ปัญหาสะท้อนใจในสังคมไทย..ใครผิด...และใครถูก

วันนี้ ได้รับรู้เรื่องราวของพี่สาวคนนึง เป็นรุ่นพี่ที่นับถือกันมานาน  ฟังแล้วมานึกย้อนในเรื่องราวของตัวเอง เหมือนและแตกต่างกันในบางมุม.... พี่สาวเป็นคนที่น่ารักมาก พี่สาวมีครอบครัวแล้ว และมีลูกเล็กๆ ที่น่ารักมาก ครอบครัวพี่สาวจากสายตาบุคคลภายนอกเป็นครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่น แต่เรื่องราวบาดหมางขัดแย้งกันระหว่างครอบครัวเป็นเรื่องภายในที่พี่สาวไม่เคยบอกใคร ยังคงภาพสวยงามต่อผู้คนที่พบเห็นเสมอ แม้ในวันที่ครอบครัวต้องแตกร้าว พี่สาวก็ยังคงยอมรับว่า เป็นคนผิดมาเสมอ  เหตุเกิดจากความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน และความใส่ใจต่อกันที่ลดน้อยลงไปมากเมื่อมีลูกน้อย ต่างคนต่างทุ่มเทเพื่อสิ่งมีชีวิตเล็กๆ  ไม่สิ.... ต้องบอกว่า ความเป็นแม่ที่ทุ่มเทให้ลูกมาก ส่วน  คนนึงเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง อีกคนนึงก็ได้แต่เก็บความรู้สึกในใจเรื่อยมา
         จนกระทั่ง  วันนึงที่พี่สาวคิดว่า ต้องหาทางออกให้ตัวเองบ้าง เพื่อลดความตึงเครียดในใจ เธอเริ่มมีสังคมของเธอ  หากแต่คนรักของเธอก็ยังเหมือนเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเดินไปในสิ่งที่เค้าขีดเส้นไว้ หากนอกกรอบ หรือแตกต่างเมื่อไหร่ ก็มักจะมีการโต้เถียง ทะเลาะเบาะแว้ง ลามไปถึงการทำลายข้าวของ และทำร้ายร่างกาย ...... และอีกครั้งที่พี่สาวเริ่มคิดว่า ทนไม่ไหว และอยากยุติความสัมพันธ์ แต่เธอก็ยังอดทนเพื่อรักษาหัวใจดวงน้อย ให้มีครอบครัวที่อบอุ่น
      และกระนั้นในเวลาที่ไม่ใช่ พี่สาวได้เจอใครคนหนึ่งที่มาเติมเต็มในสิ่งที่เธอต้องการ นั่นคือ ความใส่ใจ ...เกิดความเผลอไผล เผลอใจไปชั่วขณะ แต่จิตใต้สำนึกเบื้องลึกไม่เคยคิดที่จะแยกย้ายหรือยุติความเป็นครอบครัว พี่สาวแค่ต้องการใครสักคนที่รับรู้ถึงความปวดร้าวและแบ่งเบาในส่วนที่เธอเกินจะรับไหว เธอต้องการเพียงแค่นั้น ในขณะเดียวกัน และเธอเองไม่เคยบอกพร่องในการดูแลครอบครัวแต่อย่างใด เธอมีเวลาให้ดวงใจดวงน้อยเสมอไม่แปรเปลี่ยน คนรักของพี่สาวเองก็แอบมีสัมพันธ์คล้ายกันกับที่เธอทำ แต่เกินเลยไปกว่าเธอมากมาย เพียงแค่สังคมให้การยอมรับมากกว่าที่ผู้ชายจะเหลวไหลนอกบ้าน  
