ใครจะรู้ว่าจุดเริ่มต้นของละครเรตติ้งถล่มทลายเรื่อง HERO นั้นจะมากจากเหตุผลเล็ก ๆ คือนำ KimuMatsu กลับมา On Screen อีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากกับละครเรื่อง Love Generation ในปี 1997 ที่ทำให้การจับคู่ของหนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวขึ้นชื่อเป็น Golden Combi ของวงการ (ควรเรียกว่าคู่ขวัญมากกว่าคู่จิ้นเนอะ)
ฉากนี้น่าจะเป็นฉากที่ดังที่สุด(ละมั้ง)ของ Love Generation
และจากจุดนั้นใครจะไปคิดว่าโปรเจค HERO ที่ถือกำเนิดขึ้นมา ณ เวลานั้น ลุ่ม ๆ ดอน ๆ และเสี่ยงเจ๊งสุด ๆ
ในยุค 90s ที่ผ่านมาละครช่วงนั้นคือ trendy drama ส่วนใหญ่ยืนพื้นเป็นแนวโรแมนติคแต่โรแมนติคบนพื้นฐานชีวิตปุถุชนคนธรรมดาสามารถจับต้องได้ แต่ HERO นี้จะต่างออกไป ทีมโปรดัคชั่นเวลานั้นเสนอบทบาทให้คิมุระเลือกว่าอยากเป็นตัวละครแบบไหน (ว่ากันถึงละครเกี่ยวกับอาชีพในปี 1997 มีโอโดรุไดโซซาเซน หรือ Bayside Shakedown ฝั่งฟูจิทีวีเหมือนกันที่ดังพลุแตกอยู่ นำแสดงโดย โอดะ ยูจิ)
Odorudaisousasen
ทีมโปรดัคชั่น HERO จึงเห็นว่าไม่ควรทับไลน์นักสืบของละครเรื่องนี้ สุดท้ายแล้วจึงลงตัวที่อาชีพ "อัยการ" นอกจากบทของ คิมุระ ทาคุยะ แล้ว ตัวยืนตัวละครฝ่ายหญิงก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น คือ มัตสึ ทาคาโกะ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าละครเรื่องนี้ไม่ได้ตั้งต้นที่ "บท" แต่ตั้งต้นที่ "นักแสดง" แล้วความบรรลัยก็บังเกิด ด้วยเหตุว่าละครเรื่องนี้สถานีทุ่มทุนสร้างมาก ๆ คัดแล้วคัดอีกว่าใครจะมารับโปรเจคนี้ นักแสดงที่เป็นสารตั้งต้นก็ตัวท็อป (แต่ตอนนั้นตัวท็อปก็กำลังโดนมรสุมข่าวลือ ปีนั้น ... พระเอกของเราประกาศแต่งงานกลางงานคอนเสิร์ต และ มีอาการท้องก่อนแต่งด้วย)
คนทำ pr. แอบกุมหัว "บัดซบ" จริง
แต่ก่อนจะไปถึงเรื่อง pr. มาถึงด้านโปรดัคชั่นที่แบบ ชีวิตบัดซบ ยิ่งกว่า เนื่องจากแรงกดดันที่มีมาหลายด้าน อาชีพอัยการที่เป็นงานยาก ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครมีข้อมูลมาก่อน และ งานก็เปิดมาโดยฉุกละหุก ในวันที่บท "ตอนแรก" ต้องเสร็จ ปรากฎว่าเพิ่งเขียนไปได้แค่ 2 ซีน ผู้กำกับฯ คุณมาซากิ มาซายูกิ ยังจำได้ว่าในคืนนั้นต้องนอนค้างที่ออฟฟิศ เขียนบทไปด้วย และ "ร้องไห้" ไปด้วย แถมด้วยการที่ผู้เขียนบทคนแรก คุณโอตาเกะ เคน ระเห็ดออกจากทีมไป (เพราะอะไร อันนี้ไม่รู้) ปริมาณบทจึงไปอย่างช้ามาก อย่างไรก็ตามทางทีม(สถานี)ได้เรียกคุณฟุคุดะ ยาสึชิ เข้ามาช่วย โดยตอนนั้นคุณฟุคุดะยังไม่ใช่นักเขียนบทที่มีชื่อเสียง (อย่างทุกวันนี้)
