ด้วยเวลามีหุ้นเข้าใหม่ ตลท จะให้ราคาวันแรกที่ปิด เป็นฐาน
โดยไม่นำราคาจองหรือ BV เป็นฐาน แล้วเอาราคาวันแรกมาคำนวนหลังจากนั้น
เกิดข้อเสีย และผิดความเป็นจริง
โดยเฉพาะ เวลามีหุ้นขนาดใหญ่เข้าเทรด
ยกตัวอย่างให้เห็น
ในอดีตหุ้น true (TA เก่า) เข้าตลาดวันแรก ในสถานการณ์ที่ตลาดบูม
สมมุติ จอง30บาท วันแรกปิดไป90บาท ราคาที่ขึ้นไป60บาท
market cap ตลาดขึ้นมากมายแต่ไม่ได้เอามาคำนวน
ไปเอาฐาน 90 บาท ทำให้มีโอกาสมากที่ index จะถูกกดให้ลง
เพราะได้ฐานที่สูง เมื่อหุ้นtrueไหลลง(เพราะขึ้นมาสูงมากแล้ว)
และโดยทั่วไป หุ้นก็จะปิดสูง เวลาตลาด บูม
ทำให้ index จะถูกกดให้ต่ำลง มากกว่าขึ้นหลังจากนั้น
สิ่งที่ตามมา
ทุกครั้งตลาดบูม มีหุ้นเข้ามามาก
index ก็มีโอกาสจะถูกกดให้ต่ำลงหลังจากนั้น
เป็นเหตุให้เรา ไม่เคยผ่าน 1780 ซักกะที (เป็นส่วนหนี่งนะไม่ใช่ทั้งหมด)
ขนาด djia ยังปรับเปลี่ยนหุ้นแย่ออก เช่น city bank เอาหุ้น aapl เข้ามา
พอ index djia ขึ้น ไปเรื่อยๆ จะสร้างความรู้สึกที่ดีและดีงนักลงทุนเข้ามา
เรียน เสนอ ตลาดหลักทรัพย์ ด้วยคับ
สรุป
ควรเอาราคาวันแรกคำนวนได้เลย
โดยเทียบกับ bv หรือราคาจองของหุ้นตัวนั้น
เป็นฐาน
ช่วยกันเสนอนะคับเพื่อจะได้มีการเปลี่ยนแปลง
เสนอตลาดหลักทรัพย์ แก้ไขการคำนวน index
โดยไม่นำราคาจองหรือ BV เป็นฐาน แล้วเอาราคาวันแรกมาคำนวนหลังจากนั้น
เกิดข้อเสีย และผิดความเป็นจริง
โดยเฉพาะ เวลามีหุ้นขนาดใหญ่เข้าเทรด
ยกตัวอย่างให้เห็น
ในอดีตหุ้น true (TA เก่า) เข้าตลาดวันแรก ในสถานการณ์ที่ตลาดบูม
สมมุติ จอง30บาท วันแรกปิดไป90บาท ราคาที่ขึ้นไป60บาท
market cap ตลาดขึ้นมากมายแต่ไม่ได้เอามาคำนวน
ไปเอาฐาน 90 บาท ทำให้มีโอกาสมากที่ index จะถูกกดให้ลง
เพราะได้ฐานที่สูง เมื่อหุ้นtrueไหลลง(เพราะขึ้นมาสูงมากแล้ว)
และโดยทั่วไป หุ้นก็จะปิดสูง เวลาตลาด บูม
ทำให้ index จะถูกกดให้ต่ำลง มากกว่าขึ้นหลังจากนั้น
สิ่งที่ตามมา
ทุกครั้งตลาดบูม มีหุ้นเข้ามามาก
index ก็มีโอกาสจะถูกกดให้ต่ำลงหลังจากนั้น
เป็นเหตุให้เรา ไม่เคยผ่าน 1780 ซักกะที (เป็นส่วนหนี่งนะไม่ใช่ทั้งหมด)
ขนาด djia ยังปรับเปลี่ยนหุ้นแย่ออก เช่น city bank เอาหุ้น aapl เข้ามา
พอ index djia ขึ้น ไปเรื่อยๆ จะสร้างความรู้สึกที่ดีและดีงนักลงทุนเข้ามา
เรียน เสนอ ตลาดหลักทรัพย์ ด้วยคับ
สรุป
ควรเอาราคาวันแรกคำนวนได้เลย
โดยเทียบกับ bv หรือราคาจองของหุ้นตัวนั้น
เป็นฐาน
ช่วยกันเสนอนะคับเพื่อจะได้มีการเปลี่ยนแปลง