จขกท.อายุเยอะแล้วค่ะ จบป.ตรี จาก ม.เปิด และทำงานประจำตั้งแต่เรียน ปี 2 จึงไม่มีการเรียนในระบบค่ะ

งานที่ผ่านมา ไม่มีผู้ช่วยในแผนก มีแต่ นศ.ฝึกงานผลัดกันมา คนละ 3 เดือนตามวาระของการฝึกงาน ปัจจุบันทำงานอีกที่ก็ยังมี นศ.ฝึกงานและ นศ.ที่เพิ่งจบเข้ามาทำงานที่เกี่ยวข้องกัน อยู่เรื่อยๆ

เจอ เด็กรุ่นน้องมาเยอะค่ะ ที่มาดีๆ ก็มี แต่ที่งงคือ พวกที่ทำอะไรแบบไม่เข้าใจ เช่น
สั่งให้หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ให้หัวข้อไป และบอกว่าได้ข้อมูลมา ขอให้ก๊อปลิงค์ที่ได้มาด้วย เพื่อที่เราซึ่งต้องรับผิดชอบงาน (อย่าลืมนะคะ เราไม่สามารถให้ นศ.ฝึกงานรับผิดชอบงานได้ เราต้งอเป็นคนตรวจตราอย่างรอบคอบก่อนจะนำไปใช้งานจริง) จะตรวจสอบได้ว่าแหล่งที่มาเชื่อถือได้ไหม และขอให้สรุป และจับประเด็นสำคัญมาให้ด้วย  เด็ก ทำไม่ได้ค่ะ ก็เลยบอกไปว่า ทำแบบที่ทำรายงานส่งอาจารย์ไง ก็ยังไม่ได้อีก

สำหรับพี่ เวลาทำงานให้ใคร เก็บข้อมูลมาต้องตรวจสอบความถูกต้องทุกอย่าง สมมติว่าก๊อปมาแปะ ก็ต้องจัดหน้าให้เหมาะสม ประเภท ตกไปอีกหน้า แค่บรรทัดเดียวนี่ไม่มีแน่ๆ ควรจัดให้อยู่ในหน้าเดียวกันนะคะ ซึ่งเรื่องนี้ผู้ใหญ่คนอื่นก็เห็นว่าเป็น คอมมอน เซนท์ค่ะ ไม่ควรต้งอบอกด้วยซ้ำ

หรือ ล่าสุด นศ.เพิ่งจบมาทำงานเป็นพนง.ประจำ เราให้ข้อมูลไปเพื่อเอาไปปั้นงานต่อ (เรารับผิดชอบงานคนละส่วนกัน แต่ข้อมูลส่วนใหญ่อยู่ที่พี่ เค้าเพิ่งมาใหม่ เราก็เข้าใจ) พี่บอกว่าเอาไปศึกษาดู ถ้าไม่เข้าใจ หรือติดขัดอะไรให้มาคุยกัน และก่อนที่เค้าจะลงมือทำต้องแตกไอเดียมาให้เรารู้ว่าเค้าจะมีแนวทางวางบทของการนำเสนออย่างไร บอกตั้งแต่วันให้ข้อมูลแล้วว่า พี่ให้เวลา 2-3 วัน หาเวลามาสรุปให้พี่ฟัง ผ่านไปครบ 5 วัน เราเดินไปคุยงานหลายเรื่องที่อยู่ในส่วนของเค้า ปรากฏว่าเค้ายังไม่ได้คิดงานนี้เลย เค้ามีกัน 2 คน เหมือนกับคนที่ไม่ได้มารับเรื่องจากเราไม่รู้เรื่องอะไร ทั้งที่เราบอกกับอีกคนไปหมดแล้ว ชุดข้อมูลก็เคลียร์กันไปแล้วระดับหนึ่ง เธอไม่รู้จับต้นชนปลายไม่ถูก พูดตั้งแต่แรกแล้วว่าพี่ให้มาทไมเยอะแยะ พี่อธิบายไปแล้วว่า ทั้งชุดนั้น คือ เอกสารอธิบายงาน มีทั้งโครงสร้างงานชิ้นนั้น ผลงานสำเร็จที่ผ่านมาและ ประวัติคนที่ทำงาน ซึ่งเค้าต้องอ่านและทำความเข้าใจ และพี่บอกไปแล้วว่าถ้าอยากรู้ในส่วนนั้นเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้จากแผนกนั้นโดยตรง เพราะเป็นงานเชิงเทคนิคที่เราไม่สามารถให้คำตอบเชิงลึกได้