HERO ก็เป็นจุดเปลี่ยนของคุณฟุคุดะเช่นกัน
เอาเป็นว่า "บท" ตอนแรกเสร็จไปอย่างช้ามาก (กรรมของเวร) คุณโอตาเกะระเห็ดออกจากทีมไป (เวรของกรรม) แล้วคุณฟุคุดะก็มารับไม้ต่อแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ (กรรมของกุ) คุณฟุคุดะเข้ามาในตอนที่โค-ตะ-ระ วิกฤต หาความมั่นคงแน่นอนอะไรไม่เจอทั้งนั้นราวเรือกำลังจะจม มีแต่ภาพใหญ่ของละครเรื่องนี้ พวกเขารู้แต่ว่าต้อง "สร้าง" อะไรซักอย่างให้ คิมุระ ทาคุยะ เล่น ไม่งั้นทีมงาน และ อาจจะสถานีคงถึงคราว shipหายวอดวายเป็นแม่นมั่น แต่ในเมื่อลงเรือลำเดียวกันก็ต้องทำให้ดีที่สุด
ว่าแล้วคุณฟุคุดะก็ถามว่า "ต้องการให้บทออกมาลักษณะใด ?" ผู้กำกับบอกว่าเอาแบบที่อัยการเขา "ชิท-แชท" กันน่ะ คุณฟุคุดะเกาหัวแกรก ๆ แล้วเขาคุยเล่นกันเหรอพวกอัยการเนี่ย ? แต่ฝ่ายศิลป์บอกว่าไปศึกษามาแล้วว่าออฟฟิศจริง ๆ นั้นน่าเบื่อมั่ก ๆ แต่ในเมื่อคุริวนางใส่ยีนส์มาทำงานมันก็ควรจะมี "อะไร" ที่แตกต่างได้ ดังนั้นคุณฟุคุดะเอย ... เธอว์จงโซโล่ #จบข่าว (เจ้าตัวถึงกับแอบมโนว่า "บริษัทแกล้งกันช่ะ")
ละครเรื่องนี้ให้อะไรกับคุณฟุคุดะหลายอย่าง คุณฟุคุดะ "ไม่เคยเขียน" งานโรแมนติคคอเมดี้ และ กฎหมายมาก่อน ถึงกับแปลกใจเลยว่าในความเจ็บปวดรวดร้าวตะเตือนตับไตไส้พุงเมื่อต้องเขียนบทละครเรื่องนี้ ที่ปัญหาแยะ เรื่องเยอะ และ รีบโคตร ตัวเองก็ทำได้ถึงขนาดนี้ (ถ้าใครมีโอกาสได้ดู บทเรื่องนี้ถือว่าเปรี้ยว และ คมคายมาก Sarcasm มาเต็ม ตอนนี้แอบเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมมันถึงอารมณ์ขันแหนบ ๆ จิก ๆ สงสัยตอนเขียนคงทรมานทรกรรมน่าดู) แต่นะ คนเราในยามวิกฤตมันมักจะมีแรงขับสูงเสมอ (เพื่อเอาชีวิตรอด) น่าจะระดับเดียวกันกับเวลาคนแบกตุ่มออกจากบ้านได้ตอนไฟไหม้
