(ซีรีย์ญี่ปุ่น) Hero 2014 (กึ่งรีวิว) ตอนที่ 3 : กระทบใจ ... อยากให้ดูกัน ความผิดพลั้งบางครั้งก็จงอย่าลืม (Spoiled)

เพิ่งปั่นงานและส่งเสร็จ จริง ๆ ควรนอนล่ะนะ แต่แบบอยากจะรีวิวเล็ก ๆ เกี่ยวกับตอนนี้หน่อย มันสะกิดใจ

ประมาณเดิมเลย คือ มีหลายเคสปนอยู่ด้วยกัน แต่สิ่งละอันพันละน้อยสุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องเดียวกันได้ เริ่มต้นคือคุริวโทรเรียกเลขาฯผละจากร้านอาหารมาทำงานด่วน ได้ความว่า ... ผู้ต้องหาเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว (ฝากขัง) ว่ากันง่าย ๆ คือ ตายก่อนอัยการจะได้ส่งฟ้อง ซึ่งโดยปกติแล้วนั้น คดีก็สิ้นสุดไปโดยปริยายนั่นแหละ ผู้ต้องหารายนี้ต้องสงสัยในคดีฆ่าคนตาย ตัวผู้เสียหายก็ตายไปแล้วน่ะแหละ ส่วนผู้ตายก็ตายไปด้วยสาเหตุธรรมชาติ (ศัพท์แพทย์ย้ายากไม่ได้จำว่าเป็นอาการอะไร) แต่ autopsy ออกมาเป็นประมาณนั้น พ่อของผู้ตายนี่โทรมาที่สำนักงานอัยการกลางแทบทุกวัน แถมมาดักรอด้วย แต่ก็ไม่ได้มีใครยังไงดีล่ะ ใส่ใจจะนั่งลงพูดคุย คุริวก็ไปบอกอัยการเจ้าของคดีว่า ... พ่อผู้ตายคงไม่ได้ต้องการอะไรหรอกแค่อยากรู้ว่าคดีมันเป็นอย่างไร แต่ทั้งหัวหน้าและอัยการทามุระก็เห็นพ้องต้องกันว่า ... ก็ตายไปแล้วทั้งคู่ ไม่รู้จะเอาอะไรไปบอก คือ ความจริงมันก็ตายไปกับทั้งคู่แล้วนี่

คุริวเองมีคดีแอร์สาวอยู่ในมือ เป็นกรณีทั้งใช้ และ มียาเสพติดในครอบครอง ซึ่งคุณแอร์เธอก็รับสารภาพน่ะแหละนะ ว่าเสพจริง เจอของกลางที่ห้องพัก ผลการตรวจปัสสาวะก็เป็น positive (ฉี่ม่วงนั่นเอง) คุณแอร์บอกว่าเธอเสพยาเพราะความเครียด jet lag มันหนักมาก ทีนี้พอผลมันกลายเป็นแบบนี้ก็กังวลกันไปว่าทำอะไรนี่โง่จริง ร้องไห้ร้องห่ม ต้องโดนไล่ออกจากงานแน่เลย กลัวสารพัดจะกลัว เธอบอกว่า "เอาล่ะ ฉันแค่ลองเท่านั้น ฉันจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ อย่างนี้อีกแล้ว จะเหตุการณ์นี่ซะแล้วเริ่มต้นใหม่" อาซางิมองไม่คิดอะไร แต่คุริวสายตาเครียดขึ้นมา แต่ ... เจ้าตัวก็ยังไม่พูดอะไรอยู่ดี

ระหว่างนั้น tension ในหมู่อัยการและเลขาฯก็เพิ่มขึ้นทุกที ๆ (ทุกคนมี issue ทั้งนั้นแหละ ไม่ด่ากัน ก็เอาแต่ใจ) จนกระทั่งมีการสลับตำแหน่งเลขาฯกัน

ต่อมาคุริวซึ่งต้องการรู้ให้ได้ว่าคุณแอร์เธอมีแรงจูงใจให้แน่ชัดว่าอะไรที่ทำให้เธอต้องไปใช้ยา ... ก็สอบถามเพื่อน สอบถามพี่ชาย ปรากฎว่าคนรอบตัวนั้นชื่นชมและมองเธอในแง่ดีมาก เป็นคนเก่ง คนพึ่งพาได้ ไม่เคยทำอะไรที่เสียหายมาก่อน หวังว่าเธอจะกลับไปใช้ชีวิตดังเดิมได้โดยเร็ว เธอพูดด้วยความมั่นใจ(มาก ๆ)กับคุริวว่า ให้กำหนดโทษเธอเลย แต่คุริวยังนิ่ง

ในทางกลับกันอาซางิที่ถูกโยกไปเป็นเลขาฯของอัยการทามุระ ก็เริ่มติดนิสัยคุริวเข้าไปทุกที ถามอันการทามุระว่า คดีนี้ไม่สอบพยานเพิ่มหรือ แล้วก็มาพูดต่อว่า ... ลืมไปว่าคนปกติเค้าไม่ทำกัน

