องของนิพพาน
เพราะทั้ง4หมวด มีความสะอาดของจิตแบบสุกขวิปัสสโกเป็นพื้นฐานเหมือนกันหมด
จึงมีอารมณ์นิพพานเหมือนกันหมด แต่เห็นไม่เหมือนกัน เท่านั้นเอง
พระอรหันต์หมวดที่มีทิพย์จักษุญาณนั้น จะมีความรู้เพิ่มเติมขึ้นมาจากหมวดสุกขวิปัสสโกขึ้นมาอีก เพราะสามารถเห็นนิพพานด้วยตนเองได้
จึงสามารถบรรยายสภาวะนิพพานเพิ่มเติมขึ้นมาจากตำราได้อีก (เป็นความรู้ขั้นแอดวานซ์เพิ่มเติมขึ้นมาจากตำรา)
(แต่ไม่ใช่ว่า พอไม่เหมือนตำราเดิม แล้วก็จะเป็นความรู้ที่ถูกต้องเสมอไป อย่างนิพพานของวัดจานบิน อันนี้จะต้องพิจารณากันให้ดี)
(เพราะวัดจานบิน เอาชื่อเสียงของวัดปากน้ำมาโหน แต่กลับเอาคำสอนต่างๆมาบิดเบือนตามใจตนเอง จะต้องระมัดระวังกันให้มาก)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน (รวมเรื่องนิพพาน) https://pantip.com/topic/35556279
การเพ่งโทษพระสารีบุตร ผู้ที่เป็นเอตทัคคะ ในด้านเป็นผู้ที่มีปัญญามาก จะเป็นการให้โทษแก่ตนเอง
ผู้ที่บรรลุธรรมได้ในหมวด สุกขวิปัสสโก จะมีจำนวนมากที่สุด (เพราะใช้กำลังสมาธิน้อยเพียงแค่ ปฐมฌาน ก็สามารถที่จะบรรลุธรรมได้)
แต่ผู้ที่บรรลุธรรมได้ในหมวดที่มีทิพย์จักษุญาณ จะมีน้อย เพราะจะต้องมีกำลังสมาธิถึง ฌาน4 เป็นอย่างน้อย
ยิ่งหมวดที่มีความรู้เพิ่มเติมมากขึ้นไปเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสำเร็จได้ยาก เพราะวิธีฝึกยาก ยิ่งหมวดปฏิสัมภิทาญาณ ก็จะมีจำนวนผู้บรรลุธรรมได้น้อยที่สุด
อุปมาสมมติดั่งว่า ผู้ที่สามารถบรรลุธรรมได้ในหมวด สุกขวิปัสสโก มี 90% ของจำนวนผู้ที่บรรลุธรรม
อุปมาสมมติดั่งว่า ผู้ที่สามารถบรรลุธรรมได้ในหมวด เตวิชโช มี 6% ของจำนวนผู้ที่บรรลุธรรม
อุปมาสมมติดั่งว่า ผู้ที่สามารถบรรลุธรรมได้ในหมวด ฉฬภิญโญ มี 3% ของจำนวนผู้ที่บรรลุธรรม
อุปมาสมมติดั่งว่า ผู้ที่สามารถบรรลุธรรมได้ในหมวด ปฏิสัมภิทาญาณ มี 1% ของจำนวนผู้ที่บรรลุธรรม
((((( ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั้น )))))
เนื่องจากคนที่บรรลุธรรมได้นั้นมีน้อยมากๆ และแม้ว่าจะบรรลุธรรมได้แล้วก็ตาม แต่ก็มักจะบรรลุธรรมได้แค่ในหมวดสุกขวิปัสสโก เท่านั้น
เป็นส่วนมากของจำนวนผู้ที่บรรลุธรรมทั้งหมด (เพราะใช้กำลังสมาธิน้อยเพียงแค่ ปฐมฌาน ก็สามารถบรรลุธรรมได้)
และ พระอรหันต์ทุกหมวด จะมีความสะอาดของจิตแบบสุกขวิปัสสโกเป็นพื้นเหมือนกันหมดทุกหมวด (เป็นจุดร่วมที่ทุกหมวดจะมีอารมณ์เหมือนกัน)
เพราะฉนั้น......
