สามีกับดิฉันแต่งงานกันมาได้เจ็ดปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 1 คน ก่อนหน้านี้เค้ายังไม่เป็นคนพูดตรงขนาดนี้คะ
ก็เป็นเรื่องปกติ ทั่ว ๆ ไป ส่วนมากแรกรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน อยู่ไปนาน ๆ ก็แสดงความเป็นตัวตนของทุกคนออกมาเป็นเรื่องธรรมดา
ตอนที่เราตัดสินใจแต่งงานกับเค้าก็เพราะเราคิดปรับตัวและรับกันได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จริง ๆ ก็รับได้แทบทุกเรื่องในปัจจุบันนี้หละคะคุณ
แต่เริ่มจะรับไม่ได้ก็ตอนคุยกัน แล้วเค้าเริ่มพูดตรงขึ้นเรื่อย ๆ หนักขึ้นทุกวันก็ตอนที่เริ่มมีหน้าที่การงานที่โตขึ้น มีผู้ใต้บังคับบัญชาเยอะขึ้น อาจจะมั่นใจในตัวเองมากขึ้นก็เป็นได้ บางครั้งดิฉันก็ให้อภัยกันนะคะลิ้นกับฟันแต่พักหลังเร่ิมบ่อย แต่พอมันบ่อยดิฉันก็เริ่มมีความรู้สึกว่า เริ่มไม่ไหว เคยคุยกันนะคะว่าทำแบบนี้ดิฉันรับไม่ได้ ถ้าเป็นสมัยก่อนเป็นแค่แฟนไม่ได้แต่งงานมีลูก ดิฉันคงเก็บข้าวของแล้วไปอยู่ในที่สบายใจ ๆ ไปแล้ว แต่พอเป็นครอบครัวก็ต้องคิดถึงลูกให้มาก ๆ เหนื่อยคะไม่มีที่ระบาย ไม่รู้จะไปคุยกับใคร มาระบายในนี้ก็แล้วกันนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่รับฟังคะ
สามีเป็นคนพูดตรงมากถึงมันจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็รู้สึกแย่ทุกครั้งที่ฟัง
ก็เป็นเรื่องปกติ ทั่ว ๆ ไป ส่วนมากแรกรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน อยู่ไปนาน ๆ ก็แสดงความเป็นตัวตนของทุกคนออกมาเป็นเรื่องธรรมดา
ตอนที่เราตัดสินใจแต่งงานกับเค้าก็เพราะเราคิดปรับตัวและรับกันได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จริง ๆ ก็รับได้แทบทุกเรื่องในปัจจุบันนี้หละคะคุณ
แต่เริ่มจะรับไม่ได้ก็ตอนคุยกัน แล้วเค้าเริ่มพูดตรงขึ้นเรื่อย ๆ หนักขึ้นทุกวันก็ตอนที่เริ่มมีหน้าที่การงานที่โตขึ้น มีผู้ใต้บังคับบัญชาเยอะขึ้น อาจจะมั่นใจในตัวเองมากขึ้นก็เป็นได้ บางครั้งดิฉันก็ให้อภัยกันนะคะลิ้นกับฟันแต่พักหลังเร่ิมบ่อย แต่พอมันบ่อยดิฉันก็เริ่มมีความรู้สึกว่า เริ่มไม่ไหว เคยคุยกันนะคะว่าทำแบบนี้ดิฉันรับไม่ได้ ถ้าเป็นสมัยก่อนเป็นแค่แฟนไม่ได้แต่งงานมีลูก ดิฉันคงเก็บข้าวของแล้วไปอยู่ในที่สบายใจ ๆ ไปแล้ว แต่พอเป็นครอบครัวก็ต้องคิดถึงลูกให้มาก ๆ เหนื่อยคะไม่มีที่ระบาย ไม่รู้จะไปคุยกับใคร มาระบายในนี้ก็แล้วกันนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่รับฟังคะ