กลับมาที่คุริว ... เมื่อได้ยินคุณแอร์บอกดังนั้น .... คุริวยังนิ่ง และ ถามว่า ไม่คิดว่าตัวเอง careless ไม่รับผิดชอบ ไม่แยแสเรื่องที่ตัวเองทำเลยหรือ คุณแอร์เธอตอบว่า "ก็ไม่นี่นา ก็ยอมรับผิด  " "แล้วก็จะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง" ใช่หรือไม่ ? คุริวถามต่อว่า "คุณไม่รู้เลยใช่ไหมว่าคุณทำอะไรลงไป" ตอนแรกที่เราพบกันคุณบอกใช่ไหมว่าคุณแค่ลอง แต่คุณรู้ไหมว่าคนที่เสพยาตอนแรกก็เหมือนกันนั่นแหละ "แค่ลอง"  เพื่อบรรเทาอะไรต่าง ๆ ในชีวิตก็แล้วแต่

แต่มันไม่ "จบ" แค่ลองหรอกนะ ถ้าใช้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะหลอน แล้วก็เป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจอีกด้วย แน่นอนล่ะว่าคุณแอร์ต้องตอบว่าเธอรู้แล้ว ซึ่งคุริวก็บอกไปอีกว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คุณทำผิด คุณไม่ได้คิดว่ามันจะกระทบกับใครอะไรยังไงแค่ไหนรอบตัวคุณ แต่คุณรู้ไหมว่าเงินที่ใช้ซื้อยาน่ะ เงินเหล่านั้นมันผันไปยังกลุ่มที่ทำอาชีพผิดกฎหมายซึ่งเป็นทุนในการไปก่ออาชญากรรมในรูปแบบอื่นอีก

คุณแอร์กล่าวต่อว่าเธอก็บอกแล้วมิใช่หรือว่าเธอสำนักผิดแล้ว หากคุริวบอกว่าเรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น ยาพวกนี้มันสลัดให้หลุดออกไปยากมาก แล้วก็ไม่คิดว่ามันจะ "เลิก" ได้ง่ายอย่างที่คุณแอร์เธอคิด เพราะฉะนั้นที่คิดว่า "แค่ลอง" ที่คิดว่า "อะไร ๆ จะดีขึ้นง่าย ๆ" มันผิดอย่างมาก กับการทำผิดครั้งแรกแบบนี้ แน่นอนว่าความละลายความเกรงกลัวความเสียใจย่อมเกิดขึ้นแน่ และ เมื่อขึ้นสู่ชั้นศาลสำหรับคนไม่มีประวัติมาก่อน ก็คงได้รับทัณฑ์บน

แต่ขอความกรุณา ... อย่าผ่อนคลายจนเกินไป มีใครหลายคนที่เป็นห่วงคุณ ดังนั้นห้ามลืมสิ่งเหล่านี้เป็นอันขาด ขอร้องนะครับ


  

ก็เพราะแบบนี้แหละ ผู้ต้องหาในทุกคดีที่คุริวเป็นคนทำ เลยเข้าใจ ยอมรับ และ สำนึกว่าตัวเองทำอะไรลงไป


ทีนี้ติดเชื้อกันเป็นแถวอัยการทามุระ ... ก็ปิดห้องคุยกับคุณพ่อผู้เสียหายจนได้ข้อสรุป ....

นับว่าตอนนี้เป็นตอนที่บทดีมาก ๆ เลย อยากให้ดูกัน ... ประเด็นที่ต้องการสื่อตรงนี้หลักใหญ่เลย ยอมรับความพลาดพลั้งของตัวเองเป็นเรื่องดี ซึ่งคนมักจะบอกว่า forget the past start the new แต่ .... ความผิดพลาดบางเรื่องต้องจำ จำเพื่อจะได้ไม่กลับไปเป็นอย่างเดิมอีกยังไงล่ะ  อย่างที่บอกนึกถึงเคสสึโยชิที่กินเหล้าเมาอาละวาด คือ จุดเปลี่ยนของชีวิตเหมือนกันนะ

แฟน ๆ ให้กำลังใจ ก็แค่เมาเหล้า ใช่ว่าจะไปฆ่าคนตายที่ไหน หรือ ความผิดความพลั้งอื่น ๆ เหมือนกันนั่นแหละ ก็แค่ .... ใช่จะร้ายแรงที่ไหน เพราะคิดว่าอะไร ๆ จะดีขึ้นง่าย ๆ เลยไม่ได้เรียนรู้อะไรซักทียังไงล่ะ เพราะไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของความผิดในวันนี้ วันต่อมาหายกลัวหายเจ็บปวดแล้วก็เริ่มทำผิดง่ายขึ้น และ อาจจะหนักขึ้นด้วย

เพราะจำและตระหนักว่าเราทำผิด เพราะรู้ว่าความผิดถ้าลืมไปไม่แก้ไขมันอาจจะก่อให้เกิดอะไรที่หนักกว่าในอนาคต
การไม่ลืมบางครั้งหาใช่การย้ำคิดทำร้ายตัวเอง แต่เป็นมันเป็นเครื่องมือคอยเตือนว่า "อย่าผิดซ้ำสอง" นั่นต่างหากที่สำคัญ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่