composer ที่ทำดนตรีประกอบก็เงิบไม่แพ้กัน ตอนนั้นมีละครเกี่ยวกับอัยการมากมายเสียที่ไหน นึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าทนายกะอัยการมันต่างกันยังไง ? แต่เมื่อให้โจทย์มาก็ต้องดุ่ย ๆ ไปแหละ ก็พยายามนึกว่าตัวเอกเวลา speech ในศาลควรจะเป็นยังไง แล้วก็ได้สกอร์นี้ออกมา กลายเป็นสัญลักษณ์ของละครเรื่องนี้เลยทีเดียว ไม่ว่ากี่ปีกี่ชาติคนได้ยินเพลงนี้ก็จะยังรู้ว่ามาจากละครเรื่องอะไร (คุณฮัตโตริผู้แต่งบอกว่าทำแบบนี้ได้ครั้งเดียวนี่แหละในชีวิต)
HERO Main Title
ส่วนบทอื่น ๆ มาอย่างไรนั้นผู้กำกับบอกว่าจำไม่ค่อยได้ แต่จำได้ว่าคัดเลือกจากนักแสดงที่เป็น stage play คือเล่นละครเวที เพราะละครเรื่องนี้เราไม่เน้นฉากแต่เน้นไดอะล็อก เพราะฉะนั้นจะต้องมีเซนส์การแสดงที่สูงและชัดเจนเหมือนละครเวที ดังนั้นทั้งคุณฟุฮินาตะ ฟูมิโยะ (เลขาฯเซตสึกุ) คุณยาชิมะ โนโริโตะ (เลขาฯเอนโด) และ อาเฮียอาเบะ ฮิโรชิ (อัยการชิบายาม่า) ที่เป็นนักแสดงละครเวทีจึงได้รับการคัดเลือกเข้ามา (ซึ่งจะเห็นได้ว่าเข้าขากันมันส์พะยะค่ะ จริง ๆ)
และแล้วโปรเจคนี้ก็หักปากกาเซียนเพราะเป็นละครที่เรตติ้งทะลุ 30% ทุกตอนเป็นเรื่องแรกของญี่ปุ่นในปี 2001
ละครเรื่องนี้ทำให้อัตราคนสอบเป็นอัยการเพิ่มสูงขึ้นด้วยนะ และ ล้างภาพที่ว่าอัยการเป็นฝ่ายอธรรมได้อีกด้วย สิบอกฮื่อ
หลักฐานเชิงประจักษ์ดูที่กระทู้นี้ของคุณ NAJ :
http://pantip.com/topic/33971899
ทีนี้ ... ทำละครอาชีพทั้งที ดู feedback จากเจ้าของอาชีพก่อนหน่อยซิ เขาว่ากันอย่างไร
1. อัยการออกค้นหาหลักฐานเหมือนคุริวไหม (คงหมายถึงเดินเผชิญสืบ)
บางครั้งเราก็ไป (แต่ไม่บ่อยเท่าคุริว) เดือนนึงไปครั้งหรือสองครั้ง เป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องไปเช็คสถานที่เกิดเหตุด้วยตนเองแต่ไม่บ่อยนักเนื่องจากหาเวลาไม่ได้
2. ไม่เป็นไรเหรอที่เอาตราอัยการมาทำเป็นสร้อยคอแบบนั้นน่ะ ? (คุริวแกเอาห้อยคอ)
ก็ไม่คิดว่าจะโดนตำหนิด้วยเรื่องนั้นนะ บางทีพวกเราก็เก็บไว้ในกระเป๋าตังค์ หรือ ใส่กลับด้าน เนื่องจากยังไม่กรณีที่ประชาชนไม่ไว้ใจอัยการอยู่บ้าง บางครั้งจึงไม่ติดเข็มกลัดในที่ที่สังเกตเห็นได้ง่าย
3. อัยการย้ายบ่อย ๆ เหมือนคุริวไหม ?
ทุก 2-3 ปีก็จะหมุนไปเรื่อย ๆ เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเที่ยงตรงในการทำคดี เพราะถ้าอยู่ติดที่แล้วจะทำให้เกิดอคติ ฉันทาคติได้ง่าย เพราะ คุ้นเคยกับหน่วยงาน และ คนในพท้นที่ตรงนั้น
4. อัยการเลือกเคสเหมือนในละครได้หรือไม่ ?
