// หนุ่มๆเตรียมตัวกันให้ดีนะครับ "ผ่านพรบ.กำลังสำรอง วาระแรก เรียกกองหนุนอายุไม่เกิน 60 ปี เข้าฝึกปีละ 2 เดือน"//

ที่มาจากกลุ่มข่าว https://www.facebook.com/set.biznews

กองทัพไทยมีกำลัง ทหารประจำการทั้งสิ้น 3.5 แสนนาย

ถือว่าไทยมีกำลังพลพร้อมรบมากกว่าเพื่อน บ้านในพิกัดเดียวกัน

แต่กระนั้น รัฐบาล คสช.ยังเห็นว่ากำลังทหารประจำ การ 3.5 แสนนาย ยังน้อย...เกินไป

จำเป็นต้องเรียกระดมทหารกองหนุนที่มีอยู่ 1 ล้าน 2 แสนคนให้หมุนเวียนกลับเข้ารับการฝึกทหารซ้ำใหม่ปีละ 4.5 หมื่นคน

หรือคิดเป็น 2.5 เปอร์เซ็นต์ของกำลังพลสำรอง

ล่าสุด ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ลงมติเห็นชอบ “ร่าง พ.ร.บ.กำลังพลสำรอง” (วาระแรก) อย่างสะดวกโยธิน

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า สาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือให้อำนาจกระ- ทรวงกลาโหมสั่งเรียกระดมทหารกองหนุนทุกนาย ให้กลับมาฝึกอาวุธใหม่ ฝึกวินัยทหารใหม่ เพื่อให้มีความฟิตเปรี๊ยะพร้อมใช้งานได้จริงๆ

ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการออกกฎหมายเพื่อเรียกระดมชายไทยที่เป็นทหารกองหนุนให้กลับไปใช้ชีวิตเป็นทหาร กินนอนในค่ายทหารเป็นเวลาไม่เกิน 2 เดือน

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า ชาย ไทยที่อยู่ในข่ายต้องถูกเรียกกลับไปเป็นกำลังพลสำรองของ 3 เหล่าทัพ มี 4 กลุ่ม ดังนี้คือ

1.นายทหารสัญญาบัตรนอกราชการ

2.นายทหารชั้นประทวนนอกราชการ

3.ทหารกองหนุนประเภท 1 (คือผู้ผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว หรือผู้ที่ได้รับยกเว้นเนื่องจากเรียน รด. ที่มีอายุไม่เกิน 40 ปี)

4.ทหารกองหนุนประเภท 2 (คือผู้ที่เข้ารับการเกณฑ์ทหารแต่โชคดีจับได้ ใบดำ รวมถึงทหารกองหนุนประเภท 1 ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีถึง 60 ปี)

ผู้มีคุณสมบัติตามสเปกใน 4 กลุ่มนี้ จะได้รับจดหมายเรียกตัวจากกระทรวงกลาโหมให้ไปเข้าค่ายฝึกกำลังพลสำรอง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนปีละ 4.5 หมื่นคน

โดนหมด ไม่ว่าบิ๊กเนม หรือโนเนม

โดนหมด ไม่ว่าคนรวย หรือคนจน

โดนหมด ไม่ว่าทำราชการ หรือ ทำงานเอกชน

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า การเรียก ระดมกำลังพลสำรองไม่ใช่ขึ้นกับความสมัครใจของแต่ละคน แต่เป็น “คำสั่ง” ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม

ใครเบี้ยว...ไม่ยอมกลับไปฝึกวิชาทหารมีความผิดอาญา

นายจ้างที่ไม่จ่ายค่าแรงลูกจ้างที่ถูกเรียกไปฝึกกำลังพลสำรองก็มีความผิดอาญาเช่นกัน

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม อธิบายขยายความว่า กำลังพลสำรองที่ถูกเรียกตัวกลับเข้ารับการฝึกวิชาทหาร จะได้รับเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ ตามระเบียบราชการ

