คือออกตัวก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่ใช่เก่ง แต่เป็นคนที่จำอะไรง่าย
อย่างศัพท์ภาษาอังกฤษ ท่องเมื่อกี้ อีก1 อาทิตย์ก็ยังจำ อันนี้เทสต์เองเลย
แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น คือผมเนี่ยเป็นคนที่ค่อนข้างเบื่อง่ายมากๆ
แล้วการเรียนหมอ มันคือการเรียนที่แบบท่องจำ เข้าใจให้แบบลึกซึ้ง
หรือเรียกได้ว่าต้องใช้ความพยายามมากๆ ซึ่งผมคิดว่าการสอบเข้าหมอสำหรับผม มันเข้าง่ายเกินไป
แต่หมอจริงๆ ผมก็ถูกป้อนจากแม่เกี่ยวกับคณะนี้เสมอ ว่าโตขึ้นอยากให้เป็นหมอ
ยังจำคำถามของอาจารย์สมัยป.4 ที่ถามเด็กในห้องเรียนเลยว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร ให้มาตอบหน้าชั้น
เพื่อนๆในห้องก็ตอบ ทหารบ้าง คุณครูบ้าง ตำรวจบ้าง แต่ผมตอบว่า อยากเป็นหมอ คือตอนนั้นแม่บอกผมเสมอว่าโตขึ้นเป็นหมอนะ
จนมันติดเข้าหัวของผมอ่ะครับ คิดอะไรไม่ออกก็บอกว่าเป็นหมอ จนสอบติด แล้วไง สำหรับผม ผมว่าสอบเข้าง่ายมาก
คือมันเป็นวิชา หลายๆวิชาไงครับ มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคณะนี้เลย แล้วผมจะรู้ได้ไงว่าผมชอบการเรียนหมอจริงหรือเปล่า
หรือมานั่งสะกดจิตตัวเอง ว่าเราอ่ะ อนาคตมันใช่หมอแน่ๆ เราทำได้อะไรงี้ แต่จะมีความสุขหรือเปล่าอันนี้ก็อีกเรื่อง
ผมเป็นคนที่จริงๆแล้วชอบยิ้มให้คนครับ ชอบทำให้คนอื่นรู้สึกดีกับตัวเอง เวลาโกรธหรือมีปัญหาก็จะแก้ไขด้วยตัวเอง ไม่ค่อยให้คนอื่นรู้ว่าเราคิดอะไรอยู่
แน่นอนว่าที่บ้านก็ดีใจกัน แต่ที่บ้านก็ไม่รู้หรอกว่า ผมยังลังเลอยู่ ซึ่งการลังเลแบบนี้มันอาจส่งผลต่อการกระทำ การเรียนแพทย์ในอนาคตนั้นได้
และลึกๆผมก็กลัวนะครับว่า ถ้าเราเรียนไปแล้วเราไม่ไหว เราไม่ชอบ ฝืนให้จบปีต่อปีแบบนี้ ผมจะออกกลางคัน มันจะเสียหายอะไรมากไหม
ถ้าผมบอกว่าผมจะลองเรียนดู เพื่อนๆคิดว่าเสี่ยงไหมครับ มันดีไม่ดีต่างกันยังไงบ้างครับ ผมนึกออกไม่กี่อย่างจริงๆ
..:: จะเรียนหมอ ปี 1 เดือนสิงหาที่จะเปิดเทอมนี้ครับ แต่กลัวว่าเรียนไม่ไหว ผมควรจะเสี่ยงดีไหม ::..
อย่างศัพท์ภาษาอังกฤษ ท่องเมื่อกี้ อีก1 อาทิตย์ก็ยังจำ อันนี้เทสต์เองเลย
แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น คือผมเนี่ยเป็นคนที่ค่อนข้างเบื่อง่ายมากๆ
แล้วการเรียนหมอ มันคือการเรียนที่แบบท่องจำ เข้าใจให้แบบลึกซึ้ง
หรือเรียกได้ว่าต้องใช้ความพยายามมากๆ ซึ่งผมคิดว่าการสอบเข้าหมอสำหรับผม มันเข้าง่ายเกินไป
แต่หมอจริงๆ ผมก็ถูกป้อนจากแม่เกี่ยวกับคณะนี้เสมอ ว่าโตขึ้นอยากให้เป็นหมอ
ยังจำคำถามของอาจารย์สมัยป.4 ที่ถามเด็กในห้องเรียนเลยว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร ให้มาตอบหน้าชั้น
เพื่อนๆในห้องก็ตอบ ทหารบ้าง คุณครูบ้าง ตำรวจบ้าง แต่ผมตอบว่า อยากเป็นหมอ คือตอนนั้นแม่บอกผมเสมอว่าโตขึ้นเป็นหมอนะ
จนมันติดเข้าหัวของผมอ่ะครับ คิดอะไรไม่ออกก็บอกว่าเป็นหมอ จนสอบติด แล้วไง สำหรับผม ผมว่าสอบเข้าง่ายมาก
คือมันเป็นวิชา หลายๆวิชาไงครับ มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคณะนี้เลย แล้วผมจะรู้ได้ไงว่าผมชอบการเรียนหมอจริงหรือเปล่า
หรือมานั่งสะกดจิตตัวเอง ว่าเราอ่ะ อนาคตมันใช่หมอแน่ๆ เราทำได้อะไรงี้ แต่จะมีความสุขหรือเปล่าอันนี้ก็อีกเรื่อง
ผมเป็นคนที่จริงๆแล้วชอบยิ้มให้คนครับ ชอบทำให้คนอื่นรู้สึกดีกับตัวเอง เวลาโกรธหรือมีปัญหาก็จะแก้ไขด้วยตัวเอง ไม่ค่อยให้คนอื่นรู้ว่าเราคิดอะไรอยู่
แน่นอนว่าที่บ้านก็ดีใจกัน แต่ที่บ้านก็ไม่รู้หรอกว่า ผมยังลังเลอยู่ ซึ่งการลังเลแบบนี้มันอาจส่งผลต่อการกระทำ การเรียนแพทย์ในอนาคตนั้นได้
และลึกๆผมก็กลัวนะครับว่า ถ้าเราเรียนไปแล้วเราไม่ไหว เราไม่ชอบ ฝืนให้จบปีต่อปีแบบนี้ ผมจะออกกลางคัน มันจะเสียหายอะไรมากไหม
ถ้าผมบอกว่าผมจะลองเรียนดู เพื่อนๆคิดว่าเสี่ยงไหมครับ มันดีไม่ดีต่างกันยังไงบ้างครับ ผมนึกออกไม่กี่อย่างจริงๆ