ไม่ได้ ตามหัวหน้าจ่าย (แต่จริง ๆ ก็แล้วแต่ออฟฟิศนะคิดว่าแต่หลัก ๆ แล้วทำคดีตามเบื้องบนจ่ายมา)
5. พื้นที่ที่เอาไว้นั่งคุยประชุมเคสมีจริงไหมในออฟฟิศอัยการ
ตอนนี้ไม่มี แต่จะบอกว่าอัยการตัวจริงอิชชี่มาก กำลังพิจารณากันอยู่ว่าอยากมีพื้นที่แบบนั้นในออฟฟิศบ้างจากการดู HERO นี่แหละ
(เหยยยย เขาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกันเห็นไหม )
6. แล้วคนมีประวัติถูกจับอย่างคุริวนี่เป็นอัยการได้ด้วยเหรอ ?
ได้ ... ถ้าไม่ถูกดำเนินคดีละก็นะ (ตามเรื่องคืออัยการนาเบชิม่าสั่งไม่ฟ้อง) ปัจจุบันนี้ก็มีอัยการที่มีประวัติถูกจับอยู่เหมือนกัน
7. แล้วมีอัยการใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์เหมือนคุริวไหม ?
มี ... แต่น่าจะถูกเตือน เพราะเราต้องพบกับประชาชนจึงควรแต่งกายตามมารยาท ใส่สูท ผูกไทด์ แต่ลัทธิคุริว spread ไปเร็วมาก เดี๋ยวนี้เริ่มไม่ใส่ไทด์กันละ
8. คิดว่ามีอัยการคนไหนได้แรงบันดาลใจการเป็นอัยการจากคุริวบ้างไหม ?
มีแน่ (ตามกระทู้ด้านบน) และส่วนตัวผู้ตอบก็รู้จักอยู่คนนึงที่มาเป็นอัยการเพราะดู HERO อิทธิพลของละครเรื่องนี้ถือว่ายิ่งใหญ่พอสมควร เคยเรียกพยานมาให้ปากคำที่ออฟฟิศ และ พยานดูตื่นเต้นมากจนต้องบอกว่าไม่มีใครเหมือนคุริวที่นี่หรอกนะ (ฮา) แต่คนเริ่มไม่กลัว และ co-operate กับภาครัฐมากขึ้น
9. ในความเป็นจริงนี่ speech ในศาลเยอะเหมือนคุริวไหม
แน่นอน (ตอบแทน) ก็พอเริ่มเป็นคดีอัยการก็ต้องแถลง แต่บางที่ท่าน(ผู้พิพากษา)ก็ไม่ชอบให้เยิ่นเย้อถ้าเริ่มยาวอาจจะมีเบรคให้กลับไปนั่งที่ (ถ้าไม่ฟังอาจกลายเป็นละเมิดอำนาจศาลนะจีะ สิบอกให้)
10. ในความเป็นจริงอัยการกับเลขาฯมี in love กันบ้างไหม ?
มีเหมือนกันบางคู่ก็ลงเอยกันในท้ายที่สุด แต่ยังไงก็ตามส่วนมากจะเป็น platonic relationship ประเภทมองตาก็รู้ใจ (ถ้าเกิดใช้ถ้อยคำเดียวกับ Law&Order SVU ก็คือ ผัว/เมีย ในที่ทำงานนั่นเอง)
11. แล้วชื่อเสียงอัยการดีขึ้นไหมหลัง HERO ออกฉาย
ดีขึ้นมาก แต่ก่อนนี้ทนายคือธรรมะ อัยการคืออธรรม แต่ตอนนี้ตีตื้นแล้ว นี่คืออิทธิพลของละครเรื่องนี้ต่อสังคม
Best Lines by อัยการ (จากละครเรื่อง HERO)
3. คนย่อมถูกตัดสินได้ด้วยคนเท่านั้น - HERO 2001 EP.9
2. ก็มีแต่อัยการเท่านั้นแหละที่จะเรียกร้องแทนเหยื่อได้ - HERO 2001 EP.2
1. อาซางิ "คุริวซังยินดีไหมที่ยังเป็นอัยการอยู่"
คุริว "อือ"
อาซางิ "ทำไมละคะ ?"