การบอกสภาวะธรรมของนิพพานในตำรา จึงเป็นการบอกสภาวะนิพพานของหมวดสุกขวิปัสสโก "เพราะทุกหมวดจะมีอารมณ์ของสุกขวิปัสสโกเป็นพื้น"
ในตำราจึงบอกแค่ว่า "นิพพานเป็นสภาวะที่สูญจากกิเลส" โดยที่ไม่มีการบอกว่าบนนิพพานนั้นมีอะไรบ้าง เพราะหมวดสุกขวิปัสสโกไม่มีทิพย์จักษุญาณ
เป็นการบอกแต่ "อารมณ์นิพพาน" แต่ไม่เห็นภาพนิพพาน (เพราะหมวดสุกขวิปัสสโกจะไม่มีทิพย์จักษุญาณ จึงไม่เห็นภาพนิพพาน)
การเข้าถึงนิพพาน ของพระอรหันต์ในแต่ละหมวดนั้น จะมีการเข้าถึงมากหรือน้อย ก็แล้วแต่ว่าพระอรหันต์รูปนั้นจะบรรลุธรรมในหมวดใด?
ถ้าบรรลุธรรมในหมวด สุกขวิปัสสโก ก็จะมี อารมณ์นิพพานตามตำรา
ถ้าบรรลุธรรมในหมวด เตวิชโชขึ้นไป ก็จะมี อารมณ์นิพพานตามตำรา + นิพพานที่ตัวเองเห็นด้วยทิพย์จักษุญาณ เพิ่มขึ้นมาด้วย
สรุปก็คือ "คนเห็นนิพพาน ก็จะสอนแบบคนเห็นนิพพาน ส่วนคนที่ไม่เห็นนิพพาน ก็จะสอนตามตำรา"
จึงทำให้มีคนที่ไม่เข้าใจในรายละเอียดในเรื่องนี้ คิดว่าพระสงฆ์บางรูปสอนผิด เพราะสอนแบบเกินตำรา สอนแบบเห็นนิพพานคล้ายเมืองแก้ว
(และพระสงฆ์บางท่าน ท่านอาจจะเห็นนิพพานแล้ว แต่ก็อาจจะบอกสอนตามตำราเดิมๆไปก่อน)
(เพราะรู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้แก่ชาวบ้านทั่วไปส่วนมาก ที่มักจะไม่ค่อยมีความรู้ จึงบอกสอนตามตำราไปก่อน เพื่อง่ายต่อการอธิบาย)
เพราะฉนั้น พระอรหันต์ ทั้ง4หมวดนั้น จะไม่มีอารมณ์ขัดแย้งกันในเรื่องของนิพพาน
เพราะทั้ง4หมวด มีความสะอาดของจิตแบบสุกขวิปัสสโกเป็นพื้นฐานเหมือนกันหมด จึงมีอารมณ์นิพพานเหมือนกันหมด แต่เห็นไม่เหมือนกัน เท่านั้นเอง
พระอรหันต์หมวดที่มีทิพย์จักษุญาณนั้น จะมีความรู้เพิ่มเติมขึ้นมาจากหมวดสุกขวิปัสสโกขึ้นมาอีก เพราะสามารถเห็นนิพพานด้วยตนเองได้
จึงสามารถบรรยายสภาวะนิพพานเพิ่มเติมขึ้นมาจากตำราได้อีก (เป็นความรู้ขั้นแอดวานซ์เพิ่มเติมขึ้นมาจากตำรา)
(แต่ไม่ใช่ว่า พอไม่เหมือนตำราเดิม แล้วก็จะเป็นความรู้ที่ถูกต้องเสมอไป อย่างนิพพานของวัดจานบิน อันนี้จะต้องพิจารณากันให้ดี)
(เพราะวัดจานบิน เอาชื่อเสียงของวัดปากน้ำมาโหน แต่กลับเอาคำสอนต่างๆมาบิดเบือนตามใจตนเอง จะต้องระมัดระวังกันให้มาก)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้