ทำอย่างไรดี เมื่อลูกหนี้ยอมติดคุกใช้หนี้แทน

อย่างแรกต้องขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะคะ คือตอนนี้ จขกท. ไม่ไหวแล้วจริงๆ มืดแปดด้านมาก
ขอเล่าแบบย่อๆเลยละกันนะคะ
คือที่บ้านทำธุรกิจส่วนตัวคะ (ขอย่อเอาง่ายๆว่า สินค้าA) และลูกหนี้ (ที่จริงก็คือลูกค้าเรานี้แหละ) ผลิตสินค้าB
โดยสินค้าทั้งคู่ต้องซื้อมาประกอบกันคะ ถึงจะสามารถนำไปขายได้ แล้วเราก็ทำการค้าขายกันมานานเป็นสิบปี ด้วยความที่บ้านกับโรงงานของ"เขา"อยู่ห่างกันเพียงอาคารพาณิชย์ ประมาณ7หลังเท่านั้น !!! (เรียกว่าใกล้มากคะเดินแบกของไปส่งกันอะคะ)
ก็ไม่มีปัญหาอะไรนานมาก และแล้วก็เริ่มมีปัญหาโดยเช็คที่เขาจ่ายเงินเรามาเริ่มไม่ผ่าน เมื่อไปถามไถ่ก็ช่วยกันหาเงินมาคืนให้ได้ แล้วก็เริ่มยืดไม่ให้เงินเรา คือให้บ้างแต่นานนนนน (โดยให้เหตุผลว่าของขายไม่ได้) แต่เราก็ยังทำการค้าด้วยกันนะคะเพราะเห็นว่าเราร่วมธุรกิจกันมานาน สู้งานด้วยกันมานาน
จนเราไปทราบว่าเงินที่เขาขายของได้นั้น เขาได้นำไปซื้อสินค้าA จากร้านอื่นไปแล้ว (อ้าวแล้วทำไม...ไม่เอามาคืนเราหว่า)  แล้วเมื่อรู้แบบนี้เลยไม่ขายของให้เขาอีก (ต้องเรียกว่าเขาไม่ซื้อของเราเลยถึงจะถูก) แล้วเราก็ยังติดตามทวงถามของเราคืนเรื่อยๆ จนไปทราบมาอีกว่า "เขาก็ได้กระทำการแบบเดียวกันกับเรากับเจ้าที่3" และ "เจ้าที่4,5,และอื่นๆ" แต่เจ้าอื่นๆก็ไม่ได้มีปัญหาการค้างหนี้มากเหมือนเรา จนเราก็ไม่ไหวไปถามก็แล้ว เรียกมาคุยก็แล้ว เขาไม่คุย เขาไม่มาเจรจาต่อรองใดๆทั้งสิ้น จนเราอายที่จะไปทวงถามเองเลยคะ แล้วนิสัยเขาก็เปลี่ยนไปจากคุยได้ทุกครั้ง กลายเป็นเมินใส่
มีมาบอกด้วยนะคะ "อยากได้(เงินคืน) ให้ไปฟ้องเอาละกัน"
อ้าวเป็นงี้จากิารมณ์ดีๆ ก็อารมณ์ขึ้นสิคะ แล้วด้วยที่ จขกท. ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ก็ได้ทำการฟ้องร้องขึ้น
การฟ้องร้องที่เกิดขึ้น เอาจริงๆ มีสามคดีคะ
โดยคดีแรก เราให้เขาผ่อนชำระหนี้ เจาก็ผ่อนมาให้ 2-3 ครั้งเองคะ ที่เหลือหายเงียบ จนเราไปยื่นเรื่องให้ศาล และศาลก็ตัดสินให้เขาติดคุก  เป็นเวลา 7 เดือนได้มั้งคะ
ทั้งซอยบ้านนี้ มองเราว่าไม่ได้ให้โอกาศเขาเลย เราแกล้งเขาบ้าง มีโกรธเราบ้าง (เขาคงไปเม้ามอยอะนะคะ)
เมื่อตอนที่เขาติดคุกอยู่ โรงงานเขาก็ทำงานนะคะไม่ได้หยุด แต่แค่ค่อยๆทำ ไม่อยากให้เราเห็น (บ้านเราอยู่ใกล้โรงงานเขา ส่องกันได้) โดยมีภรรยาเขาดูแลอยู่