คุริว "ก็เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันก็ยังคงรักษาความเที่ยงธรรมไว้ได้ยังไงล่ะ"
- HERO 2014 EP. 11
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://yanie02.livejournal.com/307509.html#comments
http://yanie02.livejournal.com/306944.html
[Historic JP Series] : HERO เบื้องหลังละครอาชีพ 1 เรื่อง ละครเกี่ยวกับอัยการ เพื่ออัยการ และ Feedback โดยอัยการ
ในยุค 90s ที่ผ่านมาละครช่วงนั้นคือ trendy drama ส่วนใหญ่ยืนพื้นเป็นแนวโรแมนติคแต่โรแมนติคบนพื้นฐานชีวิตปุถุชนคนธรรมดาสามารถจับต้องได้ แต่ HERO นี้จะต่างออกไป ทีมโปรดัคชั่นเวลานั้นเสนอบทบาทให้คิมุระเลือกว่าอยากเป็นตัวละครแบบไหน (ว่ากันถึงละครเกี่ยวกับอาชีพในปี 1997 มีโอโดรุไดโซซาเซน หรือ Bayside Shakedown ฝั่งฟูจิทีวีเหมือนกันที่ดังพลุแตกอยู่ นำแสดงโดย โอดะ ยูจิ)
ทีมโปรดัคชั่น HERO จึงเห็นว่าไม่ควรทับไลน์นักสืบของละครเรื่องนี้ สุดท้ายแล้วจึงลงตัวที่อาชีพ "อัยการ" นอกจากบทของ คิมุระ ทาคุยะ แล้ว ตัวยืนตัวละครฝ่ายหญิงก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น คือ มัตสึ ทาคาโกะ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าละครเรื่องนี้ไม่ได้ตั้งต้นที่ "บท" แต่ตั้งต้นที่ "นักแสดง" แล้วความบรรลัยก็บังเกิด ด้วยเหตุว่าละครเรื่องนี้สถานีทุ่มทุนสร้างมาก ๆ คัดแล้วคัดอีกว่าใครจะมารับโปรเจคนี้ นักแสดงที่เป็นสารตั้งต้นก็ตัวท็อป (แต่ตอนนั้นตัวท็อปก็กำลังโดนมรสุมข่าวลือ ปีนั้น ... พระเอกของเราประกาศแต่งงานกลางงานคอนเสิร์ต และ มีอาการท้องก่อนแต่งด้วย)
แต่ก่อนจะไปถึงเรื่อง pr. มาถึงด้านโปรดัคชั่นที่แบบ ชีวิตบัดซบ ยิ่งกว่า เนื่องจากแรงกดดันที่มีมาหลายด้าน อาชีพอัยการที่เป็นงานยาก ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครมีข้อมูลมาก่อน และ งานก็เปิดมาโดยฉุกละหุก ในวันที่บท "ตอนแรก" ต้องเสร็จ ปรากฎว่าเพิ่งเขียนไปได้แค่ 2 ซีน ผู้กำกับฯ คุณมาซากิ มาซายูกิ ยังจำได้ว่าในคืนนั้นต้องนอนค้างที่ออฟฟิศ เขียนบทไปด้วย และ "ร้องไห้" ไปด้วย แถมด้วยการที่ผู้เขียนบทคนแรก คุณโอตาเกะ เคน ระเห็ดออกจากทีมไป (เพราะอะไร อันนี้ไม่รู้) ปริมาณบทจึงไปอย่างช้ามาก อย่างไรก็ตามทางทีม(สถานี)ได้เรียกคุณฟุคุดะ ยาสึชิ เข้ามาช่วย โดยตอนนั้นคุณฟุคุดะยังไม่ใช่นักเขียนบทที่มีชื่อเสียง (อย่างทุกวันนี้)