วันที่ 5 ที่ไปถามเธอบอกว่า ข้อมูลพี่ให้มาไม่ครบ พี่บอกว่า อ้าวแล้วทำไมไม่รรีบมาบอก เธอสวนมาว่า ก็วันนั้นไปขอแล้วพี่บอกทัมพ์ไดรฟ์เสียจะให้ได้อีกวัน พี่ก็บอกอ้าว ก็เสียจริงๆ เธอจะเอาไง พี่ก็ถามมาทางไลน์กรุ๊ปแล้วว่ารีบหรือเปล่า เห็นเหมือนรีบ ถ้ารีบให้มาเอาข้อมูลที่ยังไม่ได้คัดไป ถ้าจะเอาแบบคัดแล้ว ก็ต้องรออีกวัน วันที่ถามอีกคนตอบมาว่าไม่รีบ แต่พอวันนี้ยกประเด็นนี้มาพูด เราจึงบอกว่า ถ้าเธอไม่ติดขัดอะไรยกประเด็นนี้มาพูดทำไม เธอก็เงียบ

เด็กอีกคนบอกว่า ข้อมูลไม่เคลียร์ เราจึงเปิดให้ดู ชี้ให้ดูเป็นจุดๆ นี่ๆๆๆๆ เคลียร์ไหม สวนมาอีกว่า ทำไมเป็นภาษาพูด เราจึงบอกว่านั่นหน้าที่เค้าที่ต้องปั้นงานต่อ จะก๊อปปี้ไปแปะหรือไง อีกคนบอกว่า เราไม่เข้าใจงานส่วนที่พี่ทำเท่ากับพี่ อ้าว เราจึงบอกว่า กเทรนงานไปแล้ว จับใจความไม่เข้าใจเหรอ วันที่เทรนให้ถามไม่เห็นมีใครถามเลย   สุดท้าย เด็กบอกว่าเคลียร์แล้ว อ้าว..แล้วที่ถ่ายทอดอีกคนไป คนนั้นไม่ได้ไปบอกต่อทีมที่ทำงานด้วยกันหรือไง

รู้แล้วว่างานต้องใช้เวลาปั้น แต่หัวหน้างานก็รีบอยู่ และที่เด็ดกว่านั้น เธอสบอกว่าเธอจะตัดข้อมูลที่เราโครงไว้ออกเพราะคิดว่ามากเกินไป เราบอกว่าสรุปกับผู้บริหารมาแบบนี้ เราจึงบอกให้รีบหาเวลามาสรุปให้ฟังว่าเธอมีเหตุผลอะไรที่จะตัด เพราะผู้บริหารควรเป็นผู้ตัดสินใจแล้ว เธอบอกนั้นแหละเธอจึงคิดว่าจะคุยกับผู้บริหารเอง เราก็บอกอีกว่า เรารับหน้าที่ดูแลโปรเจคท์นี้ และบอกแล้วให้มาสรุปงานพร้อมกัน ทำไมไม่เข้าใจ ก็เงียบ แต่เงียบแบบไม่พอใจ ไม่ใช่เงียบแบบเข้าใจ

คำถามคือ พี่คิดว่าพี่ไม่ได้โหดร้าย แต่เจอแบบนี้เข้า อยากจะเข้าใจว่า เป็นเพราะเด้กไม่เคยทำงานเหรอถึงเป็นแบบนี้ ซึ่งที่จริงเรียน ม.ปิดมีชื่อเสียง และเรียนด้านนี้โดยตรง ก็ต้องผ่านการทำโครงงานมาแล้วตั้งแต่ตอนเรียน ไม่เหมือนกันหรือไง ว่าเดดไลน์มีไว้ให้เร่งมือ และพยายามทำให้ทัน แต่เราก็บอกแล้วว่า มีอะไรให้รีบมาบอก เพราะจริงๆ ถ้าเงียบไปจะรู้ได้ไงว่าวางงานไปถึงไหนแล้ว งงจริงๆ