เราก็ได้ปรึกษาทนายความว่าเราจะสามารถยึดทรัพยสิน อะไรเขาได้บ้าง (เพราะเขาติดคุกใช้หนี้คดีแรกไปแล้ว)
เราก็ได้ไปถามไถ่จากภรรยาและดูทรัพยสินจากโรงงานเขา ปรากฎว่า ไม่มีอะไรที่เป็นของตนเองเลย รถที่เขาใช้อยู่ก็ใช้ชื่อหลานเขาซื้อมา อะไรๆก็ชื่อคนอื่นในเครือญาติเขาหมด ในกฎหมายเราไปยึดไม่ได้ เพราะงั้นจบเลยคะ แต่ก็ยอมเพราะหวังว่าอยากให้ครั้งนี้เป็นบทเรียนแกเขา ในฐานะคนค้าขายที่ทำธุรกิจกันมา
พอเขาออกมา เขาก็ว่าเราทำร้ายเขา ไม่ให้โอกาสเขา (กรุณาย้อนกลับไปอ่าน เคยเรียกเขามาคุยแล้วเขาไม่มาคะ เรียกทั้งเขาและภรรยา ก็ไม่มาคะ)
ต่อมา.....
คดีที่2 เขาก็ไม่อยากติดคุกอะนะคะ เขาก็ได้จ้างทนายมาทำเรื่อง จน ยอดหนี้ของคดีที่ 2และ 3 มารวมกันกลายเป็นคดีเดียวได้ และยังได้เขียนให้เรายอมความเขา เพราะเขาเคยชนะคดีแบบนี้มาแล้ว (หื้ออออออ ??)
แล้วเวลาศาลนั้นก็มาถึง เรานี้ลุ้นจนตัวโก่งเลยคะว่าถ้าศาลตัดสินออกมาทางเขา เราก็แห้วเลยคะ แต่แล้วศาลก็เข้าข้างคนถูกคะ ศาลก็ด่าทนายเขานะคะว่า เรื่องมันคนละคดี ตลกแล้วที่จะให้ยอมความกันได้ แล้วศาลก็ให้เราคุยกันคะ ว่าตกลงจะเอายังไง
เราก็ให้โอกาสเขาโดยให้เขาผ่อน "เดือนละ3หมื่น" แต่เขาก็บอกว่าไม่มีงาน งานไม่ได้เยอะเหมือนเมื่อก่อน จนทนายฝ่ายเราก็คุยกับเรา จนเรายอมลดให้ เหลือ "เดือนละ2หมื่น" ในทุกๆวันที่ 20 ของเดือน เป็นเวลา 5 ปี หลังจากนี้
แล้วเราก็รับปากกันคะ ว่าจะผ่อนให้ จะคุยกัน
แล้ว.....ก็ผ่านวันที่ 20 เดือนกรกฎา 58 เป็นเดือนแรกคะ  สรุปแล้วก็ไม่มี ทั้งเงินผ่อน ทั้งมาคุย แม้กระทั้งไม่กล้าเดินผ่านหน้าบ้านกันเลยคะ เดินอ้อมๆข้างหลังบ้านไปเอา ไม่มองหน้า เมินเฉยเหมือนเดิม
ดูๆแล้ว จขกท. คงจะไม่ได้เงินคืนอะคะ แล้วนี้เขาคงจะทำเหมือนเดิมคือติดคุกใช้หนี้
ก็เลยอยากมาถามความคิดเห็น แนวทาง แนะนำ ก็ได้คะ คืออึดอัดมาก ไม่มีอาชีพแล้วคะตอนนี้ อยู่ว่างๆ เลย ของที่บ้านก็ขายไม่ได้ เพราะมันเป็นของที่ต้องประกอบถึงจะขายได้อะคะ ยังไงก็ขอจบเพียงเท่านี้ก่อน ขอบคุณมากค่ะ

เป็นคดีหลักล้าน ทั้งสามคดีเลยคะ

เพิ่มเติท ฟ้องทั้งแพ่ง และ อาญา ค่ะ

ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านจนจบนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่