เอาเป็นว่า "บท" ตอนแรกเสร็จไปอย่างช้ามาก (กรรมของเวร) คุณโอตาเกะระเห็ดออกจากทีมไป (เวรของกรรม) แล้วคุณฟุคุดะก็มารับไม้ต่อแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ (กรรมของกุ) คุณฟุคุดะเข้ามาในตอนที่โค-ตะ-ระ วิกฤต หาความมั่นคงแน่นอนอะไรไม่เจอทั้งนั้นราวเรือกำลังจะจม มีแต่ภาพใหญ่ของละครเรื่องนี้ พวกเขารู้แต่ว่าต้อง "สร้าง" อะไรซักอย่างให้ คิมุระ ทาคุยะ เล่น ไม่งั้นทีมงาน และ อาจจะสถานีคงถึงคราว shipหายวอดวายเป็นแม่นมั่น แต่ในเมื่อลงเรือลำเดียวกันก็ต้องทำให้ดีที่สุด
ว่าแล้วคุณฟุคุดะก็ถามว่า "ต้องการให้บทออกมาลักษณะใด ?" ผู้กำกับบอกว่าเอาแบบที่อัยการเขา "ชิท-แชท" กันน่ะ คุณฟุคุดะเกาหัวแกรก ๆ แล้วเขาคุยเล่นกันเหรอพวกอัยการเนี่ย ? แต่ฝ่ายศิลป์บอกว่าไปศึกษามาแล้วว่าออฟฟิศจริง ๆ นั้นน่าเบื่อมั่ก ๆ แต่ในเมื่อคุริวนางใส่ยีนส์มาทำงานมันก็ควรจะมี "อะไร" ที่แตกต่างได้ ดังนั้นคุณฟุคุดะเอย ... เธอว์จงโซโล่ #จบข่าว (เจ้าตัวถึงกับแอบมโนว่า "บริษัทแกล้งกันช่ะ")
ละครเรื่องนี้ให้อะไรกับคุณฟุคุดะหลายอย่าง คุณฟุคุดะ "ไม่เคยเขียน" งานโรแมนติคคอเมดี้ และ กฎหมายมาก่อน ถึงกับแปลกใจเลยว่าในความเจ็บปวดรวดร้าวตะเตือนตับไตไส้พุงเมื่อต้องเขียนบทละครเรื่องนี้ ที่ปัญหาแยะ เรื่องเยอะ และ รีบโคตร ตัวเองก็ทำได้ถึงขนาดนี้ (ถ้าใครมีโอกาสได้ดู บทเรื่องนี้ถือว่าเปรี้ยว และ คมคายมาก Sarcasm มาเต็ม ตอนนี้แอบเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมมันถึงอารมณ์ขันแหนบ ๆ จิก ๆ สงสัยตอนเขียนคงทรมานทรกรรมน่าดู) แต่นะ คนเราในยามวิกฤตมันมักจะมีแรงขับสูงเสมอ (เพื่อเอาชีวิตรอด) น่าจะระดับเดียวกันกับเวลาคนแบกตุ่มออกจากบ้านได้ตอนไฟไหม้
composer ที่ทำดนตรีประกอบก็เงิบไม่แพ้กัน ตอนนั้นมีละครเกี่ยวกับอัยการมากมายเสียที่ไหน นึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าทนายกะอัยการมันต่างกันยังไง ? แต่เมื่อให้โจทย์มาก็ต้องดุ่ย ๆ ไปแหละ ก็พยายามนึกว่าตัวเอกเวลา speech ในศาลควรจะเป็นยังไง แล้วก็ได้สกอร์นี้ออกมา กลายเป็นสัญลักษณ์ของละครเรื่องนี้เลยทีเดียว ไม่ว่ากี่ปีกี่ชาติคนได้ยินเพลงนี้ก็จะยังรู้ว่ามาจากละครเรื่องอะไร (คุณฮัตโตริผู้แต่งบอกว่าทำแบบนี้ได้ครั้งเดียวนี่แหละในชีวิต)