ส่วนระยะเวลาการฝึกวิชาทหาร จริงๆ จะไม่นานถึง 2 เดือน เพื่อไม่ให้กระทบการประกอบอาชีพส่วนตัวมากเกินไป

“แม่ลูกจันทร์” มองแง่ดีว่า การเรียกระดมกำลังพลสำรองปีละ 4.5 หมื่นคนจะเกิดประโยชน์ต่อกองทัพ 3 ประการ คือ

1.สร้างความพร้อมรบของกำลังพลสำรองให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับทหารประจำการ

2.ถ้าหากเกิดภัยพิบัติร้ายแรงก็สามารถระดมกำลงพลจำนวนมากออกไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

3.ในสภาวะที่สังคมไทยแตกแยกอย่างรุนแรง การระดมกำลังพลสำรองจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้รักสามัคคีของคนในชาติ ตามโรดแม็ป คสช.

อนึ่ง สำหรับท่านสุภาพบุรุษที่มีอายุทะลุ 60 ปีขึ้นไป

ถือว่าได้พ้นจากบัญชีกำลังพลสำรองอย่างเป็นทางการ

อายุปูนนี้แล้วไม่ต้องเกณฑ์ไปรบกับใคร

รบกับต่อมลูกหมากตัวเองก็แย่แล้วโยม.

“แม่ลูกจันทร์”
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
"โดนหมด ไม่ว่าบิ๊กเนม หรือโนเนม

โดนหมด ไม่ว่าคนรวย หรือคนจน

โดนหมด ไม่ว่าทำราชการ หรือ ทำงานเอกชน
"


ไม่เชื่ออะครับ เม่าเซย์โน
ความคิดเห็นที่ 5
ครอบครัวผมมี 4 คน  ผม  ลูก 2 คน ยังเด็กมาก 4 ขวบ คนหนึ่งมีโรคประจำตัว หอบหืด อาการหอบหืดจะมาเมื่อไรก็ได้

แม่ของลูก  เคยผ่าตัดที่หลัง เรื่อง กระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ทำงานหนัก หรือ แม้แต่ยักของหนักหลังก็มีปัญหา

อาชีพ รับจ้างซ่อมเครื่องไฟฟ้า

หนี้สินก็มีตามอัตภาพ แต่ต้องส่ง ไม่ส่งก็โดนไล่เบี้ยทันที

ถามจริงๆ ถ้าผมไป ไอ้เบี้ยเลี้ยงที่จ่ายเนี่ย มันพอให้ลูกเมียผมกินไหม  พอส่งดอกธนาคารไหม
อย่าว่าแต่ถึงเดือนหรือไม่ถึงเดือนเลย  แค่ 7 วันปัญหาก็เริ่มเกิดแล้ว

ทั้งความปลอดภัยปกติสุขของลูกผมที่มีโรคประจำตัว ทั้งรายจ่ายที่มีเท่ากับหรือมากขึ้นทุกวัน
โดยรายรับที่แย่ลงจากเบี้ยเลี้ยง  แม้จะกำหนดให้นายจ้างต้องจ่าย  แต่ผมไม่มีนายจ้าง ใครจะมาจ่าย

เฮ่ออ  อิ๊บ.....
ความคิดเห็นที่ 2
กะล้างสมองอย่างเดียว มันไม่ทำให้รักทหารขึ้นมาได้หรอก เอาเวลาไปพัฒนาประเทศบ้าง
ความคิดเห็นที่ 58
--จุดสำคัญมันอยู่ตรงไหนรู้มั้ยครับ?...มันอยู่ตรงงบโครงการนั่นแหละ...กินกันยาวๆ
ความคิดเห็นที่ 31
คนคิดกฏหมาย วันๆก็เป็นพวกไม่ต้องทำมาหากินนั่นแหละ อยู่เฉยๆ เดินไปเดินมาก็มีเงินใช้
เลยสามารถคิดกฏหมายแบบนี้ออกมาได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่