      และวันสุดท้ายที่ครอบครัวนี้ ต้องจบและพังทลายลง คือวันที่คนรักของพี่สาวรับรู้ว่า พี่สาวคุยกับใครอีกคน ซึ่งวันนั้น พี่สาวยอมรับผิดในการกระทำและตัดสินใจจบชีวิตครอบครัว สิ่งที่คนรักทำกับเธอคือ ป่าวประกาศให้สังคมรับรู้ เธอผิดเธอมีชู้  พี่สาวเลือกที่จะเลี้ยงดูลูกน้อยเพียงลำพัง ไม่รับและไม่เรียกร้องในความรับผิดชอบ และวันที่พี่สาวตัดสินใจหย่า พี่สาวเองก็เลือกที่จะจบความสัมพันธ์กับใครอีกคนของเธอ  พี่สาวอยู่กับลูกของเธอและเลี้ยงดูลูกของเธอได้เป็นอย่างดี ลูกของพี่สาวน่ารักและเก่งมากที่เข้าใจว่า ทำไมพ่อและแม่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ไม่เคยทำให้แม่ต้องลำบากใจ พี่สาวสัญญากับลูกของเธอว่าจะไม่มีวันทำให้ลูกเสียใจอีกไม่ว่าด้วยการกระทำใดๆ ด้วยพี่สาวรู้สึกผิดในสิ่งที่เธอกระทำนั่นคือ อารมณ์ชั่ววูบ  และตอนนี้ พี่สาวได้พิสูจน์ตัวเองให้สังคมเล็กๆรับรู้ว่าที่ครอบครัวต้องแตกแยกไม่ได้เป็นเพราะเธอมีชู้  และในขณะเดียวกัน คนรักของเธอกลับไปทำลายครอบครัวคนอื่น คือกระทำในสิ่งที่เคยประณามพี่สาว นั่นคือไปมีเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน จนทำให้ครอบครัวอื่นต้องแตกแยกเช่นกัน ผู้หญิงคนนั้นไม่เหมือนพี่สาวตรงที่ว่า เธอไม่ได้เลือกลูกของเธอ  แต่เลือกที่จะทิ้งลูกและครอบครัวมาอยู่กับ อดีตคนรักพี่สาว  และวันนี้ อดีตคนรักของพี่สาว กลับมาหาพี่สาว และได้สารภาพในการกระทำของตัวเองกับพี่สาว  ว่าหลงผิดไปที่ทำให้ครอบครัวคนอื่นต้องพังลง และรู้ว่า อยู่กับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ รักกันเพราะความใกล้ชิด รักกันเพราะต่างคนต่างคิดว่ามีปัญหา รักกันเพราะเธอคนนั้นอยู่เป็นเพื่อนในวันที่คนรักของพี่สาวไม่เหลือใคร .....แต่เมื่อมาอยู่ด้วยกัน ก็รู้ว่า อยู่ด้วยกันไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นมาตรฐานสูงเกินไป และคนรักของพี่สาวคงไม่มีทางทำให้เธอสุขใจตลอดไปได้ ....
     พี่สาว ควรทำอย่างไร แน่นอนค่ะ พี่สาวยังคงรัก คนรักของเธออยู่มาก แต่ พี่สาวก็กลัวว่า ทุกอย่างจะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป หากต้องกลับไปอยู่ด้วยกันอีก และตอนนี้ คนรักของเธอเองก็ยังไม่ชัดเจนว่า เลิกรากับผู้หญิงคนนั้นไปหรือยัง ... แค่บอกว่า พยายามห่างออกมา และ ก็ไม่รู้ว่า ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้น คิดอย่างไรและจะปล่อยมือจากคนรักของเธอจริงหรือไม่ เพราะสุดท้ายสองคนทำงานอยู่ในที่เดียวกันยังคงต้องเจอกันไปอีกทุกๆวัน
       พี่สาวยังคงสับสนและวุ่นวายใจ หนึ่งในเหตุผลคือ ลูกของเธอดีใจมากที่ พ่อของเค้า ได้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง เธอดีใจที่เห็นลูกมีความสุข แต่ เธอก็กลัวที่จะกลับไป