ส่วนบทอื่น ๆ มาอย่างไรนั้นผู้กำกับบอกว่าจำไม่ค่อยได้ แต่จำได้ว่าคัดเลือกจากนักแสดงที่เป็น stage play คือเล่นละครเวที เพราะละครเรื่องนี้เราไม่เน้นฉากแต่เน้นไดอะล็อก เพราะฉะนั้นจะต้องมีเซนส์การแสดงที่สูงและชัดเจนเหมือนละครเวที ดังนั้นทั้งคุณฟุฮินาตะ ฟูมิโยะ (เลขาฯเซตสึกุ) คุณยาชิมะ โนโริโตะ (เลขาฯเอนโด) และ อาเฮียอาเบะ ฮิโรชิ (อัยการชิบายาม่า) ที่เป็นนักแสดงละครเวทีจึงได้รับการคัดเลือกเข้ามา (ซึ่งจะเห็นได้ว่าเข้าขากันมันส์พะยะค่ะ จริง ๆ)
ละครเรื่องนี้ทำให้อัตราคนสอบเป็นอัยการเพิ่มสูงขึ้นด้วยนะ และ ล้างภาพที่ว่าอัยการเป็นฝ่ายอธรรมได้อีกด้วย สิบอกฮื่อ
หลักฐานเชิงประจักษ์ดูที่กระทู้นี้ของคุณ NAJ : http://pantip.com/topic/33971899
ทีนี้ ... ทำละครอาชีพทั้งที ดู feedback จากเจ้าของอาชีพก่อนหน่อยซิ เขาว่ากันอย่างไร
1. อัยการออกค้นหาหลักฐานเหมือนคุริวไหม (คงหมายถึงเดินเผชิญสืบ)
บางครั้งเราก็ไป (แต่ไม่บ่อยเท่าคุริว) เดือนนึงไปครั้งหรือสองครั้ง เป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องไปเช็คสถานที่เกิดเหตุด้วยตนเองแต่ไม่บ่อยนักเนื่องจากหาเวลาไม่ได้
2. ไม่เป็นไรเหรอที่เอาตราอัยการมาทำเป็นสร้อยคอแบบนั้นน่ะ ? (คุริวแกเอาห้อยคอ)
ก็ไม่คิดว่าจะโดนตำหนิด้วยเรื่องนั้นนะ บางทีพวกเราก็เก็บไว้ในกระเป๋าตังค์ หรือ ใส่กลับด้าน เนื่องจากยังไม่กรณีที่ประชาชนไม่ไว้ใจอัยการอยู่บ้าง บางครั้งจึงไม่ติดเข็มกลัดในที่ที่สังเกตเห็นได้ง่าย
3. อัยการย้ายบ่อย ๆ เหมือนคุริวไหม ?
ทุก 2-3 ปีก็จะหมุนไปเรื่อย ๆ เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเที่ยงตรงในการทำคดี เพราะถ้าอยู่ติดที่แล้วจะทำให้เกิดอคติ ฉันทาคติได้ง่าย เพราะ คุ้นเคยกับหน่วยงาน และ คนในพท้นที่ตรงนั้น
4. อัยการเลือกเคสเหมือนในละครได้หรือไม่ ?
ไม่ได้ ตามหัวหน้าจ่าย (แต่จริง ๆ ก็แล้วแต่ออฟฟิศนะคิดว่าแต่หลัก ๆ แล้วทำคดีตามเบื้องบนจ่ายมา)
5. พื้นที่ที่เอาไว้นั่งคุยประชุมเคสมีจริงไหมในออฟฟิศอัยการ
ตอนนี้ไม่มี แต่จะบอกว่าอัยการตัวจริงอิชชี่มาก กำลังพิจารณากันอยู่ว่าอยากมีพื้นที่แบบนั้นในออฟฟิศบ้างจากการดู HERO นี่แหละ
(เหยยยย เขาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกันเห็นไหม )
6. แล้วคนมีประวัติถูกจับอย่างคุริวนี่เป็นอัยการได้ด้วยเหรอ ?
ได้ ... ถ้าไม่ถูกดำเนินคดีละก็นะ (ตามเรื่องคืออัยการนาเบชิม่าสั่งไม่ฟ้อง) ปัจจุบันนี้ก็มีอัยการที่มีประวัติถูกจับอยู่เหมือนกัน
7. แล้วมีอัยการใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์เหมือนคุริวไหม ?
มี ... แต่น่าจะถูกเตือน เพราะเราต้องพบกับประชาชนจึงควรแต่งกายตามมารยาท ใส่สูท ผูกไทด์ แต่ลัทธิคุริว spread ไปเร็วมาก เดี๋ยวนี้เริ่มไม่ใส่ไทด์กันละ
8. คิดว่ามีอัยการคนไหนได้แรงบันดาลใจการเป็นอัยการจากคุริวบ้างไหม ?
มีแน่ (ตามกระทู้ด้านบน) และส่วนตัวผู้ตอบก็รู้จักอยู่คนนึงที่มาเป็นอัยการเพราะดู HERO อิทธิพลของละครเรื่องนี้ถือว่ายิ่งใหญ่พอสมควร เคยเรียกพยานมาให้ปากคำที่ออฟฟิศ และ พยานดูตื่นเต้นมากจนต้องบอกว่าไม่มีใครเหมือนคุริวที่นี่หรอกนะ (ฮา) แต่คนเริ่มไม่กลัว และ co-operate กับภาครัฐมากขึ้น
9. ในความเป็นจริงนี่ speech ในศาลเยอะเหมือนคุริวไหม
แน่นอน (ตอบแทน) ก็พอเริ่มเป็นคดีอัยการก็ต้องแถลง แต่บางที่ท่าน(ผู้พิพากษา)ก็ไม่ชอบให้เยิ่นเย้อถ้าเริ่มยาวอาจจะมีเบรคให้กลับไปนั่งที่ (ถ้าไม่ฟังอาจกลายเป็นละเมิดอำนาจศาลนะจีะ สิบอกให้)
10. ในความเป็นจริงอัยการกับเลขาฯมี in love กันบ้างไหม ?
มีเหมือนกันบางคู่ก็ลงเอยกันในท้ายที่สุด แต่ยังไงก็ตามส่วนมากจะเป็น platonic relationship ประเภทมองตาก็รู้ใจ (ถ้าเกิดใช้ถ้อยคำเดียวกับ Law&Order SVU ก็คือ ผัว/เมีย ในที่ทำงานนั่นเอง)
11. แล้วชื่อเสียงอัยการดีขึ้นไหมหลัง HERO ออกฉาย
ดีขึ้นมาก แต่ก่อนนี้ทนายคือธรรมะ อัยการคืออธรรม แต่ตอนนี้ตีตื้นแล้ว นี่คืออิทธิพลของละครเรื่องนี้ต่อสังคม
Best Lines by อัยการ (จากละครเรื่อง HERO)
3. คนย่อมถูกตัดสินได้ด้วยคนเท่านั้น - HERO 2001 EP.9
2. ก็มีแต่อัยการเท่านั้นแหละที่จะเรียกร้องแทนเหยื่อได้ - HERO 2001 EP.2
1. อาซางิ "คุริวซังยินดีไหมที่ยังเป็นอัยการอยู่"
คุริว "อือ"
อาซางิ "ทำไมละคะ ?"
คุริว "ก็เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันก็ยังคงรักษาความเที่ยงธรรมไว้ได้ยังไงล่ะ"
- HERO 2014 EP. 11
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://yanie02.livejournal.com/307509.html#comments
http://yanie02.livejournal.com/306944.html